ภาค 2 Ep.1 เคยตัว (1)
ผมขับมาจอดรอนิ้งหน้ามหาลัย
สรุปวันนี้ผมก็ไม่ได้นอน แม่งนอนไม่หลับ ในหัวคิดแต่เรื่องเธอวนไปวนมา ไม่รู้จะคิดมากเหี้ยไรนักหนา ผมก็ไม่รู้ว่าผมเป็นบ้าอะไรถึงชอบพาล พาลไปหมดทุกอย่าง ตอนที่จีบเธอแรกๆ ผมก็ไม่กล้าพอที่จะพาลเธอเพราะยังคะแนนไม่สูงพอ อยากให้เธอไว้ใจ อยากให้เธอรัก แต่พอเธอรักแล้วผมก็แค่รู้สึกว่า... เออ ทำไงเธอก็ยังรักอยู่ดี จะไม่แคร์บางทียังไงนิ้งก็ยังสนใจผมอยู่ปะ
เหี้ยดีว่ะ ความคิดแบบนี้
ผมแค่นหัวเราะออกมาตอนที่ทึ้งหัวตัวเองแล้วกลับหลังนั่งพิงแฮนด์รถระหว่างรอเธอ พอเห็นว่ามันนานผมก็เลยยกโทรศัพท์ขึ้นมากดดูไปด้วย
ก็ไม่ใช่ไม่แคร์เลย
ถ้าไม่แคร์จริงคงไม่มานั่งคิดเรื่องเธออยู่งี้หรอก
[SALAMDU : SIDE END]
“ช่วงหมดโปรแน่นอน”
“เอ่อ... มันคืออะไรเหรอ” ฉันถามพลอยที่นั่งอยู่อีกฝั่งอย่างไม่เข้าใจ
ตอนนี้ฉันเลิกเรียนแล้ว เลิกเร็วกว่าเวลานิดหน่อย แล้วก็ได้เรียนคลาสเดียวกับพลอยและชินด้วย ก็เลยมานั่งคุยกัน พลอยเห็นฉันซึมๆ ก็เลยถามเรื่องฉลามขึ้นมา ฉันก็เลยเล่ายาวเลยอ่ะ แล้วมันก็จบลงที่พลอยมีคำตอบแบบนี้ให้
แต่ฉันไม่รู้เลยว่าช่วงหมดโปรที่ว่ามันคืออะไร
“ก็แบบ... ช่วงแรกๆ ที่มาจีบเค้าก็ดีกับนิ้งมากใช่มั้ยล่ะ เชื่อฟังทุกอย่าง เราพูดอะไรก็ยอมไปหมด นั่นล่ะคือช่วงโปรโมชั่น” ฉันนั่งคิดตามแล้วก็พยักหน้าหงึกหงัก “แต่พอหลังจากคบกันสักพักก็จะค่อยๆ เปลี่ยนไป”
“...”
“ก็จะกลายเป็นเย็นชาขึ้น ชอบทำตัวเป็นใหญ่มากขึ้น เมินเราเพราะคิดว่าทำยังไงก็ได้เพราะเราก็รักไปแล้ว เวลาเราพูดอะไรก็จะไม่ยอมไม่เชื่อเหมือนช่วงแรกๆ แล้วก็เริ่มเผยตัวตนจริงๆ ออกมา” ฉันหน้าซีดเลยพอได้ยินแบบนั้น เพราะอาการฉลามเท่าที่พลอยว่ามามันจริงเกือบทุกอย่างเลย “นั่นล่ะคือช่วงหมดโปร”
“แล้วมันแย่มากมั้ยอ่ะพลอย” ฉันแทบจะร้องไห้ตอนที่ถามเธอกลับไป แล้วพลอยก็พยักหน้า
“แย่มากเลยล่ะนิ้ง” ฉันเม้มริมฝีปากแน่นตอนที่เธอตอบรับกลับมา เป็นคำตอบที่ไม่อยากได้ยินที่สุด “เพราะช่วงนี้แหละที่เค้าจะมีคนอื่นได้ง่าย”
“...”
“นิ้งเองก็ต้องระวังพี่หลามให้ดีนะ”
“นี่พลอย แกเลิกยุนิ้งได้ปะ” จนสุดท้ายชินที่นั่งกอดอกฟังเงียบๆ ก็โพล่งขึ้นมา แล้วฉันก็หันไปมองเขาอย่างมีความหวังว่าเขาจะพูดอะไรที่จะทำให้ฉันสบายใจขึ้นออกมาบ้าง “แต่ถ้าพี่ฉลามมีคนอื่นจริงๆ นิ้งก็อย่าลืมว่ายังมีเราอยู่นะ”
“...”
“เราพร้อมให้นิ้งหันมาควงได้เสมอ”
... โธ่
“แกจะได้โดนแฟนนิ้งต่อยปากเอาน่ะสิ” พลอยหันไปจิกกัดชิน ก่อนที่จะหันกลับมาคว้าข้อมือของฉันมาจับเอาไว้ “แต่นิ้งก็อย่าเพิ่งคิดมากนะ เราว่าพี่เค้าก็ดูรักนิ้งดีอ่ะ อาจจะไม่ใช่ช่วงหมดโปรก็ได้”
“แต่ที่พลอยพูดมันตรงหมดเลยอ่ะ” ฉันพูดเสียงสั่น ก่อนที่จะเบ้หน้าออกมา “เราก็กลัวเหมือนกันว่าฉลามจะมีคนอื่น”
“โห ถ้าได้แฟนน่ารักแบบนิ้งแล้วยังจะมีคนอื่นอีกนะ เราว่าพี่เค้าโคตรโง่อ่ะ” ชินโพล่งขึ้นมาทันทีพร้อมกับกอดอก ก่อนที่จะทำสีหน้าเหมือนนึกอะไรได้แล้วขยับเข้ามาหาฉันไปด้วย “แล้วสรุปเรื่องถ่ายแบบนิ้งจะเอายังไง นี่เราเคลียร์งานพร้อมถ่ายแล้วนะ เหลือนางแบบนี่แหละ”
ฉันชะงักไป นี่เขายังจำได้อยู่อีกเหรอ? ฉันเกือบลืมไปแล้วนะ
“คือฉลามไม่ให้เราไปถ่ายแน่ๆ อ่ะ” ฉันสั่นหน้าไปด้วยตอนที่ตอบไปตามความจริง แค่ฉันคุยกับเพื่อนผู้ชายในคณะเขาก็ตึงๆ ใส่แล้ว ถ้าไปถ่ายแบบฉลามคงจะโกรธฉันมากแน่ๆ เลย เผลอๆ อาจจะโดนทุบหลังเอาด้วยซ้ำ “... เราว่าคงไม่ได้หรอกชิน”
“เฮ้ย” ชินทำสีหน้าตกใจ “นี่แฟนหรือพ่ออ่ะ ต้องคุมเข้มขนาดนี้เลยเหรอ”
ฉันก้มหน้างุดเลย ก็ฉลามเป็นแบบนั้นจริงๆ นี่นา ฉันเถียงไม่ออกหรอก
แต่ที่ฉันไม่ได้อึดอัดอะไรมากคงเป็นเพราะว่าฉันถูกตีกรอบมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว และฉันก็ไม่ค่อยคุยกับผู้ชายด้วย เวลาฉลามมาตามคุมตามดูว่าฉันจะคุยกับใคร จะไปมหาลัยยังไง จะแวะมาหาฉันที่ไหน ฉันถึงไม่ได้รู้สึกแย่หรือไม่มีอิสระเพราะฉันอยู่กับฉลามจนติดเขาไปแล้วอ่ะ
แต่มันก็มีลำบากใจกับน้อยใจเวลาที่เขาโมโหใส่นิดหน่อยนั่นล่ะ
... แต่มันก็ไม่ได้นิดหน่อยหรอก
“เราก็ไม่แน่ใจแล้วอ่ะ” ฉันตอบชิน ก่อนที่จะบีบมือตัวเองเงียบๆ “เราขอโทษนะชิน เรื่องถ่ายแบบอ่ะ”
“เฮ้ย ไม่เป็นไร ไม่ต้องขอโทษ” ชินโบกมือเหมือนเห็นว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย ก่อนที่ประโยคต่อไปจะทำให้ฉันตกใจ “เดี๋ยวเราจะหาทางให้เธอถ่ายโดยที่พี่ฉลามไม่รู้ให้เอง”
ฉันอ้าปากค้างเลยล่ะ
“เอ้อ แบบนี้ก็ดีนะนิ้ง” พลอยที่นั่งฟังอยู่ด้วยก็สมทบขึ้นมาอีกเสียง “คราวนี้จะได้รู้ไปเลยว่าพี่หลามสนใจนิ้งมั้ย ถ้าคนที่สนใจจะหึงแน่นอน เชื่อเรา”
ฉันอึกอัก พอหันไปมองชินก็เห็นว่าเขาก็พยักหน้ากลับมาอย่างเห็นด้วย
“กะ...”
ครืด ครืด
แต่ยังไม่ทันที่ฉันจะตอบอะไรกลับไป เสียงโทรศัพท์ที่ฉันวางไว้บนโต๊ะก็สั่นจนฉันสะดุ้งเฮือก พอหยิบขึ้นมาดูก็ชะงักไปเมื่อเห็นว่าเป็นฉลามดุที่โทรมา ตอนแรกฉันก็ไม่อยากจะรับสาย แต่กลัวว่าถ้าไม่รับแล้วฉลามจะไม่โทรมาอีก
ถึงฉันจะโกรธ แต่ฉันก็เดาใจเขาไม่ออกเหมือนกัน ฉันกลัวเขาจะไม่ง้อฉันแล้วอ่ะ
ติ๊ด
[นิ้ง] ทันทีที่ฉันรับสายก็ได้ยินเสียงฉลามที่เรียกชื่อฉันขึ้นมาทันทีเหมือนรออยู่ ฉันนิ่งไป แล้วเงยหน้าขึ้นมองพลอยกับชินที่มองฉันแล้วทำสีหน้าเหมือนมีคำถามว่าใครโทรมา แล้วฉันก็ยิ้มแหยๆ กลับไป [เลิกยัง?]
“... เลิกแล้ว” ฉันตอบไปตามความจริง “แต่ฉลามไม่ต้องมารับเราหรอก”
[...]
“เรากลับเองแหละ”
[ก็อยู่หน้ามหาลัยเธอเนี่ย] เขาตอบกลับมา แล้วทั้งตัวของฉันก็ชาวาบไปทั้งแถบ [ถ้าเลิกแล้วก็เดินมาเลย]
“...”
[หรือจะให้เราขับเข้าไปหา]
“ฉลามกลับไปเถอะ” ฉันเม้มริมฝีปากแล้วพูดขึ้นมา ก่อนที่พยายามจะกลั้นน้ำตาไว้เพราะไม่รู้ว่าที่เขากำลังทำอยู่คือมาง้อฉันรึเปล่า ฉันไม่อยากคิดไปเอง “เราไม่กลับด้วยหรอก”
[...]
“เราขี้บ่นไม่ใช่เหรอ ถ้ากลับกับฉลามเดี๋ยวเราก็บ่นฉลามอีกอ่ะ”
[...]
“... เราว่าเรากลับเองดีกว่า”
[บ่นมาเหอะ] ฉันชะงักไปพอเขาโพล่งขึ้นมาสั้นๆ แต่เป็นคำที่ฉันแทบไม่อยากเชื่อหูตัวเอง [เอาให้แม่งหูหนวกกันไปข้างเลย ยอมแล้วก็ได้]
“...”
[เดี๋ยวขับเข้าไปหา]
“แต่เราบอกว่า...”
ติ๊ด
ฉันเบิกตาโตพอเห็นว่าฉลามพูดออกมาแบบนั้นแล้วก็วางสายไปเลยโดยไม่รอฟังอะไร ฉันไม่รู้ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ ยิ่งหันไปมองพลอยกับชินที่ทำสีหน้าเหมือนงุนงงฉันก็ยิ่งตื่นตัว
ฉันนั่งกระวนกระวายอยู่แบบนั้นจนได้ยินเสียงรถมอเตอร์ไซต์ที่มาจอดอยู่ด้านหลัง แล้วก็เห็นว่าพลอยกับชินมีสีหน้าตกใจ แต่ฉันก็ไม่กล้าหันไปมอง
“นิ้ง”
ฉันสะดุ้งน้อยๆ พอได้ยินเสียงฉลามเรียกฉันขึ้นมา แต่ก็ไม่ยอมหันกลับไปมองเขาอยู่ดี
“...”
“นิ้ง จะกลับมั้ย”
“...”
ฉลามดุเงียบไปทันทีพอเห็นว่าเรียกแล้วฉันเอาแต่ก้มหน้าหันหลังให้เขาแล้วก็ไม่ตอบอะไรกลับไป จนฉันได้ยินเสียงพ่นลมหายใจพรืดใหญ่ ก่อนที่จะได้ยินเสียงฝีเท้าที่เดินมาหยุดอยู่ด้านหลังแล้วก็มือหนาที่คว้าต้นแขนของฉันไว้
“เมีย” เขาเอนตัวลงมาเรียกฉันเกือบชิดศีรษะเสียงหนัก แล้วฉันก็เบิกตากว้าง “จะกลับได้รึยัง”
“...”
“ผัวรอนานแล้วนะครับ”