บทที่ 1 ศึกลมปาก 1

1099 Words
แสงไฟสลัวสีเหลือง สีแดงวิบวับส่องแค่พอเห็นใบหน้าของคนข้าง เคียง เหล่าบรรดานักท่องราตรีจับจองเก้าอี้บุนวม และเก้าอี้ทรงสูงที่หมุนได้รอบตัว ยกเครื่องดื่มเย็นๆ ขึ้นจิบผ่อนคลายความเหนื่อยล้าร่างกายเสียง เพลงจังหวะเร้าใจกระตุ้นให้พวกเขาโยกตัวตามอย่างสนุกสนาน ฟลอด้าน หน้าสาวสวยโคโยตี้ในชุดเสื้อเอวลอยสีดำ กางเกงยีนส์ขาสั้นแค่คืบยักย้ายส่ายสะโพก อวดเรือนร่างอรชรเรียกความสนใจจากลูกค้าหนุ่มจนต้องส่งเสียงเป่าปากอย่างพึงพอใจ เอวบางบิดส่ายพร้อมลูบไล้ร่างกาย หน้าอกทรงสะบึมที่ล้นเสื้อตัวเล็กทำให้ผู้ชายหลายคนอ้าปากค้างอยากจะคืบคลานเข้าไปสัมผัสความอวบแน่นนั้นให้เต็มมือ      “เป็นไง ไอ้ธัญญ์ บรรยากาศที่นี่พอจะไหวไหมวะ” คนชักชวนหันมาถามเพื่อนที่เอาแต่ยกแก้วเครื่องดื่มสีเข้มกระดกแล้วกลืนลงคอราวกับน้ำเปล่า         “ก็งั้นๆ มีแต่แสง สี เสียง แล้วผู้หญิง” ชายหนุ่มพูดอย่างเบื่อหน่าย         “เฮ้ย ก็ไอ้ที่พูดมาเนี่ยแหละ ที่อยากจะให้นายได้เห็น”         “ฉันไม่สนใจวะ น่าเบื่อ เหมือนๆ กันทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศ หรือผู้หญิง” ธัญญ์เน้นประโยคหลัง พร้อมหันไปมองสาวสวยที่นั่งคลอเคลียผู้ชายโต๊ะข้างๆ รูปร่างหน้าตาที่สวยงามและเรือนร่างอรชรไม่ช่วยให้เขาจะลืมความเจ็บที่อยู่ในใจ         “อย่าไปยึดติดมากเลย...คิดซะว่าไม่ใช่เนื้อคู่กัน”         “ฮึ แกก็คิดได้น่ะสิ แกไม่ใช่ฉันนี่หว่า”         “พี่คะ...สั่งเครื่องดื่มอะไรเพิ่มไหมคะ” เสียงหวานดังขึ้นทำให้ กิตติกระแอมก่อนหันไปพิจารณา หญิงสาวในชุดเสื้อสายเดี่ยวชมพูเข้มเข้ารูปกับกระโปรงสั้นจิ๋วอวดต้นขาขาว เธอยกแขนวางบนบ่าหนาพร้อมใช้นิ้วสัมผัสแก้มหยาบเบาๆ         “ว้าว...อยากสั่งอยู่เหมือนกันครับ แต่ไม่รู้...จะสั่งอะไรดี” ชายหนุ่มทำสายตากรุ่มกริ่ม มองสาวดริ๊งค์ร่างอรชร         “แหม อยากดื่มอะไรก็สั่งอย่างนั้นสิคะ ไม่เห็นยากเลย”         “งั้นถ้าผมอยากจะดื่มคุณ...สั่งได้ไหม” หญิงสาวยิ้มหวานก่อนที่เธอจะยื่นหน้าเข้าไปกระซิบบางอย่างกับคนหนุ่ม เพียงครู่เดียวกิตติก็รีบยกเบียร์ที่เหลือซดจนหมด         “เฮ้ยเพื่อน ฉันขอตัวก่อนนะ มีงานรออยู่วะ” พูดจบเขาก็เดินตามหลังสาวสวยออกไป         “ฮึ ผู้หญิงก็ทำได้แค่นี้ จับคนมีเงิน สูบจนหมดตัวก็ตัดหางปล่อยวัด” ธัญญ์ไม่สบอารมณ์ที่อยู่ๆ เพื่อนก็ตามผู้หญิงออกไปโดยทิ้งให้เขานั่งดื่มอยู่คนเดียว เขามองนวลนางที่แต่งกายด้วยเสื้อผ้าชิ้นบางอย่างเย้ยหยั่น ชายหนุ่มรีบควักเงินในกระเป๋าแล้ววางทิ้งไว้ก่อนจะลุกพรวดอย่างคนหงุดหงิด         “อุ๊ย ว๊าย” แรงที่เขาลุกชนเข้ากับร่างของใครบางคน ฟังจากเสียงที่เธอร้องน่าจะเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ชายหนุ่มหันกลับไปมองคนที่เสียหลักล้มลง สายตาคมนิ่งมองใบหน้าที่สวยหวาน ทั้งเรียวปากจิ้มลิ้มและแก้มใสเนียนทำให้คนมองอยากจะรีบเข้าไปคลอเคลีย เมื่อรู้ตัวว่าเขาจ้องมองเธอนานเกินหญิงสาวจึงเริ่มแหววใส่ด้วยความโมโห “เดินยังไงเนี่ยคุณ”         “ผมต้องถามคุณมากกว่านะ...ซุ่มซ่ามขนาดนี้ เอามาทำงานในร้านได้ยังไง” คำพูดของเขาทำให้ร่างเล็กลุกขึ้นมายืนจ้องหน้า เธอหมายจะเอาเรื่องเขาให้ถึงที่สุด เมื่อคนสาวยืนขึ้นแล้ว เขาก็ต้องพิจารณารูปร่างและการแต่งกายของเธอเสียใหม่ กระโปรงสีน้ำเงินเข้มยาวเพียงคืบกว่ากับเสื้อเกาะอกสีดำอวดเนินเนื้อขาวอิ่ม สายตาคนหนุ่มเหยียดหยามทันที         “ฮึ นึกว่าเด็กเสิร์ฟธรรมดา ที่แท้ก็ผู้หญิงชั่วคราว” “อะไรนะ นี่คุณ มันจะมากเกินไปแล้ว มีสิทธิ์อะไรมาว่าฉันอย่างนี้” “ไม่ต้องร้องขอสิทธิ์กับผู้หญิงอย่างคุณหรอกเหมือนกันหมดจริงๆ” “มันจะหยาบคายเกินไปแล้วนะคุณ”         “หยาบเหรอ คนอย่างพวกคุณหยาบกว่านี้ผมก็ให้ได้” พูดจบเขาก็มองเธอด้วยสายตาดูหมิ่นก่อนจะก้าวเดินได้เพียงสองก้าว แผ่นหลังก็ต้องเย็นวาบ เครื่องดื่มแก้วที่เขาเพิ่งจะวางถูกสาดใส่ด้วยมือของคนที่เขาดูถูก         “แก้วเดียวมันคงไม่พอจะล้างความคิดต่ำๆ ของผู้ชายอย่างคุณหรอกมั้ง คิดว่าตัวเองสูงส่งมาจากไหนถึงได้ดูถูกคนแบบนี้” สีหน้าคมเข้ม เริ่มแดงซ่าน รู้สึกชาวาบ ดวงตาดำสนิทเบิกกว้าง มือหนากำหมัดเอาแน่น ไม่คิดว่าผู้หญิงตัวเล็กจะกล้ามาท้าคารมกับเขา         “เธอมันก็ต่ำ ไร้ค่า”         “คะ คุณ” หญิงสาวหันกลับไปคว้าแก้วเบียร์โต๊ะข้างๆ แต่ความไวของเธอคงไม่เท่าแขนแข็งแรงที่คว้ารวบตัวเธอเข้ามาแนบชิด ปากหนาบดเบียดเรียวปากที่บางนุ่มอย่างแรง หญิงสาวดิ้นกุกกักมือกำแน่นทุบบนไหล่กว้าง แต่ยิ่งแรงเท่าไหร่เขาก็บดขยี้ปากเธอหนักหน่วงขึ้นเท่านั้น กลิ่นหอมอ่อนๆ ของลิปสติกทำให้เขาดื่มด่ำกลีบปากสวยอยู่นาน ร่างบางอ่อนระทวยผิดกับหัวใจที่เต้นรัวโครมครามจนน่าอับอาย เธอพยายามดันร่างหนาออกแต่ก็ไม่สำเร็จ ชายหนุ่มรู้สึกพอใจแล้วค่อยๆ ผ่อนความแรงของรสจูบนั้นลง         “อืม” พิยะตารวมรวบแรงทั้งหมดผลักร่างหนาออก ดวงตาสั่นไหวน้ำใสที่เอ่อคลอวาบวับ มือเรียวฟาดลงบนใบหน้าเข้มโทษฐานทำให้เธออ่อนระทวยจนขายหน้า         “เพี๊ยะ ไอ้คนสารเลว” หญิงสาววิ่งเข้าไปหลังร้านทันที คนหนุ่มมองตามร่างเล็กๆ ที่วิ่งหายไป เขาเองก็บอกไม่ถูกว่าเมื่อครู่เกิดอะไรขึ้น สายตาของคนในร้านจับจ้องมองเขาจนชายหนุ่มต้องรีบเดินออกไป         คนโมโหเดินปั้นปึงอ้อมไปนั่งที่โต๊ะในห้องพักสำหรับสาวๆ โคโยตี้ใช้แต่งตัวใบหน้าหวานถูกความโกรธกลืนหายไปหมดแล้ว ดวงตาแดงก่ำที่สะกดกลั้นน้ำตาแห่งความอ่อนแอไม่ให้ไหล พิยะตาถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วทุบกำปั้นเล็กลงบนโต๊ะจนเพื่อนๆ พากันสะดุ้งหันมอง         “น้องพิตต้า เป็นอะไรไปจ๊ะ...เมนหรือยังไงดูทำหน้าทำตาเข้าสิ” แหวนพี่ใหญ่ที่สุดในบรรดาคนที่นั่งอยู่ในห้องนั้นเอ่ยถาม         “...”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD