บทที่ 1 ยุติความสัมพันธ์

1824 Words
‘มีลูกกวนตัว มีเมียกวนใจ อยู่เป็นโสดแบบนี้ดีแล้ว’ ความคิดนี้ผุดขึ้นมาในหัวของ นายแพทย์วศิน สิริโยธินกุล หรือ หมอวา หลังจากเห็นเพื่อนสนิทคุยโทรศัพท์กับภรรยาและลูกๆ พร้อมกับตอบไปว่า ครับๆ ได้ครับ สมาคมพ่อบ้านไม่ใช่ทางของเขา แน่นอนเพราะเขาจะครองตัวเป็นโสดให้สาวๆ เสียดายเล่น “เป็นยังไงบ้างครับคุณพ่อลูกดก วันนี้คุณมึงโดนคุณเมียกับลูกๆ สั่งให้ทำอะไรอีก” นายแพทย์คนโสดแต่ไม่สดยกยิ้มมุมปากหลังจากเอ่ยถาม เพื่อนสนิทของเขาชื่อข้าวฟ่าง แต่งงานกับดาราสาวที่ชื่อคะน้า คะนึงนิจไปเมื่อหลายปีก่อน ปัจจุบันพวกเขามีลูกด้วยกันสามคนและแต่ละคนแสบๆ ทั้งนั้นโดยเฉพาะคนเล็ก “อยากกินเค้กที่ร้านข้างโรงพยาบาล ก่อนกลับฝากให้กูซื้อ” คุณพ่อตอบกลับด้วยรอยยิ้มเปี่ยมสุข ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นเรื่องยุ่งยากหรือวุ่นวายเลยกับการไปซื้อของกินตามที่เมียกับลูกต้องการ แค่ได้ยินเสียงอ้อนเขาก็พร้อมรับคำสั่ง “น่าสงสาร พ่อหรือเบ๊ เดี๋ยวเมียบ้าง เดี๋ยวลูกบ้าง กูไม่เอาด้วยหรอกชีวิตแบบมึง” ชายหนุ่มบิดปากใส่เพื่อนพร้อมยักคิ้วหลิ่วตาเพราะมั่นใจว่าตนเองจะไม่เข้าไปอยู่ในวังวนคนกลัวเมียอย่างแน่นอน คุณหมอวศินจะครองตัวเป็นโสดตลอดไป “มึงไม่เอาเพราะยังไม่ลอง มีเมียมีลูกมีความสุขจะตาย” ในฐานะคนมีประสบการณ์มาก่อน บอกได้คำเดียวสุขจนล้น แค่คิดถึงภรรยากับลูกๆ แววตาของเขาก็เปล่งประกายไปด้วยความสุข หากแต่คุณหมอวศินกลับส่ายหน้าเพราะไม่เชื่ออย่างที่คุณหมอข้าวฟ่างคุยโม้โอ้อวด “ไม่เอาหรอก สมาคมพ่อบ้านจะต้องไม่มีชื่อกูอยู่ในนั้น” น้ำเสียงที่เปล่งออกมาเต็มไปด้วยความมั่นใจ ทำให้เพื่อนสนิทที่รู้เรื่องแทบทุกอย่างต้องหรี่ตาจับผิด “เหรอ แต่กูเห็นมึงยังอยู่กับเด็กคนนั้น หลายปีแล้วนี่ ปกติมึงไม่เคยเลี้ยงใครเกินสามเดือน” คุณหมอข้าวฟ่างหมายถึงผู้หญิงที่เพื่อนเลี้ยงดู ถึงจะไม่ได้เจอกันนานมาก แต่เขาก็พอจะจำหน้าตาของเธอได้ เพราะเธอคือเด็กในบ้านของนายแพทย์วศิน “หลายปีอะไรล่ะ ก็แค่สองปีเอง กูกำลังจะยกเลิกสัญญา” หากไม่ยกเลิกเขาอาจจะถลำลึกไปมากกว่านี้ ไม่เอาหรอกเขาไม่อยากเป็นคนที่มีครอบครัวเหมือนเพื่อน แค่คิดก็สยอง อีกอย่างเขาก็อยากลองดู หากแยกทางกับเธอชีวิตจะเป็นอย่างไร “ทำไมวะ หรือว่าคุณปู่ของมึงจะบังคับให้มึงแต่งงาน” “เปล่า กูก็แค่อยากใช้ชีวิตอิสระ ถ้าหิวก็แค่ซื้อกินครั้งคราว” “กลัวหลงรักเธอเหรอ” “คนอย่างกูไม่หลงรักใครง่ายๆ หรอกโว้ย” “ถามจริง มึงพร้อมให้น้องมินไปมีผัวใหม่เหรอวะ” “จริงสิ กูกับมินตราเป็นแค่คู่สัญญา ไม่ได้ผูกพันทางใจ ทำไมจะไม่ได้ ปล่อยเธอไปตอนนี้ดีแล้ว” ชายหนุ่มไหวไหล่เล็กน้อยหลังจากให้คำตอบ จากนั้นก็คว้าโทรศัพท์ออกมาแล้วกดข้อความส่งไปให้ผู้หญิงบนเตียงที่เขาเลี้ยงดูมาเป็นเวลาสองปี มันถึงเวลาแล้วที่เราต้องต่างคนต่างไป มินตรา มีโชค หรือ มิน หญิงสาวที่ไว้ผมยาวไปจนเกือบถึงกลางหลัง รูปร่างไม่อ้วนไม่ผอมจนเกินไปกำลังยุ่งวุ่นวายอยู่กับงานบ้าน หลังจากได้ยินเสียงแจ้งเตือนของโทรศัพท์ก็รีบวางทุกอย่างลงแล้วเปิดข้อความอ่านอย่างรวดเร็ว เธอยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อผู้ชายที่หลงรักมาตั้งแต่เด็กส่งข้อความมาบอกว่า เย็นนี้จะมาหาและกินข้าวเย็นด้วย เขามีเรื่องจะคุยกับเธอ ใช่ว่าเขาคนเดียวที่มีเรื่องจะบอก เธอเองก็มีเรื่องอยากบอกเขาเหมือนกัน Minmin : คุณวาอยากกินอะไรเป็นพิเศษไหมคะ Dr.Wa : ผมแล้วแต่มิน ไม่ต้องทำเยอะหรอก Minmin : ได้เลยค่ะ มินจะทำให้สุดฝีมือเลย Dr.Wa : ผมจะรอชิม แต่มินทำอะไรก็อร่อย Minmin : งื้อออ ขอบคุณสำหรับคำชมค่า หลังจากคุยกับเขาผ่านทางแชตเสร็จเรียบร้อย หญิงสาวเดินยิ้มหน้าบานไปทางห้องน้ำ ก่อนจะมองแท่งตรวจครรภ์ห้าอันที่วางอยู่หน้ากระจก ซึ่งผลที่ออกมาเป็นไปในทางเดียวกันหมด นั่นก็คือเธอกำลังตั้งครรภ์ เธอไม่รู้ว่าคุณหมอวศินจะดีใจไหม หากรู้ว่าตนเองกำลังจะได้เป็นพ่อคน ทว่าครู่เดียวใบหน้าที่กำลังยิ้มแย้มด้วยความตื้นตันกลับเศร้าขึ้นมาทันตาเห็นเมื่อคิดถึงความเหมาะสมของเราสองคน เธอเป็นแค่หลานสาวแม่บ้านจนๆ ส่วนเขาเป็นถึงลูกผู้ดีมีเงินจะยอมแต่งงานหรือรับผิดชอบตนเองเหรอ อีกอย่างเขาไม่ได้รักเธอ เรื่องอื่นยังไม่สำคัญเท่าเรื่องหัวใจ คิดถึงตรงนี้น้ำตาก็พลันไหลออกมา “ไม่เป็นไรนะ ถ้าเขาไม่สนใจเราก็ดูแลลูกเอง” หญิงสาวยกมือขึ้นมาลูบท้องที่ยังดูไม่ออกว่ามีเจ้าก้อนตัวจิ๋วกำลังอาศัยอยู่ ถึงเธอจะเกิดมาในครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์ แต่เชื่อว่าต้องดูแลลูกได้เป็นอย่างดีแน่ ไม่ว่าพ่อของลูกจะยอมรับหรือไม่ก็ตาม เวลาผ่านไปจนกระทั่งช่วงเย็นของวันมาถึง หลังจากพระอาทิตย์ลับหายไปจากขอบฟ้าได้ไม่นาน ประตูคอนโดก็ถูกเปิดเข้ามาพร้อมกับการปรากฏตัวของนายแพทย์วศิน หญิงสาวที่กำลังนั่งรออย่างใจจดใจจ่อจึงรีบเข้าไปสวัสดีแล้วกอดอย่างเต็มรัก ในขณะที่ชายหนุ่มยืนตัวแข็งก่อนจะดึงตัวเธอออกห่างแล้วจ้องเข้าไปในดวงตา “ไปนั่งเถอะ ผมมีเรื่องจะคุยกับมิน” เขาพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ห่างเหินจนคนฟังสัมผัสได้ “ทำไมดูเครียดจัง เรื่องสำคัญเหรอคะ” เธอถามด้วยความสงสัย ในใจเกิดรู้สึกหวิวๆ ขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุเมื่อได้สบตาคมเข้มที่กำลังจ้องมองมา “ครับ สำคัญมาก” ถ้าไม่สำคัญเขาคงไม่ทำหน้าเคร่งขรึมขนาดนี้ ชายหนุ่มบอกตัวเองมันถึงเวลาแล้วที่เราสองคนต้องแยกทางกัน ต่างคนต่างไปมีชีวิตของตนเอง มินตราจะได้เจอผู้ชายที่ดีกว่าเขา ผู้ชายที่ไม่เห็นแก่ตัว “เรากินข้าวก่อนไหมคะแล้วค่อยคุย มินทำกับข้าวหลายอย่างเลย” เธอผายมือไปทางห้องครัว ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มทำให้คนที่อยากจะพูดเรื่องสำคัญใจอ่อนยวบ ในเมื่อเธอตั้งใจทำอาหารขนาดนี้เขาก็ควรกินข้าวให้เสร็จก่อน “ก็ดีเหมือนกัน ทำไมมินดูหน้าซีดๆ ไม่สบายรึเปล่า” เขายกมือขึ้นมาแตะหน้าผากเธอด้วยความห่วงใย “เปล่าค่ะ คงทำงานบ้านเยอะไปหน่อยก็เลยเหนื่อย” “วันหลังก็จ้างแม่บ้านมาทำ มินไม่ต้องทำเองหรอก” “ก็มินอยู่ว่างๆ ขอทำเองดีกว่า” “เด็กดื้อ มินดื้อเงียบรู้ตัวไหม” “ดื้อกับคุณวาคนเดียว” “ไปกินข้าวเถอะ ผมหิวแล้ว” “เชิญค่ะ รับรองอร่อยเหมือนเดิม” หญิงสาวยังไม่ได้พูดเรื่องท้องเพราะอยากให้ชายหนุ่มกินข้าวให้อิ่มก่อน อีกอย่างเธออยากฟังเรื่องที่เขาอยากพูดก่อนด้วย รสชาติของอาหารทำให้คุณหมอวศินพึงพอใจไม่น้อย แค่คิดว่าต่อไปจะไม่ได้กินข้าวฝีมือเธอ เขาก็เริ่มรู้สึกเศร้า “อาหารไม่อร่อยเหรอคะ ทำไมทำหน้าแบบนั้น” “เปล่าครับ อร่อยมาก อร่อยทุกอย่าง” “ถ้าอร่อยคุณวาก็กินให้เยอะๆ เลยค่ะ” “มินก็ต้องกินเยอะๆ เหมือนกัน ต่อไป...” “ต่อไปทำไมคะ วันนี้คุณวาดูแปลกจัง” “ค่อยคุยดีกว่า ตอนนี้เรากินข้าวเถอะ” ชายหนุ่มกินข้าวไปครุ่นคิดไป อย่างไรก็ต้องยุติความสัมพันธ์ของตนเองกับเด็กสาวตรงหน้าให้สำเร็จ ถึงแม้จะต้องเห็นน้ำตาของเธอก็ตาม หลังจากมื้ออาหารที่ดูเหมือนจะมีทั้งความสุขและความกังวลผ่านพ้นไป ชายหนุ่มได้บอกให้หญิงสาวไปรอตรงโซฟา ก่อนจะเดินไปหยิบเอกสารออกมาจากกระเป๋า จากนั้นก็กลับมาหาเธอที่กำลังนั่งมองด้วยความสงสัย “นี่ครับ” เขายื่นกระดาษในมือให้เธอ “เอกสารอะไรหรือคะคุณวา” เธอรับมาพร้อมกับมุ่นคิ้วมองด้วยความไม่เข้าใจ ดวงตากลมโตที่ไม่ต่างจากลูกกวางน้อยกวาดสายตาอ่านตัวอักษรในกระดาษอย่างตั้งใจ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองใบหน้าของนายแพทย์หนุ่ม “มินไม่เข้าใจค่ะ มินขอคำอธิบาย” น้ำเสียงของเธอเริ่มสั่น เหมือนจะเห็นเค้าลางบางอย่างในดวงตาของชายหนุ่ม คุณหมอวศินตัดสินใจอย่างแน่วแน่แล้วจึงกุมมือของมินตราขึ้นมา ก่อนจะอ้าปากพูดด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด “ผมยกทุกอย่างให้มิน คอนโด รถ แล้วก็เงินหนึ่งก้อน ให้มินเอาไปตั้งตัว” ถึงแม้น้ำเสียงจะดุดันแต่แววตาที่แสดงออกกลับสวนทางกัน เขาไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่ากำลังอาลัยอาวรณ์ผู้หญิงตรงหน้าขนาดไหน “มะ...หมายความว่ายังไงคะ” น้ำตาค่อยๆ ไหลออกมาอาบแก้ม เมื่อรู้แล้วว่าทำไมชายหนุ่มถึงได้ยกของทุกอย่างให้เธอ “ผมต้องการยุติความสัมพันธ์ของเรา” “ทำไมคะ เกิดอะไรขึ้น หรือคุณวากำลังจะแต่งงาน” “ครับ คุณปู่อยากให้ผมมีครอบครัว ท่านอยากให้ผมไปดูตัวกับคนรู้จัก” เขาโกหกเพราะต้องการให้เธอตัดใจ ตอนนี้บรรยากาศรอบตัวของสองหนุ่มสาวเต็มไปด้วยความอึมครึมเหมือนมีเมฆสีดำลอยอยู่เหนือศีรษะ มินตราเงียบไปพักใหญ่ก่อนจะเอื้อนเอ่ยออกมาอย่างคนที่คิดมาดีแล้ว สำหรับเธอความรักไม่ใช่การครอบครอง ในเมื่อผู้ชายที่ตนเองรักกำลังจะมีอนาคตที่ดีเธอก็พร้อมยอมหลีกทาง “ค่ะ มินเข้าใจแล้ว ถ้าอย่างนั้นมินก็ขอให้คุณวาโชคดี” ว่าที่คุณแม่ยิ้มอย่างขมขื่นไม่แม้แต่จะบอกเรื่องลูกในท้องให้พ่อของลูกได้รับรู้ ในเมื่อเขาจะแต่งงานเธอก็จะไม่ทำให้เขาต้องกังวล หลังจากนี้ต่างคนต่างไป เธอจะไปอยู่กับลูกแค่สองคน ส่วนเขาก็ไปมีครอบครัวใหม่ ไปแต่งงานกับผู้หญิงที่เหมาะสมกว่าในทุกด้าน เราสองคนจบกันแบบนี้ดีแล้ว นับตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป ชีวิตของนายแพทย์วศินจะไม่มีผู้หญิงที่ชื่อมินตราอีก และเขาจะไม่มีวันรู้เรื่องลูกอย่างแน่นอน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD