ธัตทานนท์ นิ่งงันอยู่ครู่หนึ่ง
หลังได้ฟังคำตอบของวันวา ความโกรธที่อัดแน่น
เหมือนจะระเบิดออกมาในทุกลมหายใจ
มือที่กำแน่นสั่นเล็กน้อย เส้นเลือดบนขมับเต้นแรง
ความโกรธนั้นเขากดมันไม่อยู่
ทานน์คว้าตัววันวาอย่างรวดเร็ว
ดันเธอลงบนโต๊ะทำงาน
จับมือเล็กของเธอไว้แน่นทั้งสองข้าง
ระดมจูบปากเรียวของเธอไม่หยุด
วันวาพยายามดิ้นอย่างทุลักทุเล แต่ไม่เป็นผล
ทานน์ยังคงซุกหน้าเข้ากับซอกคอเธอ
อย่างต้องการที่ระบาย
เขาตั้งใจสร้างรอยไว้ทั่วร่างของเธอ
เท่าที่ใบหน้าและริมฝีปากของเขาจะเข้าไปถึง
เขาพูดพึมพำ
"อย่าลองดีกับพี่..วานเป็นของพี่..เข้าใจไหม!.."
.
วันวาเสียงอู้อี้ในลำคอ
"..ปะ ปล่อย..วาน"
เสื้อผ้าและผมเธอเริ่มหลุดรุ่ย ไม่เป็นระเบียบ
เเละเมื่อความโกรธของธัตทานนท์
ได้ปลดปล่อยออกมาผ่านรอยจูบจนพอใจ
เขาจึงค่อยๆ ยอมคลายแขนออกจากร่างวันวา
..
ทันทีที่วันวาได้สติ หายใจหอบแรง
เธอยืนนิ่ง น้ำตาคลอ เพียะ!!
วันวาตบหน้าทานน์อย่างเเรง เงยหน้าสบตา
น้ำเสียงสั่นแต่ชัดเจน
"วานเคยบอกพี่ไปแล้ว..ว่าวานไม่มีใคร
ทำไมพี่ไม่เชื่อวาน วานไม่เคยโกหก
วานไม่มีนิสัยเสีย..แบบที่พี่เคยทำ
และจากนี้ไปวานจะไม่เข้าใกล้พี่อีก"
..
ทานน์ก้าวเข้ามาใกล้ ยื่นหน้าเข้ามา
ในระยะที่เธอรู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นจัด
ดวงตาคมปลั่งด้วยอารมณ์หึงหวง
“ถ้าวานยืนยันว่าไม่มีใคร…ก็ได้!”
เสียงเขาต่ำลงเป็นเพียงลมหายใจ
“พี่จะเชื่อ พี่จะเชื่อว่าวานมีแค่พี่คนเดียว”
น้ำเสียงที่เอ่ยต่อมาฟังดูเป็นทั้งคำสัญญา
และคำเตือน
“และพี่จะไม่ยอมให้ใครหน้าไหน
แม้แต่เงา…เข้ามาใกล้คนของพี่ได้อีก”
..
หัวใจวันวาเต้นแรงจนเจ็บ
คำพูดนั้นเต็มไปด้วยความรักที่บีบรัด
เธอรู้สึกทั้งอบอุ่นและหวาดหวั่นในเวลาเดียวกัน
เพราะชายตรงหน้าพร้อมจะปกป้องเธอ…
แต่ความปกป้องนั้นอาจกลายเป็นกรงขังได้ทุกเมื่อ
__
เสียงเคาะประตูดังขึ้น
ในความเงียบของห้องทำงาน
วันวาสะดุ้งเล็กน้อย ร่างกายที่ยังสั่นไหว
จากการโต้เถียงเมื่อครู่ รีบตั้งสติทันที-
เธอยกมือขึ้นจัดปกเสื้อที่ยับยู่ยี่อย่างลนลาน
ปลายนิ้วเรียวยกผมที่หล่นระหน้า
ค่อย ๆ สางจัดให้เรียบร้อย
ขณะเดียวกันก็เลื่อนชายเสื้อสูท
มาปิดซ่อนรอยแดงบนลำคอที่ยังอุ่นร้อน
.
ธัตทานนท์
ยืนพิงโต๊ะทำงาน หายใจแรงแต่พยายามข่ม
ดวงตาคมยังเต็มไปด้วยความหึงหวงที่กรุ่นอยู่
ทว่าทุกอารมณ์ถูกเก็บซ่อน
อยู่ใต้สีหน้าเรียบนิ่งในชั่วพริบตา
เขาเพียงพยักหน้าเบา ๆ เป็นสัญญาณให้เธอรู้ว่า
“-อย่าให้ใครเห็น”
.
วันวาก้มหน้าหลบสายตา
สูดลมหายใจลึกหนึ่งครั้งเพื่อกักเก็บความสั่นไหว
แล้วจึงหมุนตัวกลับไปยืนใกล้ประตู
ท่าทางของเธอเรียบสงบ
เหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น
“เชิญครับ”
เสียงของทานน์ต่ำและมั่นคง แต่ฟังดูเย็นกว่าปกติ
-ประตูเปิดออกช้า ๆ
พนักงานหญิงในชุดสุภาพ
ก้าวเข้ามาอย่างนอบน้อม เธอเหลือบมองทั้งคู่
เพียงเสี้ยววินาที ก่อนเอ่ยอย่างเป็นทางการ
“ขออนุญาตค่ะ คุณธัตทานนท์…คุณวันวา
คุณหญิงพาวิณี ให้มาเชิญพบค่ะ”
.
วันวาเผลอแลกสายตากับทานน์
แววตาสั้น ๆ นั้นมีทั้งคำถาม ความระแวง
และความระวัง ก่อนที่เธอจะรีบหลุบตาลง
อย่างคนปกปิดความลับ
ธัตทานนท์ยืดตัวตรง ท่วงท่าเต็มไปด้วยอำนาจ
เหมือนประธานบริษัทผู้คุมเกม
“รับทราบครับ”
เขาตอบสั้น ๆ พลางผายมือเชิญวันวาเดินนำหน้า
แม้สีหน้าเรียบเฉย แต่ยังมีความรู้สึกที่ยังคุกรุ่น
อยู่ใต้ความสงบ
วันวาสูดลมหายใจอีกครั้ง ก้าวออกจากห้อง
พร้อมรอยยิ้มบางที่ฝืนจนเจ็บแก้ม
ภายนอกเธอดูมั่นคง สง่างาม แต่ภายในหัวใจ
ยังเต้นแรงรัว เหมือนต้องต่อสู้กับคลื่นความรู้สึก
ที่ยังไม่จางจากห้องนั้น
---