เล่ห์ร้ายดวงใจรัก ตอนที่ 1

1611 Words
เคยมั้ยที่จะเพ้อฝันถึงรักแท้ที่ไม่เคยเจอมาก่อน รักแท้ที่คิดว่ามีจริงมาตลอดแต่ก็ไม่เคยเจอ แต่เราเคยนะ เราวาดฝันมาตลอดว่าเราอยากเจอรักแท้เหมือนกับที่พ่อกับแม่เราเจอกัน ดูซิขนาดพลักพรากจากกันไปตั้งหลายปี แต่ท่านก็มาเจอกันจนได้ แต่เราว่า เราก็คงจะได้แค่ฝันเท่านั้นแหละ เพราะเราไม่เคยออกไปเจอผู้ชายที่ไหนเลย แม้แต่จะคุยกันก็ไม่เคย เวลาไปโรงเรียน พ่อก็จะไปส่ง หรือไม่ก็คนขับรถไปส่ง หรือไม่ก็จะเป็นแม่ เราไม่เคยได้ไปโรงเรียนเอง ถึงเราจะไม่ใช่ลูกคนเดียว แต่เราก็เป็นลูกสาว ที่ทั้งแม่และพ่อห่วงมาก สำหรับแม่ที่ห่วงเรานะเราเข้าใจนะ แต่สำหรับพ่อพฤก ท่านไม่ได้ห่วง แต่ท่านกำลังหวงเราอยู่ ในโรงเรียนจึงเรียกเราว่าเจ้าหญิง เป็นชื่อที่เราไม่ชอบเอามากๆเลยนะ ก๊อก ก๊อก ก๊อก  เสียงเคาะประตูดังขึ้นทำให้ฝันที่เรากำลังได้จูบกับเจ้าชายต้องดับลง โธ่เอ้ย ยังไม่ทันได้เห็นหน้าเลยอ่ะว่าหน้าตาเจ้าชายเป็นยังไง ทำไมตื่นไวจังเล่าดวงใจ   "ดวงใจ ตื่นรึยังคะ วันนี้เปิดเทอมวันแรกนะลูก ตื่นได้แล้ว"     เสียงที่เราคุ้นเคยดังเสียดเข้ามาในโสตประสาท จนเราต้องลืมตาโผลงขึ้นมา ใช่แล้ว วันนี้เราขึ้นเรียน ม. 6 อย่างเต็มตัว เรากลายเป็นพี่ ม. 6 แล้วนะ คิดแล้วก็ไวเหมือนกัน แต่ความฝันเมื่อกี้ยังไม่เลือนหายไปเลยนะ เหมือนจริงๆสุดๆ   " ค่ะ คุณแม่ ดวงใจตื่นแล้วค่ะ รอดวงใจแปบนะคะ"   เรารีบกุลีกุจอเก็บเตียงก่อนจะรีบไปอาบน้ำชำระล้างร่างกาย   จะว่าไปคงจะจำเรากันได้ใช่มั้ย เราชื่อดวงใจ จิราวิวัฒน์ หลานสาวคนแรกของตระกูล เรียกว่าเราเป็นหลานคนโปรดก็ได้นะ ทุกคนจึงคอยเออกเอาใจเราตั้งแต่เราเข้ามาอยู่ที่นี่ เราเป็นลูกสาวของพ่อพฤกกับแม่ดวงเนตร แต่ตอนนี้เราไม่ได้เป็นลูกคนเดียวแล้วนะ เรายังมีน้องชาย ฝาแฝด อีก 2 คนด้วยชื่อ เหนือเมฆ กับ เหนือตะวัน นั่นเอง แล้วก็ยังมีน้องส่วนน้องชาย อีกหลายคนเลย วันหลังจะพามาแนะนำให้รู้จักนะ แล้วพอทุกอย่างเรียบร้อย เราก็รีบลงมาที่โต๊ะอาหาร อะไรกันเนี้ยเราสายจนทุกคนนั่งรอกันหมดแล้วเหรอ  "ขอโทษค่ะพ่อพฤก คุณแม่ พอดีดวงใจ คุยกับเพื่อนดึกไปหน่อยค่ะ เลยตื่นสาย"   เรารีบยกมือไหว้ ขอโทษพ่อพฤกกับคุณแม่ที่รอเราอยู่นานเลยทีเดียว เพราะนี่มันเลยเวลาทานข้าวไปนานพอสมควร แต่คุณแม่กลับยิ้มให้เราเบาๆ ส่วนพ่อพฤกนะเหรอ รายนั้นเล่นใหญ่มากเลยหละ   "พ่อรอจนท้องร้องละนะ หิวจะตายละเนี้ย"   " คุณพฤก เดี๋ยวลูกก็คิดจริงจัง มาดวงใจ มานั่งได้แล้ว"    "ค่ะ"   "โห เนตร พี่ก็จะหยอกลูกนิดหน่อยเอง เนตรอ่ะ แผนพี่แตกหมด"   พ่อพฤกทำเป็นงอนคุณแม่ เห็นละก็อดที่จะขำไม่ได้เลยนะ ทุกวันจะเป็นแบบนี้ตลอดเลย ถามว่าเรามีความสุขมั้ยเราก็ตอบได้อย่างเต็มปากเลยนะว่าเรามีความสุขมาก แต่มันก็เหมือนกับว่าเราขาดอะไรไปอย่างนึงที่รอการมาเติมเต็ม เราก็ไม่รู้นะว่ามันคืออะไร แต่มันรู้สึกเหวงๆอย่างบอกไม่ถูกทั้งๆที่เรามีทุกอย่างครบหมดแบบนี้ คิดแล้วก็เหนื่อยใจจัง  อ้อ!!! ลืมบอกไปเลยว่าตอนนี้ที่บ้านเรามีกัน แค่ 5 คนนะ ทีแรกพวกเราก็อยู่ที่บ้านใหญ่กับคุณปู่นั่นแหละ แต่พอเจ้าแฝดเริ่มโตพ่อพฤกจึงขอคุณปู่แยกตัวออกมา ตอนแรกคุณปู่โมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยงเลย เพราะไม่อยากให้หลานไปไกลหูไกลตาท่าน แต่พ่อพฤกให้เหตุผลว่า เด็กๆโตขึ้นทุกวัน และแถวนี้ก็ใกล้โรงเรียนของพวกเราด้วย “วันนี้ เดี๋ยวพ่อไปส่งนะ ทั้ง 3 คนเลย เพราะแม่ติดธุระ คนขับรถก็ลาป่วย ส่วนตอนเย็น เดี๋ยวพ่อจะไปรับ แล้วไปบ้านคุณปู่พร้อมกัน"   "  ตอนเย็นผมไม่ว่าง"เหนือตะวันร้องขัดพ่อทันทีเอาอีกแล้ว ขัดพ่ออีกแล้วนะ คนเนี้ยจะเป็นแบบนี้ตลอด พูดอะไรตรงๆ และดื้อสุดๆ ชอบขัดพ่อนี่ที่ 1 เลยแล้วก็มักจะโดนไม้จากมือพ่อพฤกตลอดด้วยเช่นกัน    “ตะวัน ฉันขอเหตุผล ทำไมแกไปไม่ได้ติดธุระอะไรไหนบอกฉันมาซิ”   “ผม จะไปทำงานครับ”   “ทำงาน งานบ้าบออะไรของแกหะ!!ตะวัน ที่บ้านนี่เงินจะทับแกตายแล้วนะ จะไปทำงานทำไม แล้วเนี้ย อายุแค่ 12 มันจะทำงานอะไรได้”   “เด็กเสิร์ฟร้านอาหารครับ”   คำตอบของตะวันทำเอาพ่อพฤกอึ้งไปเลย แต่เรารู้นะว่าพ่อพฤกโมโหมาก เพราะมือพ่อสั่นไปหมด แล้วเราก็มั่นใจว่าตะวันต้องโดนตีแน่นอน   “ตะวัน!!!!!” พ่อพฤกตะคอกตะวันด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วขว้างจานข้าวใส่ตะวันทันที เราจึงรีบแตะตะวันเพื่อบอกให้พอได้แล้ว เราไม่อยากเห็นตะวันโดนพ่อตีอีก แต่ตะวันก็หันมามองเรานะ แต่ไม่พูดอะไรได้แต่มองอย่างเดียว   “พอได้แล้ว ตะวัน วันนี้ลางานไปก่อนเพราะคุณปู่รอทานข้าวพร้อมกัน พรุ่งนี้ค่อยไปทำนะ” คุณแม่พูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ แต่นั่นก็ทำให้ตะวันกับพ่อเงียบลงได้ ไม่เกิดศึกกลางโต๊ะอาหารถึงแม่ข้าวจะกระจายไปบ้างก็ตามนะ   "เนตร"   "พอค่ะคุณพฤก ตะวันจะไปทำงานก็ตามใจ ถ้าลูกมั่นใจว่าทำได้"พ่อพฤกถอนหายใจออกมาอย่างไม่พอใจสุดๆ แต่ก็ขัดคุณแม่ไม่ได้ ท่านจึงหันไปหาเหนือเมฆแทน   “แล้วแกละ เมฆ แกว่างมั้ย ติดงานอีกคนรึเปล่า” พ่อพฤกหันไปถามเหนือเมฆด้วยน้ำเสียงที่ประชดประชัน    " ผมว่างครับ เดี๋ยวผมไปแทนตะวันเองก็ได้นะถ้าตะวันไม่ว่าง" เหนือเมฆ เด็กน้อยยิ้มเก่ง ซึ่งต่างจากเหนือตะวันที่เราไม่ค่อยเห็นรอยยิ้มเท่าไหร่ ยิ้มกว้างบอกกับพ่อ   “เอาตามที่แม่บอก ไปด้วยกัน เข้าใจมั้ยตะวัน”   “ครับแม่”   " แล้วดวงใจละ ว่างใช่มั้ยลูก" พ่อหันมาถามเราบ้าง แต่น้ำเสียงต่างที่ถามเจ้าแฝดเยอะเลย ซึ่งเราก็ไม่ค่อยชอบที่พ่อพฤก 2 มาตฐานแบบนี้เลยนะ   "ว่างค่ะพ่อพฤก"   เราพยักหน้าให้พ่อพฤก ซึ่งมันดูสร้างความพอใจให้พ่อพฤกมาๆ ก่อนที่ทุกคนจะกินข้าวเช้ากัน เฮ้อ กว่าจะผ่านไปได้แต่ละวัน ตะวันกับพ่อพฤกต้องรบกันตลอดซิน่า เหนื่อยใจจัง ส่วนวันนี้ที่เป็นวันเปิดเทอมวันแรกทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี ทุกคนดูดีใจกันมากที่ได้มาเจอกันอีกครั้งหลังจากที่ปิดเทอมไปซะนานเลย  เราที่เป็นเหมือนเจ้าหญิงของโรงเรียนก็ถูกน้องๆเข้ามาพูดคุยด้วยราวกับเป็นคนดังอย่างงั้นแหละ  และถ้าถามว่าในโรงเรียนไม่มีใครไม่รู้จักเราบ้างบอกเลยว่าไม่มี และแน่นอนว่ามันไม่ใช่เพราะเรานะ  แต่มันเป็นเพราะ ชื่อเสียงพ่อพฤกที่เป็นผู้สนับสนุนทุนให้โรงเรียนมาทุกปีต่างหาก ปี 1 ไม่ต่ำกว่า  10 ล้านเพื่อเพื่อสนับสนุนโรงเรียน เราจึงกลายเป็นนักเรียนที่บรรดาคุณครูเกรงใจ ไม่เคยพูดไม่ดีด้วยเลย  แต่เราว่าเราอึดอัดมากกว่า เราอยากเป็นนักเรียนปกติที่โดนดุบ้าง โดนตีบ้าง ไม่ใช่อะไรก็ไหลตามน้ำแบบนี้   “เจ้าหญิงดวงใจครับ”กัปตัน เพื่อนชายห้องเดียวกับเราร้องเรียก เราจึงหันไปมองด้วยสายตาที่ไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก   “บอกกี่ครั้งแล้วไงกัปตันว่าไม่ให้เรียกดวงใจแบบนี้”   เราดุกัปตันไปชุดใหญ่เลย เพราะเราไม่ชอบให้ใครมาเรียกแบบนี้จริงๆนะ   “อะๆ ไม่เรียกเจ้าหญิงก็ได้ แต่เราเรียกดวงใจว่าที่รักได้ปะ”   “กัปตัน พูดอะไรอ่ะ”   “เราล้อเล่น อย่าคิดมากเลยนะ แค่ล่อเล่นจริงๆ”   "จ้ะ ล้อเล่นก็ล้อเล่น แต่คราวหน้าอย่าพูดแบบนี้อีกนะ ดวงใจว่ามันไม่ดีเลย”   “โอเครไม่พูดแล้วไม่พูดแล้ว”กัปตันโคล้งหัวให้เราราวกับว่าจะทำความเคารพเราอย่างงั้นแหละ เห็นแล้วเรารู้สึกเบื่อจริงๆ   “ว่าแต่กัปตันมีอะไรกับเรารึเปล่า"   "ก็ไม่มีอะไรหรอก แค่จะถามว่าดวงใจกำลังจะไปกินข้าวใช่มั้ย"   "จ้ะ ใช่"   "งั้นเราไปด้วยซิ"   "ไปกินข้าวนะเหรอ อืมก็ได้"   เราส่งยิ้มให้กัปตันอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก จะว่าไป กัปตันเริ่มมาตีสนิทเราตั้งแต่ม 5 เทอม 2 แล้วนะ ซึ่งเราก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะเราก็เป็นเพื่อนห้องเดียวกันอยู่แล้ว แต่ น้ำตาล เพื่อนสนิทเราบอกว่าไม่ให้ไว้ใจกัปตันมาก เพราะเขาอาจจะคิดไม่ดีกับเราอยู่ก็ได้ เราว่าน้ำตาลคิดมากเกินไปมากกว่า
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD