CHAPTER 07
“ก็บอกว่าจะไปเอง นายจะเฝ้าฉันทำไม”
ฉันอาบน้ำแล้ว แต่ตัวแต่งหน้าแล้วเลยคิดว่าออกมาน่าจะไม่เจอธาราเพราะเรานัดกันที่ร้านเดิม แต่ผิดคาดธารายังนั่งอยู่ที่เดิม
เขาสวมเสื้อยืดสีดำกับกางเกงยีนทรงกระบอกสีเข้ม
ธาราแต่งตัวง่าย ๆ แต่ทำไมดูดี ไม่ยุติธรรมเลย!
แล้วฉันก็ดันแต่งตัวแมทกับมันด้วยนี้สิ เสื้อเกาะอกเว้าหลังกับกางเกงยีนสีเข้มทรงกระบอกเหมือนกันด้วย
เห็นแล้วได้แต่ถอนหายใจรัว ๆ
“ไปด้วยกัน”
ธาราลุกขึ้นเมื่อเห็นฉันเสร็จแล้ว ฉันไหวไหล่
ก็ดี จะได้ประหยัดน้ำมันคิดบวกจิตใจจะได้ดีขึ้น
แต่แม่งอยากบวกธารามากกว่า : (
“พวกมันออกกันยัง”
ฉันก้มไปหยิบรองเท้ารัดส้นมาใส่เพราะต้องเซฟเท้าตัวเองไว้
“ออกไปแล้ว”
คำตอบที่ได้ทำให้ฉันพยักหน้าแล้วเดินออกจากห้องพร้อมธาราที่เดินตามมาติด ๆ
เราเดินตัวติดกันมาถึงลานจอดรถ ธาราปลดล็อกแล้วเปิดประตูข้างคนขับให้ฉันเข้าไป
“ขอบใจ”
ฉันเดินไปนั่งในรถสปอร์ตคันแพงของธารา เมื่อเข้ามานั่งธารายื่นขนมปังที่เขาหยิบมาจากไหนก็ไม่รู้มาให้ฉัน
“ให้ทำไม”
ฉันงุนงงจู่ ๆ ยื่นขนมปังให้ดื้อ ๆ น่ะสิ
“รองท้องเผื่อหิว”
ไม่อยากจะเชื่อว่าคนแบบเขาจะใส่ใจคนอื่นทั้งที่หน้านิ่งเหมือนไม่ได้สะทกสะท้านกับเรื่องของคนอื่นมากนัก
“ขอบใจ”
แน่นอนว่าฉันรับมาเพราะหิวเหลือเกิน ตื่นมายังไม่ได้กินอะไรเลย ข้าวตอนเที่ยงก็กินไปนิดเดียวเอง
“กินป่ะ?”
ฉันยื่นขนมปังส่วนที่เหลือให้เขาไป ธาราหันมามอง เขาอ้าปากแต่กลับไม่หยิบไป
“มือไม่ว่าง ป้อนหน่อย”
ให้ตาย...
ภาระแม้กระทั่งเรื่องกิน
ฉันกลอกตาบนแล้วป้อนขนมปังไส้บลูเบอร์รี่ให้ธาราไป ตอนที่ฉันป้อนเข้าปากธาราจงใจกัดนิ้วฉันเพื่อเย้าแหย่ให้ฉันของขึ้นด้วย
“ให้กินขนมปังไม่ได้ให้กินนิ้ว จะกัดเพื่อ!”
ด่าขนาดนี้สิ่งที่ตอบกลับมากลับเป็นเสียงหัวเราะชอบใจ
สงสัยหมอนี้ชอบให้โดนด่าจริง ๆ นั่นแหละ
เรามาถึงร้านนั่งชิลล์กันแล้ว เป็นร้านที่วันหยุดคนจะเยอะเป็นพิเศษ มาถึงไอ้ชายก็โบกมือเรียกด้วยจริตจะก้านมิสควีนที่นางมั่นว่าตัวเองต้องเริด
แต่ก็เริดจริง
“ไฮท์ ไฮท์~ ทางนี้จ้า “
“มาคู่เว้ยมาคู่ เรือกูลั่นปรู๊ดดด”
ต่อด้วยไอ้ชินที่เอ่ยปากแซวเมื่อฉันกับธาราเดินมาพร้อมกัน
“ยังไงเนี่ย? ญาติดีกันแล้ว”
เบลล์ตื่นเต้นในบทสนทนาร่วมด้วย ตอนนี้คงมีแค่ฉันที่ถอนหายใจอย่างเอือมระอา
“ก็ไม่ได้บาดหมางป่ะ แค่อย่ากวนตีนใส่”
ฉันไหวไหล่แล้วทิ้งตัวลงไปนั่งที่ว่างสองที่ที่ดันนั่งติดกันอีก
ไอ้พวกนี้ต้องจงใจแน่ ๆ
“ใครกวน”
ธาราคาบขนมขึ้นมาในปากแล้วหันมาถามฉัน ไอ้แววตาที่ต่อให้นิ่งแต่กวนประสาทนี้คงมีแค่หนึ่งในร้อยเท่านั้น
“นายไง”
ฉันสะบัดหน้าหนีแล้วยกเครื่องดื่มมึนเมาขึ้นมาดื่มเพื่อเปิดพิธีทันที
“ขาเป็นไง ดีขึ้นมั้ยอีชายหัวใจแทบวายตอนเห็นสามีธาราอุ้มชะนีปั้นแป้ง”
ชายกุมอกตัวเองส่งเสียงวีดว้ายเหมือนหัวใจจะวายจริง ๆ ทั้งที่มันคือแอคติ้งที่ชวนปวดหัว
“ดีขึ้นแล้ว มันน่าจะอักเสบเพราะวิ่งบนส้นสูง”
“วันหลังต้องตั้งนาฬิกาตื่นก่อนเวลาสักสองชั่วโมงหรือมั้ยก็ให้ไอ้ธารามันปลุกห้องอยู่ใกล้กันด้วย”
“แค่เห็นมาด้วยกันได้ก็ชื่นใจแล้ว ไม่ตีกันก็เบาใจหน่อย”
ชินทำหน้าโล่งอก ก็แน่สิชินกับธาราเป็นญาติกันมันคงไม่ค่อยโอเคที่เพื่อนกับญาติชอบตีกัน
“ก็บอกแล้วว่าตัวแปรคือธาราไม่ใช่ฉัน”
ฉันโยนความผิดทุกอย่างให้ธาราไป หมั่นไส้มานานแล้วกับความกวนประสาทที่ธารามีให้กัน
“ฉันทำไร?”
ธาราเอียงคอถามด้วยแววตาใสซื่อ ทำทีปั้นหน้าซื่อราวกับตัวเองไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย
“นี้ไง ชอบกวนให้ของขึ้น”
พูดแล้วมันเขี้ยวเลยกระทุ้งศอกใส่กล้ามเนื้อท้องให้มันจุก ๆ ไปหนึ่งที
“นี้ไง... แป๊บเดียวมันกลับมาตีกัน พอเลย ๆ นั่งแดกสงบ ๆ ก็พอ”
ชินห้ามทับฉันและธาราจึงยอมสงบสุข
หลังจากนั้นเราก็นั่งดื่มและเม้ามอยด์ไปเรื่อย เสียงเพลงที่เชื่องช้าค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นจังหวะ EDM ที่รุนแรงมากยิ่งขึ้น
ตอนนี้ทุกคนเริ่มเมารวมถึงฉันด้วยที่เริ่มโอนเอนไปหาคนที่นั่งข้าง ๆ กัน
“หยุดดื่ม อย่าเมาจัด”
ธาราแย่งแก้วออกไปจากมือฉัน คนขี้เมาพอโดนแย่งก็งุ่นง่านทันที
“ทำไมเล่า... แก้วสุดท้ายได้มั้ย นะ ๆ”
ฉันเขย่าแขนธาราเมื่อเสียงที่มันห้ามฟังดูจริงจังกว่าปกติมากพอสมควร
“จะกลับแล้ว พวกมันคอพับหมดแล้ว”
ฉันกวาดสายตาไปมองชายและเบลล์ที่นั่งโอนเอนไม่ต่างกัน ตอนนี้ถ้าเหลือคนที่ดูปกติคงมีแต่ธารากับชินนั่นแหละ
ส่วนฉัน... ก็เมาเละไม่ต่างกัน
“แต่เสียดายอ่า...”
ฉันยังดื้อรั้นจะดื่มต่อแต่ธาราแย่งแก้วแล้วยกขึ้นไปดื่มเสียเอง
“ไอ้ธา ไอ้เลว~”
เสียงฉันโอดครวญอย่างเจ็บใจ ส่งกำปั้นทุบอกธาราไปหนึ่งที
“นั่งให้มันดี ๆ นมออก”
ธาราไม่ได้โฟกัสแรงตบแต่เขากลับขยับมือมาปิดหน้าอกฉันแทน
ฉันหน้าบึ้งมองหน้ามันอย่างคาดโทษแล้วปัดมือมันออกไป
"ยุ่ง ไม่คุยด้วยแล้วนายแย่งเหล้าฉันอ่า ฮืออ"
การโดนแย่งเหล้าครั้งนี้ทำเอาน้อยอกน้อยใจเป็นพิเศษ ฉันกระบอกตาร้อนผ่าวและแทบจะร้องไห้ฟูมฟายออกมาอยู่รอมร่อ
หัวจิตหัวใจทำด้วยอะไรทำไมถึงใจร้ายแย่งของโปรดฉันไปต่อหน้าต่อตาแบบนี้
"วันหลังอยากกินนายก็ซื้อเองสิ ไม่มีเงินเหรอ"
ฉันกะพริบตาปริบ ๆ เงยหน้าขึ้นไปจ้องธาราที่เดาะลิ้นเล่นกับกระพุ้งแก้มแล้วหัวเราะออกมาเบา ๆ
"ถ้าไม่มีเดี๋ยวแบ่งเงินให้ เงินอยู่ไหนนะ..."
จำได้ว่าอยู่ในกระเป๋านี่หนา
"ธา เดี๋ยวกูอุ้มเบลล์ขึ้นรถก่อนแล้วจะมารับไอ้ชายฝากดูด้วย"
"โอเค"
เสียงชินแว่วเข้ามาในหูแต่ฉันไม่ได้สนใจฟังมากมายนัก มิหนำซ้ำก็ยังว้าวุ่นอยู่กับการค้นเงินในกระเป๋าของตัวเองที่หายังไงก็หาไม่เจอสักทีนี้สิ
งอแงได้มั้ย ในฐานะอะไรก็ได้
"เงินไม่มีแล้วสิ นายขโมยไปเหรอธา ทำไมเป็นคนแบบนี้"
คนใจร้าย ขโมยได้แม้กระทั่งเงินของเพื่อน
ฉันฟูมฟาย คว้าเสื้อตรงอกธารามาขย้ำแล้วเขย่าเพื่อให้เขาพูดอะไรสักอย่างออกมาไม่ใช่มัวแต่นั่งนิ่งแบบนี้
"ปากนายอมอะไรไว้ทำไมไม่พูด ปากน่ะ... มีอะไรซ่อนอยู่"
ดวงตากลมโตปรือพอสมควร ต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการจับจ้องใบหน้าของเพื่อนตรงหน้าแล้วขยับนิ้วชี้ไปแตะ ๆ ตรงริมฝีปากธาราด้วยความข้องใจ
"อยากรู้?"
มันพูดแล้ว
เพราะธาราถามฉันเลยพยักหน้าแล้วจิ้ม ๆ ปากธาราเล่นราวกับปากเขาเป็นมาชเมลโล่นุ่ม ๆ ที่ฉันชอบจิ้มเล่น
"อยากสิ ซ่อนไรไว้ค่า"
ธาราโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้กัน ใกล้จนปลายจมูกเราเบียดชิดกันอย่างแผ่วเบา
"ไม่ได้ซ่อนแต่จ้องจะจูบเธอแค่คนเดียว"
ริมฝีปากนุ่มยุ่นกดทับลงมาบนริมฝีปากของฉัน กดลงมาเน้น ๆ และหนักหน่วงแต่ไม่ได้ทำอะไรไปมากกว่าการจูบเอาไว้เพื่อทิ้งสัมผัสเร่าร้อนให้ริมฝีปากฉันร้อนระอุไปกับสัมผัสนั้น
"จูบทำไมเล่า นี้เพื่อนไง"
ฉันทุบอกคนข้างหน้าแล้วขยับนิ้วชี้มาจิ้มหน้าอกตัวเอง เสียงทำไมถึงได้ยานครางขนาดนี้นะ
ปั้นแป้ง! มีสติหน่อยดิ
"อยากลองเป็นเพื่อนเล่นเพื่อนมั้ยแป้ง"
ฉันกอดอกแล้วหันหน้าหนีบุคคลตรงหน้าอย่างมาดมั่น
"ไม่ เล่นกับนายฉันไปเล่นกับพี่โรมดีกว่าสุภาพบุรุษกว่าเยอะ"
ธาราหัวเราะ หึ ๆ ในคอ เขาเกี่ยวรั้งเอวฉันให้ขยับเข้าไปใกล้ ตรงกับจังหวะที่ชินเดินกลับมาพอดี
"มึงพาแป้งกลับเดี๋ยวกูแบกไอ้ชายขึ้นรถเอง"
"ตามนั้น"
"อ๊ะ... แบกทำไมเล่า เดินได้นะ"
ฉันโวยวายเสียงหลง ธาราแบกฉันขึ้นบ่าแล้วเดินฝ่าผู้คนที่ยืนจีบกันอยู่ในร้าน
ฉันเวียนหัวเลยต้องกอดคอธาราเอาไว้เพื่อยึดเหนี่ยวและไม่กี่นาทีธาราก็แบกฉันมาถึงรถยนต์ของตัวเองก่อนที่ฉันจะถูกยัดเข้าไปในรถคันนั้นแล้วประตูรถก็ปิดกระแทกราวกับคนกำลังเดือดพล่าน
ธาราเปิดประตูฝั่งคนขับแล้วขึ้นมานั่งพร้อมสตาร์ทเครื่องแต่กลับไปยอมเคลื่อนรถออกไป
"ไปสิ “
“......”
เอาอีกแล้ว ธารากลับเข้าสู่โหมดนี้อีกแล้ว
คิ้วสองข้างของฉันมุ่นเข้าหากัน ถึงจะเมาแต่ก็ข้องใจและพอข้องใจมาก ๆ ฉันก็พร้อมบวกไง
“เป็นอะไร พูดมา”
“ทำไมต้องพูดถึงผู้ชายคนอื่น?”
เสี้ยววินาทีที่กำลังมึนงงฉันก็ถูกยกขึ้นไปนั่งคร่อมตักแกร่งในท่าควบเอวอย่างมึนงง
“ใคร?”
นี้ลืมไปแล้วไงว่าพูดถึงใคร
“หึ... มีเยอะหรือไงถึงต้องพูดให้ฟังใหม่ว่ามันเป็นใคร”
ฉันงงตาแตกหนักกว่าเดิม ครั้นพอจะเถียงกลับสบตากับแววตาดุดันที่จับจ้องมาอย่างจริงจัง
ดุ ดุมากเหลือเกิน
“แล้วทำไมต้องดุ เป็นอะไรเป็นหมาบ้าเหรอธา”
“ใช่ เป็นหมาบ้า”
ฉันเม้มปากแล้วหันหน้าหนีแต่กลับถูกรั้งท้ายทอยให้ขยับหน้ากลับมาสบตากันก่อนที่จะถูกรั้งให้ริมฝีปากเราขยับเข้ามาประกบจูบกันอย่างลุ่มลึก
“อื้อ~”
ฉันครางเสียงแผ่วเพราะจูบครั้งนี้ดุดันกว่าก่อนหน้านี้หลายเท่า
สองมือขย้ำเสื้อตรงหน้าอกแกร่งในขณะที่ริมฝีปากถูกบดขยี้และดูดดุนก่อนจะแทรกเรียวลิ้นเข้าไปในโพรงปากแล้วเกี่ยวรัดลิ้นฉันมาดูดดุนอย่างหื่นกระหาย
“อ๊ะ อ๊า... ธา...”
ธาราผละออกให้ฉันได้หายใจเพียงชั่วครู่แล้วประกบจูบลงมาอีกครั้ง
เราแลกลิ้นกันอย่างมึนงงในขณะที่มือเขาลากไล้อยู่ตรงหน้าท้องฉันจนรู้สึกวูบวาบไปทั้งตัว
ฝ่ามือเขาเคลื่อนขึ้นเรื่อย ๆ ลากสูงขึ้นมาจนถึงชายเกาะอก แล้วใบหน้าคมคายก็ขยับลงมาซุกกึ่งกลางร่องอกฉัน ดูดซับและดูดดุนจนเสียวแปร๊บไปทั้งอก
ใบหน้าฉันร้อนผ่าว มือเล็กขยุ้มลุ่มผมดำสนิทของเขาที่กำลังซุกไซร้แล้วดูดซับจนร้อนผะ ผ่าว
“นี่... อย่าดึงลงนะเดี๋ยวโป๊...”
ธาราผละออกเพียงแค่ริมฝีปาก เขาวางคางบนเนินอกฉันแล้วเงยหน้าขึ้นมามองหน้ากัน
“แป้ง... อย่าทำหน้ายั่วเย- เดี๋ยวจะอดใจไม่ไหว”
คำพูดตรงไปตรงมาทำเอาหัวใจฉันเต้นรัว
“ถอยไป... ธา... อย่ารั้งเสื้อ อื้อ~”
ธาราลากลิ้นเลียตั้งแต่กลางร่องอกลากยาวมาถึงกึ่งกลางลำคอก่อนจะขยับขึ้นมาเลียถึงปากแล้วสอดลิ้นพัวพันลิ้นฉันพร้อมบีบขย้ำหน้าอกฉันเต็มฝ่ามือ
ฉันร้องครางเสียงหลงแอ่นรับมือหนาที่บีบขย้ำอย่างมันมือ สติสตังกระเจิดกระเจิงจนเบลอไปหมดแล้ว
“ยะ หยุด! หยุด!”
ฉันต้องหยุด ต้องหยุดก่อนที่มันจะเลยเถิดไปมากกว่านี้
Talk
ซึนมาก พูดน้อยแต่รุกหนัก ขี้หึง ขี้ยั่วต้องธาราคนเดียวเลย
1 เม้น 1 กลจ นะคะ