Chapter 1.1

3209 Words
นางฟ้าของนักฆ่า ผู้ประพันธ์ : Chineserose 1 อพาทเม้นท์ส่วนตัวสุดหรู ใจกลางนิวยอร์ก ซึ่งเป็นที่พักของนางแบบดาวรุ่งของวงการ เธอเริ่มต้นจากการประกวดจากรายการรีอัลริตี้โชว์ระดับแนวหน้า หลังจากได้รับตำแหน่ง ก็กลายเป็นนางแบบชื่อดังชั่วข้ามคืน นับจากนั้นแพททรีเซียมีชีวิตต่างออกไปจากเดิม กลายเป็นคนนอนดึกตื่นเช้าและออกกำลังกายอย่างเคร่งครัด รับประทานอาหารตามโปรแกรมที่กำหนดขึ้นเพื่อไม่ให้เรือนร่างระหงมีไขมันส่วนเกินแม้แต่น้อย บางครั้งหญิงสาวก็อดคิดไม่ได้ว่า ชีวิตตัวเองในตอนนี้มันต่างกับหุ่นยนต์ตรงไหนกัน อาจจะต่างก็ตรงที่เธอมีลมหายใจเท่านั้น เพราะอย่างอื่น เธอถูกตั้งโปรแกรมเอาไว้หมด แพททรีเซียอ่านข่าวตัวเองจากหน้าจอแทบเลทระหว่างที่กำลังรอพอลล่า ขณะที่คิ้วก็ขมวดเข้าชนกัน ต้นเหตุเพราะเนื้อหาข่าวข้างในนั่นมันชวนให้หัวเสียอย่างยิ่ง หากผู้จัดการส่วนตัวรู้เข้า ต้งอเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ เพราะพอลล่าคือคนจากเอเจนซี่ที่ส่งมาดูแลเธอ ทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว ในวันนี้ผู้จัดการสาวใหญ่ก็จะมารับเธอไปถ่ายแบบน้ำหอมแบรนด์ดังคอลเล็คชั่นใหม่ต้อนรับช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่กำลังจะมาถึง ปกติแพททรีเซียก็ต้องให้เวลากับการเช็คข่าวของตัวเองก่อนออกจากที่พักบ้าง ก็ได้ข้อมูลข่าวจากสื่อบันเทิงพวกนี้ล่ะ ไว้เช็คเรทติ้งของตัวเองถึงแม้นานครั้งจะมีโอกาสได้อ่านเจอข่าวของตัวเองก็เถอะ ที่ว่านานๆ ทีนั้นไม่ใช่ว่าแพททรีเซียจะไม่ดังหรอกนะ แต่นั่นเป็นเพราะแพททรีเซียเธอไม่ค่อยมีข่าวฉาวนั่นเอง ก็ภาพลักษณ์ออกจะเป็นนางแบบสาวดาวรุ่งน้องใหม่ผู้แสนดี นับว่าสื่อยังคงจับตาที่ความสดใสมากกว่าจะมุ่งทำร้ายทำลายชื่อเสียงเธอ เย็นวันนี้หญิงสาวมีคิวถ่ายโฆษณาต่อตอนทุ่มครึ่ง ก่อนที่สาวใหญ่อย่างพอลล่าซึ่งเป็นผู้จัดการส่วนตัวจะพาไปออกรายการโทรทัศน์ชื่อดัง ชื่อเสียงเธอ ตอนนี้กำลังฮิตติดลมบน ไอ้เรื่องข่าวเสียๆหายๆ ที่จะทำให้เสื่อมเสียจนกระทบไปถึงเรทติ้งน่ะ ไม่มีแน่นอน... ซึ่งในวันนี้กับเมื่อครั้งที่แพททรีเซียเข้าวงการใหม่ๆมันต่างกันมาก ‘ความดัง มันก็อยู่คู่กับความเป็นข่าวนะแพททรีเซีย ถ้าเมื่อไหร่ที่เราไม่มีข่าวบนสื่อ นักข่าวไม่สนใจเวลาเธอไปไหนต่อไหน นั่นแสดงว่า วันนั้น...ไม่ใช่วันของเธอแล้ว จำใส่หัวไว้!’ แพททรีเซียหยุดนึกถึงอดีต กับคำพูดของพอลล่าพี่เลี้ยง และผู้จัดการส่วนตัวคนสนิทของเธอ ที่บอกเล่าด้วยน้ำเสียงใส่อาการอารมณ์เม้าท์นิดหน่อย คราวนั้นแพททรีเซียยังเด็กมากและเป็นนางแบบน้องใหม่ โนเนม โนบอดี้... พอลล่าเธอจึงพยายามทุกวิถีทางผลักดันให้แพททรีเซียได้เป็นข่าวและชิงพื้นที่สื่อให้ได้มากที่สุด เท่าที่ความสามารถของผู้จัดการส่วนตัวอย่างเธอจะทำได้ ‘แล้วเป็นข่าวซุบซิบแบบนี้จะดีเหรอคะพอลล่า’ แพททรีเซียถามด้วยความไม่ประสีประสา ‘ซุบซิบนิดๆหน่อยๆ ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ แต่อย่าให้ฉาว แค่ไม่มีหนุ่มฮิบฮอปย่องขึ้นเพ้นท์เฮ้าส์ หรือหนูไปอาบแดดแบบไม่ใส่อะไรเลยที่ชายหาดกับมาเฟียตัวพ่อ ก็พอแล้วค่ะ’ พอลล่าให้เหตุผล แต่วันนั้นกับวันนี้มันต่างกัน ตอนนี้ดังมีชื่อเสียงแล้ว นางแบบดาวรุ่งอย่างแพททรีเซีย ก็ต้องระวังเรื่องภาพลักษณ์มากขึ้นด้วย หญิงสาวรีบปิดหน้าจอ เพราะ ‘ข่าว’ ที่กำลังเผชิญในตอนนี้ มันควรที่จะถูกเก็บเป็นความลับมากกว่า เพราะถ้าข่าวมันบานปลายใหญ่โต เรื่องมันจะไม่จบแค่กรอบเล็กๆอย่างที่เห็นน่ะสิ! “Hi! แพท พี่มาแล้ว เตรียมตัวเสร็จยัง?” พอลล่าเอ่ยทักทาย ขณะเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่น กระทั่งมาหยุดที่โซฟาอ่อนนุ่มสีสวยราคาแพงและยุบตัวลงนั่งใกล้ๆนางแบบสาวที่ว่า “ค่ะ” แพททรีเซียตอบ มือก็ซ่อนแทบเลทไว้แทบไม่ทัน แต่ก็ยังตีหน้าเรียบเฉยที่บางทีก็ดูหยิ่งในแบบฉบับของเธอราวกับไม่ได้ซ่อนอะไรไว้ แต่ท่าทีของหญิงสาวก็ไม่อาจเล็ดรอดความเอาใจใส่จนบางครั้งเข้าขั้นจุ้นของพอลล่าได้ แต่ทั้งนี้มันก็เพราะความปรารถนาดีของพอลล่าที่มีต่อนางแบบในสังกัด “เราซ่อนอะไรไว้?” พอลล่าหูตาไวจะตาย เธอพบว่ามีสิ่งพิรุธ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แววตาของแพททรีเซีย เปิดเผยเกินไป “มะ... ไม่มีนะคะ” แพททรีเซียปฏิเสธเป็นผู้ร้ายปากแข็ง สีหน้านิ่งเฉย พยายามเก็บซ่อนความผิดปกติเอาไว้อย่างที่สุด แต่นั่นกลับไม่เป็นผลสำเร็จ “แล้วนี่อะไร?” พอลล่าลุกขึ้น หยิบหลักฐานขึ้นมาโชว์ ไอแพดของนางแบบสาวมันยังคงโชว์หน้าจอเดิมที่เพิ่งอ่านไปทำให้พอลล่าเสพข่าวนั้นอย่างหงุดหงิดและเงยหน้ามองอีกฝ่ายอย่างคาดไม่ถึง แพททรีเซียกับนักร้องหนุ่มที่ขึ้นชื่อเรื่องความเจ้าชู้ กลายเป็นคู่กิ๊กกันได้ยังไง? “นี่มีข่าวแบบนี้ได้ยังไงแพททรีเซีย?” พอลล่าถามเสียงกร้าว “แพททรีเซียไม่ทันตั้งตัว ไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดนะ แล้ววันนั้นมันเรื่องงานล้วนๆ แพททรีเซียอธิบายได้” เหตุผลของนางแบบสาวอธิบาย น้ำเสียงก็ดูหนักแน่น ไม่มีทีท่าว่าจะสำนึกผิดหรืออ่อนข้อต่อพอลล่าแต่อย่างใด ทำผิดแล้วยังจะมาตีสีหน้าแบบนี้อีกนะยัยเด็กหัวดื้อ เดี๋ยวจะให้แก้ปัญหาเองเสียให้เข็ด พอลล่าแอบคิดเองคนเดียวในใจ มันอดไม่ได้เมื่อเห็นท่าทีของหญิงสาวที่ไม่มีแววของความรู้สึกสำนึกผิดเสียด้วยซ้ำเมื่อถูกจับได้ “ไปคุยกันในรถ” พอลล่าดุอย่างหัวเสีย ก่อนที่จะเดินนำหน้าหญิงสาวออกนอกเพ้นท์เฮ้าส์ ตรงไปยังที่จอดรถแล้วบึ่งไปกองถ่ายแบบโฆษณา ยังมีเวลาให้นางแบบสาวได้อธิบายระหว่างการเดินทาง มันดีกว่าที่จะโอเอ้อยู่เพียงเพื่อเค้นเอาความจริงจากผู้ร้ายปากแข็งอย่างแพททรีเซีย พอลล่าดูแลแพททรีเซียดีมากอย่างไร้ที่ติ เพราะเธอเป็นคนที่มีความรับผิดชอบสูง ปกป้องนางแบบดาวรุ่งเบอร์หนึ่งอย่างแพททรีเซียได้อย่างยอดเยี่ยม พอลล่าเองก็เจนวงการไม่เบา นางแบบในสังกัดภายใต้การดูแลของเธอ ถึงจะมีน้อยแต่ก็อยู่ในระดับแนวหน้าทั้งนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แพททรีเซีย ตอนนี้สื่อกำลังจับตานางแบบสาวดาวรุ่งลูกครึ่งไทย-อเมริกันคนนี้ งานไหลมาเทมาจนเธอเองยังตั้งตัวไม่ทัน เชื่อได้เลยว่าแพททรีเซียยังมีอนาคตไปได้อีกไกล ก็เพราะนางแบบคนอื่นน่ะเหรอ เทียบไม่ติดฝุ่นเลยด้วยซ้ำ แต่กับข่าวซุบซิบนี้ที่เห็น ก็คงไม่ต่างกัน งานเข้างานใหญ่ให้พอลล่าได้แก้ปัญหาอีกแล้ว! แพททรีเซียนะแพททรีเซีย!! แพททรีเซีย ดาร์ลิง คือชื่อในวงการของเธอ เพราะ “ข่าว” มันก็เป็นเหมือนดาบสองคมให้ทั้งคุณและโทษ ทั้งสร้างชื่อให้นางแบบโนเนมดังชั่วข้ามคืนก็จริง แต่ขณะเดียวกันก็เป็นเครื่องมือทำร้ายให้เสื่อมเสียชื่อเสียงงานหมดเงินหดได้เหมือนกัน ข้อเท็จจริงข้อนี้ พอลล่ารู้เป็นอย่างดี “บ้าฉิบ! รถพวกนี้มันหลุดมาจากนรกรึไง ถึงขับกันได้ห่วยแบบนี้!!” ระหว่างทางพอลล่าก็สบถไปตามทาง ชนิดที่ใครขับปาดหน้า พี่แกเป็นต้องปล่อยสัตว์เลื้อยคลานออกมายั้วเยี้ย แม้แต่คนที่ขับช้า เจ้แกยังไม่เว้น หงุดหงิดอารมณ์เสียมาจากดาวไหนก็แน่ หรือเธอจะกำลังไม่พอใจนางแบบในสังกัดนะ ต้องเป็นอย่างหลังแน่ๆ โถ... “เฮ้ ใจเย็นสิพอลล่า” นางแบบดาวรุ่งเตือน เธอมองหน้ามาแบบเหวี่ยงๆ สงสัยยังไม่หายหงุดหงิด อาจจะมีอารมณ์ต่อเนื่องมาจากข่าวซุบซิบที่เธออ่านเจอ มันต้องชัวร์อยู่แล้วล่ะ เป็นใครจะใจเย็นเป็นทองไม่รู้ร้อนอยู่ได้ล่ะ งานนี้ต้นสังกัดรู้ เป็นต้องคอขาด เผลอๆ งานพรีเซนเตอร์ที่กำลังจะไปถ่ายทำจะพาลยกเลิกให้ “เงียบ! แพททรีเซีย!!” พาลหันมาดุนางแบบสาวน้อยจนเธอทำได้แค่เพียงกระพริบตาปริบๆ สองครั้งก่อนจะถอนหายใจยาว ‘ความผิดเราสินะ’ “โธ่...” แพททรีเซียลากเสียงยาว “อย่าโมโหไปเลยพอลล่า... แล้วก็ไม่ต้องซิ่งขนาดนั้นด้วย ยังไม่หายโกรธแพทหรือคะ” แพททรีเซียถามอย่างสำนึกผิด เธอไม่ได้เจตนาอยากให้มันเป็นข่าวนี่ “ยัง” ผู้จัดการส่วนตัวตอบด้วยสีหน้าปั้นปึ่ง “แพททรีเซียขอโทษ อย่าโกรธแพทเลยนะคะ เดี๋ยวเสียสุขภาพนะ” หญิงสาวออดอ้อน “เราน่ะไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องเลย” “เปล่านี่คะ” ตอบพร้อมทำปากยื่น “เรามาเคลียร์เรื่องข่าวกันก่อนสิ” พอลล่าทำเสียงดุ “ไม่เห็นต้องเคลียร์เลย ในข่าวไม่ได้เขียนชื่อแพททรีเซียสักหน่อย” “คิดว่าประชาชนไม่รู้หรือไงว่าในข่าวน่ะคือเรานะแพท” พอลล่าทำน้ำเสียงประชด แล้วดุต่อ “แล้วนี่... แอบไปเจอกันตั้งแต่เมื่อไหร่? ก็รู้ๆอยู่ พ่อนักร้องฮิปฮอบนั่นเจ้าชู้อย่างกับอะไร คบหาผู้หญิงหลายคน ดารานางแบบ เซเลบริตี้ พริตตี้ สาวไฮโซ มั่วไม่มีซ้ำหน้า แล้วเรายังเอาตัวเองเข้าไปยุ่งทำไมหา?” พอลล่าดุอย่างอ่อนใจ เมื่อรายละเอียดของข่าวคือภาพหลุดที่ปาปารัซซี่แอบถ่าย ขณะนางแบบสาวเดินควงกับพ่อนักร้องฮิปฮอปชื่อดัง ถึงจะไม่ได้ไปกันแค่สองต่อสองก็เถอะ แต่ภาพที่ออกมาแบบนั้น มันดูเสียหาย เห็นที พี่พอลล่าจะมีมาตรการทำโทษแพททรีเซียให้หลาบแน่ๆ “ที่ไปเที่ยวคืนนั้นพวกเราก็ไปกันหลายคนนะคะ หลังจากเที่ยวเสร็จแล้วแพททรีเซียไม่ได้ทำอย่างที่มีในข่าวสักหน่อย ไม่ได้ย่องขึ้นเพ้นท์เฮ้าส์ใคร แล้วก็ไม่ได้พาใครขึ้นเพ้นท์เฮ้าส์ตัวเองด้วย แพทคอนเฟิร์ม!” นางแบบสาวหยุดพูด พลางหันไปมองกิริยาตอบสนองต่อคำปฏิเสธของเธอ แต่อีกฝ่ายยังพ่นไฟออกทางรูขุมขน แพททรีเซียสูดหายใจเข้าลึกก่อนพูดต่อไปอีก “นักร้องคนนั้น เขามาส่งแพทถึงแค่ลอบบี้เพ้นท์เฮ้าส์ด้านล่าง แค่นั้นเองจริงๆ นะ” หญิงสาวหยุดสูดลมหายใจเข้าลึกอีกครั้งอย่างหนักใจ “แพททรีเซียขอย้ำนะคะ ว่าคืนนั้นก็มากันหลายคนด้วย เพื่อนๆกันทั้งนั้น แพทกับเขา เราก็ไม่ได้จูบกันอย่างในข่าวเลยสักนิด ถ้าพอลล่าไม่เชื่อ จะเอาเพื่อนแพทมาช่วยยืนยันไหมคะ?” นางแบบสาวยืนกราน พร้อมดึงบุคคลที่สามเข้ามาเอี่ยว เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจของตนเอง แต่กระนั้น ก็ไม่กล้าสบตากับพพอลล่านานๆ อยู่ดี แหงล่ะ แพททรีเซียกลัวพอลล่าผู้จัดการส่วนตัวผู้มากล้นประสบการณ์จะอ่านความในใจของเธอออกจนหมดเปลือก พอลล่าเป็นผู้ใหญ่ที่มีประสบการณ์ร้ายกาจเชียวล่ะ ที่ผ่านมาโกหกทีไร นางแบบสาวเจ้าสเน่ห์อย่างแพททรีเซียมีอันโดนจับได้ทุกทีเลยเชียว คราวนี้ ชะตากรรมก็คงไม่ต่างกัน “พี่เชื่อเรานะ แต่ประชาชนจะเชื่อหรือเปล่า นั่นมันอีกเรื่องนะแพททรีเซีย!” พอลล่าดุเสียงดัง ตาเขียวปั๊ด คิ้วขมวดเข้าหากันเป็นเครื่องหมายอินฟินิตี้ ในที่สุดแววตาคู่งามนั้นก็โรจน์วาวไปด้วยแววของความโมโห ตายแน่ๆคราวนี้แพททรีเซียนางแบบเบอร์หนึ่งตายแน่ๆ “...”แพททรีเซียยอมจำนนแต่โดยดี ไม่อาจตอบโต้ใดๆ ทั้งสิ้น แหงล่ะ ตอนนี้นอกจากพอลล่าแล้วสังคมคงตัดสินเธอไปแล้วเรียบร้อยสินะ! “พี่เคยเตือนเราแล้วใช่ไหม? อยู่ในวงการต้องระวังเนื้อระวังตัว อย่าให้เป็นข่าว” แววดุดันในน้ำเสียงเหมือนจะลดลงบ้างแล้ว “ก็แต่ก่อนเห็นพยายามให้แพทเป็นข่าวนี่คะ” เสียงหวานย้อน หน้าหวานยังยิ้มอ่อนจนน่าจับมาตีก้น “กับตอนนี้มันไม่เหมือนกัน!” พอลล่าเกือบจะกรีด เห็นหน้าสวยตาใส บทจะดื้อก็อย่างที่เห็นนั่นล่ะ เถียงคำไม่ตกฟาก ยิ้มอ่อนหน้าตายอีกด้วยนะ มันน่ามันเขี้ยวไหมล่ะ “แพททรีเซียรู้ค่ะ แต่คืนนั้นไม่มีอะไรจริงๆ” เธออยากให้พอลล่ารับฟังคำอธิบายของเธอบ้าง “แล้วมันมีภาพหลุดแบบนี้ออกมาได้ยังไง?” พอลล่าซักน้ำเสียงเข้มเอาจริง “ไปคุยเรื่องงาน เสร็จแล้วเพื่อนๆก็มาส่งที่เพ้นท์เฮ้าส์ก็แค่นั้นเอง” แพททรีเซียอธิบายเหตุผลให้ผู้จัดการส่วนตัวฟังเป็นฉากๆ ซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องจริงความจริงที่เธอไม่ได้มีอะไรกับนักร้องฮิปฮอปมาดเพลย์บอยนั่น แต่ที่ต้องโกหกว่ามีเรื่องงานเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะคิดว่าตนเองจะโดนดุน้อยลง เพราะความอยากหนีเที่ยวแท้ๆเลยแพททรีเซีย แต่ที่คิดไว้ ผิดอย่างเสียรูป อย่าประเมินความเจ้ากี้เจ้าการของพอลล่าต่ำไปเชียว เพราะถ้าของขึ้นแล้ว กัดไม่ปล่อย “คุยงาน ทำไมต้องขึ้นเพ้นท์เฮ้าส์?” “โธ่... พอลล่า แพททรีเซียก็แค่ไปปาร์ตี้ พบกันบ้างอะไรบ้าง แต่คืนนั้นเราไปคุยงานด้วย และในคนจัดงานออร์แกไนซ์ก็ไป คือที่ไปวันนั้นก็คุยเรื่องงานนะคะ” คำแก้ตัวที่คู่ควรเพื่อให้ มีเรื่องงานเข้าไปปะปนบ้างอย่างน้อยโทษหนักจะได้เป็นเบา แต่ผลที่ได้ไม่เป็นไปตามคาด กลายเป็นยิ่งโดนหนักกว่าเดิมเสียอีก เมื่อพอลล่ารู้ว่ารับงานโดยที่เธอไม่รู้ไม่เห็นด้วย ก็รู้ๆ อยู่ว่ารายได้ของพอลล่ามาจากเปอร์เซนต์แบ่งจากรายได้ของนางแบบอย่างแพททรีเซีย “ถ้าเป็นเรื่องงานทำไมไม่ให้ผู้จ้างติดต่อผ่านพี่? แล้วถ้ามันมีปัญหาขึ้นมา ใครจะปกป้องผลประโยชน์ให้? ไหนจะเรื่องผลประโยชน์ ไหนจะชื่อเสียงเราอีก คนดังระดับแพททรีเซีย ใครก็อยากรู้จัก ใครๆก็อยากเป็นเพื่อน เพราะตัวเธอมันสร้างผลประโยชน์ได้มากมาย คิดเหรอว่าพวกนั้นเขาจะจริงใจด้วย!!” พอลล่าได้ทีบ่น แล้วยังพาดพิงไปถึงเพื่อนๆกลุ่มนั้น สรุปว่ากระทั่งนาทีนี้ พอลล่ายังไม่หายหงุดหงิดสินะ “แต่ว่า...” แพททรีเซียกำลังจะอ้าปากเถียง แต่ก็ช้ากว่าปากพี่พอลล่าอยู่ดี “เตรียมเหตุผลไว้แก้ตัวกับผู้ใหญ่ก็แล้วกัน คนระดับผู้บริหารใช่จะหลอกได้ง่ายๆ ถ้าเขาโง่ คงไม่เป็นผู้บริหารหรอกนะ คราวนี้พี่ไม่ช่วยแล้ว” พอลล่าบอกอย่างงอนๆ เพราะแววดุดันในน้ำเสียงได้จางลงไปแล้ว “พี่พอลล่า...” เสียงหวานออดอ้อน กระพริบตาปริบๆ อย่างผู้ที่สำนึกผิดอย่างเต็มเปี่ยม “เราต้องหัดคิดหาทางแก้ปัญหาเองเสียบ้าง คราวหน้าจะได้ไม่ดื้อทำอีก” พอลล่าทิ้งท้าย เร็วๆนี้แพททรีเซียต้องเจอผู้ใหญ่ที่ให้การสนับสนุน แน่นอนทีเดียวว่าพวกท่านเหล่านั้น ต้องถามถึงข่าว เอาเป็นว่าแพททรีเซียต้องกลุ้มใจต่อไป ว่าจะแก้ตัวกับผู้ใหญ่ยังไงกับภาพข่าวและกระแสด้านลบที่ออกมาแบบนี้ “นางแบบดีๆสมัยนี้ มันไม่ใช่มีแค่ความสวยแล้วจะโด่งดังโลดแล่นอยู่บนถนนสายนี้ได้นานนะ ต้องเป็นคนดีทั้งในและนอกจอด้วย มันถึงจะอยู่กันได้ยาว เข้าใจนะ” “แพททรีเซียเข้าใจแล้วค่ะ อย่าอารมณ์เสียเพราะแพททรีเซียเลยนะ ดูสิเดี๋ยวรอยย่นขึ้นไม่รู้ด้วยนะ” “มีเรื่องให้พี่ปวดหัวอยู่เรื่อย... ความดังเป็นภัยจริงๆเลย” พอลล่าเป่าปากอย่างเสียอารมณ์ “หรือจะให้แพททรีเซียกลับไปเป็นนางแบบโนเนมเหมือนเดิม เอาไหมละคะพี่พอลล่า” หญิงสาวแกล้งหยอก “ตัวแสบ! ถ้าแบบนั้นพวกเราจะเอาอะไรกินล่ะ? คิดสิจ๊ะ คิด!” ดุแล้วก็ถอนหายใจยาว “งั้นก็อย่าอารมณ์เสียสิคะ ดังมากก็เรื่องมากงี้แหละ” แพททรีเซียสรุปเอาเองอย่างอารมณ์ดี จนอีกฝ่ายอดหมั่นไส้ไม่ได้ นี่ถ้าไม่ติดว่ามือบังคับพวงมาลัยรถละก็ เป็นได้หยิกแม่สาวตัวแสบสักทีสองทีให้หายมันเขี้ยวไปแล้ว “เรอะ?” ได้แต่หันหน้ามาส่งเสียงได้แค่นั้น “น่านะ พอลล่า... ที่สำคัญอย่ารมณ์เสียก็พอ เดี๋ยวเสียสุขภาพจิตนะ” แพททรีเซียแกล้งแหย่จนพอลล่าเริ่มคลายความหงุดหงิดลง ด้วยความใจอ่อน “อืม... มันก็จริงนะ” พอลล่ารู้สึกตัวคิดได้ แล้วอารมณ์จึงเย็นลง ผ่อนระดับการขับรถในระดับความเร็วปกติ จากนั้นไม่นานทั้งคู่ก็มาถึงที่หมาย จอดรถเสร็จเรียบร้อย ไม่นานก็พาตัวเองขึ้นไปยังห้องสตู “นั่น มากันแล้ว” ทีมงานทักขึ้น ทุกคนมีสีหน้าลิงโลดดีใจ ดูจากแววตาสีหน้าอารมณ์แล้ว คงรอนางแบบคนเดียวแน่ๆ “นางแบบดังก็ดีอย่างงี้ล่ะนะ จะมาเมื่อไหร่ก็ได้... เพราะยังไงใครๆก็ต้องรอ” เสียงเล็กแหลมพูดขึ้นเหน็บแนมจนหญิงสาวต้องหันมามองสบตา “ไปว่าแพททรีเซียมันก็ไม่ถูกนะคะ รู้มาว่าเขาประสานงานพลาด ไม่มีใครแจ้งล่วงหน้า” เพื่อนนางแบบคนหนึ่งพูดเข้าข้างราวกับพยายามจะปกป้องแพททรีเซีย “ถึงอย่างนั้นก็เถอะ มาสายซะค่อนวันแบบนี้ ไม่ได้เรื่อง” นางแบบรุ่นพี่ยังไม่ปล่อยวาง ยังคงคาดโทษนางแบบสาว “ทำไงได้ล่ะคะ มาสายแค่ไหนพวกเราก็ต้องรอเธอ เธอเป็นนางแบบนิ่” นางแบบสาวรับบทตัวประกอบเล็กๆพูดสนับสนุนขึ้น น้ำเสียงราวน้อยเนื้อต่ำใจตัวเอง เพราะนางแบบบางคนมีผลงานมานานปีแต่ก็ไม่ดังยังไม่เป็นที่รู้จักสักทีอย่างเธอเป็นต้น บางคนก็ทำสายตาต่อว่าอยู่ในที คงคิดสินะว่าเป็นถึงนางแบบ มาสายได้ยังไง แต่บอกแล้วไง แพททรีเซียไม่แคร์ ไม่ใช่ความผิดของเธอสักหน่อย แล้วอย่าหวังว่าจะได้ยินคำ “ขอโทษ” จากแพททรีเซีย “มาทันพอดีแพททรีเซีย” ทีมงานคนหนึ่งทักขึ้น เมื่อเห็นนางแบบสาวมาถึง เขาก็รู้ว่าเพราะอะไรแพททรีเซียและพอลล่าถึงมาช้า ทำให้ทุกคนต้องรอ “ค่ะ ขอโทษที่มาสายนะคะ” พอลล่าออกตัวอย่างสำนึก จากนั้นการถ่ายทำรายการก็ดำเนินไป
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD