ฉันลืมตาขึ้นมาพร้อมกับยกมือขึ้นมานวดที่ขมับเบาๆ สิ่งแรกที่สายตาคู่นี้มองเห็นนั่นคือผ้าคลุมหน้าสีแดงสด
ฉันกำลังพยุงตัวเองเพื่อที่จะลุกขึ้น ก้เกิดอาการปวดหัวอย่างรุนแรงจนต้องล้มตัวนอนลงอีกครั้ง
"คุณหนู!!"
มีเด็กสาวที่ดูอายุราวสิบสามสิบสี่ปีรีบวิ่งมาทางฉัน
ตั้งแต่ลืมตาขึ้นมาบรรยากาศในห้องนี้ช่างแตกต่างจากโลกที่ฉันเคยอยู่ ฉันชื่อถิงถิงเป็นหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยให้กับท่านนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของจีน เมื่อวานในขณะปฏิบัติหน้าที่ขับรถนำขบวน รถของฉันดันไปเหยียบกับระเบิดเข้า
สิ่งสุดท้ายที่รู้สึก คือความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสพร้อมกับกลิ่นเนื้อตัวเองที่กำลังไหม้เกรียม ไม่ต้องสืบก็พอจะเดาได้ว่าฉันคงจะตายไปแล้วอย่างแน่นอน
หลังจากนั่งคุยกับอิงเถาสาวใช้ที่มีรูปร่างเหมือนชื่อ ก็ได้ความว่า ร่างนี้เป็นของคุณหนูจื่อเหว่ย สาวงามอันดับหนึ่งของเมืองหลวง เป็นบุตรีคนที่สองของเสนาบดีกรมการคลัง เมื่ออายุได้สิบห้าพ้นวัยปักปิ่น นางได้ไปหลงรัก ท่านอ๋องหลี่จวิ๋น
พบพานเพียงครั้งเดียว ได้พบใบหน้าเขาเพียงครั้งเดียวเมื่อวันไหว้พระจันทร์ นางก็หลงรักท่านอ๋องจวิ๋นจนหมดดวงใจ
นางทำทุกอย่างเพื่อให้ท่านอ๋องทราบถึงความในใจ จื่อเหว่ยเป็นบุตรีเพียงคนเดียวในตระกลูจื่อผู้มั่งคั่งและร่ำรวย มีพี่ชายหนึ่งคนเป็นรองเจ้ากรมเสนาบดี น้องชายอีกหนึ่งคนอายุเพียงสิบหกปีได้เป็นถึงราชทูตไปประจำอยู่ต่างแคว้น
ส่วนนางที่ปีนี้วัยสิบเจ็ดปี ดรุณีน้อยที่ถึงเวลาออกเรือน บ่มเพาะความรักปักใจที่มีต่อท่านอ๋องจวิ๋นนานถึงสองปี ได้แจ้งแก่บิดาว่านางนั้นต้องการแต่งกับท่านอ๋องจวิ๋นผู้เดียวเท่านั้น
จื่อหัว ผู้เป็นบิดามีบุตรสาวที่รักปานดวงใจอยู่ผู้เดียว หากบุตรสาวร้องจะเอาดาวเดือน เขายังจะไปสืบเสาะหามาให้ นับประสาอะไรกับการขออภิเษกกับท่านอ๋ององค์หนึ่ง
ในเวลาไม่ช้าฮ่องเต้ก็ออกราชโองการ การอภิเษกระหว่าง ท่านอ๋องจวิ๋นและจื่อเหว่ย
เมื่อราชโองการประการออกไป บรรดาชายหนุ่มที่หมายปองจื่อเหว่ยไว้ก็ออกมาร่ำไห้ ร้านเหล้าแน่นขนัดตา ต่างจากสตรีที่ดู ดีอกดีใจ มีทั้งสตรีที่หมายปองบุรุษอื่น ที่ชอบจื่อเหว่ย และสตรีที่เตรียมตัวขอเป็นอนุท่านอ๋องจวิ๋น
และแล้วก็ถึงกำหนดวันงานอภิเษก ชาวบ้านสองข้างทางต่างมาชมความหล่อเหลาของเจ้าบ่าว และความงดงามของเจ้าสาว ซึ่งชาวบ้านต่างขนานนามว่าเป็นคู่ยวนยาง คู่สวรรค์สร้าง คู่กิ่งทองใบหยก ทั้งหน้าตาและฐานะ ล้วนแล้วแต่เหมาะสมทั้งสิ้น
แต่แล้วทางเดินที่โรยด้วยกลีบดอกไม้ของสตรีงามนามจื่อเหว่ยก็สะดุด เมื่อขบวนที่มารับเจ้าสาวไร้เงาเจ้าบ่าว มีเพียงราชองครักษ์ขี่ม้ามารับแทน
ใบหน้างามซีดเผือดภายใต้ผ้าคลุมสีแดง ราชองครักษ์ยื่นจดหมายให้นางฉบับหนึ่ง
นิ้วมือเรียวยาวค่อยๆ เปิดจดหมายอ่านด้วยใจระส่ำระสาย นางรีบดึงผ้าคลุมหน้าออกแล้วอ่านจดหมายที่ว่าที่สามีส่งให้
"ข้ามิสามารถปฏิเสธงานแต่งนี้ได้ และในใจของข้ามีคนที่หมายปองไว้แล้ว วันนี้ข้าจะไปรับนางมาแต่งเป็นสนมเอก มิสะดวกไปรับไปเจ้า ขออภัยด้วย"
ดวงตาคู่งามเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา จดหมายในมือถูกขยำด้วยโทสะในใจ
เหตุใดเขาจึงทำเช่นนี้....
แต่งอนุเข้าจวนพร้อมนางแล้วยังไปรับอนุผู้นั้นแทนที่จะมารับนางที่เป็นพระชายาเอก!!
ริมฝีปากบางเม้มด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ นางไม่ดีหรือ นางไม่คู่ควรกับเขาตรงไหนกัน ในเมืองหลวงแห่งนี้ยังมีสตรีใดงดงามกว่านางอีกหรืออย่างไร สองปีที่นางเดินตามเขา เพียงทราบว่าเขาไปที่ใดนางจะแกล้งบังเอิญไปพบเจอ รู้ว่าเขาชอบสิ่งใดไม่ว่าจะหายากเพียงไหน นางก็สืบเสาะหามาให้
ถุงเครื่องหอมที่ปักส่งให้เขาใหม่แทบทุกเดือน....
ทุกสิ่งทุกอย่างที่นางเพียรพยายามทำ เขามิได้มีใจให้นางแม้แต่เสี้ยวเดียวของหัวใจเลยหรือ....
โลกของจื่อเหว่ยในวันนั้นเหมือนพังทลายลง นางไล่ทุกคนออกจากห้องด้วยใบหน้างามที่อาบไปด้วยน้ำตา
นางค้นหายาพิษที่นางซื้อมา...ซื้อมาเพื่อขู่ท่านพ่อ เวลานางต้องการสิ่งใดเพียงหยิบยาพิษขวดนี้ ขู่ว่าจะกินมันเข้าไป ท่านพ่อก็จะรีบไปหาของสิ่งนั้นมาให้
ไม่คิดเลย...ว่าในวันนี้จะได้กินจริงๆ
ในใจนางราวกับโดนเข็มเป็นพันๆ เล่มทิ่มแทงหัวใจ เจ้าบ่าวไม่มารับเจ้าสาวเข้าจวนแถมไปแต่งอนุในวันเดียวกันอีก หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป นางจะเอาหน้าไปไว้ที่ใดกัน!!
ไม่เหลือทางใดให้นางเลือกแล้ว นางมิอาจแบกรับความเจ็บปวดจากรักไม่สมหวังนี้ได้ นางรับไม่ไหว ให้นางตายตกไปเสียดีกว่าต้องทนเห็นบุรุษที่นางรัก ไปรักผู้อื่น
นางกรอกยาพิษใส่ปาก พลันแสบร้อนไปทั่วคอหลังจากกลืนไป ทรมานยิ่งนัก แต่ข้า.....จะได้หลุดพ้นแล้ว
“หลังจากนั้นคุณหนูก็สลบไปสองชั่วยาม นายท่านพยายามตามหาหมอมาช่วยคุณหนูแต่หมอทุกท่านต่างก็บอกว่าคุณหนูสิ้นลมแล้วเจ้าค่ะ”
ฉันหลับตาลงพร้อมยกมือมานวดที่หัวคิ้วเบาๆ
จื่อเหว่ยสตรีที่โง่ที่สุดในโลก!!! เพียงผู้ชายคนเดียวก็ฆ่าตัวตาย บัดซบ!!! หน้าตาก็สวย เป็นที่รักใคร่ของบิดา ชีวิตใครจะเลอเลิศเท่าเจ้า
อ๋องหลี่จวิ๋น....จื่อเหว่ยคนก่อนอาจจะรักท่านเท่าชีวิต แต่กับจื่อเหว่ยคนใหม่นี้มิใช่ สิ่งที่ทำกับนางไว้ข้าคนนี้จะคืนให้ท่านเอง!!!
"จื่อเหว่ย!!!”
ฉันมองไปที่ประตูพบชายวัยกลางคนที่หน้าตายังคงฉายแววความหล่อเหลาอยู่
“ขอบคุณสวรรค์ ขอบคุณสวรรค์ เจ้าเป็นอย่างไรบ้างลูกพ่อ”
ฉันมองไปทางชายวัยกลางคนที่กำลังคำนับขอบคุณสวรรค์อยู่ รู้สึกอบอุ่นในใจอย่างประหลาด พร้อมยิ้มขึ้นมาจางๆ ที่มุมปาก
ฉันจะเป็นจื่อเหว่ยให้ดีที่สุด ตอบแทนหยดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มของชายวัยกลางคนผู้นั้น
“ท่านพ่อ...ลูกรู้สึกดีขึ้นแล้วเจ้าค่ะ”
“อย่าทำแบบนี้อีกนะลูกพ่อ เจ้าต้องการสิ่งใดพ่อคนนี้จะไปหามาให้เอง ท่านอ๋องจวิ๋นกล้าทอดทิ้งเจ้าในงานแต่งเช่นนี้ พ่อจะไปเอาเรื่องเขาให้ถึงที่สุด!!”
ฉันยื่นมือไปจับมือท่านพ่อ พร้อมส่ายหน้า
“ลูกมิต้องการแต่งงานกับเขาเเล้ว ท่านพ่อช่วยลูกได้ไหมเจ้าคะ”
ท่านพ่อดูตกใจในการกระทำของฉัน ถ้าเป็นจื่อเหว่ยคนก่อนฉันไม่รู้ว่านางจะขอร้องท่านพ่อแบบไหน แต่จื่อเหว่ยคนนี้ไม่อยากเสียเวลากับท่านอ๋องคนนี้อีกแม้แต่นิดเดียว
ท่านพ่อยกมือขึ้นมาเเกะเชือกที่มัดมงกุฎหงส์บนหัว พร้อมถอดมงกุฎออกแล้