1.เคยเชื่อใจ
"ทำไม? กลัวจะตกหลุมรักพี่อีกรอบงั้นเหรอ?"
ราเชลส่งเสียงร้องเหอะออกมา
"มันใกล้จะหมดเวลาพักแล้วค่ะผู้จัดการมิน ราเชลไม่สามารถพักได้ทั้งวันแบบท่านหรอกนะคะ"
เขาเลิกคิ้วมองหน้าเธอ
"ผู้จัดการดาครับ ช่วยลางานให้ราเชลสักครึ่งวันด้วยนะครับ บอกไปว่าผมให้เธอมาทำงานให้ชั่วคราว..หรือบางทีอาจจะมีค้างคืน"
มือของเธอกำแน่น แต่ถึงจะโกรธแค้นมากแค่ไหนเธอก็ยังคงส่งยิ้มให้เขาอยู่ นี่มันไม่สมเป็นตัวเธอเลยราเชล จะไปมัวจมปลักอยู่กับความรักอะไรนั่นทำไมล่ะ เธอจะมองเขาเหมือนกับผู้ชายทุกคนที่ผ่านมาให้ได้เลย
ราเชลยกมือขึ้นมาไล้ไปตามจมูกที่โด่งเป็นสันของเขา เธอเอียงหน้าเล็กน้อยแล้วยกมือขึ้นมาเท้าคาง พร้อมกับปรายตามองหน้าเขาด้วยสายตาที่แสนเย้ายวน
"พี่คะ ราเชลกำลังทำงานอยู่และหากว่าพี่ต้องการทำเรื่องอย่างอื่นที่นอกเหนือจากทำงาน พี่ก็ช่วยหาคนอื่นทำเถอะนะคะ เพราะของที่เคยกินแล้วราเชลจะไม่กลับไปกินอีกเพราะราเชลรู้ว่ามันไม่ได้อร่อยแถมยังรสชาติห่วยอีกต่างหาก.."
มินจูงหัวเราะ สีหน้าของเขายังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงถึงแม้ว่าเธอจะกล่าวออกมาเช่นนั้นก็ตาม
"ราเชล ในบางทีหนูอาจจะลืมก็ได้นะ เพราะว่ามันนานมากแล้วที่เราไม่ได้อยู่ด้วยกันเป็นการส่วนตัวและ..ความทรงจำบางอย่างของหนูมันอาจจะคลาดเคลื่อนเพราะว่าพี่จำได้ดีว่าตอนที่เราอยู่ด้วยกัน.."
เขาก้มหน้าลงไปกระซิบข้างหูของเธออย่างแผ่วเบา
"หนูร้องครางออกมาดังแค่ไหนตอนที่นอนอยู่ใต้ร่างพี่..เห็นทีว่าจะต้องย้ำเตือนความทรงจำกันสักหน่อยแล้ว"
.
.
ความรักเป็นเรื่องที่ซับซ้อน และกับบางคน..มันราวกับว่าเขามีบางอย่างที่ดึงดูดสายตาของเราเข้าไป ให้ตราตรึงอยู่บนใบหน้าของเขา ราวกับว่าวินาทีนั้นผู้คนมากมายรอบข้างนั้นไร้ค่าไปหมด ราวกับว่ามีเพียงเธอและเขาที่ยืนอยู่ตรงนั้น
"ราเชล ฝากชวนไอ้ดามากินข้าวด้วยนะ เที่ยงนี้ไปเจอกับบนเลาจน์.."
"อือ รีบๆวิ่งเลยเดี๋ยวเข้างานไม่ทัน"
ราเชลกล่าวกับแยมที่กำลังกึ่งเดินกึ่งวิ่งเพื่อขึ้นลิฟต์ไปชั้นบนสุดของโรงแรม และที่นี่คือโรงแรมโซล โรงแรมชื่อดังที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลวง เนื่องจากห้องพักที่ราคาสูงกว่ามาตรฐานและห้องสวีทชั้นบนที่จองคิวกันข้ามปีทำให้แขกที่เข้ามาพักที่นี่ เป็นระดับซุปเปอร์วีไอพีทั้งนั้น
แน่นอนว่าการจะเข้ามาทำงานที่นี่ได้นั้นยากลำบากจนเลือดตาแทบกระเด็นอีกทั้งเธอจะต้องไปเรียนการเสริมสร้างบุคลิกภาพเสียใหม่ เพื่อให้เป็นพนักงานต้อนรับที่ไร้ที่ติ เรียนวิธีการยิ้มที่จะยิ้มออกมาได้สวยงามมากที่สุด
หลายๆอย่างที่ราเชลลงทุนลงแรงไปมันก็ตอบแทนเธอด้วยเงินเดือนที่เรียกได้ว่ามากกว่าที่อื่นที่เธอเคยทำมา และ..บรรดาแขกซุปเปอร์วีไอพีที่ทั้งหล่อและรวย!
"ขอห้องที่คุณราเชลสามารถเดินทางไปหาผมได้สะดวกๆ.."
เธอก้มหน้าให้กับคุณออสติน ลูกค้าคนสำคัญของโรงแรมโซล
"ห้องพักที่นี่ล้วนแล้วแต่สามารถเดินทางไปได้ง่ายๆทั้งนั้นเลยค่ะ หากว่าเป็นการเดินทางไปหาคุณออสตินแล้วละก็"
ออสตินถือเป็นชายหนุ่มที่หน้าตาดีในขนาดที่เธอยังต้องหวั่นไหว และมันยิ่งหวั่นไหวมากขึ้นเมื่อเขาเป็นถึงผู้ถือหุ้นคนสำคัญของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง
ราเชลส่งคีการ์ดให้กับเขาด้วยรอยยิ้ม
"ไปส่ง..หน่อยสิครับ"
เธอหัวเราะเบาๆ
"เดี๋ยวราเชลให้คนไปส่งนะคะ พอดีราเชลยืนคนเดียว น้องอีกคนไปพักเที่ยง"
เขามองหน้าเธอนิ่งๆ ก่อนจะยื่นมือมารับคีการ์ดในมือของเธอ แต่ทว่าออสตินจับมือของราเชลอยู่นาน..จนเธอรู้สึกได้ถึงสายตาที่มองมาของผู้คนได้เลย ที่ใบหน้าของเธอยังคงส่งยิ้มให้เขา แต่ราเชลพยายามอย่างยิ่งที่จะค่อยๆแกะมือเขาออก
"ถ้าผมไลน์มาแล้วไม่ตอบ ผมจะลงมาอุ้มคุณขึ้นไปด้านบนนะครับ"
"ตอบสิคะ ตอบแน่นอนเลยค่ะ"
เธอถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเขายินยอมเดินไปแต่โดยดี สารภาพตามตรงว่าทั้งหน้าตาและทุกสิ่งทุกอย่างของคุณออสตินมันตรงตามสเปกเธอไปทุกอย่าง ติดอยู่เรื่องเดียวตรงที่เขา..หึงหวงมากจนเกินไป และนั่นมันเป็นสาเหตุที่เธออยากจะตีตัวออกห่างเขา ถึงเธออยากจะได้แฟนรวยๆแต่เธอก็ยังอยากจะทำงานอยู่ดี
การเป็นผู้หญิงทุกคนก็ต้องมีสิทธิ์เลือกสิ เธอไม่ได้เล่นสนุกกับความรักและเรื่องแบบนั้น แต่เธอกำลังหาสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเองและ..อยากจะหาใครสักคนที่ทำให้เธอสามารถหยุดมองเขาได้
คนที่สร้างแรงดึงดูดมหาศาลระหว่างเธอและเขา..มากกว่าคนที่เธอเคยพบเจอมา
"มาแล้วค่ะพี่ราเชล ขอบคุณที่ยอมให้มินไปพักก่อนนะคะ พี่ราเชลไปทานข้าวได้เลยค่ะเดี๋ยวมินจัดการต่อเอง"
"อืม ขอบใจนะ"
ราเชลหยิบกระเป๋าพร้อมกับเดินออกไปขึ้นลิฟต์เพื่อที่จะขึ้นไปยังชั้นบนสุด ซึ่งก็คือเลาจน์ระดับห้าดาวของโรงแรมโซล เธอขึ้นมาทานข้าวที่นี่ทุกวันเพราะว่าแยมทำงานอยู่ที่นี่ และการที่มันทำงานบนเลาจน์ ด้วยเสน่ห์และหน้าตาของมันทำให้มีแขกที่จ่ายค่าข้าวที่แพงในหลักหมื่นให้มันกินทุกมื้อ
ส่วนเพื่อนอีกคนของเธอคือดาริน เป็นผู้จัดการฝ่ายบุคคลของโรงแรมโซล ยัยนั่นทั้งเก่งทั้งสวยแต่ดันไม่เคยมีแฟนเพราะว่ามันบ้าแต่งาน
พวกเราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่มหาลัย จนถึงตอนนี้ที่กำลังจะเข้าสู่วัยสามสิบ ทั้งที่เธอกำลังคาดหวังว่าจะได้ใส่ชุดเพื่อนเจ้าสาวสวยๆสักครั้งแต่ยัยสองคนนี่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะแต่งงานเลย..
ราเชลถอนหายใจเบาๆและเมื่อประตูลิฟต์เปิด ในขณะที่เธอกำลังจะก้าวเข้าไปขาทั้งสองข้างพลันชะงักในทันที เมื่อเธอเห็นคนที่ยืนอยู่ในลิฟต์ เขาปรายตามองที่เธอก่อนจะแสยะยิ้มขึ้นมา
ใบหน้าที่ไม่ว่ามองกี่ครั้งหัวใจก็สั่นไหวราวกับว่าเธอคือของเล่นหรือแม้แต่ของตายที่เขาอยากจะทอดทิ้งเมื่อไหร่ก็ย่อมได้ ดวงตาที่มองมาที่เธอราวกับว่าเขาสามารถมองทะลุเข้าไปถึงจิตใจที่กำลังสั่นไหวของเธอ
ราเชลส่งยิ้มให้เขาก่อนจะเดินเข้าไปด้านใน เธอไม่อยากวิ่งหนีอีกแล้ว ไม่อยากจะยอมแพ้หัวใจที่อ่อนแอของตัวเอง และเมื่อเธอเดินเข้าไปมือทั้งสองข้างของเขาก็สวมกอดเธอจากข้างหลัง
"คิดถึงจังเลย.."
"ปล่อยด้วยค่ะผู้จัดการ"
"ทำไมล่ะ หนูไม่คิดถึงพี่เลยงั้นเหรอ? ทั้งที่พี่คาดหวังว่าจะได้มีคืนที่เราได้อยู่ด้วยกันอีกครั้งแท้ๆ ใจร้ายจังเลยนะราเชล.."
เธอจับมือของเขาออกจากตัวเธอ ก่อนจะหันมองหน้าเขา ในตอนนี้ราเชลกล่าวขอบคุณครูที่สอนเธอยิ้มเป็นร้อยเป็นพันครั้งเพราะว่าเธอสามารถส่งยิ้มที่ไม่รู้สึกอะไรให้กับเขาได้
"มันจบลงไปแล้วค่ะผู้จัดการมิน และ..คุณไม่ควรมายุ่งอะไรกับราเชลอีก!"
เขามองหน้าเธอนิ่งๆก่อนจะระเบิดหัวเราะออกมา มินจุงเดินเข้าไปประชิดตัวของราเชลพร้อมกับฝังใบหน้าลงไปที่ซอกคอขาวเนียนของเธอ เขาจุมพิตลงไปอย่างแผ่วเบาเพื่อสร้างรอยกุหลาบจางๆเอาไว้ในจุดที่สามารถมองเห็นได้
"ยังหอมเหมือนเดิมเลยนี่..อีกอย่างใครบอกหนูงั้นหรือว่าระหว่างเรามันจบแล้ว.."
ประตูลิฟต์เปิดออกพอดีและราเชลรีบกำคอเสื้อของตัวเองเอาไว้แน่นเพื่อไม่ให้มีใครมองเห็นรอยบนต้นคอของเธอ เธอกำลังพยายามควบคุมสีหน้าและร่างกายที่สั่นเทานี้ให้มันเป็นปกติ เพื่อไม่ให้คนที่เข้ามาใหม่สังเกตเห็นถึงความผิดปกติ
ผู้จัดการมิน ครั้งหนึ่ง..ในครั้งหนึ่งเธอเคยเชื่อมั่นว่าความรักมันสวยงามเหนือสิ่งอื่นใด และการที่เธอมองเขาแล้วตกหลุมรักตั้งแต่แรกพบมันราวกับพรหมลิขิต สิ่งที่เหลือเชื่อมากกว่านั้นคือเขาเองก็กำลังมองมาที่เธอเช่นกัน
ในขณะที่เธอมองว่าเขาคือคนรัก..แต่สำหรับเขาเธอคือของเล่นแก้เหงาเท่านั้น และยิ่งคาดหวังมากเธอก็ยิ่งผิดหวังมาก ราเชลยังจำวันที่เธอจับได้ว่าเขาปฏิบัติกับผู้หญิงทุกคนของเขาเท่าเทียมกัน เธอไม่ได้พิเศษไปกว่าคนอื่นเลยสักนิด
ความเจ็บปวดในวันนั้นยังคงกัดกินหัวใจมาจนถึงวันนี้ ทุกครั้งที่นึกถึงหัวใจยังคงเจ็บปวดราวกับเรื่องที่เกิดขึ้นมันพึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อวาน
ds image widget