“คนกวนใจ”

681 Words
บรรยากาศภายในห้องอาหารหรู ยังคงอุ่นละมุนจากแสงไฟสีทอง แต่สำหรับวันวา ทุกสิ่งกลับพร่ามัว ราวกับมีหมอกบางคลออยู่รอบตัว . เธอนั่งนิ่ง ไม่เอ่ยคำตอบใด ต่อคำเชื้อเชิญของคุณหญิงพาวิณี สมองพล่าเลือนระหว่าง ความทรงจำอันเจ็บปวดในอดีต— คืนวันที่เคยเจอการหักหลังจากคนที่รัก— กับ ปัจจุบัน ที่ชายหนุ่มตรงหน้า และมารดาของเขากำลังมอบความไว้วางใจให้ . คุณหญิงพาวิณี มองสีหน้าที่สั่นไหวของวันวา ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มละมุน “ไม่เป็นไรนะลูก ถ้าหนูยังไม่อยากตอบ… ค่อย ๆ ดูใจกันไปเรื่อย ๆ ก็ได้ แม่ไม่ได้เร่งรัดอะไร” เธอยิ้มอ่อน “และแม่ต้องขอบคุณหนูอีกครั้ง เรื่องข้อมูลบัญชีของบริษัท เจ้าทานน์รายงานความคืบหน้าให้แม่ฟังตลอด แม่ไว้ใจหนู เหมือนที่เคยไว้ใจคุณพิทักษ์ พ่อของหนูเลย” . หญิงสูงวัยสูดหายใจลึก แววตาเปล่งประกายเมื่อรำลึกถึงอดีต “คุณพิทักษ์…เป็นนักบัญชีฝีมือดีที่สุด ที่แม่เคยร่วมงานด้วย ตั้งแต่บริษัทนี้ยังไม่เข้าตลาดหลักทรัพย์ เขาเป็นคนละเอียดมาก แม้แต่หนึ่งสตางค์ ก็ไม่ยอมให้หาย ต้องตามหาจนเจอ แม่ไว้ใจเขาได้เสมอ” พาวิณีหันมามองวันวาเต็มตา แฝงรอยอบอุ่นเหมือนมารดามองลูกสาว “แล้วตอนนี้ พ่อของหนูสบายดีไหมลูก?” วันวาได้สติ รีบตอบด้วยน้ำเสียงสุภาพ “คุณพ่อสบายดีค่ะ ตอนนี้ท่านเกษียณแล้ว แต่ก็ยังมีบริษัทต่างชาติเสนอ ให้เป็นกรรมการที่ปรึกษาด้านบัญชีอยู่เรื่อย ๆ ค่ะ” . ทานน์ที่นั่งฟังอยู่อีกฝั่งเงียบกริบ แววตาคมคอยจับทุกถ้อยคำ เขามองวันวาอย่างไม่อาจละสายตา ยิ่งฟังเธอพูดถึงครอบครัวอย่างสง่างาม สุขุม และมั่นคง— ยิ่งเพิ่มความหลงใหลในตัวหญิงสาวขึ้นทุกที หัวใจเขาเต้นแรงอย่างควบคุมไม่ได้ พร้อมคำประกาศเงียบในใจว่า ผู้หญิงคนนี้…เขาจะไม่มีวันปล่อยให้หลุดมือไปอีก __ บรรยากาศในห้องอาหารยังอบอุ่นและเป็นกันเอง แม้จะเป็นร้านหรู แต่ความรู้สึก กลับคล้ายบ้านที่มีผู้ใหญ่ใจดีคอยโอบอุ้ม วันวาเอนตัวเล็กน้อย เอ่ยเสียงสุภาพปนถ่อมตัว “คุณหญิงคะ หนูต้องขอบพระคุณจริง ๆ ที่มอบความไว้วางใจและเอ็นดูหนูเสมอ หนู…ไม่แน่ใจเลยว่างานที่รับไว้จะสำเร็จ ตามที่คุณหญิงตั้งใจไว้มากแค่ไหน แต่หนูสัญญาว่าจะพยายามเต็มที่ .. เพื่อเอาคนผิดมาลงโทษให้ได้ค่ะ” . คุณหญิงพาวิณียิ้มบาง รอยอ่อนโยนบนใบหน้า ทำให้วันวารู้สึกเหมือนถูกคลายความกังวล ออกไปทีละน้อย “ไม่เป็นไรเลยจ้ะ แม่เข้าใจดีว่างานนี้ ..มันเริ่มจะยากขึ้นทุกที” เธอเว้นจังหวะ ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนแต่แฝงความเป็นห่วง “แม่กำลังคิดว่า…หนูอยากย้ายที่ทำงานไหม? แม่หมายถึง หนูสามารถเอางานไปทำที่คอนโดได้ ถ้าหนูรู้สึกว่าที่ออฟฟิศเริ่มมีคนมาคอยกวนใจ” . ระหว่างที่พูด พาวิณีหันสายตาไปทางลูกชาย คล้ายจะบอกเป็นนัยว่า “คนกวนใจ” นั้นอยู่ตรงนี้เอง ทานน์ที่นั่งฟังถึงกับรีบพูดขึ้น แทบไม่รอให้แม่จบประโยค “ย้ายไปที่คอนโดวันวาก็ได้นะคะ พี่ยินดีมากเลย” พาวิณีหันขวับมามองลูกชายด้วยสายตาดุเบา ๆ ราวกับอ่านใจได้ว่าลูกกำลังคิดอะไร ทานน์กลืนน้ำลาย แต่ก็ยังพูดเสียงจริงจัง “แต่ถ้าวานยังอยากทำงานที่ออฟฟิศ พี่ก็จะดูแลวานให้มากขึ้นกว่าเดิม… ตอนนี้เราอยู่ในที่สว่าง แต่คนในที่มืด ยังจ้องมองเราอยู่ พี่ไม่อยากให้วาน ต้องเจอกับอะไรเสี่ยง ๆ อีก” . คำพูดนั้นหนักแน่นจนวันวาเผลอเงยหน้ามองเขา ความจริงจังในน้ำเสียงและแววตาของทานน์ ทำให้เธอทั้งอบอุ่นและสับสนในเวลาเดียวกัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD