ชีวิตของผู้หญิงที่ชื่อว่า อ้อมรัก ไม่เคยง่ายอีกเลยตั้งแต่แต่งงานเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายกับแฟนหนุ่มที่คบหากันมานานถึงสามปีอย่าง ธา ธานินทร์ และถึงแม้ว่าเธอกับธานินทร์จะคบหากันมานานขนาดนั้นจวบจนแต่งงานกันก็ไม่เคยมีเลยสักครั้งที่ธานินทร์จะประกาศให้คนภายนอกรับรู้เรื่องความสัมพันธ์ของเขากับเธอ
รักของอ้อมรักกับธานินทร์เป็นความลับมาตลอดตั้งแต่เริ่มคบจนบัดนี้ที่แต่งงานและใช้ชีวิตด้วยกัน ธานินทร์ให้เหตุผลว่าไม่อยากให้ใครล่วงรู้เรื่องความสัมพันธ์เพราะไม่อยากให้อ้อมรักตกเป็นเป้าสายตาของใครหรือแม้กระทั่งไม่อยากให้อ้อมรักตกเป็นขี้ปากของชาวบ้านเนื่องจากธานินทร์เป็นคนรวยมั่งคั่งในขณะที่อ้อมรักเป็นเพียงผู้หญิงธรรมดาธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น เป็นเพียงผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่มีอะไรเทียบเท่าและเหมาะสมกับผู้ชายที่เป็นดั่งเทพบุตรอย่างธานินทร์เลยสักนิด
ระยะเวลาที่ผ่านมาถึงแม้ว่าความรักของทั้งคู่จะเป็นเพียงรักลับ ๆ แต่ก็ไม่เคยมีเลยสักครั้งที่ความรักของทั้งคู่จะมีปัญหาธานินทร์ไม่เคยนอกใจหรือนอกกายไม่เคยคิดมองใครนอกจากอ้อมรัก ไม่เคยเลยสักครั้งที่ธานินทร์จะทำอ้อมรักเสียใจไม่ว่าเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ จวบจนเวลาค่อย ๆ ผ่านพ้นไปจนกระทั่งทั้งคู่แต่งงานกันงานแต่งงานที่มีแค่คนในครอบครัวรับรู้เพียงเท่านั้นและวันนั้นทั้งคู่ก็ได้จดทะเบียนสมรสเป็นภรรยาและสามีที่ถูกต้องตามกฎหมายกันอย่างสมบูรณ์แบบ
อ้อมรักคิดมาเสมอว่าการได้แต่งงานกับผู้ชายที่รักนั่นคือบทสรุปของชีวิตคู่แต่ทว่าความเป็นจริงที่เธอพบเจอไม่ใช่เลยสักนิด ไอ้สิ่งที่เธอคิดว่ามันคือบทสรุปสุดท้ายของชีวิตคู่กลับเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์
เพราะหลังจากแต่งงานกันได้ไม่นานผู้ชายที่ไม่เคยทำเธอเสียใจก็เริ่มออกลาย เขี้ยวเล็บที่เคยซ่อนไว้กลับโผล่ขึ้นมาจนอ้อมรักตั้งรับแทบไม่ทำ
ไม่ว่าจะนอกใจหรือนอกกาย
ธานินทร์ทำหมด
บ้านไม่กลับกกอยู่โรงแรมกับผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า เช้ากลับบ้านมาพร้อมรอยแดงที่ลำคอ
เมื่ออ้อมรักถามว่าไปไหนมาธานินทร์ก็เอาแต่บอกว่าทำงานและนอนค้างอยู่บริษัท รอยที่คอเป็นรอยยุงกัดไม่ใช่รอยดูดแบบที่อ้อมรักเข้าใจ
ธานินทร์ยังคงยืนยันเสียงแข็งว่าเขาไม่ได้มีใครไม่ได้นอกใจหรือนอกกายเธอ ยังคงซื่อสัตย์กับอ้อมรักเสมอและยังให้คำมั่นสัญญากับอ้อมรักอีกว่าชาตินี้เขาจะไม่มีทางทำให้เธอเสียใจ
หาคำพูดมาหว่านล้อมหญิงสาวสารพัดทั้งที่ความเป็นจริงธานินทร์แทงข้างหลังอ้อมรักจนพรุน
และที่หนักไปกว่านั้นก็คือธานินทร์ประกาศแต่งงานกับผู้หญิงอีกคนให้คนทั้งประเทศรับรู้ ข่าวแต่งงานของทั้งคู่ดังสะพัดไปทุกช่องทางไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ก ไอจี สื่อทีวีต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งหน้าหนังสือพิมพ์
อ้อมรักที่กำลังฟังข่าวจากหน้าจอทีวีเรื่องที่สามีจะแต่งงานกับผู้หญิงอีกคน ใจดวงน้อยของอ้อมรักเหมือนจะแตกออกจากกันเป็นเสี่ยง ๆ มองภาพชายหญิงที่กอดโชว์สื่อทั้งน้ำตา
"ทำไม" เสียงพึมพำแผ่วเบาพร้อมกับเสียงสะอื้นไห้ปานจะขาดใจของหญิงสาวดังระห่มทั่วทั้งห้องนอน
ทำไมธานินทร์ถึงทำกับเธอได้ลงคอร่วมถึงผู้หญิงคนนั้นด้วย.......
ชีวิตรักที่เคยดีมาตลอดกลับเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันเพราะหลังจากแต่งงานเพียงสามเดือนเท่านั้นสามีที่รักของฉันก็เริ่มออกลาย
เที่ยวผับ
เที่ยวบาร์ฉันยังพอเข้าใจได้
แต่เที่ยวสาวมันสมควรเหรอที่คนมีภรรยาแล้วอย่างธานินทร์จะไป
เขาเปลี่ยนไปราวกับคนละคนจนฉันใจหาย ราวกับว่าไม่ใช่ธานินทร์ที่ฉันรู้จัก ราวกับว่าเขาไม่ใช่ธานินทร์คนรักของฉัน
และเหตุผลที่เขาเปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้เพราะอะไรกันฉันก็ไม่อาจรู้เลย
รู้ตัวอีกทีก็คือเรื่องของฉันกับธานินทร์ไม่เหมือนอีกต่อไปแล้ว
ย้อนกลับไปสามเดือนก่อนหน้า
เช้าตรู่ที่ฉันรีบลุกออกจากที่นอนรีบเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัวเพื่อเตรียมตัวลงมาทำอาหารให้ทันมื้อเช้าให้ธานินทร์ได้ทานก่อนไปทำงาน
กิจวัตรประจำของฉันไม่มีอะไรมากเลยค่ะแค่อยู่บ้าน เป็นแม่บ้าน แม่เรือน นั่ง ๆ นอน ๆ รอสามีกลับบ้านมาหาเท่านั้น ฉันไม่ได้ทำงานอะไรเพราะธานินทร์สามีของฉันไม่ยอมให้ทำเขาให้เหตุผลว่าไม่อยากให้ฉันลำบากเขามีปัญญาเลี้ยงฉันให้สบายไปทั้งชาติขอเพียงแค่ฉันเป็นภรรยาที่ดีให้เขาเท่านั้นก็พอ
มื้อเช้าง่าย ๆ ถูกนำมาวางลงบนโต๊ะอาหารเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ธานินทร์เดินลงบันไดมา
ฟอด
ธานินทร์เดินมาโอบเอวฉันก่อนจะกดริมฝีปากหอมแก้มฉันฟอดใหญ่
"morning kiss ครับที่รัก" พูดพร้อมฉีกยิ้มกว้าง
"morning เช่นกันค่ะคุณสามี" ฉันเองก็ยิ้มตอบเขาด้วยใบหน้าที่เปื้อนเต็มไปด้วยรอยยิ้มไม่แพ้กัน "ตั้งใจทำงานนะคะ" ถัดจากมื้อเช้าจบฉันก็มายืนส่งธานินทร์ไปทำงานที่หน้าบ้านกอดกันอยู่นานก่อนที่ร่างสูงจะผละตัวออกจากตัวฉัน
"เจอกันตอนเย็นนะครับ"
"ค่ะ" ฉันโบกมือบ๊ายบายธานินทร์ที่เดินออกไปพลางยืนมองรถเขาที่แล่นออกจากบ้านไปจนลับสายตาก่อนจะหมุนตัวเดินกลับบ้านในเวลาต่อมาเพื่อล้างจานชามที่ฉันทำอาหารทิ้งไว้เมื่อกี้
ที่บ้านหลังนี้ก็มีแม่บ้านนะคะแต่ส่วนใหญ่งานในบ้านฉันมักจะเป็นคนทำเองมากกว่าเพราะฉันไม่อยากอยู่เฉย ๆ ให้ใครมาว่าอะไรที่พอทำได้ฉันก็ทำเองหมด
"ธากลับบ้านหรือยัง" ฉันเอ่ยถามแม่บ้านที่เดินสวนกับฉันพอดีพลางเหลือบสายตามองนาฬิกาที่แขวนอยู่กับฝ่าผนัง
"ยังค่ะคุณรัก"
"ป่านนี้แล้วทำไมยังไม่กลับ โทรไปก็ไม่รับชักจะยังไงแล้วนะ" ฉันพูดด้วยความไม่พอใจเนื่องจากตอนนี้เป็นเวลาสามทุ่มแต่สามีของฉันยังไม่ถึงบ้านทั้งที่เวลาเลิกงานคือห้าโมงเย็นช้าสุดก็ไม่เกินหนึ่งทุ่มและเขามักจะโทรมารายงานฉันเสมอซึ่งวันนี้มันผิดวิสัยของธานินทร์ไปมากสามทุ่มแล้วบ้านยังไม่กลับโทรศัพท์ติดต่อไม่มา "มีอะไรก็ไปทำเถอะ" ฉันโบกมือไล่แม่บ้านก่อนจะเดินมายืนรอธานินทร์ที่หน้าบ้านอย่างร้อนใจกลัวว่าใครอีกคนจะเป็นอะไร รู้จักเพื่อนของธานินทร์นะแต่ไม่มีช่องทางติดต่อของเขาสักทาง จะให้ฉันออกไปตามก็ไม่ได้ในเมื่อสิทธิ์ของฉันคือคนในที่ลับเท่านั้น
และฉันเองก็โคตรจะเกลียดความสัมพันธ์ที่บอกใครไม่ได้แบบนี้มากเลย