บรรยากาศภายในห้องอาหารหรู
ยังคงอุ่นละมุนจากแสงไฟสีทอง
แต่สำหรับวันวา ทุกสิ่งกลับพร่ามัว
ราวกับมีหมอกบางคลออยู่รอบตัว
.
เธอนั่งนิ่ง ไม่เอ่ยคำตอบใด
ต่อคำเชื้อเชิญของคุณหญิงพาวิณี
สมองพล่าเลือนระหว่าง
ความทรงจำอันเจ็บปวดในอดีต—
คืนวันที่เคยเจอการหักหลังจากคนที่รัก—
กับ ปัจจุบัน ที่ชายหนุ่มตรงหน้า
และมารดาของเขากำลังมอบความไว้วางใจให้
.
คุณหญิงพาวิณี
มองสีหน้าที่สั่นไหวของวันวา
ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มละมุน
“ไม่เป็นไรนะลูก ถ้าหนูยังไม่อยากตอบ…
ค่อย ๆ ดูใจกันไปเรื่อย ๆ ก็ได้
แม่ไม่ได้เร่งรัดอะไร”
เธอยิ้มอ่อน
“และแม่ต้องขอบคุณหนูอีกครั้ง
เรื่องข้อมูลบัญชีของบริษัท
เจ้าทานน์รายงานความคืบหน้าให้แม่ฟังตลอด
แม่ไว้ใจหนู เหมือนที่เคยไว้ใจคุณพิทักษ์
พ่อของหนูเลย”
.
หญิงสูงวัยสูดหายใจลึก
แววตาเปล่งประกายเมื่อรำลึกถึงอดีต
“คุณพิทักษ์…เป็นนักบัญชีฝีมือดีที่สุด
ที่แม่เคยร่วมงานด้วย
ตั้งแต่บริษัทนี้ยังไม่เข้าตลาดหลักทรัพย์
เขาเป็นคนละเอียดมาก แม้แต่หนึ่งสตางค์
ก็ไม่ยอมให้หาย ต้องตามหาจนเจอ
แม่ไว้ใจเขาได้เสมอ”
พาวิณีหันมามองวันวาเต็มตา
แฝงรอยอบอุ่นเหมือนมารดามองลูกสาว
“แล้วตอนนี้ พ่อของหนูสบายดีไหมลูก?”
วันวาได้สติ รีบตอบด้วยน้ำเสียงสุภาพ
“คุณพ่อสบายดีค่ะ ตอนนี้ท่านเกษียณแล้ว
แต่ก็ยังมีบริษัทต่างชาติเสนอ
ให้เป็นกรรมการที่ปรึกษาด้านบัญชีอยู่เรื่อย ๆ ค่ะ”
.
ทานน์ที่นั่งฟังอยู่อีกฝั่งเงียบกริบ
แววตาคมคอยจับทุกถ้อยคำ
เขามองวันวาอย่างไม่อาจละสายตา
ยิ่งฟังเธอพูดถึงครอบครัวอย่างสง่างาม สุขุม
และมั่นคง—
ยิ่งเพิ่มความหลงใหลในตัวหญิงสาวขึ้นทุกที
หัวใจเขาเต้นแรงอย่างควบคุมไม่ได้
พร้อมคำประกาศเงียบในใจว่า
ผู้หญิงคนนี้…เขาจะไม่มีวันปล่อยให้หลุดมือไปอีก
__
บรรยากาศในห้องอาหารยังอบอุ่นและเป็นกันเอง
แม้จะเป็นร้านหรู แต่ความรู้สึก
กลับคล้ายบ้านที่มีผู้ใหญ่ใจดีคอยโอบอุ้ม
วันวาเอนตัวเล็กน้อย เอ่ยเสียงสุภาพปนถ่อมตัว
“คุณหญิงคะ หนูต้องขอบพระคุณจริง ๆ
ที่มอบความไว้วางใจและเอ็นดูหนูเสมอ
หนู…ไม่แน่ใจเลยว่างานที่รับไว้จะสำเร็จ
ตามที่คุณหญิงตั้งใจไว้มากแค่ไหน
แต่หนูสัญญาว่าจะพยายามเต็มที่ ..
เพื่อเอาคนผิดมาลงโทษให้ได้ค่ะ”
.
คุณหญิงพาวิณียิ้มบาง รอยอ่อนโยนบนใบหน้า
ทำให้วันวารู้สึกเหมือนถูกคลายความกังวล
ออกไปทีละน้อย
“ไม่เป็นไรเลยจ้ะ แม่เข้าใจดีว่างานนี้
..มันเริ่มจะยากขึ้นทุกที”
เธอเว้นจังหวะ
ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนแต่แฝงความเป็นห่วง
“แม่กำลังคิดว่า…หนูอยากย้ายที่ทำงานไหม?
แม่หมายถึง หนูสามารถเอางานไปทำที่คอนโดได้
ถ้าหนูรู้สึกว่าที่ออฟฟิศเริ่มมีคนมาคอยกวนใจ”
.
ระหว่างที่พูด พาวิณีหันสายตาไปทางลูกชาย
คล้ายจะบอกเป็นนัยว่า “คนกวนใจ”
นั้นอยู่ตรงนี้เอง
ทานน์ที่นั่งฟังถึงกับรีบพูดขึ้น
แทบไม่รอให้แม่จบประโยค
“ย้ายไปที่คอนโดวันวาก็ได้นะคะ พี่ยินดีมากเลย”
พาวิณีหันขวับมามองลูกชายด้วยสายตาดุเบา ๆ
ราวกับอ่านใจได้ว่าลูกกำลังคิดอะไร
ทานน์กลืนน้ำลาย แต่ก็ยังพูดเสียงจริงจัง
“แต่ถ้าวานยังอยากทำงานที่ออฟฟิศ
พี่ก็จะดูแลวานให้มากขึ้นกว่าเดิม…
ตอนนี้เราอยู่ในที่สว่าง แต่คนในที่มืด
ยังจ้องมองเราอยู่ พี่ไม่อยากให้วาน
ต้องเจอกับอะไรเสี่ยง ๆ อีก”
.
คำพูดนั้นหนักแน่นจนวันวาเผลอเงยหน้ามองเขา
ความจริงจังในน้ำเสียงและแววตาของทานน์
ทำให้เธอทั้งอบอุ่นและสับสนในเวลาเดียวกัน