LOVE BABY 01

1400 Words
ย้อนกลับไปวันเสาร์ 14 พฤษภาคม "แสนดี เอาขยะไปทิ้งหลังร้านด้วยนะครับ" ชายหนุ่มตะโกนเรียกให้ร่างเล็กเจ้าของชื่อรู้ตัว เธอเป็นพนักงานพาร์ทไทม์ร้านอาหารสุดหรูในย่านใจกลางเมืองกรุงเทพ ฉันทำงานร้านนี้มาเป็นอาทิตย์กว่าๆ ด้วยหน้าตาและบุคคลิกเธอเป็นผู้หญิงร่าเริงพูดจาไพเราะ ไม่แปลกที่ผู้ชายจะเข้าร้านมาพัวพันเป็นว่าเล่นทุกวัน รวมไปถึงวันนี้ด้วยเช่นกัน ร่างเล็กจัดการหิ้วถุงดำไปหลังร้าน มันหนักเกินเธอจะลากไปทิ้งพร้อมกับทีเดียวหลายถุงเป็นเพราะด้วยขยะลืมทิ้งหลายวันเลยเน่าอืด "แสนดี เดี๋ยวพี่ช่วยน้องเองครับ" มือสากเอื้อมมือผ่านใบหน้าเรียวเล็กเพื่อหยิบถุงดำไปช่วยทิ้ง ฉันเงยหน้าของเขาเล็กน้อย ก่อนจะส่งฉีกยิ้มหวานเป็นการตอบแทน ชายหนุ่มเป็นเจ้าของร้านอาหารที่เธอทำงานอยู่ก็จริง แต่ด้วยอัธยาศัยเขาเวลาอยู่กับพนักงานเลยทำให้ผู้หญิงแบบเธอลืมไปซะสนิท "วันนี้ไม่ไปเรียนเหรอชูใจ" "ไม่ค่ะคุณช้าง วันนี้อาจารย์ยกคลาส" ฉันตอบกลับไป ก่อนจะเอื้อมมือเปิดประตูหลังร้านเพื่อจะทิ้งขยะ 'ปั้ง!' 'ปั้ง!' 'ปั้ง!' ตุ๊บ เสียงปืนหลายนัดดังขึ้นกระทันหัน คนบริเวณแถวนั้นเลยรีบวิ่งหนีเอาตัวรอดกัน ฉันได้แต่ยืนขาสั่นเมื่อร่างคุณช้างล้มฟุ๊บลงต่อหน้าต่อตา ร่างเล็กถลาเข้าไปใกล้ประคองตัวชายหนุ่มหวังจะพยุงเขากลับเข้าหลังร้านให้หลบลูกกระสุน แต่มันสายเกินไป กระสุนเจาะเข้ากะโหลกหนาของคุณช้าง น้ำสีเลือดขุ่นไหลพรั่งพรูออกมาอย่างรวดเร็ว วินาทีนั้นฉันทำได้แค่เรียกชื่อเขาทั้งๆที่รู้อยู่เต็มอกว่ายังไงเขาก็ไม่รอด รถกะบะสีดำขับมาจอดเทียบข้างยังตัวฉัน ก่อนคนด้านในจะเปิดประตูหลังลงมาพร้อมปืน ร่างเล็กใจเต้นตุ๊บๆวินาทีนั้นฉันฟันธงไว้แล้วว่าต้องไม่รอดแน่ๆ "ถือปืนนี้ไว้ซะ จนกว่าจะมีรถบีเอ็มสีขาวขับมาจอด!" "....." "ถ้าไม่ให้ครอบครัวเธอมีสภาพเดียวกันกับมัน ก็ทำตามที่กูบอกซะ!" น้ำเสียงเรียบนิ่งก้มโค้งกระซิบลงข้างใบหน้าหญิงสาว ก่อนจะยัดปืนกระบอกนั้นใส่มือเธออย่างเยือกเย็น ใบหน้าเข้มมีรอยแผลมีดกรีดตรงโหนกแก้มซ้ายมันยิ่งทำให้เขาดูน่าเกรงขามจนร่างเล็กไม่มีสิทธิ์ปฎิเสธ "ห้ามตอบพวกมันทุกคำถาม! ถ้าพวกมันรู้ว่าฉันเป็นคนลงมือยิงเมื่อไหร่ พ่อแม่เธอคอขาดแน่อีนังหนู" ชายหนุ่มเปิดประตูขึ้นรถก่อนจะขับออกไปอย่างรวดเร็ว เหตุการณ์มันเกิดขึ้นไวมากจนฉันทำอะไรไม่ถูก ร้องเรียกให้คนช่วยก็ไม่มีใครกล้าอยากเสี่ยงชีวิตตัวเองกับลูกปืน เอี๊ยดดดดด! รถบีเอ็มคันสีขาวตามที่ผู้ชายคนเมื่อกี้บอก ขับมาจอดเทียบตรงจุดเกิดเหตุ ชายฉกรรจ์สามคนเปิดประตูลงมาดูพร้อมกัน ก่อนจะผงะเมื่อเห็นปืนกระบอกนึงในมือฉัน "แม่งเอ้ย!" เพี้ยะ! ชายฉกรรจ์ยกมือฟาดเข้าใบหน้าสีขาวนวลจนเป็นรอยแดงกร่ำทิ้งลงใบหน้าเธอ แววตาเยือกเย็นและดุดันจนทำให้ร่างเล็กหลุบสายตาก้มต่ำ เขาคนนี้ดูน่ากลัวกว่าคนเมื่อกี้ น่ากลัวจนไม่หลงเหลือคำว่าคนอยู่เลย "ใครจ้างมึงมา!" "ฮึก นะ หนูไม่รู้" "ไอ้ขวาง จะเอาไงกับศพไอ้ช้าง" "เอาศพไอ้ช้างไปโรงพยาบาล ส่วนอีเวรนี้กูจะเอาไปเค้นถามว่ามันยิงไอ้ขวางทำไม" ว่าพลางชายหนุ่มก็เหลือบสายตากลับมามองร่างเล็ก แล้วจัดการกระชากหนังหัวเธอเดินไปยังท้ายรถบีเอ็ม ปึก! "เข้าไป!" มือสากกดหัวเล็กให้เข้าไปในท้ายรถก่อนจะปิดฝากระโปรงท้ายรถบีเอ็มลง ร่างเล็กได้แต่ทำตามคำสั่ง เธอนอนคดตัวด้วยความหวาดกลัวเต็มอกในที่คับแคบขนาดย่อม มันทั้งมืด ทั้งร้อน อบอ้าวเจือนจะทำให้เธอขาดสิ้นใจ ด้วยขนาดย่อมของพื้นที่เธอเลยต้องพยายามผ่อนลมหายใจอย่างเชื่องช้า รักษาอากาศเข้าปอดให้ได้มากที่สุด ครืดดดด ครืดดดด ครืดดดด เมื่อเสียงโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงดังขึ้น ร่างเล็กก็พยายามทุกวิถีทางให้เอื้อมมือหยิบโทรศัพท์มาให้ได้ ในขณะที่รถยนต์กำลังแล่น เธอกระแทกชนกับข้าวของหลายอย่างที่ถูกจับยัดใส่รวมๆกองกัน เมื่อสบโอกาสคว้าโทรศัพท์มาได้ ฉันก็รีบกดรับสายนั้นทันทีไม่ว่าจะเป็นใครโทรเข้ามาก็ตาม ชีวิตเธอกำลังตกอยู่ในมือของเขา "ฮึก ฮื่ออ ชะ ช่วยหนูด้วยค่ะ" ("แสนดี ทำไมหนูร้องไห้ เป็นอะไร?") "ป้าอิ่ม นะ หนู...." "มึงทำอะไรของมึง!!" ชายหนุ่มแย่งโทรศัพท์ไปจากเด็กสาวโดยไวแล้วปามันลงกับพื้นปูนจนแตกแยกเป็นชิ้นส่วนกระจัดกระจาย ก่อนเธอจะสร้างปัญหาให้คนอื่นมาช่วยจากความผิดตนเอง มือสากกระชากผมร่างเล็กให้ลงจากท้ายรถบีเอ็ม เขาลากเธอเข้าม่านรูดแห่งนึงที่เพื่อนเขาคนนึงเดินไปเปิดประตูรอก่อนหน้านี้ "เมื่อกี้เธอทำอะไร?" เพื่อนชายเขาพูดขึ้นเมื่อเห็นสีหน้าชายหนุ่มไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมาก ฉันไม่รู้ว่าพวกเขาต้องการอะไรจากฉัน ฉันบอกได้คำเดียวว่า 'ฉันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้' "มันโทรให้คนมาช่วย!" "หนูไม่ได้โทร เขาโทรมาเอง" ร่างเล็กโต้ตอบชายหนุ่มอย่างหวั่นๆ เธอกลัวแต่เธอต้องพยายามนิ่ง "กูไม่ได้ขอความคิดเห็นจากมึง หุบปาก!" "ไอ้ขวาง กูว่าอีเด็กคนนี้มันไม่รู้เรื่องหรอก" "แล้วโจรที่ไหนมันจะมายอมรับว่าตัวเป็นโจรวะ?" เขากระตุกข้อมือให้ร่างเล็กเดินตามหลังต้อยๆแล้วใช้เท้าแกร่งถีบกลางหลังร่างเล็กให้หน้าสีขาวกระแทกกับพื้นปูนหนา "มึงเบาๆหน่อยก็ได้ไอ้ขวาง เดี๋ยวแม่งก็ตายอีก" เพื่อนเขาพูดพลางเอนตัวทิ้งยังเก้าอี้ตัวตรงหน้าฉันก่อนจะล้วงซองบุหรี่ในกระเป๋ากางเกงออกมาจุดสูบ "เลว พวกคุณมันเลว" ปึก! คนตรงหน้ายกเท้าแตะเข้าปลายคางร่างเล็กจนหงายหลัง เสียงลมหายใจแหบพร่า บ่งบอกว่าร่างกายเธอกำลังอ่อนแอรับการทารุณไม่ไหว ฉันยกมือทาบใบหน้าตัวเองด้วยความเจ็บปวดทรมาน "คะ แค๊กก" เลือดแดงกร่ำกระเด็นพุ่งออกจากปากร่างเล็ก ใช่ เธอสำลักเลือดตัวเองไปหลายนับครั้ง แต่เขากลับยังมองเห็นเป็นเรื่องสนุก แววตาว่างเปล่าจากชายหนุ่มสองคนตรงหน้าส่งยิ้มเจือนๆให้เธอ เชือกเส้นหนาขนาดความยาวเท่าเข็มขัดชาย ชายหนุ่มดึงคอเสื้อร่างเล็กให้ลุกขึ้นจากพื้น แล้วใช้เชือกหนาพันรอบคอหญิงสาวอย่างทารุณ PART ขวาง "คะ แค๊กกก ปะ ปล่อยหนู" น้ำเสียงแหบพร่าจากร่างเล็กอ้อนวอนขอให้ชายฉกรรจ์ปล่อยเธอ เมื่อชายหนุ่มกำลังใช้เชือกรัดคอเล็กให้เธอหายใจไม่ออก "กูถาม! ว่ามึงยิงเพื่อนกูทำไม" ชายฉกรรจ์ถามซ้ำ เผื่อเธอจะกลัวตายจนลืมเหตุการณ์ในวันนั้นว่าตัวเธอเองเป็นคนลงมือก่อเหตุจ่อยิงหัว "ช้าง" เพื่อนชายหนุ่มคนสนิท "ฮึก นะ หนูไม่รู้ว่าคุณพูดเรื่องอะไร ฮื่ออ!" ร่างบางพนมมือไหว้ขอร้องชายหนุ่มทั้งน้ำตา เธอเองรู้ดีว่าปัญหาทั้งหมดในใจเขาจะต้องการคำตอบว่ายังไง เธอไม่ผิดอะไรทั้งนั้นเพราะฉนั้นเธอจะไม่ยอมพูดเด็ดขาด "ไอ้ฝุ่น มึงไปเอาก้นบุหรี่มา!" ชายหนุ่มเหลียวหลังไปบอกลูกน้องชายให้หาก้นบุหรี่มาให้ ขณะที่สองมือเขายังคงมัดเชือกรัดคอหญิงสาวแน่นขึ้น "กูจะเอามายัดปากมัน!" "ไม่นะ...." น้ำเสียงลากยาวเชิงตกใจกับคำพูดชายหนุ่มตรงหน้า ได้โปรดเถอะ ฆ่าเธอให้ตายคามือเสียยังง่ายกว่าจะเอาเธอมาทรมานทั้งเป็น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD