bc

แอลกอฮอล์ ALCOHOL

book_age18+
202
FOLLOW
1.0K
READ
campus
secrets
like
intro-logo
Blurb

‘ดิน’ คือผู้ชายประเภทที่ฉันไม่อยากคบด้วย

แต่เพราะเราเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกัน คณะเดียวกัน ห้องอยู่ตรงข้ามกัน

แถมยังไปเที่ยวกับเพื่อนกลุ่มเดียวกันบ่อยๆ ทำให้เรากลายเป็นบุคคลคุ้นเคย

เพราะแบบนั้นฉันเลยกล้าเรียกมันว่า ‘เพื่อน’ ได้อย่างเต็มปากเต็มคำ

กระทั่งคืนหนึ่ง...มันเริ่มเผยสันดานดิบในแบบที่ฉันเกลียดออกมา

***

“โทษทีว่ะ สงสัยจะเมาจนตาลาย”

ดินพูดขณะคาบบุหรี่พลางใช้นัยน์ตาคมกริบสำรวจร่างกายของฉันที่เต็มไปรอยแดงช้ำ

“...”

“มองหน้าแบบนั้นอยากเรียกร้องอะไรวะ”

“ฉันมีสิทธิ์เรียกร้องอะไรจากเพื่อนเฮงซวยอย่างนายเหรอ?”

“ไม่รู้ ก็ถามดู...”

chap-preview
Free preview
บทที่1.1
“คือ?” ฉันเลิกคิ้วขณะจ้องหน้าคนที่ขึ้นชื่อว่าแฟนอย่างไม่สบอารมณ์ เราสองคนเพิ่งคบกันเมื่ออาทิตย์ก่อน จริงอยู่ที่ฉันไม่ได้จริงจังกับความสัมพันธ์ในครั้งนี้สักเท่าไหร่ แต่ถึงจะเป็นแบบนั้น ฉันก็รู้ดีว่าควรวางตัวยังไงให้เหมาะสมกับสถานะ ‘แฟน’ ผิดกับไอ้สารเลวตรงหน้าลิบลับที่กล้าทำเรื่องบัดซบลับหลังฉันกับงูพิษตัวหนึ่ง...ซึ่งเคยมีเรื่องกับฉันเมื่อสมัยยังเป็นเฟรชชี่ จบจากเหตุการณ์ครั้งนั้นมันก็ไม่ได้เข้ามาจุ้นจ้าน แต่พอฉันคบกับผู้ชายคนนี้ มันก็เสนอหน้าเข้ามาเหมือนรอเวลาเอาคืนฉัน โอเค ฉันจะไม่โทษผู้หญิงหญิงฝ่ายเดียว เพราะถ้าตัวผู้มันไม่เล่นด้วย...ทุกอย่างก็คงไม่เป็นแบบนี้ ตบมือข้างเดียวไม่ดัง เคยได้ยินประโยคนี้ไหม? “ฟ่างฟังเราก่อนนะเว้ย...” ไอ้แฟนเฮงซวยทำท่าจะก้าวเข้ามาหาฉันในสภาพที่สวมบ๊อกเซอร์เพียงตัวเดียว ส่วนยัยนั่น...กำลังนั่งติดตะขอเสื้อชั้นในอย่างไม่รีบร้อน แอบกินของชาวบ้านแล้วยังลอยหน้าลอยตา ด่าว่าเหี้ยยังสงสารเหี้ยเลย “อย่ามาแตะตัวฉัน!” ทันทีที่ปลายนิ้วแตะโดนข้อมือ ฉันรีบสลัดออกทันทีอย่างรังเกียจ วันนี้เรามีนัดดูหนังรอบหกโมงครึ่ง ฉันแค่มาหามันที่บ้านก่อนเวลาหนึ่งชั่วโมงเพราะไม่มีอะไรทำ...ไม่คิดเลยว่าจะมาเห็นภาพที่มันกำลังคั่วกับผู้หญิงคนอื่นอยู่ โชคดีจริง ๆ “ฟ่าง คือแบบนี้...” “หนึ่งก็บอกมันไปสิว่าหนึ่งไม่ชอบผู้หญิงเล่นตัวอะ” ฝ่ายหญิงทำเสียงดัดจริตหลังจากติดตะขอเสื้อชั้นในเสร็จ ระหว่างนั้นฉันลองสำรวจไปรอบ ๆ ห้อง เห็นถุงยางใช้แล้วตกอยู่ข้างเตียง... “ก็ฟ่างไม่ยอมหนึ่งเองไม่ใช่เหรอ เขาก็เลยต้องมาทำแบบนี้กับเราไง” ไม่จริงใจไม่ว่านะ แต่การให้เกียรติซึ่งกันและกันมันเป็นพื้นฐานที่คนเป็นแฟนกันควรจะมี ถ้าหากแค่นี้ยังทำไม่ได้ ก็เลิกให้มันจบ ๆ ไป หลังจากนั้นจะเอากับใครฉันก็ไม่แคร์แล้ว “ทำไมเธอพูดแบบนั้นวะ!!” ไอ้แฟนเฮงซวยหันไปตะคอกฝ่ายหญิงหน้าแดงก่ำ ฉันไม่ขอเอนเอียงไปฝั่งใดฝั่งหนึ่งแล้วกัน เอาเป็นว่าหลักฐานมันคาตา ไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรให้เปลืองน้ำลายอีกแล้ว “ฉันยังไม่ได้พูดเลยนะว่า...” “หนึ่งพูด! หนึ่งบอกเราว่าฟ่างไม่ยอมนอนด้วยก็เลยเบื่อไง โอ๊ย!” ฉันไม่รอให้ยัยนั่นพล่ามจบก็เดินเข้าไปกระชากเส้นผมยาว ๆ ออกแรงดึงจนใบหน้าของผู้ถูกกระทำแหงนขึ้นฟ้าตามแรงกระชาก “อะ อีฟ่าง!” “คันเหรอ?” ฉันกระซิบเสียงเย็นขณะมองมันที่พยายามปัดป้อง สักพักก็ฉีกยิ้มแล้วกดเสียงข้างหู “อยากได้นักก็เอาไปเลยนะ...” กริ๊ก พูดจบก็กระชากเสื้อชั้นในของมันติดมือมา ก่อนออกไปข้างนอกไม่ลืมหันไปมองทั้งสองคนพร้อมรอยยิ้มหวานหยดย้อย “จะใส่ทำไม ยังไงพวกมึงก็เอากันต่ออยู่แล้ว” เอ่ยจบฉันก็เดินออกมาแบบเชิด ๆ ไม่มีความรู้สึกอาลัยอาวรณ์ไอ้แฟนสารเลวนั่นแม้แต่นิด แค่หงุดหงิดและอารมณ์เสียเล็กน้อยตามประสา “แม่ง...” ถึงอย่างนั้นก็อดหลุดสบถไม่ได้เมื่อเดินมาถึงจุดที่ตัวเองจอดบิ๊กไบค์คันโปรดไว้ อย่าถามถึงเสื้อชั้นในของมันนะ ก่อนออกมาฉันโยนทิ้งไปเรียบร้อยแล้ว เสนียดมือ! ความจริงแพลนหลังจากดูหนังจบคือฉันต้องไปสุมหัวกับเพื่อนที่ 'แอลกอฮอล์' ซึ่งเป็นร้านนั่งชิลเจ้าประจำ ก็ดื่มสังสรรค์ตามประสาเพื่อนนั่นแหละ แต่พอทุกอย่างเป็นแบบนี้เห็นทีคงต้องไปตั้งแต่หัววันซะแล้วมั้ง คิดได้ดังนั้นฉันจึงโทรหาไอ้นนท์...หนึ่งในเพื่อนแก๊งเดียวกันเพราะอยากมีคนนั่งคุยแก้เซ็ง แต่ปรากฏว่ามันไม่ยอมรับสาย ฉันจึงเปลี่ยนไปโทรหาพวกที่เหลือซึ่งก็ไม่มีไอ้ตัวไหนยอมรับสายฉันสักกะตัว เวลาที่เพื่อนต้องการดันหายหัว ไอ้พวกบัดซบ สุดท้ายฉันเลยต่อสายหาใครบางคนซึ่งคิดว่าผลลัพธ์คงไม่ต่างจากคนอื่น ๆ แต่เปล่า...รอเพียงไม่นานปลายสายก็กดรับ [โทรมามีปัญหาไร] ทั้งที่ไม่เห็นหน้าแต่รังสีความกวนตีนกลับมีทะลุปรอด “กินเหล้ากัน” กลอกตามองบนใส่หนึ่งทีถึงค่อยเอ่ยเจตนารมณ์ [โดนผัวทิ้งแล้วชอกช้ำระกำใจไง?] คำพูดคำจากวนประสาทพร้อมหาเรื่องของมันทำเอาอกฉันร้อนระอุยิ่งกว่าเดิม คบกันมาตั้งแต่ปีสอง...สันดานของเพื่อนคนนี้เป็นอะไรที่ฉันโคตรไม่ชอบ มันเป็นคนที่ค่อนข้างอารมณ์ร้าย หยาบคาย ไม่ยอมคน เอาตรง ๆ นอกจากหน้าตาแล้ว...ฉันหาข้อดีไม่เจอเลย ชื่อของมันคือ ‘ดิน’ แต่ฉันเรียกว่า ‘ไอ้ดิน’ ฉันรู้สึกไม่ชอบขี้หน้ามันตั้งแต่แรกพบ แต่เพราะเราอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกัน เรียนสถาปัตยกรรมเหมือนกัน ไปเที่ยวกับเพื่อนกลุ่มเดียวกัน แถมห้องพักก็ยังอยู่ตรงข้ามกันอีก การเจอหน้ามันเลยเป็นเรื่องเคยชิน ซึ่งถ้าเลือกได้ฉันก็ไม่อยากรู้จักมันนักหรอกนะ “ฉันไม่มีผัว” ฉันกระชากเสียงใส่ พอฉันอยู่ใกล้ผู้ชายคนไหนมาก ๆ มันชอบบอกว่าคน ๆ นั้นเป็นผัว งั้นเพื่อนในกลุ่มห้า – หกคนนี่ก็ผัวฉันหมดเลยถูกไหม? รวมถึงตัวมันเองด้วย “ตามเสือกเหรอ ไหนโผล่หัวมา” ฉันว่านะ...ไอ้เงาตะคุ่ม ๆ ตรงปากซอยนั่นต้องเป็นไอ้ดินแน่ ๆ สำหรับบางคน อาจมองว่าที่มันทำแบบนั้นเพราะเป็นห่วง แต่สำหรับฉันกลับมองว่าเป็นการสาระแนไม่เข้าเรื่องมากกว่า แหงล่ะ มันเคยบอกว่าไม่ชอบแฟนคนปัจจุบันของฉันด้วยเหตุผลที่ว่าหน้าตาน่าหมั่นไส้ เออ แล้วใครจะไปตาตี๋ ตัวขาว สไตล์โอป้าหน้าหวาน...แต่สันดานดิบอย่างมันล่ะ! [คำพูดคำจา เดี๋ยวต่อยร่วงเลยฟาริดา] “กับผู้หญิงนี่ขยันปล่อยหมาออกจากปากจังนะดลภาคี” ฉันบอกแล้ว...ไอ้ดินเป็นประเภทที่ฉันไม่อยากรู้จัก “ก็เห็นเก่งแต่ปาก” [เออ ก็เก่งนะ จะปากจะลิ้นก็ได้หมด หรือจะลองล่ะ หื้ม?] “ไม่อยากลองอะ กลัวไม่ถึงอารมณ์” ไอ้ดินเป็นคนแบบนี้ นอกจากความเถื่อน ทำตัวเลวไปวัน ๆ แล้ว ยังชอบพูดจาสองแง่สองง่ามกับเพื่อน ซึ่งในกลุ่มเรานอกจากฉันแล้วยังมีผู้หญิงอีกหนึ่งคนที่โดนกวนตีนมากพอกัน แต่ไม่ต้องห่วง ฉันไม่ใช่ประเภทที่จะปล่อยให้ตัวเองถูกกระทำต่ำ ๆ อยู่ฝ่ายเดียวอยู่แล้ว [ไอ้ฟ่าง เดี๋ยวมอมเหล้าแม่ง] “ทำไม จะมอมแล้วปล้ำฉันไง? ชอบก็บอก” [ท้าทายเหรอ...] น้ำเสียงจากปลายสายทั้งน่าขนลุกและชวนให้ต่อยหงาย เพราะแบบนี้ไง ฉันกับมันเลยกัดกันไม่เว้นแต่ละวัน “ท้าไปนายก็ไม่ทำ ไอ้ปอดแหก” [อีมารร้าย...เดี๋ยวรู้กันเลย] ติ๊ด! ดูมัน...ด่าฉันว่าเป็นอีมารร้ายไม่พอ ยังกล้าตัดสายกันไปดื้อ ๆ อีก ‘เดี๋ยวรู้กัน’ เหรอ? เออมาสิ อยากรู้เหมือนกันว่ามันจะทำอะไรฉันได้ เวลา 20:00 นาฬิกา @แอลกอฮอล์ หลังจากเรื่องตอนเย็น ฉันตัดสินใจขับรถเล่นแก้เซ็ง พอถึงเวลาก็มาสิงสถิตที่ร้านเหล้าร้านประจำ ซึ่งแน่นอนว่าในกลุ่ม...ฉันเป็นคนแรกที่มาถึง ขณะนั่งดื่มเหล้าปั่นและฟังดนตรีสดไปเรื่อย ๆ สองตาก็กวาดไปโดยรอบ มองทั้งคนที่นั่งดื่มอยู่ก่อนแล้วกับพวกที่เดินเข้ามาใหม่ ฉันจะไม่อะไรเลย...ถ้าหากกลุ่มที่เข้ามาใหม่ไม่ใช่พวกที่เคยมีเรื่องกับเพื่อนตัวเองเมื่อราวหนึ่งเดือนก่อน เรื่องมันเริ่มต้นเพราะมีใครสักคนในกลุ่มนั้นเข้ามาจีบ ‘หยง’ หนึ่งในกลุ่มเพื่อนฉันด้วยวิธีที่ไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ ตอนแรกฝ่ายเราก็พูดด้วยดี ๆ นั่นแหละ แต่ในเมื่ออีกฝ่ายเมาแล้วเรื้อน สุดท้ายจึงตะลุมบอนกันแบบไม่มีใครยอมใคร...ดีที่ฉันรู้จักกับเจ้าของร้านเป็นการส่วนตัว เขาจึงเพียงแค่ตักเตือน ไม่ติดใจเอาความถึงขนาดแจ้งตำรวจจับ “เฮ้ย ๆ” ภวังค์ความคิดถูกทำลายลงทันทีเมื่อหนึ่งในกลุ่มนั้นสะกิดเพื่อนให้หันมามองฉันซึ่งนั่งอยู่คนเดียวที่มุมร้าน “มาคนเดียวว่ะวันนี้ เอาไง” จับใจความสิ่งที่พวกมันพูดไม่ค่อยได้ เนื่องจากดนตรีสดค่อนข้างดัง ด้วยเหตุผลนั้นฉันจึงลากสายตาไปอีกทาง ทว่าไม่ทันไร พวกมันสองคนก็พุ่งตรงเข้ามาหาฉันอย่างมีจุดหมาย ซ้ำยังนั่งลงฝั่งตรงข้ามกัน...แม้ไม่อยากมองก็ต้องมองอย่างช่วยไม่ได้ “วันนี้เพื่อนไม่มาด้วยเหรอครับ” น้ำเสียงของหนึ่งในนั้นทั้งกวนประสาทและน่าขนลุก ฉันรู้เพียงพวกมันเคยมีเรื่องกับเพื่อนตัวเอง แต่ไม่รู้ว่าเรียนที่ไหน อายุเท่าไหร่ กะจากสายตาแล้วก็น่าจะรุ่นราวคราวเดียวกัน “...” ทางด้านฉันเพียงใช้นิ้วก้อยเขี่ยหูตัวเองเล่นแทนการโต้ตอบ แน่นอนว่าพวกมันคงหน้าเสียน่าดูที่ถูกเพิกเฉยจึงเพิ่มระดับความน่ารำคาญด้วยการส่งเพื่อนคนหนึ่งมานั่งข้าง ๆ ฉัน “ถ้าวันนี้เพื่อนตัวเองไม่มา มานั่งในกลุ่มเราก็ได้นะ เดี๋ยวเลี้ยงเอง” ฝั่งนั้นพยายามหว่านล้อมฉัน หากเป็นอีหยง...มันคงยิ้มเล็ก ๆ และปฏิเสธแบบสวย ๆ ไป แต่ฉันไม่เหมือนมัน “ไปไกล ๆ” ท้ายที่สุดก็ตัดสินใจเอ่ยปากไล่โดยไม่พยายามควบคุมน้ำเสียงให้นุ่มนวลหวังประณีประณอมสถานการณ์ ดังนั้นเสียงที่เล็ดลอดออกมาจึงทั้งแข็งกระด้างและขวานผ่าซาก ทว่าเมื่อการขับไสไล่ส่งที่ฉันหยิบยื่นให้ไม่ได้ผล จึงเป็นฉันเองที่ลุกขึ้นเตรียมหนี แต่ทว่า... หมับ! ไอ้หน้าด้านที่เดินมานั่งข้าง ๆ กันกลับคว้าข้อมือฉันไว้อย่างถือวิสาสะ ซ้ำยังบีบแน่นรุนแรงจนต้องหันขวับกลับไปมองอย่างเอาเรื่อง “จะไปไหนครับ ไปนั่งดื่มกับพวกเราดีกว่า” ฉันรับรู้ได้ถึงแรงบีบบริเวณข้อมือที่เพิ่มมากขึ้นกว่าคราวแรก ความเจ็บแปลบตรงส่วนนั้นส่งผลต่อระดับอารมณ์จนต้องใช้มืออีกข้างคว้าเหยือกเหล้าปั่นที่เพิ่งกินไปเพียงนิดเดียว...สาดใส่หน้าไอ้เวรนั่นอย่างไม่ออมแรง ซ่า! ฝ่ายนั้นสะดุ้งด้วยความตกใจและปล่อยข้อมือฉันเป็นอิสระทันที แต่หลังจากนั้นไม่นานมันก็ถลึงตามองฉันอย่างเดือดดาล ก่อนพ่นประโยคหยาบคายออกมาด้วยโทนเสียงกัมปนาท “มึงสาดเหล้าใส่กูเหรออีตัวดี!” "เออ..." ฉันครางตอบโดยไม่สนความต่างของสรีระหากต้องปะทะกันจนเลือกตกยางออก ซ้ำยังมองใบหน้าเปียกชุ่มของอีกฝ่ายอย่างไม่คิดหลบเลี่ยงสายตา กระทั่งมันสาวเท้าเข้ามาใกล้แล้วกระชากคอเสื้อฉัน เรี่ยวแรงของมันเนี่ย...มหาศาลน่าดูเลยนะ เมื่อกี้นี้รู้สึกเหมือนเท้าลอยเหนือพื้นหน่อย ๆ ด้วย “เป็นแค่ผู้หญิง อย่ากร่างให้มันมากนะมึง!”

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

Her Triplet Alphas

read
7.7M
bc

The Heartless Alpha

read
1.6M
bc

My Professor Is My Alpha Mate

read
485.9K
bc

The Guardian Wolf and her Alpha Mate

read
539.1K
bc

The Perfect Luna

read
4.1M
bc

The Billionaire CEO's Runaway Wife

read
625.0K
bc

Their Bullied and Broken Mate

read
480.7K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook