หลังหมดฤทธิ์ของพิษชั้นต่ำที่ถูกวางยาผ่านธูป ร่างของหญิงสาวในชุดบางขยับเล็กน้อย เมื่อดวงตาปรือค่อยๆ เปิดขึ้น ภาพแรกที่เห็นคือร่างเปลือยท่อนบนของชายหนุ่มนั่งหันหลังให้
เขากำลังสวมใส่ชุดทหารยามของตน หญิงสาวนั่งพรวดขึ้น ก่อนจะก้มมองตัวเองและผ้าห่ม นางเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นทันที
“ไม่ ไม่นะ...” เสียงสะอื้นหลุดรอดจากลำคอ จื่อเฟิงหันมา สีหน้าเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดจนแทบไม่อาจมองนางได้
“เหตุใด เหตุใดเจ้าจึงไม่หยุดมัน” เสียงของนางสั่นเครือ ริมฝีปากซีดเผือด ดวงตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด
“ข้าพยายามแล้ว แต่ข้าไม่อาจทำได้ ข้าเองก็โดนฤทธิ์ยาชั้นต่ำนั้นด้วยเช่นกัน ข้าควรจะหนี แต่ข้าก็อ่อนแอเกินไป” เขาหลุบตาลง
นางสะอื้น กำมือแน่น ก้มหน้าอย่างเจ็บช้ำ มือสังหารหนุ่มนิ่งเงียบ หัวใจปวดหนึบ ดวงตาแดงก่ำไม่ใช่เพราะโกรธ แต่เพราะความปวดใจที่พรากความสาวของนางไปโดยไม่มีความยินยอม
“ฆ่าข้าเสียเถอะ ถ้าข้าทำให้เจ้าต้องเกลียดขนาดนั้น” เสียงของเขาแผ่วเบา แต่หนักแน่น ก่อนจะยื่นมีดสั้นให้แก่นาง
หญิงสาวเงยหน้ามองเขา ดวงตาเปื้อนน้ำตาเต็มไปด้วยความสับสน ความโกรธ และบางสิ่งที่ยากจะอธิบาย
นางคว้าเสื้อผ้าที่หล่นอยู่ข้างกายขึ้นมาสวมใส่ เมื่อจะก้าวลงจากตั่งไม้จึงเพิ่งสังเกตว่า ตรงหน้าคือร่างของลู่หานที่นอนตาเบิกโพลงอยู่บนพื้น
ริมฝีปากของนางกำลังจะกรีดร้อง แต่ถูกฝ่ามือของเขาอุดปากนางมิให้ส่งเสียง
ทั้งสองคนนิ่งงันในความเงียบอันเจ็บปวด ก่อนเสียงฝีเท้าของคนข้างนอกจะดังขึ้น
“ทางนี้เจ้าค่ะฮูหยิน ข้าได้ยินเสียงบุรุษออกมาจากห้องคุณหนูตอนที่จะเอายามาให้นาง” เสียงของบ่าวสอพลอดังขึ้น ราวจะเรียกคนในเรือนรองออกมาดูให้เห็นกับตา
ลู่ชิงชิงเดินไปด้วยใบหน้าที่แสร้งร้อนใจ เสี่ยวหรูเองเมื่อได้ยินก็รีบเดินตามไปด้วยความร้อนใจ กังวลเรื่องความปลอดภัยของคุณหนูของตน
บ่าวรับใช้ในเรือนรองเมื่อได้ยินว่าเกิดเรื่อง
ก็รีบตามไป เมื่อประตูห้องของไป๋ซืออวี่ถูกเปิดออก ลู่ชิงชิงก็กรีดร้องเมื่อเห็นสภาพของหลานชาย
“ลู่ชิงชิง” เสียงของเขาเยียบเย็นดุจหิมะ
หญิงสาวผู้แสร้งว่าแสนดีเมื่อครู่ หน้าซีดเผือดเมื่อเห็นชายที่ควรเป็นเพียงทหารยามกำดาบเปื้อนเลือดอย่างโหดเหี้ยม และกำลังก้าวเข้าหานางด้วยแววตาที่คล้ายปีศาจ
“ข้า...” ยังไม่ทันเอ่ยจบ ดาบก็ฟันฉับกลางลำคอของนาง เลือดพุ่งกระฉูดบนชุดแพรราคาแพง
เสียงกรีดร้องดังแหลมเล็ดลอดมาจากหน้าห้อง ก่อนจะตามด้วยเสียงล้มกระแทกและเงียบไป กลิ่นคาวโลหิตคละคลุ้งไปทั่วอากาศ
ลู่ชิงชิงล้มลงหน้าห้อง ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความตื่นตระหนกและหวาดกลัวสุดขีด ร่างนั้นทรุดลงอย่างไร้ชีวิต ดวงตายังเบิกค้าง
เหล่าข้ารับใช้จำนวนหนึ่งที่เห็นเหตุการณ์กรีดร้องอย่างเสียขวัญแล้ววิ่งหนีกระเจิงเพราะความกลัวตาย บ่าวข้างกายของไป๋ฮูหยินแห่งเรือนหลักเป็นลมล้มพับไป
ไป๋ซืออวี่เองก็กรีดร้องสุดเสียง แต่ไม่ใช่เพราะเสียใจที่ป้าสะใภ้ตายไปต่อหน้า หากเพราะกลัวผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้า เสี่ยวหรูยืนขาสั่นมองคุณหนูของตนด้วยความห่วงใย แต่ก้าวขาไม่ออกเลยสักครึ่งก้าว
“เจ้าไม่เป็นไรแล้ว” เขาหันมาหาไป๋ซืออวี่ รอยเลือดเปรอะใบหน้า แววตาห่วงใย ทว่าร่างของนางสั่นเทา ถอยหลังไปจนติดผนัง ใบหน้าซีดเผือด ดวงตาเต็มไปด้วยความกลัว
เขาเห็นสายตานั้นและหัวใจบีบรัดจนแทบหายใจไม่ออก
“เจ้า เจ้า... ฆ่านาง” นางเสียงสั่น ร่างเย็นชืด
สวี่จื่อเฟิงเดินมาหานาง สีหน้าสงบจนน่าขนลุก แต่แววตาแฝงไว้ด้วยความเศร้า
“นางสมควรตาย นางเป็นคนสั่งให้ลอบสังหารเจ้าในจวนครั้งก่อน” เสียงของเขาเรียบเฉย
ไป๋ซืออวี่นิ่งงันไปเล็กน้อย นางไม่ทันคิดว่าสตรีที่ตนเคารพจะคิดร้ายกับตนได้
“ไม่จริง... ท่านป้าไม่มีเหตุผลให้ทำเช่นนั้น” นางพึมพำอย่างลังเล
“ข้าไม่อาจบอกเหตุผลให้เจ้ารู้ได้ตอนนี้ แต่ข้าแน่ใจ นางต้องการให้เจ้าตาย... ไม่ใช่แค่ครั้งเดียว” เขากล่าวพลางเบือนหน้า
“แม้แต่ยากำหนัดที่วางในห้องนี้ ก็เป็นฝีมือนางกับหลานชาย” เขาถอนหายใจ เดินไปยังร่างของสาวใช้วัยกลางคนที่หมดสติอยู่ เขาใช้ดาบปักลงที่อกของนาง ร่างของบ่าวข้างกายไป๋ฮูหยินกระตุกเล็กน้อยก่อนจะแน่นิ่งไป
“ใครที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ข้าจะไม่ปล่อยมันเอาไว้” เขากล่าวอย่างเลือดเย็น ร่างบางชะงัก ดวงตาสั่นระริก มองดูสาวใช้ของตนที่ยืนอยู่ในตอนแรก ตอนนี้กลัวจนเป็นลมหมดสติไปแล้ว
ไป๋ซืออวี่นั่งลงช้าๆ ร่างอ่อนแรง ทั้งจากพิษยากำหนัด และจากความจริงที่เหมือนคมดาบบาดใจ
“แล้วข้าล่ะ” นางเอ่ยเบาๆ
“เจ้าจะฆ่าข้า เหมือนที่เจ้าฆ่านางหรือไม่” น้ำเสียงนั้นคล้ายจะหมดหวัง
“ข้าไม่เคยคิดจะทำร้ายเจ้า ไม่เคยเลยแม้แต่นิด” เขาคุกเข่าลงตรงหน้านาง มือเปื้อนเลือดของเขาเอื้อมมาจับปลายนิ้วของนางอย่างเบามือ
“ข้าทำลายทุกอย่างได้ แต่มีสิ่งเดียวที่ข้าไม่กล้าทำลาย คือเจ้าต่างหาก ไป๋ซืออวี่”
ดวงตาของนางเอ่อล้นด้วยน้ำตา แต่ก่อนที่ใครจะพูดสิ่งใดต่อ เสียงฝีเท้าหนักและเสียงตะโกนดังมาจากด้านนอก
“มีผู้บุกรุก”
จื่อเฟิงขบฟันแน่น หันกลับไปคว้าดาบ
“ไม่มีเวลาแล้ว… พวกเราต้องไปเดี๋ยวนี้”
“ข้าไม่ไป” นางปฏิเสธ ดวงตายังมองร่างไร้วิญญาณทั้งสามที่นอนนิ่งด้วยความหวาดกลัว
“มากับข้า” เขากล่าวอีกครั้ง นางรีบกระถดร่างหนีไปจนมุมที่หลังห้อง
ตอนนี้ตัวตอนของเขาถูกเปิดเผยแล้ว ไม่สามารถกลับไปแฝงตัวได้อีก และไป๋เยี่ยจำกลับมาวันนี้ เมื่อสิ้นภรรยาแล้ว เขาอาจจะคิดไม่ซื่อกับหลานสาวของตัวเอง เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ตนจะไม่ยอมให้เกิดขึ้น
“เจ้าอยู่ที่นี่ไม่ได้” เขาพูดด้วยเสียงสั่น ดึงนางเข้ามาในอ้อมแขน
“ปล่อยข้า ข้าไม่ไป” นางดิ้นรนด้วยความกลัว
“ข้าขอโทษ” เขากล่าวเสียงเบา ก่อนที่นางจะขัดขืนจนไม่สามารถหนีออกไปได้ จึงทำให้นางหมดสติในอ้อมแขนก่อนจะพาหลบหนี
ท่ามกลางเสียงฝีเท้าของทหารยามที่วิ่งกรูเข้ามาในที่เกิดเหตุ ร่างของนักฆ่าในคราบทหารยามของจวนนายอำเภอและคุณหนูของเรือนรองก็ได้หายออกไปจากห้องแล้ว ทิ้งไว้เพียงร่างไร้วิญญาณของทั้งสามที่นอนจมกองเลือดอย่างน่าอนาถ
ในสายตาของพวกเขา ไป๋ฮูหยิน ภรรยาของผู้ว่าการมณฑล ถูกสังหารพร้อมกับบ่าวข้างกายและหลานชายของนางอย่างไร้ความปรานี
************************