EP.1_เสือปะทะสิงห์
สายลมกระโชกแรงพัดเอาต้นสนลู่เอนเหมือนจะโค่น เศษใบไม้ทั้งสดและแห้งฟุ้งกระจายไร้ทิศทาง อากาศเย็นจัดบวกกับความเค็มที่ถูกพัดพาขึ้นมาจากทะเลส่งให้เกิดละอองฝนเล็กๆเป็นดั่งม่านหมอกสีเทาปกคลุมไปทั่วหุบเขา
ท้องฟ้าสีดำทะมึนเหนือทะเลส่งเสียงร้องเปรี้ยงปร้างราวกับเหล่าเทวดากำลังสนุกสนานกับการกลั่นแกล้งมนุษย์..
...หวืดดด...
หน้ามรสุมของผืนดินที่มีสายแร่ทองคำเหลืองอร่ามมูลค่ามหาศาลซุกซ่อนอยู่กำลังจะใกล้เข้ามา..
เรื่องราวความขัดแย้งได้เริ่มอุบัติขึ้นอีกครั้งเฉกเช่นทุกๆปี
รั้วหนามขนาดใหญ่ถูกขึงเป็นแนวยาวตลอดทิวเขาไปจนสุดลูกหูลูกตา รั้วเป็นเพียงสิ่งเดียวที่ใช้แบ่งแยกอาณาจักรของเหมืองทองสิงหราชกับเหมืองทองพิภพ..
กลุ่มชายฉกรรจ์บนหลังม้ามีจำนวนนับร้อยแบ่งข้างออกเป็นสองฝักสองฝ่ายโดยมีแนวรั้วขวางกั้นตรงกลางราวกับเป็นเน็ตเทนนิส
บรรยากาศเต็มไปด้วยความเคร่งเครียดอึมครึมชวนขนลุกไม่ต่างจากท้องฟ้าที่เริ่มส่งเสียงคำรามเป็นระลอก
...ครืนนนน...
ใบหน้าของชายฉกรรจ์ที่ต่างฝ่ายต่างจ้องจะเข่นฆ่ากันให้แตกหักย่อยยับตายกันไปข้าง.. ขอเพียงแค่นายเหมืองสั่ง ทุกคนก็พร้อมจะพลีชีพเพื่อแหล่งพักพิงอันอุดมสมบูรณ์ของครอบครัว..
...เปรี้ยงง!...
สายฟ้าฟาดลงมากลางหุบเขา นั่นเป็นสัญญาณบอกกลายๆว่าพายุลูกใหญ่กำลังคืบคลานเข้ามาใกล้ทุกที สายลมเริ่มทวีความรุนแรงขึ้นอีกเท่าตัว แต่ใช่ว่าจะมีใครสนใจ.. ต่างฝ่ายต่างคุมเชิงกันและกันอย่างเหนียวแน่นอยู่บนหลังม้าทั้งๆที่พายุกำลังจะพัดผ่านกลางวง และจะหอบหิ้ว กวาดล้าง กอบโกยเอาทุกอย่างที่ขวางหน้าลงทะเลไปด้วย.. เหมือนเช่นรุ่นพ่อในอดีตที่ผ่านมา เคยโดนหอบลงทะเลไปแล้วนับสิบคน
"พวกผู้ชายตัวโตมีกล้ามเป็นมัดๆ มักจะมีสมองเล็กเท่าเม็ดถั่ว ศักดิ์ศรีกินไม่ได้แต่มันทำให้อิ่มเป็นวันๆ"
แก้มใส ลูกสาวเสือใหญ่เคยกล่าวเอาไว้เมื่อปีที่แล้ว
..บรื๊นนนน..
เสียงรถจิ๊บเคลื่อนตัวฝ่าแนวชายชุดดำบนหลังม้าเข้ามาช้าๆราวกับไม่รู้สึกถึงลมที่กำลังโหมเข้าใส่จนรถโยกไหว...
ร่างกำยำสูงใหญ่ตระหง่านเหมือนภูเขาหินลูกย่อมๆก้าวลงมาจากรถจิ๊บด้วยท่าทีองอาจ มัดกล้ามขยับไหวอย่างสวยงามราวกับนักเพาะกายรุ่นใหญ่..
พิภพ ตฤณโชติสกุล (ฉายา_เสือใหญ่)
อดีตพระเอกดาวร้ายชื่อดัง : คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว
"นายพิภพพวกมันไม่ยอม!"
หนึ่งในกลุ่มคนงานบนหลังม้าพูดสียงดังฟังชัด.. จงใจให้อีกฝ่ายหลังแนวรั้วหนามได้ยิน
"มึงพูดหมาๆแบบนี้ได้งัยวะ! เหมืองพิภพของมึงนั่นแหละที่ไม่ยอมเปิดทางไปสะพานเรือน้ำลึก"
ฝ่ายตรงข้ามไม่คิดจะนิ่งเฉย เสียงห้วนกระด้างตะโกนสวนกลับทันควัน
"พวกมึงนั่นแหละ! ต้องเปิดฝายกั้นน้ำก่อน"
ชายคนเดิมบนหลังม้าโต้กลับ..
กะอีแค่ใครเปิดก่อน เปิดหลังมันมีผลต่อศักดิ์ศรีจนยอมกันไม่เคยได้..
ตั้งแต่อดีตกาลนานโพ้น..
เหมืองทองของสิงหราชได้เปรียบที่มีอาณาบริเวณครอบคลุมต้นน้ำทางธรรมชาติทั้งหมด
น้ำตกขนาดใหญ่เริ่มต้นที่เหมืองของนายสิงห์ และไหลลดคดเคี้ยวลงมาจากหุบเขากลายเป็นลำธารสายย่อยไหลผ่านเหมืองของพิภพออกสู่ทะเล..
ส่วนเหมืองพิภพได้เปรียบที่มีอาณาบริเวณติดกับทะเลน้ำลึก ผูกขาดการขนส่งทางเรือทั้งหมด..
ทะเลด้านที่เป็นของเหมืองสิงหราชจะเป็นหาดทรายและแนวหิน บวกกับแนวประการังเป็นส่วนใหญ่ทอดยาวหลายสิบกิโลเมตร..
ปัญหาความขัดแย้งบาดหมางจึงอุบัติขึ้น ตั้งแต่สมัยปู่ย่าตายาย ส่งกันมาเป็นทอดๆ จนถึงรุ่นปัจจุบัน..
--------------------------------- ¥¥♡¥¥ ---------------------------------
"นายสิงห์เราบุกไปพังคันกั้นสะพานเรือน้ำลึกของพวกมันเลยดีกว่า!"
หนึ่งในชายบนหลังม้าตะโกนแข่งกับสายฝนที่เริ่มโปรยปรายลงมา..
ชายหนุ่มรูปร่างกำยำสูงใหญ่พอๆกับพิภพก้าวลงมาจากรถออฟโรดขับเคลื่อนสี่ล้อ.. ผมดกหนาสีดำสนิทไม่ต่างจากดวงตาลึกลับเหมือนคืนเดือนมืดที่ใครหลายๆคนนึกขยาดไม่กล้าแม้แต่จะสบตา.. ใบหน้าหล่อเหลาสมชายชาตรี จมูกโด่งเป็นสันรับกับริมฝีปากบางเฉียบที่บ่งบอกถึงอำนาจ และความเด็ดขาด..
สิงหราช อนันธฤทธิ์ (สิงห์) (ฉายา_เขี้ยวสิงห์)
เจ้าของเหมืองทองสิงหราช : เจ้าชู้ หื่น ดิบ เถื่อน
"เสือใหญ่เราบุกเข้าไปโจมตีฝายกั้นน้ำของพวกมันให้พังพินาศไปเลย!”
"พวกมึงจะเอายังงัย!?"
เสียงตะโกนเซ็งแซ่ยั่วยุกันไปมา แข่งกับเสียงของลมพายุและสายฝนที่เริ่มโปรยปรายลงมาไม่ขาดสาย..
"ตายกันไปข้างซิโว้ย! รออะไร!"
"เอาเลยกูก็เบื่อพวกดีแต่เห่าเต็มทน!"
"แน่จริงมึงเข้ามาซิ!"
“กูอยากซัดปากหมาๆของมึงฉิบหาย!”
ในขณะที่พวกผู้ชายใหญ่แต่ตัว แต่มีสมองเล็กจิ๊ดเดียว ถนัดแต่ใช้กำลัง ทำเสียงฮึ่มฮั่มขู่จะฆ่ากันตายเสียให้ได้.. ต่างฝ่ายต่างก็ท้ากันไปมา แต่ยังไม่กระโจนเข้าหากันสักที ด้วยเพราะมีอุปสรรคใหญ่เป็นรั้วลวดหนามขวางกั้น..
โชคดีหน่อยที่มีกฎเหล็กอีกข้อ สมัยรุ่นคุณทวดได้ตั้งกฎขึ้นมาพร้อมกับมีการลงนามเห็นชอบด้วยกันทั้งสองฝ่าย.. คงเป็นเพราะลางสังหรณ์ของคนรุ่นเก่าที่รู้ว่าความบาดหมางจะยืดเยื้อกินระยะเวลายาวนานจนชั่วลูกชั่วหลาน..
ถ้าจะพูดให้ง่ายๆตรงๆไม่ต้องตีความมาก คนรุ่นปู่ย่าคงกลัวลูกหลานจะเข่นฆ่ากันจนตายห่าหมดนั่นเอง
สัญญาที่เป็นดั่งคำสาบานของทั้งสองฝ่ายจึงบังเกิดขึ้น..
"ห้ามใช้อาวุธทุกชนิด ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งละเมิดคำสัญญานี้จะถูกนำตัวส่งฝ่ายตรงข้าม และยินยอมให้ฝ่ายตรงข้ามลงโทษอย่างสาสม"
คำว่า.. "ลงโทษอย่างสาสม" ยังเป็นปริศนามาถึงทุกวันนี้ เพราะไม่มีใครกล้าพอที่จะลอง..
--------------------------------- ¥¥♡¥¥ ---------------------------------