--------------------------------------------------
บ้านหรูทรงโมเดิร์นที่บาสย้ายมาอยู่ใหม่ เขากำลังจัดเตรียมและย้ายข้าวของให้เข้าที่ โดยโทรหาหนุ่ยพนักงานที่แผนกตัวเอง เพราะหนุ่ยเป็นผู้ชายคนเดียวที่เขาค่อนข้างสนิท เลยเรียกใช้น้องบ่อยๆ ครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งที่บาสเรียกใช้หนุ่ยมาขนของและย้ายของให้ หนุ่ยพอเดินเข้ามาที่บ้าน เขาก็ตื่นตาตื่นใจกับบ้านหลังใหญ่โตของชายวัยสามสิบห้าปี บาสเป็นชายโสด ที่ยังไม่แต่งงาน และยังไม่มีแฟน บ้านหลังนี้มันอาจจะดูกว้างขวางกับการอยู่คนเดียวไปหน่อย หนุ่ยเลยแอบขอบาสมาอาศัยอยู่ด้วย
“มึงจริงจังใช่ไหม”
“จริงจังสิพี่ พอพี่บอกว่าเจอคุณตินที่สวนสาธารณะ ผมก็พร้อมมาอยู่กับพี่เลย”
“กูให้มึงมาช่วยขนของ ไม่ใช่ย้ายมาอยู่กับกู ไอ้หนุ่ย!”
“พี่ก็ถือว่า ผมเป็นเลขาพี่เลยแล้วกัน”
“เอาความจริง”
“ไม่มีที่ไปครับ ค้างค่าเช่าไว้สามเดือน เลยมาขออยู่กับพี่ชั่วคราว” หนุ่ยคุกเข่าจับขาขอร้องชายวัยสามสิบห้า ถึงเขาจะไม่ค่อยเห็นด้วยมากหนักแต่บาสก็ไม่ใช่คนใจร้ายจนถึงขั้นปฏิเสธ
“ชั่วคราวนะมึง”
“ครับผม!” หนุ่ยขานรับทันที เขารีบคว้ากระเป๋าใบโตที่แอบเก็บของมาเรียบร้อย เดินตรงที่ห้องชั้นบน ห้องนอนกว้างขวางที่เขาแทบจะเอาร่างกายตัวเองฟุบลงอย่างเต็มที่ แต่ก็มาได้ยินเสียงเรียกอันดังและทรงพลังจากด้านล่าง
“ไอ้หนุ่ย! นั่นห้องกู” หนุ่ยเดินออกมาจากห้องอย่างสงบเสงี่ยม ถึงเจ้านายจะไม่ได้ให้เขาอยู่ห้องนั้น แต่ห้องที่เขาได้อยู่ก็ไม่ได้ขี้เหร่เลย เกินคาดมากตั้งหาก อย่างว่าบ้านหลังใหญ่โตขนาดนี้ อยู่คนเดียวเหงามากแน่
“บ้านหลังใหญ่ขนาดนี้ ให้ผมมาเป็นเมียชั่วคราวพี่ยังได้เลย” หนุ่ยที่จัดเตรียมของเรียบร้อย เขาก็มาจัดอาหารให้บาส ด้วยความที่หนุ่ยเป็นเด็กบ้านๆ ชอบดื่มเหล้าและเบียร์เป็นชีวิตจิตใจ เรื่องอาหารเลยไม่ขาดตกบกพร่อง เพราะทำกับแกล้มบ่อย เขาจัดอาหารให้บาสทาน ก่อนที่จะเตรียมตัวไปทำงาน
“ผมจะทำกับข้าวให้พี่ ขับรถให้พี่ ทำทุกอย่างให้พี่เสมือนเมียทิพย์เลยครับ” นัยน์ตาสีดำขลิบมองอย่างขุ่นๆ ไปยังหนุ่ย ผู้ชายตัวเล็ก ที่ไม่สูงมากหนัก เขาสูงประมาณ 170 กว่าๆ เขาเป็นเด็กหนุ่มที่เพิ่งจะอายุเพียง 25 ปี เขาอยู่ในชุดผ้ากันเปื้อนสีเขียวอ่อน กำลังจัดเตรียมอาหารเช้าให้ผู้ชายวัยสามสิบห้าปี ที่ไม่ยอมเอาตัวเองลงจากคานและหาเมียเป็นตัวเป็นตน จนต้องมาพึ่งอาหารของเด็กหนุ่มอย่างหนุ่ย เขามองหนุ่ยนิ่งๆ และตอบกลับเสียงแข็ง
“กูไม่ได้จะเอามึงเป็นเมีย”
“ซ้อมๆ ไง”
“ว่าแต่ ซื้อบ้านรอพี่จูนตกลงเป็นเมียว่างั้นเถอะ”
“มึงนี่ พูดมากจริงๆ นะ”
“ผมแค่สงสัย ผมเห็นพี่จีบมานาน ผู้หญิงก็ไม่ใจอ่อนเลย พี่รุกบ้างไหม พี่จูนเขารู้ไหมว่าพี่จีบ”
“น่าจะรู้ ก็กูจีบเขามาตั้งแต่เรียน”
“แต่เขาก็ไม่เอาพี่ เห็นพี่สาบอกพี่จูนตั้งแต่เลิกกับแฟนเก่า ก็โสดยาว โอกาสนี้เหมาะที่สุดพี่”
“รุกเลย เต็มที่!” หนุ่ยตะโกนอย่าห้าวหาญ เขาเชียร์สองคนนี้เสมอ ก็แทบจะเป็นพ่อสื่อพ่อชักให้ตลอด เพราะเขารู้ดีว่าบาสชอบจูน หนุ่ยมักจะเป็นสายแซว สายเสียมในบริษัท เขามักยุบาสให้ทำแบบนั้นแบบนี้ ครั้งนี้ก็เหมือนกันที่เขายุให้เจ้านายตัวเอง รุกเท่านั้น!
@บ้านติน
“วันนี้นายมีถ่ายโฆษณาที่บริษัทฉันนะ” ฉันกำชับติน เขาเพิ่งกลับมาจากวิ่งเสร็จ ฉันก็ต้องมาทำหน้าที่ภรรยาที่แสนดี โดยที่สามีตัวเองไม่ต้องทำอะไรเลย เขาก็แค่วิ่งเสร็จก็มานั่งกินข้าวอย่างสบายใจ ฉันบอกแล้วว่าชีวิตแต่งงานมันคือทาส! ทาส!
“ไปด้วยกันไหม” อยู่ดีๆ เขาก็เอ่ยปากชวนฉันไปทำงานด้วย พระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก ธรณีจมแน่นอน ร้อยสี่สิบวันที่ผ่านมา เขาไม่เคยคิดจะเอ่ยปากชวนฉันไปทำงาน ถ้าไม่มีเหตุจำเป็นจริง รถหรูสีดำที่ฉันล้างมันทุกเช้าค่ำที่จอดไว้ที่โรงจอดรถของบ้าน ฉันไม่มีโอกาสได้เอาก้นงามของตัวเองหย่อนเลย ฉันนั่งได้สี่ห้าครั้งได้ นั่งจนนับจำนวนได้ นอกนั้นฉันเดิน นั่งแท็กซี่ นั่งรถเมล์ โบกรถเพื่อน วิถีชีวิตของคนทั่วไป แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่าฉันนี้แหละเมียซุปเปอร์สตาร์เบอร์หนึ่งในไทย
“พี่จอร์นล่ะ”
“พี่จอร์นลาป่วย”
“อ่อ...เอาฉันไปเป็นผู้จัดการส่วนตัวแทนสินะ”
“ใช่” เสียงตอบอย่างเสียงดังฟังชัด ตินไม่เคยเอาฉันนั่งรถคันนั้นในฐานะภรรยาเลย นอกจากฐานะคนใช้!
Rr…Rr…
ระหว่างกินข้าว โทรศัพท์ฉันก็สั่นสายเรียกเขามาจากเพื่อนสนิทที่สุดในรุ่น เพราะนอกนั้นไม่มีคนอยากสนิทด้วย ฉันรับสายเพื่อน ปลายสายก็ทำเสียงแตกตื่นใส่
(“ฉันได้ข่าวว่าพี่บาสซื้อบ้านที่ซัมดง!”)
“แกรู้ได้ไง ฉันยังไม่ได้เล่า”
(“อีหนุ่ย อีเด็กเผือกของแผนกเราโทรมาบอก”) ฉันถอนหายใจเฮือกใหญ่ ที่ถอดหายใจไม่ใช่เพราะหนุ่ยเอาเรื่องไปบอกสา แต่ที่ถอดหายใจหนักและนานขนาดนี้ก็หลังจากนี้ฉันจะดำเนินชีวิตตัวเองยังไง ฉันจะต้องหลบซ่อนไปถึงเมื่อไร ปกติก็หลบมากอยู่แล้ว ตอนนี้ต้องคูณการหลบไปอีกสองเท่าตัว หายนะอยู่ใกล้ๆ
(“ฉันก็บอกไปแล้ว ให้ปฏิเสธพี่บาสไปตรงๆ ว่าหนูมีผัวแล้วค่ะ”)
“เขาก็ต้องถามต่อว่าคือใคร”