[ทำการเปิดระบบ...]
“ค..ค..คุณครับ..คือ.. are you ok?”
ร่างตรงหน้าหันหน้ามาทางนี้ทันทีที่ผมเอ่ยปากถามออกไป ดวงตาสีฟ้าหม่นดูไร้ชีวิตชีวาแปลกๆ “....” ไม่พูดอะไรเลย เขาจ้องหน้าผม แต่ไม่พูดอะไรเลย อะไร ความจำเสื่อม? เขา..หรือจะงงที่ตัวเองมาอยู่ที่นี่? “โอเค..ไหมครับเนี่ย?” เอ๊ะ หรือมนุษย์ต่างดาวถูกจับตัวมาแล้วหนีมาด้วยการขนส่งพัสดุเหรอ? เขาโอเคจริงไหมเนี่ย?
“.....”
ไม่ตอบอะไรเช่นเคย ถ้าพี่เล่นไม่พูดผมจะรู้ไหมล่ะว่าจะช่วยยังไงเนี่ย? “คุณพาวิน”
“อ..เอ๊ะ?” เขา..รู้จักชื่อผมได้ไง เราไม่เคยเจอกันนะ หรือใครบอกหรืออะไรยังไง... หรือมนุษย์ต่างดาวจะสืบประวัติของผมมาเพื่อหาจุดอ่อนในการแทรกแซงมนุษยชาติ? มันเกิดอะไรขึ้น ผมกำลังสับสนสถานการณ์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เขาหันมองรอบๆ บ้านผมด้วยท่าทางแข็งๆ ทื่อๆ ก่อนจะลุกพรวดออกมาจากกล่อง ยืนนิ่งตัวตรงดุจยืนเคารพธงชาติ
“เอ.. เฮ้ คุณโอเคไหมครับ?”
“โอ๊ะ...” โอ๊ะ? โอ๊ะอะไร? แล้วจ้องมาตรงนี้ด้วยสายตานิ่งๆ นั่นคืออิหยังหว่ะนิ? “ผมเป็นหุ่นยนต์ที่ถูกส่งมาจากบริษัทที่คุณทำข้อตกลงทดสอบผม ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อทดลองศักยภาพทางการทำงานช่วยเหลือมนุษย์ในอนาคตครับ”
“อ...ห..ห้ะ? อะไรนะครับ เอ่อ..คุณหมายถึง..”
เมื่อกี้...เขาบอกว่าเป็นหุ่นยนต์.. จริงดิ? ม..ไม่ใช่เอเลี่ยนบุกโลกงั้นเหรอ หรือนี่อาจเป็นแผนการเหมือนกันน่ะ!? ร..หรือบางที นี่อาจเป็นการแกล้งกันของรายการอะไรหรือเปล่า? “เอ่อ..ฮ่า ฮ่า คุณอำผมเล่นจริงๆ ใช่ไหมครับเนี่ย มีกล้องแอบซ่อนไว้ใช่ม๊า ฮ่า ฮ่า” แน่ๆ มันต้องเป็นเรื่องตลกหรือมีใครมาทำข่าวแกล้งแล้วซ่อนกล้องเพื่อดูความโป๊ะแตกของผมแน่ๆ เรียลลิตี้โชว์ของมหาลัยเหรอ แล้วทำไมเขาต้องเจาะจงมาทางผมก่อนล่ะผมก็ไม่ได้ดีเด่เด่นอะไรในมหาลัยสักหน่อย ถึงจะเคยเป็นเดือนมหาลัยมาก่อนก็เถอะ แต่หลังจากหมดยุคก็ดับดิ้นสนิทไม่มีใครสนใจไม่ใช่เหรอ
“...กล้อง? ซ่อน?”
เขาพูดพลางเลิกคิ้วยกสูงปั้นหน้าปั้นตาสงสัยมาทางผมเหมือนไม่รู้จริงๆ เขาบอกว่าเขาเป็นหุ่นยนต์จะให้ผมเชื่อได้ไง ในเมื่อมันคนไม่ก็เอเลี่ยนบุกโลกชัดๆ อ่ะน่ะ... ไม่ได้ อย่าไว้ใจคนตรงหน้าเด็ดขาดเชียว นี่อาจจะเป็นกลยุทธ์ในการอาศัยเข้ามาแฝงตัวก็ได้
“ทางบริษัทแนบจดหมายไว้กับกล่อง เพื่อแจ้งรายละเอียดและข้อปฏิบัติในการดูแลและการใช้งานของผมด้วยนะครับ เผื่อคุณไม่เข้าใจการใช้งานของผม หรือจะถามข้อมูลที่คุณอยากรู้ ผมเปรียบเสมือนระบบปฏิบัติการAIเคลื่อนที่ เป็นปัญญาประดิษฐ์ที่ถูกสร้างขึ้นจากบริษัทชั้นยอด เพื่อตอบโจทย์การใช้งานเพื่ออำนวยความสะดวกของมนุษย์ ในหัวของผมมีฐานข้อมูลทั้งหมดที่รวบรวมไว้ได้ พูดได้ทั้งหมดสี่ร้อยหกสิบเจ็ดภาษาและภาษาท้องถิ่นสองร้อยห้าสิบแปดรูปแบบ และยัง..”
“เดี๋ยวก่อนครับ เดี๋ยวๆ ๆ” พูดคล่องยังกับเซลล์แมนขายสินค้าแต่อันนี้มาในรูปแบบขายตัวเองอย่างงั้นแหละ ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่จ้องมองไปยังในกล่องที่มีกระดาษเหมือนสมุดเล่มไม่หนามากอยู่ด้านใน “คู่มือ..” หยิบมันขึ้นมาจ้องอย่างไม่เข้าใจตัวเอง “บริษัท Android Generation Soft. บริษัทนี่มันที่เคยเปิดตัวโทรศัพท์แบบไร้สายชาร์จแต่เป็นชาร์จจากแทนชาร์จแบบพกพาเมื่อปีที่แล้วไม่ใช่เหรอ”
“ฉันไปสมัครบ้าอะไรตอนไหนทำไมไม่รู้...อ่ะ! เมื่อคืน...”
ภาพวูบเข้ามาในหัวตอนที่ตัวเองกำลังกดคลิกเมาส์อย่างเมามันขณะกำลังเมา ใช่..ต้องเป็นตอนนั้นแน่เลย ไอ้บ้าเอ้ย ทำอะไรลงไปเนี่ยไอ้วิน
ผมนั่งเปิดคู่มือด้วยในหัวที่ตอนนี้ยิ่งพันกันยุ่งเหยิง อะไรเนี่ย...ข้อกำหนด การดูแล พลางจ้องหน้ามองอีกฝ่ายเล็กน้อย อืม..ยังดีที่อย่างน้อยก็ไม่ใช่เอเลี่ยนที่อุตริขึ้นมาเอง “เนื่องจากเป็นตัวทดลองตัวแรกจึงอาจมีข้อผิดพลาดทางระบบมากมายที่ยังอยู่ในขั้นทดสอบ คุณสามารถเพิ่มข้อมูลพื้นฐานที่สมควรลงไปในผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มขอบเขตความรู้ของเขาเองได้ “ตึก” โดยวิธีนั้นเป็นวิธีเดียวกับการสอนแบบปกติเพื่อให้เขาได้พบ” ตึก” กับสถานการณ์ต่างๆ ... “ตึก” ทั้งนี้ยังมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ... “ตึก” เฮ่ย! เสียงไรวะ แล้วนายจะเดินชนกำแพงทำไม?”
อยู่ดีๆ ก็เดินเอาหน้าไถ๋กำแพง เขา...เต็มหรือเปล่าเนี่ย? แต่..เออจะยังไงก็ช่าง เอาเป็นว่ายังดีที่ไม่ใช่ศพล่ะนะ
“นี่ นายชื่ออะไร?”
“ผมไม่มีชื่อครับ คุณจะตั้งชื่อให้ผม.. ใช่ไหม?”
แล้วแกเห็นว่าในบ้านหลังนี้มีคนอื่นนอกจากฉันที่ตั้งให้ได้หรือไงกันนะ? มีแค่ฉันที่อยู่ที่นี่ หนุ่มที่พึ่งโดนแฟนทิ้ง เอาเถอะ มันผ่านมาแล้วจะให้ไปคิดมากอีกทำไมยิ่งอารมณ์ดิ่งเข้าไปใหญ่ ผมยกมือขึ้นมากุมคางตัวเองเล็กน้อยโดยใช้หัวสมองคิดชื่อไปพลาง การตั้งชื่อให้ มันไม่ใช่ความคิดที่ดีของผมเลย ผมเกลียดการตั้งชื่อ ชื่ออะไร ไอ้แดง ไอ้ดำ ละมุด “ชื่ออะไรดีนะ”
“นั่นชื่อผมเหรอครับ?”
“ไม่ใช่เว้ย! ฉันหมายถึงจะตั้งชื่ออะไรดี”
“ตั้งชื่อผมว่าอะไรดีเหรอครับ? ”
“ก็บอกว่าไม่ใช่ไงเว้ย!! หมายถึงกำลังคิดชื่อให้อยู่” เขา..ซื่อบื้อเกินไปหรือเปล่าเนี่ย? คิดว่าตัวเองกี่ขวบแล้ว? ร่างตัวเองไม่ใช่เด็กอนุบาลนะเฮ่ย ในตอนที่กำลังคิดว่าจะตั้งอะไรให้เขา ในใจมันก็ผุดคิดชื่อหนึ่งขึ้นมา “เชน นายชื่อเชน”
“เชน... เป็นชื่อที่ดีนะครับ”
“ชื่อแมวที่เคยเลี้ยงน่ะ จนวันนึงมันหนีออกจากบ้านแล้วก็หายไปเลย รู้ตัวอีกทีมันดันไปทำแมวตัวเมียท้องมีลูกเป็นคอกเลย-..-”
“เป็นการกระทำที่ไม่ดีเลยนะครับ”
“ใครบอกว่าดีกันเล่า ช่างเถอะ มันผ่านมาแล้ว อีกอย่างเลี้ยงสัตว์ภาระก็เยอะด้วย อ้ะ อะไร?” มือหนาคว้ามือผมเข้าไปกุมไว้พร้อมกับจ้องมาด้วยสายตามุ่งมั่น อะไร เขา... “ผมไม่มีทางทำแบบนั้นแน่นอนครับ ถ้ามันทำให้คุณรู้สึกไม่สบายใจ” เอ๊ะ อ่า..ไอ้ความรู้สึกใจตุ้มๆ ต่อมๆ นี่มันอะไรกันเนี่ย?
“อ่ะ อ่า..ฮ่า ฮ่า เอ่อ.. ไม่ทำก็ดี”
ผมชักมือออกจากเขาอย่างรวดเร็วด้วยความเกร็งๆ อะไรกัน ไอ้บรรยากาศแปลกๆ นั่น ขนลุกชะมัดเลย แต่พอกำลังคิดไปคิดมาอยู่กับเรื่องของเขา ไอ้ผมก็รู้สึกไม่สบอารมณ์กับชุดที่เขาใส่ มันแบบว่า ถ้าใส่เดินไปข้างนอก ไม่ถูกมองว่าเป็นเจ้าของบริษัทก็คงมองเป็นมาเฟียหน่วยสอดแนมอะไรสักอย่าง
“ชุดนาย เห็นแล้วดูเกร็งจริงๆ ยังกับว่าฉันนั่งคุยกับเจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่แล้วมันรู้สึกแปลก ตัวนายใหญ่กว่าฉันคงใส่เสื้อฉันไม่ได้... ไหนๆ ก็ว่างแล้ว ฉัน...ฉันตัดชุดให้แล้วกันนะ มานี่สิ”
ดวงตาเป็นประกายจ้องมองมายังผมอย่างไม่กะพริบ ผมเดินตรงมายังห้องเล็กอีกห้องที่เต็มไปด้วยผ้าหลายสีสันหลายชนิดของเนื้อผ้า รวมถึงโต๊ะเอาไว้ร่างเค้าโครง จักรเย็บผ้า รวมถึงหุ่นลองชุด ครับ อนาคตผมวาดฝันไว้ว่าอยากเป็นดีไซเนอร์ออกแบบเสื้อผ้า เพราะการตัดชุดการออกแบบพวกมัน ทำให้ผมรู้สึกได้พักอะไรจากเรื่องเหนื่อยๆ เพราะงั้นของพวกนี้มันถึงได้มีอยู่เต็มบ้านไปหมด
“เอาล่ะเชน นายมายืนตรงนี้ แล้วก็กางแขน”
เขาเดินตรงเข้ามาในห้องแล้วก็กางแขนออกนอกลำตัวอย่างกว้างและตรงเดะ ครับ ตรงเดะแบบหุ่นไล่กา แถมยัง...อะไรอีกวะเนี่ย
“นายจะกางขาหาพระแสงอะไรเนี่ย แค่กางแขนก็พอ หุบๆ ขานายไปเลย” ผมว่าผมตายแน่เลย ถ้าต้องดูแลเขาไปตลอดชีวิต เหมือนกับกำลัง... สอนเด็กอนุบาลร่างยักษย์ที่ไม่รู้เรื่องอะไรนอกจาก อึ กินข้าวกับวิ่งเล่นแล้วก็ทำอะไรที่ผู้ใหญ่ไม่ให้ทำ
“ขอโทษครับ”
“ไม่เป็นไร ยืนนิ่งๆ ด้วย จะวัดตัว”
ผมค่อยๆ จัดชุดสูทของเขาให้มันเรียบร้อยเพื่อที่จะวัดความกว้างรอบตัวของเขาในการวัดขนาดเสื้อให้พอดี ให้ชุดใหญ่กว่าสักนิดนึงจะได้ใส่สบาย แขนยาวดีไหมนะ? แต่..ประเทศไทยอุณหภูมิร้อนแรงเหมือนแจกตั๋วเที่ยวบินอยู่ทะเลทราย ช่างเถอะ แขนสั้นใส่สบายก็พอ จะว่าไป... รูปร่างดียังกับนายแบบเลยนะเนี่ย
“นี่ ถามไรหน่อย”
“ครับ”
“นายเป็นหุ่นยนต์ใช่มะ แบบว่า ต้องกินอาหาร นอนพักผ่อนชาร์จแบตอะไรไหมอะ แล้วถ้าต้องชาร์จแบตชาร์จตรงไหน เสียบสายตรงตูดเหรอ?”
“ตูด? คืออะไรครับ” เออ... ไม่ควรหยอดมุขอะไรใส่เขาจริงเพราะมันแป๊ก แม้แต่เรื่องนี้ก็ไม่รู้เหรอเนี่ย! “อ่า...ก้นอ่ะ ที่..ที่อยู่ข้างหลัง เป็นสองลูกกลมๆ ...”
“ตรงนี้เหรอครับ?”
“เฮ้! แล้วจะจับก้นตัวเองทำไมเนี่ย? กางแขนเหมือนเดิมเลย”
ผมจับแขนของเขาให้กลับขึ้นมากางไว้แบบเดิมแล้วเริ่มวัดรอบๆ ตัวของเขาต่อ แบบว่าพอลองจับแขนหรือสัมผัสเขาแล้วเหมือนคนจริงๆ เลย เนื้อผิวนุ่มเหมือนผิวสัมผัสของมนุษย์ บริษัทนั่นใส่ใจรายละเอียดแม้กระทั่งเรื่องผิวเหรอเนี่ย จับไปตรงส่วนไหนก็เจอแต่เนื้อกดลงไปแล้วสัมผัสเหมือนกระดูกข้างในมีอยู่จริงๆ เลย ถึงจะรู้สึกเหมือนพลาสติกเพราะมันดูลื่นๆ นิดหน่อยบางส่วนก็เถอะ แต่ถือว่าถ้าบริษัทนี้เปิดตัวเขาล่ะก็ มันจะต้องเป็นสิ่งที่ประสบความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่แน่ๆ
“ผมสามารถชาร์จพลังงานได้โดยการยืนพักระบบในเวลาที่ไม่จำเป็นต่อการเคลื่อนที่ หรือนอนหลับแบบมนุษย์ ไม่จำเป็นต้องทานอาหารหรือของว่างเพื่อลดต้นทุนของผู้บริโภค ชาร์จแบตเตอรี่ตรงก้นที่คุณว่า ก็ใช่ครับ แต่ผมชาร์จที่ท้ายทอยของตัวเอง”
“งั้นแสงกะพริบๆ ที่ท้ายทอยนายนั่นก็ไว้แสดงแบตเหรอ?” ผมใช้ปลายนิ้วเคาะลงบนพลาสติกหลังท้ายทอยของเขาเบาๆ และมันก็เกิดแสงกระพริบขึ้นมาก่อนที่จู่ๆ จะมีช่องให้เสียบสายชาร์จโผ่ลออกมาจากคอของเขา
“ถ้ากดมันลงไปหรือว่าเคาะมัน มันจะเปิดช่องให้ต่อสายชาร์จนอกจากพวกนี้แล้ว ผมมีฟีเจอร์เสริมในการพักผ่อนชาร์จพลังงานเพื่อเพิ่มบทบาทความรู้สึกให้ผู้ใช้รู้สึกสบายและมีประสบการณ์ใหม่ๆ ด้วยนะครับ”
“เหรอ น่าสนใจดี แล้วมันอะไรล่ะ? เอ๊ย! อ..อะไรเนี่ย?!”
อยู่ดีๆ เชนก็ฟุบหน้าตัวเองลงมาบนไหล่ของผมแล้วสวมกอดไว้แน่น “เดี๋ยวนี่มันอะไร?!” เขาเงยหน้าขึ้นมาจ้องผมเหมือนคนหมดแรง ตอนนี้หน้าของเรามันใกล้กันจนแทบจะหายใจลดใส่หน้าแล้วด้วยซ้ำ
“มันคือกอดครับ เป็นฟีเจอร์เสริมสามารถเพิ่มแบตเตอรี่ของผมแบบไร้สาย นอกจากกอดแล้ว ยังมีการจูบ และการมีเพศสัม... อุ้ก!? ... (. .) ? “ผมรีบเอามือขึ้นมาปิดปากเชนไว้แน่นในทันทีที่เขากำลังจะพูดเรื่องสะหยิ๋วกิ้วใต้สะดือแบบหน้าตาเฉยออกมา เขา..เขากล้าพูดมันออกมาได้ยังไงด้วยสีหน้าดูไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไรนั่นเลย น่ากลัวชะมัด
“อ๊ากกก ฮ่า ฮ่า ฮ่า พอเถอะนะ เราเลิกพูดเรื่องชาร์จๆ นี่เถอะ ฮ่า ฮ่า”
เวรเอ้ย! ฉันต้องประสาทกินกับเจ้าหุ่นยนต์บ้าที่มีดีแค่หน้าตาอย่างเจ้านี่แน่ๆ
[ความรู้เพิ่มขึ้น2% ห้ามพูดเรื่องอย่างว่าให้พาวินได้ยิน เพราะเขาจะหูแดงและกระวนกระวาย...]