บทที่ 1 ไม่ได้ยากอะไร
เช้าวันแรกของการเปิดเทอมนักศึกษาต่างทยอยเข้ามาหาลัยอย่างไม่ขาดสาย ทั้งนักศึกษาเก่าและนักศึกษาปี1 ที่เพิ่งเข้ามาใหม่ เทอมใหม่ได้เริ่มต้นขึ้น
“ไอ้ธีร์ๆทางนี้ๆ” เสียงชายหนุ่มตะโกนเรียก ธีร์มองไปตามเสียงนั้นเป็น เบลล์ เพื่อนสนิทของเขานั้นเรียก เบลล์เป็นเพื่อนเก่าที่เรียนมัธยมมาด้วยกัน ธีร์เดินไปตามเสียงเรียกก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้ว่างฝั่งตรงข้าม
“กูบอกให้มาเช้าๆไง” เบลล์กล่าวด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ธีร์ก้มมองดูนาฬิกาตัวเองก่อนจะกล่าวตอบ
“แปดโมงเนี่ยไม่เช้าหรือไงวะได้ข่าวคลาสแรกเก้าโมง”
“โธ่เพื่อน วันนี้วันแรกเราก็ต้องมีคอยสแตนบายน้องๆที่ไปห้องเรียนไม่ถูกยังไงล่ะ” เบลล์กล่าวหน้าระรื่น
“ชีวิตมึงนี่ดูว่างเนอะ”
“ขึ้นปี3แล้ว ทำตัวเป็นรุ่นพี่ที่ดีไงล่ะ แล้วนี่ไอ้ฟิวส์ไม่ได้มาเหรอ” เบลล์ทำท่ามองหา
“เดี๋ยวมันตามมา มึงจะไปสนใจมันทำไม มันไม่ได้เรียนคณะเดียวกับเราสักหน่อย เห็นมันบอกว่าจะมาตกเด็กคณะเราอยู่”
“แค่มันเอ่ยปาก คนอื่นก็พร้อมจะเดินตามเป็นขบวนแล้วมั้ง มึงทน…”
“ช่างเถอะ ว่าแต่ไอ้เนสอ่ะยังไม่มาเหรอ” ธีร์กล่าวเปลี่ยนเรื่อง
“แดกข้าวอยู่โรงอาหารโทรตามกูยิกๆไม่รู้แม่งชาติที่แล้วเป็นไก่หรือเปล่าจิกชิบหาย” เบลล์กล่าวด้วยน้ำเสียเบื่อหน่าย
“ไปหามันเถอะ”
หลังจากนั้นทั้งคู่ก็เดินไปหาเพื่อนอีกคนที่รออยู่ที่โรงอาหาร ถึงแม้จะเป็นเพื่อนสนิทกันแต่ฟิวส์และธีร์นั้นเลือกเรียนที่แตกต่าง ฟิวส์เลือกที่จะเรียนบริหารเพราะไม่ชอบอะไรที่มันใช้แรง ส่วนธีร์เลือกที่จะเรียนวิศวะเพราะชอบลงมือปฏิบัติ
“โห่ มึงสองตัวช้าชิบหายนี่กูกินข้าวหมดไปสองจานแล้วเนี่ย” เนสที่นั่งรออยู่กล่าวทักสองคนที่เพิ่งเดินมาถึง
“กูรอไอ้ธีร์ ไอ้ธีร์เพิ่งมา แล้วมีแจ่มๆบ้างไหมวะ” เบลล์กล่าวถามเนสด้วยแววตาเป็นประกาย
“เยอะแยะละลานตาไปหมด” เนสตอบอย่างภาคภูมิใจ
ทางด้านฟิวส์ที่เพิ่งขับรถมาถึงมหาลัย ความจริงแล้วพ่อของเขานั้นให้รถยนต์เอามาใช้คนละคันแต่ธีร์นั้นบอกว่ามันเปลืองพลังงานขอใช้แค่คันเดียวและด้วยความที่ทั้งสองคนเรียนกันคนล่ะคณะจึงทำให้มาไม่พร้อมกันและธีร์เสียสละขึ้นแท็กซี่เสมอคนใช้เลยส่วนมากเลยเป็นฟิวส์
“ไงมึงมาแต่เช้ามาส่องเด็กสินะ” เสียงทุ่มต่ำกล่าวทักฟิวส์
“มึงอ่ะมาทำไมแต่เช้า” ฟิวส์ถามกลับ
“กูเพื่อนเพื่อนมึงก็ต้องมีจุดประสงค์เดียวกันอยู่แล้ว” เตอร์กล่าวพลางหัวเราะเบาๆในลำคอ เตอร์คือเพื่อนของฟิวส์
“คณะวิดวะไหม” ฟิวส์กล่าวขึ้นพลางทำท่าทางชี้ไปทางหนึ่ง
“มึงแดกจะหมดคณะแล้วมั้ง” เตอร์กล่าวด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย
“เออเทอมใหม่มันต้องมีคนใหม่ๆบ้างนั้นแหละน่า”
“เออไปก็ไป”
ทั้งคู่เดินมาถึงที่คณะวิศวะก่อนจะหามุมหนึ่งนั่ง มองคนเดินผ่านไปมา ฟิวส์เคยเป็นถึงเดือนมหาลัยมักมีคนรู้จักเยอะเป็นธรรมดาและด้วยหน้าตาที่หวานมักมีคนเข้าหาไม่ขาดสายแต่ก็ไม่เคยคิดจะจริงจังกับใครถึงแม้ฟิวส์จะชอบผู้ชาย แต่เขาก็ไม่เกี่ยงที่จะนอนกับผู้หญิงเพราะถ้าแค่ Sex ฟิวส์ไม่ได้สนใจอยู่แล้วแต่ฟิวส์มากจะเลือกมากถ้าเป็นผู้หญิง เพราฉะนั้นผู้หญิงที่เขานอนด้วยมักมีไม่กี่คน
“กูว่าพวกเราไปนั่งกับพวกไอ้ธีร์ไหม” เตอร์กล่าว
“ไอ้ธีร์มันมีเรียน”
“มีเรียนอะไร นั่งอยู่นั่นน่ะ” เตอร์กล่าวพลางชี้ไปทางที่ธีร์นั้นนั่งอยู่ พอฟิวส์เห็นธีร์ที่นั่งอยู่กับกลุ่มเพื่อนก็ไม่รอช้าเดินเข้าไปหาทันที
“อ้าวไอ้ฟิวส์ ไอ้เตอร์” เบลล์กล่าวทัก ทั้งหมดรู้จักกัน ฟิวส์เดินไปข้างๆธีร์ก่อนจะกล่าว
“ไอ้ธีร์มึงขยับไปดิ” กล่าวพลางเอาตัวดันธีร์ให้ขยับไป ธีร์เองก็ขยับตามที่ฟิวส์บอก ฟิวส์จึงนั่งลงข้างๆธีร์
“ที่นั่งเยอะแยะจะต้องมาเบียดกู” ธีร์กล่าวและถอนหายใจเบาๆ
“แล้วไหนว่ามีเรียนเช้า” ฟิวส์กล่าวถามธีร์
“อาจารย์ยกคลาส ยกคลาสตั้งแต่วันแรก เซ็งชิบหาย” ธีร์กล่าวอย่างเบื่อหน่าย
“นี่มึงสองคนถ้าไม่บอกว่าไอ้ฟิวส์เป็นรุกกูคิดว่ามึงสองคนคบกัน” เนสกล่าวพลางมองสองคนที่นั่งเบียดกัน
“แล้วไอ้ฟิวส์เป็นรุกมันเกี่ยวอะไรกับคบไม่คบวะ” เตอร์กล่าวอย่างสงสัย
“ก็มึงดูทรงดิถ้าไอ้ธีร์ชอบผู้ชายทรงแบบมันก็ต้องเป็นรุก และมึงดูไอ้ฟิวส์หน้าหวานอย่างกับผู้หญิงใครไม่รู้ก็คิดว่าเป็นรับ” เนสพยายามอธิบาย
“ตรรกะเชี่ยอะไรของมึงเนี่ย” ฟิวส์กล่าวตัดบท
“เออช่างเหอะ” เนสกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ
“จะว่าไปเขามีแต่เด็กวิดวะไปจีบเด็กบริหาร แล้วนี่คุณมึงสองคนมาหาจีบเด็กวิดวะ” เบลล์กล่าว
“มีกฏข้อไหนห้ามหรือไง” ฟิวส์กล่าวพลางเบะปาก ขณะที่คุยกันธีร์นั้นจะเงียบกว่าคนอื่นเพราะธีร์เป็นประเภทขี้เกียจที่จะพูด ธีร์จัดได้ว่าเป็นคนหล่อคนหนึ่งเขานั้นได้เป็นเดือนคณะแต่พอประกวดระดับมหาวิทยาลัยแพ้ให้กับฟิวส์และธีร์เองก็มีคนคุยไม่เป็นตัวเป็นตนเรียกได้ว่าคุยไปเรื่อยเคยมีแฟนมาคนเดียวแต่ก็เลิกกันไปและธีร์ไม่ได้ชอบผู้ชาย ขณะที่พวกเขากำลังนั่งคุยกันอยู่นั้นก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาทักธีร์ ผู้ชายตัวสูง ผิวขาวจัด หน้าตาหล่อ ตาคมเหมือนเหยี่ยวคิ้วเข้มและได้รูป จมูกโด่งรับกับหน้าเรียกได้ว่าหล่อจนไม่มีที่ติ หุ่นดูแข็งแรงสมส่วน
“เห้ยไอ้ธีร์” เสียงทุ่มที่ฟังดูนุ่มนวลกล่าวทัก ทุกคนที่นั่งอยู่มองชายคนนั้นตาแทบไม่กระพริบนอกจากหน้าตาดีแล้ว น้ำเสียงยังดูหน้าฟัง
“อ้าวพี่เอียร์หวัดดีครับ พี่มาทำอะไรเนี่ย” ธีร์กล่าวทัก
“มาเป็นวิทยากรจำเป็น ไม่คิดว่าจะเจอเรา” เอียร์กล่าว
“ก็นี่คณะผมแล้วนี่พี่จะไปไหนหาอะไรอยู่หรือเปล่า”
“ห้องXXXมันไปทางไหน” ธีร์ได้อธิบายทางไปที่ห้อง ห้องนั้นให้เอียร์ฟังทุกคนยังคงมองเอียร์เพราะความหล่อของเอียร์ มีเพียงฟิวส์ที่เพียงแค่ชำเลืองมองและเอียร์ก็เช่นกันขณะที่กำลังคุยกับธีร์ก็ชำเลืองมองฟิวส์น้อยๆ
“งั้นไว้เจอพี่ไปก่อน” กล่าวจบเอียร์พยักหน้าน้อยๆให้กับทุกคนและจังหวะที่สบตากับฟิวส์เอียร์ยกยิ้มมุมปากก่อนจะจากไป
“ใครวะไอ้ธีร์” เตอร์รีบกล่าวถามทันทีที่เอียร์จากไป ทุกคนมองมาทางธีร์เป็นตาเดียว
“เป็นอะไรกันพวกมึงเห็นกูรู้จักคนหล่อไม่ได้เลย” ธีร์กล่าวด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์
“ก็ไม่คิดว่ามันจะมีคนหล่อเหมือนหลุดมาจากนิยายขนาดนี้ไง” เบลล์กล่าวเสริม
“พี่เอียร์เป็นเทรนเนอร์เจอกันฟิตเนสเขาเทรนกูอยู่มีอะไรสงสัยอีกไหม” ธีร์กล่าวอย่างห้วนๆ
“อ๋อ” ทุกพูดแทบจะพร้อมกัน ยกเว้นฟิวส์ ฟิวส์ไม่ได้พูดอะไร
“เห้ย กูกลับก่อนนะงานเข้าล่ะ เมียเข้าห้องไม่ได้” เนสกล่าวจบก็ลุกออกไปจากกลุ่มทันที หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาทั้งหมดก็แยกย้าย จนกระทั่งเย็นเลิกเรียนฟิวส์รอรับธีร์กลับบ้านด้วยกัน ฟิวส์ได้ไลน์มาบอกกับธีร์แล้วว่ารออยู่ตรงไหนไม่นานธีร์ก็เดินมา พอธีร์นั้นเดินมาถึงฟิวส์ก็โยนกุญแจรถให้ธีร์ทันที ธีร์ก็รับมาแบบงงๆ
“ขับด้วย”
“อ้าวแล้วทำไมมึงไม่ขับ”
“ก็ขี้เกียจ”
“ประหลาดคน”
หลังจากนั้นสองคนก็ขับรถกันกับบ้านโดยธีร์นั้นเป็นคนขับ ฟิวส์นั้นนั่งเล่นโทรศัพท์ไถโซเซียลทุกแอพพลิเคชั่น ธีร์ชำเลืองมองฟิวส์
“คืนนี้จะนัดใครอีกล่ะมึง” ธีร์กล่าวเสียงเรียบ
“ไม่นัดวันนี้จะนอน” ฟิวส์กล่าวแต่ตายังมองโทรศัพท์ ก่อนจะกล่าวต่อ “แล้ววันนี้มึงไปฟิตเนสไหม”
“ถามทำไมปกติไม่เห็นสนใจ” ธีร์กล่าวด้วยน้ำเสียงห้วนๆคล้ายไม่พอใจ
“ทำไมไม่เห็นบอก ว่าเทรนเนอร์มึงหล่อขนาดนั้น”
“เอ้ากูจะบอกมึงทำไมล่ะไอ้ฟิวส์ มันไม่ใช่เรื่องอะไรสำคัญเปล่าวะ อีกอย่างเขาแค่เทรนให้กูเฉยๆไม่ได้จ้างจริงจัง”
“เขามีแฟนยัง”
“ทำไม ชอบเขา?” ธีร์ยังคงกล่าวด้วยน้ำเสียงที่นิ่งๆ
“เขาก็หล่อดี”
“เขาไม่เหมาะกับมึงหรอก” ธีร์พูดออกมาตรงๆ
“มึงถือสิทธิ์อะไรมาตัดสินว่ากูไม่เหมาะกับเขา” ฟิวส์กล่าวสวนทันที ธีร์เงียบไปสักพักก่อนจะกล่าว
“เขามีแฟนหรือเปล่ากูก็ไม่รู้แต่ที่กูรู้แน่ๆคือเขาเจ้าชู้และไม่คิดที่จะจริงจังกับใคร และที่สำคัญเขาเป็นรุก กูถึงบอกว่าเขาไม่เหมาะกับมึง” ธีร์กล่าวอย่างใจเย็น
“มันก็ไม่แน่หรอก”
“เลิกล้มความคิดนั้นซะ” ฟิวส์จึงไม่ได้พูดอะไรต่อ เพียงแต่คิดในใจเขานั้นรู้สึกชอบผู้ชายคนนี้มากชอบชนิดที่ว่าที่ผ่านเขานั้นแทบไม่เคยจะจริงจังกับใครไม่เคยให้ใครได้มีตัวตนแต่กับผู้ชายคนนี้ความรู้สึกมันต่างกัน เขาคิดว่ามันก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรที่จะเปลี่ยนเอียร์ให้เป็นรับ เพราะที่ผ่านมาด้วยความที่หน้าหวานทำให้ผู้คนมักคิดว่าเขานั้นเป็นรับ แต่เขาก็สามารถทำให้คนที่คิดจะรุกเขากลายเป็นรับให้เขาได้ทุกครั้ง ฟิวส์มองเพียงว่ามันก็ไม่ได้ยากอะไร