"น้ำใส.." แม็กเอ่ยเรียกชื่อฉันด้วยความน้ำเสียงที่แสนกระเส่า เขาใช้ฝ่ามือลูบไล้กรอบหน้าของฉันอย่างอ่อนโยนทำให้เราสองคบสบตากันอย่างเลี่ยงไม่ได้ จากที่หัวใจฉันเต้นแรงอยู่แล้วพอโดนแม็กทำแบบนี้ยิ่งทำให้มันเต้นแรงกว่าเดิม แรงราวกับมีปืนกลนับพันกำลังระรัวยิงอยู่ในอก "เป็นของฉันเถอะนะ"
"..." ฉันเงียบและช็อกจนเผลอกลั้นหายใจ แม็กเขาอาจไม่เคยรู้ว่าฉันชอบเขาก็จริง แต่การทำแบบนี้มันไม่ดูเป็นการขี้โกงไปหน่อยเหรอ?
ฉันไม่รู้เลยนี่นาว่าแม็กเขาคิดเหมือนที่ฉันคิดบ้างหรือเปล่า หรือว่ามีแค่ฉันที่เอาแต่คิดไปเองคนเดียวเท่านั้นก็ไม่รู้
"อื้อออ" ฉันถูกแม็กฉวยโอกาสในเวลาต่อมา ริมฝีหยักหนาได้รูปของเขากำลังสัมผัสกับริมฝีปากของฉัน ฉันเบิกตากว้างด้วยความตกใจพยายามจะชักมือตัวเองให้หลุดจากฝ่ามือหนาของแม็กที่จับกุมเอาไว้
แต่ก็ทำไม่ได้ แรงของแม็กมีมากกว่าฉันเป็นเท่าตัวและนั่นคือความจริงที่ไม่อาจเลี่ยง
หัวใจฉันเต้นระส่ำแม้คิดอยากจะขัดขืนเท่าไหร่ก็ยิ่งไม่เป็นดั่งใจ ความอบอุ่นของแม็กนั่นมันเป็นสิ่งที่ฉันต้องการมาโดยตลอดและแน่นอนว่าหากเขาต้องการที่จะมอบให้ฉัน ฉันเองก็อยากจะรับมันไว้อย่างเห็นแก่ตัว
ฉันรู้ดีว่าแม็กกำลังเมาไม่ได้สติ เรื่องทั้งหมดอาจจะกลายเป็นเรื่องยุ่งยากหากว่าพรุ่งนี้เช้าเขาสร่างเมา แต่หากคิดในอีกแง่หนึ่ง หากแม็กเขาก็ชอบฉันขึ้นมาบ้าง นั่นก็แปลว่าเราอาจจะได้เริ่มต้นความสัมพันธ์กันก็ได้ ถ้าฉันจะขอเห็นแก่ตัวบ้างมันก็คงจะไม่เสียหาย ฉันยอมทนเห็นแม็กชอบแซลม่อนมาตลอดสองปีแล้วนี่
ลิ้นของแม็กสอดแทรกเข้ามาในโพรงปากของฉันควานหาความหวาน สิ่งนั่นทำหัวใจฉันเต้นแรงซ้ำแล้วซ้ำเล่า ฉันพยายามโต้ตอบแม็กให้เหมือนกับที่เขาทำ ก่อนที่มือทั้งสองข้างของฉันจะถูกปลดปล่อยให้เป็นอิสระ แม็กใช้ฝ่ามือหนาลูบไล้เรือนร่างของฉันภายใต้ร่มผ้า ความเย็นของมือเขาทำให้ฉันรู้สึกขนลุกขนพองอย่างบอกไม่ถูก ฉันยกเรียวแขนทั้งสองโอบกอดรอบคอของแม็กเอาไว้ก่อนที่แม็กจะเลื่อนใบหน้าเข้ามาซุกไซ้ซอกคอของฉัน
เสียงลมหายใจที่เปล่งออกมาเป็นจังหวะของแม็กมันทำให้ฉันแทบบ้า กลิ่นน้ำหอมผสมกับกลิ่นตัวมันเย้ายวนให้ฉันต้องสูดหายใจเข้าเต็มปอดด้วยความรู้สึกดี
ยามที่ริมฝีปากแม็กขบเม้มที่ลำคอของฉันทีไรฉันก็ยิ่งรู้สึกเร่าร้อนมากขึ้นเท่านั้น
"อ๊ะ!" ฉันสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อถูกประครองให้ลุกขึ้นนั่ง แม็กถอนเสื้อของฉันออกมองฉันด้วยสายตาที่หวานหยาดเยิ้มจนตัวฉันเองก็ทนไม่ได้ที่จะเข้าไปจูบเข้าสนองความต้องการ
ฉันชอบเหลือเกินสัมผัสที่เขาทาบมือลงมาตามร่างกายของฉันน่ะ
บราเซียของฉันถูกปลดออกในเวลาต่อมา แม็กค่อย ๆ รูดมันออกจากสองเต้าของฉันอย่างชำนาญการ ความเขินอายของฉันมันเริ่มก่อตัวขึ้นแต่ฉันก็ไม่ได้ห้ามปรามแม็กให้เขาหยุดการกระทำเลย
หลังหน้าอกของฉันถูกกอบกุมด้วยมือหยาบหนาฉันก็ยิ่งร้อนไปทั้งตัว แม็กทั้งจูบลูบคลำร่างกายของฉัน เขาทำราวฉันเป็นตุ๊กตาที่กำลังถูกฟัด ซึ่งตัวฉันเองก็ชอบมากเช่นเดียวกัน
ไม่นานฉันก็กลายเป็นสาวที่กำลังเปลือยกายต่อหน้าของผู้ชายที่ฉันหลงรักมาตลอด แม็กเขาเริ่มที่จะเปลื้องผ้าตัวเองออกที่ละชิ้นสองชิ้นแล้วเข้ามากอดรัดนัวเนียกับร่างกายฉันเมื่อเราทั้งคู่ไร้อาภรณ์ปกปิดร่างกาย
ตลอดยี่สิบปีมานี้ฉันรักษาครั้งแรกของตัวเองไว้เป็นอย่างดี และหากมันจะถูกมอบให้กับแม็ก ถึงแบบนั้นฉันก็เชื่อว่าตัวเองจะไม่มานั่งเสียใจภายหลังแน่นอน
"อ๊าส์!" ฉันเกร็งไปทั้งร่างหลังความเป็นชายของแม็กแหวกกลีบกุหลาบของฉันแล้วแทรกเข้ามาภายในร่องรัก
ความอึดอัดและความเจ็บปวดจี๊ดระหว่างกลางกายของฉันเริ่มทำงาน ท่ามกลางเสียงครางทุ้มต่ำของแม็กที่ถูกเปล่งออกมา ทำไมฉันถึงได้รู้สึกมีความสุขจังเลยนะ ทั้งที่มันเจ็บแท้ ๆ
"อดทนเอาหน่อย เดี๋ยวจะดีขึ้นเอง" แม็กกระซิบข้างหูทั้งยังลูบหัวของฉันด้วยความอ่อนโยน ฉันแทบจะละลายตายคาตรงนั้น กอดรัดร่างกายของแม็กเอาไว้แน่น
คำพูดคำจาแบบนี้มันขี้โกงอีกแล้ว..
"ถ้าฉันเริ่มขยับเธอจะรู้สึกดีขึ้น.. ฉันจะเริ่มแล้วนะ"
"อื้อออ" ฉันตอบรับคำถามของแม็กอย่างเคอะเขิน หลังฉันตอบกลับไปแม็กก็เริ่มขยับเอวช้า ๆ เพื่อให้ฉันปรับตัว โดยที่ระหว่างนั้นก็มีเสียงครางกระเส่าหลุดออกมาจากเขาไม่ขาดสาย
ความเจ็บปวดในตอนแรกเริ่มเปลี่ยนเป็นสิ่งที่เรียกว่าความเสียว ฉันได้สัมผัสรสเซ็กส์เป็นครั้งแรกจากคนที่ฉันแอบรักมาตั้งนาน ฉันพูดตามตรงว่ามันสนุกและมีความสุขมาก มันทำให้ฉันรู้สึกดีจนอธิบายออกมาเป็นคำพูดไม่ถูก จนลืมไปเลยว่าเรื่องการป้องกันมันก็สำคัญ
แม็กปล่อยด้านในเมื่อถึงจุดที่เรียกว่าสำเร็จความใคร่เราต่างเหนื่อยหอบกันทั้งคู่จนเผลอหลับไป แม้เหงื่อฉันจะโชกโชนแค่ไหน ฉันก็ยังเข้าไปฉวยโอกาสนอนกอดร่างหนาของแม็กเอาไว้อยู่ดีแถมที่น่าดีใจคือแม็กเขาก็กอดฉันเอาไว้เช่นเดียวกัน
รุ่งเช้าของวันต่อมา..
ฉันนอนหลับยาวเพราะความรู้สึกเหนื่อยล้าและรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะเป็นไข้ แต่ก็ต้องสะดุ้งตื่นเมื่อรู้สึกว่ากำลังมีคนขยับตัวอยู่ข้าง ๆ ซึ่งเขาคนนั้นก็คือแม็ก
ฉันรีบดีดตัวลุกขึ้นนั่งทันทีเมื่อคิดได้ว่าเมื่อคืนทำอะไรลงไปบ้าง และเมื่อมองไปรอบห้องก็พบกับแม็กที่นั่งนิ่งหันหลังให้ฉันอยู่ที่ปลายเตียง เขาสวมกางเกงเรียบร้อยแล้วกำลังจะสวดเสื้อคลุมร่างกาย
"น้ำใส.. ฉัน... ข่มขืนเธอหรือเปล่า?" แม็กถามด้วยน้ำเสียงนิ่งตึงทำให้คนฟังอย่างฉันจวนจะเครียดตามเขา
"..." ฉันเองก็ไม่รู้ว่าเรียกว่าข่มขืนได้ไหม แต่เท่าที่ฉันจำได้ตัวฉันเองก็ผิดที่ไม่ยอมหักห้ามใจและยอมปล่อยให้ตัวเองไหลไปตามอารมณ์ เพราะงั้นแม็กเขาก็ไม่ได้ผิดอะไรหรอก
เรียกว่าข่มขืนไม่ได้เลย
"ฉันบังคับเธอใช่ไหม?" แม็กยังคงถามซ้ำแต่ครั้งนี้เขาลุกขึ้นยืนเต็มความสูงหันหน้ามามองฉันอย่างคาดคั้นเอาคำตอบ
เขาจำเรื่องที่ทำตอนเมาไม่ได้เลยสินะ.. ทำไมฉันถึงจำได้ก็ไม่รู้ แบบนี้ความรู้สึกอ่อนโยนเมื่อคืนมันก็คงจะเป็นเพียงแค่ฤทธิ์แอลกอฮอล์พาไปงั้นสิ
"เปล่าหรอกแม็ก.. ฉันปล่อยตัวเอง นายไม่ได้ข่มขืนฉันหรอกและตัวฉันเองก็เต็มใจ" ฉันกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากหลังพูดประโยคนั้นออกไป ดูเป็นผู้หญิงใจง่ายยังไงไม่รู้เลย
"เต็มใจ?"
"อือ.."
"หมายความว่ายังไง? ทำไมเธอถึงเต็มใจให้ฉันทำแบบนั้นกับเธอ?" คนตัวสูงถามฉันอย่างไม่เข้าใจ และฉันเองก็ไม่ได้ลังเลที่จะบอกความลับในใจออกไปเลยสักนิด ฉันเลือกที่จะพูดมันออกไปอย่างไม่ลังเลทันทีที่คำถามของแม็กจบลง
"ฉันชอบนาย"