รริชาลงมารอเขาที่ล็อบบี้คอนโดแม้โอบนทีจะบอกว่าไม่ต้องลงมารอ พอเขาโทรมาบอกว่าถึงแล้วก็เดินออกไปหาที่สวนของคอนโด ตอนนี้เกือบๆ ห้าโมงเย็น ในวันปกติมันอาจจะยังร้อนอยู่ แต่ในช่วงที่ฝนตกตลอดทั้งสัปดาห์และตอนนี้ท้องฟ้าก็ครึมฟ้าครึ้มฝนอากาศกำลังเย็นพอดี ลูกบ้านบางคนก็ออกมาออกกำลังกายหรือจูงสัตว์เลี้ยงมาเดินเล่น
เธอจดจำร่างสูงที่คุ้นตากับสุนัขลาบราดอร์สีดำวัยขวบเศษที่เขาจูงอยู่ได้ขึ้นใจ เจ้าออตโต้ที่พอมองเห็นเธอไกลๆ ก็มีอาการเหมือนกระวนกระวาย ส่งเสียงเห่าทักทาย ออกแรงจะวิ่งมาหา เป็นอาการที่นานๆ จะได้เห็น เพราะปกติมันเป็นหมาหยิ่ง ชอบทำตัวเหมือนรำคาญเรา
“ออตโต้ ชู่” โอบนทีต้องปรามแล้วออกแรงดึงไว้ มันก็เงยหน้าทำเสียงหงิงๆ เหมือนเถียงเขา รริชายิ้มด้วยความเอ็นดูและสุดแสนคิดถึงรีบเดินไปหามัน โอบนทีก็ยังช่วยจับมันไว้เพราะดูจากอาการแล้วเจ้าออตโต้น่าจะอยากกระโดดกอดเธอเลยละ รริชาใช้มือลูบหัวมันเป็นการทักทาย มันก็พยายามเลียมือเธอกลับ
“ไงออตโต้ ไม่เจอกันนาน” พอลูบหัวลูบตัวจนมันเริ่มสงบลงบ้างแต่ยังร้องหงิงๆ รริชาก็ย่อตัวลงไปกอด ออตโต้ก็ยิ่งร้องใหญ่ เลียแก้มเลียมือเธอเหมือนคิดถึงกันหนักหนา
“คิดถึงล่ะสิ”
“หงิงๆ”
“มาทำเป็นคิดถึง เวลาอยู่ด้วยก็ชอบเมิน” เมินบ้าง เดินหนีบ้าง เรียกไม่หันถ้าอยากเล่นด้วยก็ต้องคว้าตัวมาเล่นเลยถึงจะนอนหงายท้องให้เกา นานๆ ทีค่อยจะมีอารมณ์อยากเล่นอยากหยอกเจ้าของ เป็นบุคลิกของเจ้าหมาหยิ่งที่ทำให้เธอยิ้มได้เวลาได้เห็นมันอยู่ในสายตา
“ขอโทษที่มารบกวนริชานะครับ ออตโต้มันคงคิดถึงริชาจนซึมๆ จากที่ซึมอยู่แล้วยิ่งซึมหนัก”
เงยหน้ามองเจ้าของน้ำเสียงที่รู้สึกว่าอ้อนเหลือเกิน สะดุดกับสายตาอ่อนแสงที่ทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ แค่พูดแทนหมาเอง ไม่ต้องต้องทำตาละห้อยแทนมันด้วยก็ได้ไหม
“จริงเหรอออตโต้ คิดถึงกันจริงๆ น่ะ” รริชาเลยต้องหลบสายตาเขาไปคุยกับหมา เอามือยีหัวมันอย่างมันเขี้ยว...จริงๆ มันเขี้ยวเจ้าของมันด้วย
“หงิงๆ” นี่ก็ทำเสียงน่าสงสารทำตาละห้อยใส่เก่งไม่แพ้เจ้าของเลย รริชายิ้มกว้างส่ายหน้าให้ความน่ารักน่าเอ็นดูของเจ้าลูกหมา
“ไปเดินเล่นไหม”
“หงิงๆ” แล้วก็นอนหงายท้องให้เธอเกาท้องเกาคางให้อย่างที่ชอบทำ รริชาเลยต้องเอาใจหมาต่ออีกสักหน่อยก่อนที่จะพามันเดินเล่น โอบนทีก็เดินคู่เธอโดยให้เธอเป็นคนจูง
“ริชาไม่สบายหรือเปล่าครับ ปกติไม่เคยเห็นริชานอนกลางวัน”
“ช่วงนี้ริชาง่วงง่าย...เอ่อ อาจจะเพราะไม่มีอะไรให้ทำเลยชอบนอนมั้งคะ ไม่อยากออกไปไหนด้วย” ต้องรีบหาเหตุผลมาอธิบายต่อ กลัวเขาจะสงสัยว่าทำไมเธอถึงนอนกลางวัน
“อืม แล้วฝันร้ายบ้างไหม” บ้าจริง ทำไมต้องมาถามคำถามที่ดูใส่ใจเธอเข้าเรื่อยๆ บางทีโอบนทีก็ชักจะมากไป...หัวใจเธอก็ยิ่งอ่อนแอ
“ไม่เลยค่ะ” มันก็ไม่ใช่ว่าจะต้องฝันทุกคืน เดือนสองเดือนถึงจะฝันถึงบ้าง ยิ่งตอนที่มาอยู่กับเขาก็แทบจะไม่ฝันร้ายถึงเรื่องนั้นอีกเลย
“แล้วตอนนี้ริชาคิดไว้หรือยังว่าอยากทำงานอะไร”
“ก็ดูอะไรเพลินๆ ไปเรื่อยค่ะคุณโอบ เริ่มเห็นด้วยกับที่คุณโอบแนะนำ ตอนนี้ยังไม่อยากกลับไปทำงานประจำค่ะ ลองหาอะไรที่มันทำออนไลน์ได้ ทำอยู่บ้านได้” ยิ่งตัวเองท้องก็ยิ่งคิดว่าต้องมุ่งทางนี้แหละ
“ดีเลยครับ ผมเห็นด้วย” ก็เขาเป็นคนแนะนำเธอเองต้องเห็นด้วยอยู่แล้ว
เราสองสามคนใช้เวลาตรงสวนของคอนโดราวๆ ครึ่งชั่วโมง โอบนทีก็ชวนเธอเข้าคอนโดเพราะลมเริ่มพัดแรง ฟ้าก็มืดครึ้มด้วยเมฆฝนก้อนใหญ่มืดฟ้ามัวดินมาเลย และพอมาถึงข้างในได้ไม่นานฝนก็ตกหนัก และผ่านไปครึ่งชั่วโมงก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะสงบลง
“พายุเข้าวันนี้เลยค่ะ” รริชาบอกคนที่นั่งข้างๆ หลังจากเห็นข่าวพายุในมือถือ
“คงแบบนั้นครับ ไง ออตโต้ถึงเวลากินแล้ว กลับเลยไหม”
“แต่ฝนยังตกหนักอยู่เลยนะคะ” ในระดับที่น่าเป็นกังวล เธอไม่อยากให้เขาขับรถกลับตอนนี้
“ครับ แต่ตอนนี้หมาก็หิวคนก็หิว” ทำตาละห้อยอีกแล้ว
“ขอฝากท้องกับริชาสักมื้อได้ไหมครับ”
ขณะที่รริชากำลังลังเลว่าจะชวนเขากับออตโต้กินข้าวที่นี่ไหม โอบนทีก็ไม่รอให้เธอลำบากใจนานกว่านี้ รีบขอก่อน และรริชาก็พยักหน้า
“ก็ได้ค่ะ แต่ว่าออตโต้จะขึ้นห้องได้ไหมคะ เราไม่ได้แจ้งนิติไว้”
“เดี๋ยวเราลองติดต่อเขาก่อนก็ได้” โอบนทีเป็นคนติดต่อเอง เพราะเขาเป็นคนติดต่อซื้อคอนโดด้วยตัวเองอยู่แล้ว สร้างความคุ้นเคยกับนิติและยามไว้พอสมควร
ซึ่งนิติก็ให้ทั้งเขาทั้งหมาขึ้นห้องเธอ เพราะนิติเข้าใจว่าโอบนทีเป็นสามีเธอ
“ผมบอกว่าซื้อห้องให้ภรรยาน่ะครับ ให้เป็นชื่อภรรยา” ยังมาอธิบายกับเธอหลังพากันขึ้นลิฟต์มาอีก แค่นี้เธอก็รู้สึกใจหวิวๆ อยู่แล้ว ที่โอบนทีทำเหมือนกับว่าเขาซื้อห้องให้ภรรยาที่ยังใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน เขาก็แค่พาหมาที่บ้านมาห้องตัวเอง
พยายามคิดเป็นเหตุเป็นผลว่าเขาคงไม่อยากบอกคนอื่นว่าซื้อให้เธอหลังจากหย่ากันก็แค่นั้น ก็พอจะช่วยทำให้ตัวเองไม่ต้องคิดอะไรเรื่อยเปื่อยได้บ้าง
“ไงออตโต้ ชอบห้องนี้ไหม อยากมาอยู่ไหม” แต่อีกคนก็ขยันพูดให้เธอฟุ้งซ่านอยู่ดี
“เดี๋ยวริชาหุงข้าวก่อนนะคะ”
“ครับ มีอะไรให้ผมช่วยไหม”
“คุณโอบพาเจ้าออตโต้ไปนั่งรอที่ห้องนั่งเล่นก็ได้ค่ะ”
“ออตโต้มันไม่น่าจะอยากไปที่อื่นนะครับ น่าจะสนใจริชาทำอาหารมากกว่า” พอเธอมองไปที่หมาก็นั่งรอเธอตาปริบๆ เหมือนตอนอยู่ที่บ้านนั่นแหละ พอรู้ว่าคนจะหาอาหารให้กินก็นั่งรอเฝ้าไม่ไปไหน โดยเฉพาะเวลาที่เธอทำอาหารให้มัน...ปกติออตโต้กินอาหารเม็ด แต่จะมีบางวันที่เธอทำให้พิเศษ แล้วเจ้าลูกหมาจะชอบมาก มานั่งรอส่งสายตาวิ้งๆ จนเธอทำอาหารเสร็จ
“ขอทำให้หมาก่อนนะคะ” เธอบอกเขายิ้มๆ หลังจากหุงข้าวเสร็จ โอบนทียิ้มกว้างเหมือนพอใจที่เธอพูดหยอกล้อเหมือนให้ความสำคัญกับหมามากกว่าเขา
ห้วงหนึ่งที่รู้สึกผ่อนคลาย คุ้นเคย เหมือนการเย้าหยอกของคนที่ใช้ชีวิตฉันสามีภรรยา และได้ใช้เวลาว่างในห้องครัวด้วยกัน ทำให้เธอพลั้งเผลอใจให้มีรอยยิ้ม จนต้องเตือนสติตัวเองแรงๆ ว่าห้ามคิดอะไรแบบนั้นอีก
“คนกินอะไรดีครับ เดี๋ยวผมช่วยล้างผัก”
ขณะที่เธอกำลังต้มเนื้อไก่ให้ออตโต้อีกฝ่ายก็เปิดตู้เย็นหาวัตถุดิบ รริชาเลยต้องเดินไปดูสิ่งที่เขาขนออกมาจากตู้เย็น
“อืมมีหมู กุ้ง ไข่ เดี๋ยวริชาทำกุ้งผัดบล็อกโคลี่แล้วกันค่ะกะเพราหมูสับด้วยไหมคะ”
“ดีเลยครับ”
“ไข่ดาวด้วยเนอะ แล้วอยากกินต้มจืดอีกอย่างไหมคะ ซดร้อนๆ”
“ได้หมด ริชาทำอะไรก็อยากกิน” เอ่ยชมทั้งปากทั้งตา แบบนี้จะให้เธอห้ามหัวใจตัวเองได้อย่างไร
“ไก่ออตโต้ริชาใส่อะไรบ้างครับ เผื่อผมจะได้ลองทำให้มันกิน”
“ปกติริชาต้มใส่ฟักทอง บดๆ คลุกข้าวให้มันกิน แต่ตอนนี้ไม่มีก็ต้มแค่ไก่ค่ะ ออตโต้ไม่กินผักอย่างอื่นเลย”
“ไม่ต้องปรุงใช่ไหมครับ”
“ไม่ปรุงค่ะ เรียบร้อยเดี๋ยวรอให้มันเย็น” เธอปิดหม้อต้มเนื้ออกไก่แล้วมาช่วยเขาเตรียมวัตถุดิบ โอบนทีรับหน้าที่หั่นผัก รริชาเตรียมวัตถุดิบอย่างอื่น เรียบร้อยก็เริ่มจากตั้งหม้อทำต้มจืด อีกเตาก็ผัดบล็อกโคลี่ ต่อด้วยผัดกะเพราะ
“ผมล้างกระทะให้ครับ จะทำไข่ดาวใช่ไหม”
“เดี๋ยวใช้อีกใบก็ได้ค่ะ”
“โอเค แต่เดี๋ยวล้างเก็บไว้” โอบนทีช่วยเก็บและล้างอุปกรณ์ต่างๆ ให้เธอไปด้วยเลยขณะที่รริชาก็ลงมือทำกับข้าว จนอดคิดไม่ได้ว่าถ้ามีเขาอยู่ด้วยแบบนี้ในทุกๆ วันจะดีแค่ไหน...แต่มันก็เป็นไปไม่ได้แล้ว แต่เอาเถอะ ขอให้เธอได้คิดก็คงไม่ผิดนักหรอก รริชาคงไม่หลงลืมตัวจนแยกความคิดกับความเป็นไปได้ไม่ได้หรอก
“โฮ่งๆ” ออตโต้ที่นั่งรอเขากับเธอเริ่มอยู่ไม่สุข รริชาเลยต้องไปจัดการอาหารหมาก่อน
“หิวแล้วใช่ไหม มา ข้าวเย็นพอดี คุณโอบคะริชาจัดการข้าวเจ้าออตโต้ก่อนนะคะ”
“ครับ ยังไงผมจัดโต๊ะรอนะ”
“ค่ะ เดี๋ยวริชาค่อยมาทอดไข่ดาวให้”
รริชาฉีกเนื้อไก่เป็นชิ้นเล็กๆ คลุกข้าวสวยที่ตักไว้รอให้มันเย็นใส่ถ้วยให้เจ้าออตโต้
“ออตโต้ นั่งลง” เธอสั่งนั่ง เจ้าหมาน้อยแม้จะฮึดฮัดเพราะสนใจไก่ในถ้วยก็ยอมนั่งในที่สุด มองเธอด้วยสายตาอ้อนวอนทีเดียว
“ขอมือก่อน” ตอนนี้ขออะไรก็ทำให้หมด รริชาหัวเราะพอใจก่อนจะเอามือลูบหัวและวางถ้วยข้าวให้ในที่สุด