"เช็คบิลหน่อยค่ะ" อิงฟ้ากดปุ่มพูดกับลำโพง
"โต๊ะของลูกค้าชำระเงินเรียบร้อยแล้วครับ"
"คะ? ยะ...ยังไม่ได้จ่ายนะคะ พวกเราพึ่งทานเสร็จกันเองค่ะ" อิงฟ้าตอบกลับน้ำเสียงงงงวย
"อ๋อ พอดีมีลูกค้าโต๊ะอื่นชำระค่าเครื่องดื่มกับค่าขนมให้ลูกค้าแล้วครับ"
"เอ่อ...ค่ะ ขอบคุณค่ะ"
"ยินดีให้บริการครับ"
"อะไรอะ? ใครจ่ายให้กัน"
"อะไรเหรอ?"
"ก็ฉันเรียกให้พนักงานมาเช็กบิล พนักงานบอกว่ามีคนจ่ายเงินให้เราแล้วน่ะสิ"
"หือ ใครเหรอ?"
"ไม่รู้อะ เขาว่าลูกค้าโต๊ะอื่น"
"เดี๋ยวค่อยไปถามพนักงานเอาก็ได้ว่าโต๊ะไหนจ่ายเงินให้เรา"
"อือ"
.
.
.
"ขอโทษนะคะ พี่อยากทราบว่าลูกค้าโต๊ะไหนเป็นคนจ่ายเงินให้โต๊ะ 4 โซนโดมเหรอคะ? พอดีว่าพี่อยากจะขอบคุณเขาน่ะค่ะ" เดือนเดินมาถามที่หน้าเคาน์เตอร์
"ลูกค้าไม่ได้แจ้งชื่อไว้ครับ"
"อ้าวเหรอคะ แล้วเขาออกไปรึยังคะ?"
"ออกไปแล้วครับ"
"อ่า ขอบคุณนะคะ"
"ยินดีให้บริการครับผม^^"
หลังจากที่เดือนกับอิงฟ้าเดินออกจากร้านไป วิณณ์ที่ยืนอยู่หลังร้านเดินออกมาที่หน้าเคาน์เตอร์
"คิดอะไรอยู่วะ จู่ๆก็ไปจ่ายเงินค่าเครื่องดื่มกับขนมให้เขา" พีคหันไปถามวิณณ์
"ผู้หญิงคนที่ใส่แว่นเขาเหมือนแม่กู"
"พี่เขาเหมือนแม่มึงตรงไหนก่อน ออกจะสวยไอ้สัตว์"
"กูไปสูบบุหรี่แถวห้องน้ำแล้วเจอเขา เขาบอกว่าสูบบุหรี่ในที่สาธารณะไม่ดี ป้ายก็ติดอยู่ไม่เห็นเหรอว่าห้ามสูบ รักตัวเองบ้าง"
"ฮึๆ เออก็เหมือนแม่มึงจริงๆ นั่นแหละ ดุสายเรียบร้อย"
"แต่แม่ก็ไม่ได้อยู่ดุกูแล้วไง ทิ้งกูให้อยู่กับตาแก่ขี้บ่นน่ารำคาญคนหนึ่ง" วิณณ์พูดหน้านิ่ง
"ตาแก่ขี้บ่นที่มึงว่าก็พ่อมึงไหมละไอ้สัตว์"
"พ่อที่ไม่เหมือนพ่อ กูทำเหี้ยอะไรก็ไม่เคยจะดีในสายตา"
นึกถึงตอนที่ถูกตบหน้า ถูกด่าทอ อยากให้คนที่ตายเป็นพ่อไม่ใช่แม่ด้วยซ้ำ แต่ก็คงไม่มีวันนั้นหรอก เพราะคนไม่ดีผีมันไม่ค่อยเอา
"ที่พ่อเขาบ่นเขาว่ามึงเพราะเขาเป็นห่วงไง ก็ดูมึงใช้ชีวิตแต่ละวันดิ ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ แข่งรถ ต่อยตี แทบไม่เอาห่าอะไรดีๆเลย"
"ก็ทางที่พ่อเลือกมันเป็นทางที่กูไม่ชอบ จะให้กูไปช่วยไอ้ไวท์บริหารงานห่าอะไรไม่รู้เยอะแยะ ก็บอกแล้วว่ากูไม่อยากทำก็ไม่ฟัง น่ารำคาญฉิบหาย"
“บ้านมึงมีกี่ธุรกิจละ ไหนจะโรงแรมที่เชียงใหม่ กรุงเทพฯ ภูเก็ต เยอะแยะไปหมด"
"คนโลภไง ทำงานไม่ดูสังขารตัวเอง มีเงินกูก็เอามาลงทุนทำบริษัทโน่นนี่ขึ้นมา แล้วไงละ บริหารไม่ทันไง ลูกก็มีแค่ 2 คนขยันสร้างขยันมีจริงๆ"
"พ่อเขาสร้างให้มึงไง เขาไม่อยากให้มึงลำบากในอนาคต"
"แล้วตอนนี้กูดูสบายมากมั้ง เรียนก็หนัก ไหนจะให้กูไปศึกษางานที่บริษัทอีก คาเฟ่ก็ดีเข้ามาช่วย ตายห่ากันพอดี"
"เอาน่าวัยรุ่น ถือว่าหาประสบการณ์ชีวิต" พีคเอามือตบไหล่วิณณ์
"หาประสบการณ์เยอะไป วันนี้กูก็โดดไม่เข้าบริษัท อยากพักสมอง"
"เฮ้อ...รวยมากไปก็ไม่ดีอีก ทำงานไม่ทัน"
"เออ รอให้กูได้มรดกมาก่อนเถอะ กูจะขายทอดตลาดแม่งให้หมดเลย"
"ไอ้ลูกอกตัญญู"
"ใครแคร์วะ" วิณณ์ยักไหล่อย่างไม่แคร์
"มึงจะไม่เหลือสมบัติไว้ให้ลูกไว้สืบสกุลเลย?”
"กูไม่ชอบเด็กไอ้ควาย"
"เออวะกูลืม แต่บ้านมึงรวยอะ มีเถอะ ต่อให้ไม่ชอบเด็กยังไงก็ต้องมี พ่อมึงไม่ยอมหรอกถ้ามึงไม่มีคนสืบสกุล เชื่อเถอะมีเงินอะ ยังไงก็เลี้ยงเด็กให้มีอนาคตได้อยู่แล้ว"
"มึงคิดจะให้มันมีลูก กูว่าให้มันหาเมียให้ได้ก่อนเถอะ หน้าตาล่อตีนมากกว่ากว่าล่อเมียซะอีก" กรีนพูดขณะที่เดินเอาเค้กมาเติมที่ตู้แช่เค้ก
"พี่คนเมื่อกี้ไง สวย สูงเพรียว ผิวขาวอมชมพู แก้มแดงๆ ปากแดงๆ แถมดุเหมือนแม่มึงอีก ดีนะมึงได้เมียพร้อมแม่เนี่ย” พีคพูดติดตลก
"หน้าตาดีขนาดนั้นพี่เขาคงมีผัวแล้วมั้ง" กรีนว่าขึ้น
"ใครจะไปรู้วะ เดี๋ยวนี้คนโสดหน้าตาดีมีเยอะแยะไป" พีคตอบกลับ
"แล้วกูจะเจอเขาได้ยังไง ชื่อเขากูก็ไม่รู้จัก"
“พูดแบบนี้แสดงว่ามึงชอบเขา?” พีคถามวิณณ์แล้วยิ้ม
ก็พอจะรู้ว่าไอ้วิณณ์เป็นคนค่อนข้างที่จะพูดตรงกับความรู้สึกที่มี ชอบก็บอกว่าชอบ ไม่ชอบไอ้วิณณ์ก็จะปฏิเสธไปตรงๆ ไม่แคร์ว่าคนถูกปฏิเสธจะรู้สึกยังไงด้วย
“อืม เขา…ก็น่ารักดี”
“เสียดายเนอะ ไม่ได้ถามชื่อพี่เขาไว้ ไม่งั้นได้เห็นคนเขินแล้ว” พีคแซววิณณ์ คนถูกแซวทำหน้านิ่งไม่มีท่าทีเขินอายแต่อย่างใด
“มันจะเขินรึเปล่าเถอะ ขนาดมึงพูดแซวมันอยู่มันยังยืนนิ่ง”
“เอาเงินมาคนละ 10 ล้านสิ กูจะเขินให้พวกมึงดู”
“งั้นก็ไม่ต้องเขินไอ้สัตว์!”
“ฮึๆ” วิณณ์หัวเราะในลำคอ
"พวกมึงคืนนี้เข้าผับกันปะ เฮียพลทักมาถาม" นักรบที่พึ่งมาถึงร้านเดินมาหน้าเคาน์เตอร์เอ่ยถามวิณณ์ พีค และกรีน
"ทักมาถามทำไมวะ?" พีคถามกลับ
"ไม่รู้ น่าจะหาเพื่อนแดกเหล้าอีกตามเคยนั่นแหละ"
"กูขอบาย พอดีเมียชวนดินเนอร์" กรีนว่า
"กูไป" พีคว่า ก่อนจะหันไปถามวิณณ์ที่ยืนอยู่ข้างๆ "มึงไปปะ?"
"อืม กูกำลังเซ็งๆกับพ่อพอดี"
"เค กูจะได้บอกเฮียพลว่าพวกเราไป"
"อืม"
.
.
.
Tiger Moth
"มองไรวะ? แดกเหล้าดิ"
"พีค มึงว่าคนนั้นคุ้นๆ เปล่าวะ?"
"คนไหน?" พีคหันมองตามที่วิณณ์ชี้ให้ดู
"คนที่นั่งโซนไม่สูบบุหรี่ชั้น 2"
"หือ นั่นมันพี่สาวคนสวยที่มึงเลี้ยงกาแฟกับขนมที่ร้านเรานิหว่า"
"ใช่ใช่ปะ?” วิณณ์ถามพีคเพื่อความแน่ใจ
"ใช่ กูจำได้ ชุดนี้เลยที่พี่เขาไปร้านเรา ว่าแต่ทำไมนั่งคนเดียววะ มาคนเดียวเหรอ?"
"ไม่น่าจะมาคนเดียว บนโต๊ะมีแก้วสองใบ" วิณณ์ว่า
"งั้นก็คงจะมากับผัวเขาละม้าง"
"ไหนมึงบอกกูที่คาเฟ่ว่าคนโสดหน้าตาดีมีเยอะแยะไงวะ"
"กูก็เดาไง แต่มึง เขาหน้าตาดีขนาดนี้มึงคิดว่าเขาจะโสดรึไงเล่า ถ้าหน้าตาขนาดนี้โสดนะ กู ไอ้นักรบ เฮียขุนพล มึง โสดแห้งตายกันหมดแล้วมั้ง"
"เดี๋ยวกูมา"
"ไปไหนวะ?"
"ไปถามเขาไงว่าโสดจริงไหม"
"ดะ...เดี๋ยวก่อนมึง ใจเย็นไอ้สัตว์ ไปถามเขาตรงๆแบบนั้นได้ยังไงเล่าไอ้เหี้ย ใครเขาจะบอกมึงว่ามีผัว" ไอ้เหี้ยนี่ก็ใจร้อนเกิ๊น
"หน้าเขาดูไม่เหมือนคนชอบพูดโกหก" วิณณ์พูดขณะที่ตายังจับจ้องไปที่คนที่ต้องการรู้จัก
"ว่าไปมึง หน้าตาสวยๆใสใสแบบนี้แหละกูเจอมานักต่อนักแล้ว ร้ายทุกราย"
"แต่ก็คงไม่ใช่เขา"
"แล้วแต่มึงเถอะงั้นอะ กูห้ามไม่เคยจะได้ ถ้าโดนผัวเขากระทืบอย่ามาเรียกให้กูไปช่วยนะบอกไว้ก่อน"
"เออ"
วิณณ์ลุกเดินไปหาเป้าหมายที่จับจ้อง ถ้าไม่ไปรู้จักตอนนี้ก็ไม่รู้จะเจอกันอีกเมื่อไหร่ มีโอกาสได้เจอก็ถามตรงๆไปเลย ถ้าโสดจะจีบ แต่ถ้าไม่ก็แค่ถอย
"สวัสดีครับ ผมขอนั่งด้วยได้รึเปล่า"
"โอ๊ะ! น้องที่เจอที่จิบคาเฟ่นิ!" เดือนทำหน้าตกใจเมื่อเห็นวิณณ์
"จำผมได้ด้วยเหรอครับ?" วิณณ์พูดขณะนั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามที่เดือนนั่ง
"จำได้สิ ก็พี่ดุเราเรื่องสูบบุหรี่ พี่พูดจริงๆนะคะ น้องอายุยังน้อยอย่าทำร้ายร่างกายตัวเองเลยนะ เลิกได้ก็เลิกเถอะเชื่อพี่ จะได้อยู่ใช้ชีวิตกับคนที่รักนานๆ”
"ผมไม่มีคนที่อยากอยู่ด้วยนานๆ"
"ทำไมละ?"
"แม่ของผมท่านเสียแล้ว"
"พี่เสียใจด้วยนะ"
"ขอบคุณครับ"
"แต่ว่า...น้องก็น่าจะมีพ่อนี่นา"
"พ่อที่ไม่ใช่พ่อผมไม่อยากอยู่ด้วยหรอก ตอนนี้ผมมีแค่ชีวิตผมเท่านั้น"
เดือนเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะยิ้มให้วิณณ์
"ถ้างั้นก็…ต่อให้ไม่มีคนที่อยากอยู่ด้วยนานๆก็ควรรักตัวเองให้มากๆนะ ชีวิตเรา เราควรปกป้องมากกว่าทำลาย ทำตัวเองให้ดีที่สุด มีความสุขกับตัวเองเยอะๆนะ"
"พี่เหมือนแม่ผมเลยรู้รึเปล่า"
"หืม เหมือนแม่เหรอ?"
ควรจะดีใจใช่ไหมที่มีคนมาบอกว่าเหมือนแม่น่ะ
"ครับ เหมือนมากๆ"
"เดือน อุ๊ย! ขอโทษที่รบกวนจ้า เชิญจีบเอ๊ย เชิญคุยกันต่อเลยจ้า ตามสบายนะคะสุดหล่อ เพื่อนโสดค่ะ จีบได้เลยค่ะ”
"อิงฟ้า" เดือนเรียกอิงฟ้าเสียงดุ อิงฟ้าก้มมากระซิบที่ข้างหูเดือน
"ผัวที่ดีคือผัวใหม่ค่ะเพื่อน"
"แต่ฉันยังไม่พร้อมจะมีใครตอนนี้"
"ฉันรู้ แต่เดือนแกมองเขาสิ เขาหล่อมากนะเดือน แถมการแต่งตัวยังดูสะอาดสะอ้านใส่แบรนด์เนมทั้งตัวด้วย นาฬิกาที่ใส่ก็ราคาเป็นล้าน รสนิยมดีกว่าไอ้พี่ขุนเขาเป็นไหนๆ"
"อิง…"
"ฉันไม่ได้ให้คบ แค่อยากให้แกลองคุยแก้เหงาเฉยๆ ฉันรู้ว่าแกยังแผลสดอยู่ แต่โอกาสดีๆแบบนี้ไม่ได้มีบ่อยนะ มีคนคุยใหม่ก็ดีแกจะได้ไม่ฟุ้งซ่านไง"
"ฉันไม่อยากดึงใครเข้ามาในตอนที่ยังรู้สึกไม่ดีแบบนี้"
"เฮ้อ...งั้นก็แล้วแต่แกก็แล้วกัน เตือนไว้ก่อน มีโอกาสให้รีบคว้าไว้ ฉันเชื่อว่ามันดีกว่าครั้งก่อนแน่ๆ ฉันเห็นความจริงใจในตาเขา เขามองแกตาประกายมาก" เดือนหันมองตาวิณณ์
"ไม่เห็นตาประกายเลย หน้าเขานิ่งจะตาย" นั่งมองเธอกระซิบคุยกับอิงฟ้าหน้านิ่งเลย ตาประกายตรงไหนอะ
"เฮ้อ...แกนี่มัน! เฮ้อ...เอาเป็นว่าเขาน่าจะชอบแก"
"พึ่งเจอกันจะชอบได้ไง"
"โอ้ยยยย!!! ฉันอยากจะกรี๊ดเป็นภาษาเกาหลี แกนี่มันอ่อนต่อโลกในเรื่องนี้จริงๆ แกเชื่อฉันเขาชอบแก ชอบอะ แบบรักแรกพบไรงี้" อยากโวยวายเสียงดังแต่ต้องกลั้นไว้ กลัวผู้ชายจะกลัว
"หล่อดูดีขนาดนี้ ฉันว่าเขาน่าจะมีแฟน"
"ใครจะไปรู้ เขาอาจจะโสดแบบแกก็ได้"
"ถ้าคุยแบบเป็นเพื่อนฉันโอเค แต่ถ้ามากกว่านั้นพักก่อน"
กลัวเลือกแล้วเจ็บอีก ตอนพี่ขุนเขาก็เป็นแบบนี้เลย แรกๆจริงใจนานวันไปความจริงใจไม่เหลือแม้แต่นิดเดียว
"แล้วแต่แกจะตัดสิ้นใจเลย"
"สงสัยอะไรถามได้นะครับ ผมยินดีตอบ" วิณณ์พูดขึ้นเมื่อเห็นอิงฟ้ากับเดือนกระซิบคุยกันไปหันมองหน้าเขาไป
"คือ..." เดือนอึกอักไม่รู้จะเริ่มพูดอะไร
"ผมชื่อวิณณ์ อายุ 21 ปี เรียนอยู่ปี 3 ม.A สถานะโสดครับ"
"หืออออ อะ...อายุ 21 เหรอคะ?" อิงฟ้าถามอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง
"ครับ"
"เดือน ผัวเด็กนะเดือน"
"อิงฟ้าใจเย็น" เดือนจับมืออิงฟ้าไว้ เดือนกลัวว่าอิงฟ้าจะกระโดดโลดเต้นที่มีเด็กหนุ่มเข้ามาจีบเพื่อนอย่างเธอ
ไม่ใช่ว่าไม่เคยมีคนมาจีบนะ มีเข้ามาจีบตลอด แต่ส่วนมากจะเป็นหนุ่มวัยทำงานทั้งนั้น นี่เป็นครั้งแรกเลยถูกเด็กจีบ
มันจะเป็นไปได้เหรอ เธออายุ 30 ปีแล้วนะ เคยแต่งงานมาแล้วด้วย ใส่แว่นสายตาหนาเตอะ ชุดที่ใส่ก็เหมือนคุณป้าท่านหนึ่งที่แต่งตัวไม่เป็น งงมาก อยากรู้ว่าวิณณ์เห็นอะไรในตัวของเธอ อาจจะเป็นเพราะเธอเหมือนแม่ตามที่พูดก็ได้
มาคุยด้วยเพราะเธอเหมือนแม่ ใช่แหละ น้องคงจะคิดถึงแม่
"เอาเลยเดือน กินเด็กเป็นอมตะ"
"อิงฟ้าตั้งสติหน่อย เขาเด็กมาก อายุห่างกับเราเกือบ 9 ปีเลย ไม่เอาหรอก"
"อายุไม่สำคัญแล้ว สำคัญที่ว่าหล่อ ดูดี รวย แถมยังเด็ก ไอ้พี่ขุนเขามีกรี๊ดอะถ้ามาเห็นว่าแกมีเด็กมาจีบ"
"เขาไม่ได้มาจีบ"
"ผมมาจีบครับ"
"!!!"
"ผมตั้งใจมาจีบพี่"
"อ๊าย เดือน" อิงฟ้าเขินตัวบิด
"พี่ว่าน้องไปจีบคนอื่นดีไหมคะ คือพี่ยังไม่พร้อมจะมีใครตอนนี้ พี่พึ่งเลิกกับสามีมาน่ะ"
"สามี!?"
"ค่ะ สามี พี่เคยแต่งงานมีสามีมาแล้ว น้องยังเด็กไปจีบคนที่เขา..."
"พี่เคยแต่งงานมีสามีแล้วยังไงครับ ตอนนี้พี่โสดนิ ผมก็จีบได้ไม่ใช่เหรอ?"
"น้องคะ..."
"ผมชื่อวิณณ์ รบกวนเรียกชื่อผมแทนคำว่าน้องด้วยครับ"
"เอ่อ...วิณณ์ พี่กับเราอายุต่างกันมาก พี่ว่าเราควรคิดให้ดี ไปคบกับคนที่อายุใกล้เคียงกันจะดีกว่านะ"
"ผมไม่แคร์เรื่องอายุ ผมชอบพี่ ต่อให้พี่อายุ 60 แล้วผมชอบผมก็จะจีบ"
"โอ้ คนจริง รุกแรงมาก" อิงฟ้าถึงกับหลุดปากชม
“พี่ขอโทษ พี่ยังไม่พร้อมจะมีใครในตอนนี้จริงๆค่ะ” เดือนปฏิเสธอย่างใจเย็น
"พี่ยังไม่พร้อมจะมีใครตอนนี้ผมโอเคครับ ผมรอพี่ได้"
"…"
"แต่ขออย่างเดียว ถ้าวันไหนพี่อยากเปิดใจให้ใครสักคน ผมขอเป็นคนแรกที่พี่นึกถึง ผมขอเป็นคนนั้นคนที่พี่คบคนต่อไป แล้วพี่จะไม่ผิดหวังกับความรักที่ผมมีให้"
"พี่เคยมีพันธะ พี่ไม่ได้บริสุทธิ์ พี่ไม่สวยไม่ได้สาวเหมือนคนวัยเดียวกับเรานะ"
"ผมบอกแล้วไงว่าผมไม่แคร์ อดีตของพี่ปล่อยทิ้งไปได้เลยมันไม่ใช่ปัญหาที่จะทำให้ผมเลิกชอบพี่ แต่งงานมีสามีแน่นอนเรื่องอย่างว่าย่อมมีอยู่แล้ว ก็ผัวเมียกันเอากันผิดตรงไหน สมัยนี้แล้วครับ ถ้ามัวสนแต่ความบริสุทธิ์ของอีกฝ่ายแล้วเมื่อไหร่จะมีความรักที่ดีได้ ตัวผมเองก็ไม่ใช่คนดีอะไรมากมายพี่ก็เคยเห็น ผมอาจจะไม่ใช่ผู้ชายในฝันของคนหลายคน แต่ผมมั่นใจและตอบได้อย่างเต็มปากว่าผมเป็นคนที่รักใครรักจริง รักเดียวใจเดียว รักเหมือนหมาโง่ๆตัวหนึ่งที่รักเจ้าของของมัน"
“…”
“แล้วก็ ใครบอกว่าพี่ไม่สวย พี่สวยมากครับ”
"เด็กมาแรงมากเดือน"
"เอาไงดีอิงฟ้า วิณณ์ไม่ฟังเราเลย" เพราะไม่รู้จะพูดยังไง เดือนจึงหันไปปรึกษาอิงฟ้าที่ยืนอยู่ข้างๆ ทว่าเพื่อนของเธอกลับยิ้มทำหน้าฟิน
อิงฟ้านะอิงฟ้า น่าหยิกจริงๆเลย
"พี่ยังเข็ดกับความรักครั้งก่อนผมเข้าใจ แต่ผมอยากขอโอกาส ไม่ต้องเปิดใจให้ผมตอนนี้ก็ได้ ขอแค่พี่คุยกับผมเหมือนเพื่อนคนหนึ่งไปก่อน ผมอยากรู้จักพี่จริงๆนะครับ"
"พี่ไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลานานแค่ไหน พี่ถูกทำร้ายจิตใจมาอย่างเจ็บปวด พี่ไม่อยากให้วิณณ์มาเสียเวลากับพี่นะ" เดือนตอบกลับน้ำเสียงจริงจัง
เธอรู้ดี เล่นกับความรู้สึกมันไม่ดี เพราะคนที่จะเจ็บก็คือวิณณ์เอง
"ถ้าพี่ไม่อยากให้ผมเสียเวลาก็เปิดโอกาสให้ผมเลยสิครับ พี่ไม่ต้องรีบ เราค่อยเป็นค่อยไปก็ได้ ผมรับรองว่าถ้าพี่มีผมพี่จะไม่ผิดหวังกับความรักอีกแน่นอน"
"อิงฟ้าช่วยเราด้วย"
"ช่วยยังไงเล่า เด็กบุกแรงขนาดนี้ ลองคุยไปก่อนก็ได้เดือน"
"แต่ฉันไม่อยากให้วิณณ์เสียเวลา ฉันไม่อยากให้ความหวังนะ ถ้ามันไม่มีโอกาสที่จะเป็นไปได้เลยล่ะ"
"ถ้าผมเจ็บเดี๋ยวผมดูแลตัวเองเองครับ ผมถือว่าผมเลือกเอง"
“พี่…”
เอาไงดี วิณณ์นั่งจ้องตาไม่กะพริบเลยด้วย
“คือพี่…”
“ผมไม่เคยจีบใคร พี่เป็นคนแรก”
พึ่งเลิกกับพี่ขุนเขาเมื่อวานเองนะ มันจะไม่ไวไปหน่อยเหรอที่จะเริ่มคุยกับใครใหม่
“อิงฟ้า”
“แล้วแต่แกจะตัดสินใจเลย ฉันขอไม่ออกความเห็น เชิญคุยกันตามสบายเลยนะคะ ขอตัวไปเต้นต่อก่อนนะเดือน”
“ดะ…เดี๋ยวสิอิง อย่าพึ่งไปสิ” ไม่ทันแล้ว อิงฟ้าไปเต้นต่อแล้ว เดือนหันมองวิณณ์ที่นั่งอยู่ตรงข้าม
“เอ่อ…วิณณ์”
“ผมรู้สึกถูกชะตากับพี่มากๆ ผมเชื่อว่าเราจะไปกันด้วยดี”
เอาไงดีเดือน ดูเหมือนวิณณ์จะไม่ยอมง่ายๆจนกว่าจะพูดว่าตกลงคุยนะ
“ผมชอบพี่จริงๆนะครับ เราคุยแบบเพื่อนก็ได้ครับ แค่พี่ให้โอกาสผม ให้โอกาสลูกหมาตาดำๆคนนี้เถอะนะครับพี่คนสวย” วิณณ์เอามือเท้าคางมองเดือนตาปริบๆ
"อะ…อือ ถ้างั้น…ลองคุยกัน…ก่อนก็ได้"
ใจอ่อนจนได้ ไม่เคยมีใครมาพูดกับเธอเสียงอ้อนแบบนี้มาก่อน ท่าทางของวิณณ์เหมือนลูกหมาที่กำลังรอเจ้าของไปรับเลี้ยงด้วย เจอแบบนี้ใครจะไม่ใจอ่อนบ้าง
เคยได้ยินแต่คนเขาพูดกันคุยกับเด็กดีนะ สกินชิฟเก่ง ขี้อ้อน ไม่เคยเจอจนมาเจอเองนี่แหละ อืม เด็กมันก็อ้อนเก่งจริงๆนั่นแหละ
"ขอบคุณครับพี่คนสวย ถ้างั้นผมขอคอนเทคพี่หน่อยได้ไหม?”
“ค่ะ”
เดือนให้คอนเทคกับวิณณ์ไป
“ปกติพี่ดื่มไหมครับ?”
“ไม่ค่อยดื่มค่ะ”
“ถ้างั้นวันนี้พี่ดื่มได้เต็มที่เลยนะครับ แพงแค่ไหนก็ได้ ผมเลี้ยงเอง”
“ไม่ได้สิ มันจะดูเอาเปรียบเกินไปนะ พี่ว่าเราหารครึ่งกันดีกว่าค่ะ”
“ไม่เอาเปรียบหรอกครับ ถือว่าเป็นการดื่มฉลองที่เราเริ่มคุยกันไง”
“…”
“พี่ไม่ต้องห่วงเรื่องค่าใช้จ่ายครับ ผมมีเงินมากพอที่จะเลี้ยงพี่ให้สบายไปตลอดชีวิตโดยที่พี่ไม่ต้องทำอะไรเลยนะครับ”
“เอ่อ…”
“ให้ผมเลี้ยงเถอะนะครับพี่คนสวย”
พี่คนสวยมาอีกแล้ว
“อะ อือ ก็ได้ค่ะ”
แพ้ ยอม