หลังจากวันนั้นที่ฉันพยายามจะอธิบายเรื่องอดีตให้ภูผาฟัง แต่ก็ไม่เป็นผล ความรู้สึกผิดบาปและความคับข้องใจก็ยิ่งเกาะกินใจฉันมากขึ้น ฉันรู้ดีว่าการจะทำให้เขาเข้าใจและให้อภัยฉันเป็นเรื่องยากเย็นแสนเข็ญ
ชีวิตในคฤหาสน์ของภูผาดำเนินต่อไปอย่างเงียบงัน ความสัมพันธ์ของเรายังคงเป็นไปตามสัญญาที่ไร้หัวใจ เขาเป็นเหมือนเจ้าของบ้าน ส่วนฉันก็เป็นเพียงผู้อยู่อาศัยที่มาอาศัยชายคาของเขา ไม่มีคำพูดใด ๆ เกินเลยจากความจำเป็น ไม่มีแม้แต่การสบตาที่นานเกินไป
ฉันใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในห้องสมุด เพื่อหลีกหนีจากความเงียบเหงาและอึดอัดที่แผ่ซ่านไปทั่วบ้าน หนังสือกลายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันในเวลานี้ มันพาฉันไปสู่โลกอื่นชั่วขณะหนึ่ง โลกที่ฉันไม่ต้องคิดถึงเรื่องความลับของลูกชาย เรื่องพ่อที่กำลังฟื้นตัว และเรื่องของภูผา
ฉันยังคงไปเยี่ยมพ่อที่โรงพยาบาลทุกวัน อาการของท่านดีขึ้นเรื่อย ๆ จนคุณหมอบอกว่าอีกไม่นานก็อาจจะกลับบ้านได้ นั่นเป็นข่าวดีเพียงไม่กี่อย่างที่ทำให้ฉันรู้สึกมีความสุขได้บ้าง
ในทุก ๆ ครั้งที่ได้คุยกับพ่อ ฉันก็ยิ่งรู้สึกผิดที่ต้องปกปิดเรื่องราวทั้งหมดเอาไว้ พ่อคงไม่รู้ว่าฉันต้องแลกอะไรมาบ้างเพื่อให้ท่านหายดี
ส่วนน้องไทม์ ฉันพยายามโทรหาแก้วให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เสียงหัวเราะสดใสของลูกชายคือสิ่งเดียวที่ทำให้ฉันยิ้มได้ ฉันคิดถึงเขาเหลือเกิน คิดถึงอ้อมกอดเล็ก ๆ ที่เคยกอดฉันแน่น ฉันอยากกลับไปอยู่กับเขา อยากกอดเขาให้ชื่นใจ แต่ในสถานการณ์แบบนี้ ฉันทำไม่ได้
ค่ำคืนหนึ่ง ฉันได้ยินเสียงรถยนต์ของภูผาเลี้ยวเข้ามาในคฤหาสน์ดึกกว่าปกติ ฉันแอบมองจากหน้าต่างห้องนั่งเล่น เห็นเขาก้าวลงจากรถด้วยท่าทีเหนื่อยล้า ใบหน้าของเขาดูซีดเซียวกว่าปกติเล็กน้อย
ฉันรู้ดีว่าเขาทำงานหนัก และรับผิดชอบบริษัทใหญ่โตเพียงลำพัง หลังจากที่ครอบครัวของเขาต้องเผชิญกับโศกนาฏกรรมในอดีต
ฉันคิดว่าเขาคงกำลังเผชิญกับความกดดันมากมาย และฉันก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเห็นใจเขาเล็กน้อย แม้ว่าในใจลึก ๆ จะยังคงมีความกลัวและไม่เข้าใจในตัวเขาอยู่ก็ตาม
เมื่อภูผาเดินผ่านห้องนั่งเล่นที่ฉันนั่งอยู่ เขาก็หยุดชะงัก สายตาคมกริบของเขากวาดมองมาที่ฉันเพียงชั่วครู่ ก่อนจะเดินตรงไปยังห้องทำงานของเขา โดยไม่มีคำพูดใด ๆ
ความห่างเหินและเย็นชาของเขายังคงเป็นกำแพงที่ขวางกั้นเราไว้ ไม่มีช่องว่างให้ฉันเข้าไปใกล้เขาได้เลย
ในตอนนั้นเอง ฉันก็นึกถึงเรื่องราวความรักของเขากับใครบางคนในอดีต ที่เคยอ่านเจอในบทความเก่า ๆ เขาเคยเป็นผู้ชายที่อบอุ่นและมีชีวิตชีวา แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นคนเย็นชาและเต็มไปด้วยความแค้น
ฉันได้แต่สงสัยว่าอะไรคือสิ่งที่เปลี่ยนเขาไปมากขนาดนี้ และฉันมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนั้นมากน้อยแค่ไหน
ความรู้สึกโดดเดี่ยวเกาะกุมฉันแน่น ฉันรู้สึกเหมือนอยู่ตัวคนเดียวในโลกใบนี้ ที่คฤหาสน์หลังใหญ่แห่งนี้ ฉันไม่มีเพื่อน ไม่มีคนให้ปรึกษา ฉันต้องแบกรับความลับและเรื่องราวทุกอย่างไว้คนเดียว
ฉันมองออกไปนอกหน้าต่าง ดวงจันทร์ส่องแสงนวลตาบนท้องฟ้ายามค่ำคืน แต่กลับไม่สามารถส่องเข้ามาในความมืดมิดในใจของฉันได้
ฉันรู้ดีว่าเส้นทางข้างหน้ายังคงยาวไกล และฉันก็ไม่รู้ว่าปลายทางของสัญญารักใต้เงาแค้นนี้ จะนำพาชีวิตฉันไปในทิศทางใด สิ่งเดียวที่ฉันทำได้ในตอนนี้ คือการเข้มแข็ง และอดทนรอให้ถึงวันที่อิสรภาพของฉันจะกลับคืนมาอีกครั้ง... พร้อมกับความหวังว่าสักวันหนึ่ง ความจริงทุกอย่างจะถูกเปิดเผย และฉันจะสามารถใช้ชีวิตอยู่กับลูกชายได้อย่างมีความสุข