บทนำ
บทนำ
ตึก ตึก ตึก
เสียงของรองเท้าส้นเข็มราคาครึ่งล้านกระทบกับพื้นดังขึ้นในทุกจังหวะการลงเท้าที่สม่ำเสมอ บ่งบอกว่าเท้าคู่นั้นถูกฝึกให้เดินบนส้นสูงมากน้อยแค่ไหน
เจ้าของร่างเพรียวระหงในชุดเดรสสีชมพูแหวกอกจนแทบเห็นร่องนมเดินพกความมั่นอกมั่นใจมาเต็มร้อยเพื่อการอ่อยผู้ชายในวันนี้ ตั้งใจจัดเต็มตั้งแต่ขนตาที่จะต้องดัดงอนให้ได้องศาของการช้อนตามอง ที่จะตกเขาด้วยดวงตาของเธอได้ สีคิ้วที่ถูกปัดจนอ่อนเพื่อให้เข้ากับสีผมสีชมพูสายไหม หรือแม้แต่อายไลน์เนอร์ก็ต้องเฉี่ยวจนเกี่ยวผู้ชายให้เข้าหา
แต่สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คงเป็นสีลิปสติกบนริมฝีปากอวบอิ่มโดยธรรมชาติ ที่จ้องปุ๊บเขาก็ต้องหลงใหลจนอยาก ‘จูบ’ ให้ปากเจ่อ
และทุกอย่างที่ตั้งใจทำแบบนี้ตั้งแต่เช้าก็เพื่อเพื่อน...
เพื่อเพื่อนที่แอบชอบมาตั้งแต่ปีหนึ่ง เจอหน้ากันครั้งแรกคำว่าพ่อของลูกก็ผุดขึ้นมาหัว แม้จังหวะสบตาของเราแทบจะไม่มี แต่แค่เธอได้มองใบหน้าหล่อเหลานั้นแบบเต็มๆ ตาก็ใจเต้นตุบตับไม่เป็นจังหวะจนเจ็บอกไปหมด และมันเต้นมาแบบนี้เกือบสี่ปีแล้ว
นานขนาดนี้ก็ควรเจ็บตรงอื่นได้แล้วล่ะ
“สนามแข่งรถ ไม่ใช่รันเวย์ให้เธอมาเดินแบบ”
“...”
เสียงทุ้มคุ้นหูดังขึ้นเมื่อร่างเล็กลูกคุณหนูแกล้งทำเป็นเดินผ่านหน้าพิท โดยที่ตรงนั้นมี ‘วอร์’ กำลังนั่งเช็ดรถอยู่ข้างหน้าพอดี พอได้ยินเสียงทุ้มเป็นฝ่ายเอ่ยทักก่อน ‘เซียร่า’ จึงแกล้งทำเป็นหยุดเดินแล้วก้มมองร่างสูงที่เงยหน้ามองเธออยู่ก่อนแล้ว
ก่อนจะเล่นบทไม่เห็นใส่ เพื่อให้เขาคิดว่าเธอไม่ได้สนใจ
“อ่าว วอร์ นายอยู่นี่ด้วยเหรอ?”
“ไม่เนียน”
“...”
เจ้าของร่างผิวน้ำนมที่ใครเห็นเป็นต้องจ้องกันตาไม่กระพริบ ด้วยลุคเซ็กซี่กับใบหน้าแสนดื้อรั้นนั้นช่างดึงดูดให้ผู้ชายหลายคนจ้องมองกันจนลูกตาแทบไหลมารวมกัน ยกเว้นผู้ชายคนสนิทของเธอคนนี้ ที่ไม่ว่าจะใช้กายหยาบที่พระเจ้าตั้งใจปั้นให้ หรือใบหน้าสวยๆ ที่ให้หมอช่วยทุกเดือนก็ยังไม่สามารถดึงดูดสายตาเขาให้จับจ้องอยู่แต่ที่เธอได้
ไม่รู้ว่าหัวใจอีกฝ่ายทำด้วยน้ำแข็งขั้วโลกเหนือหรืออย่างไร เธอขยันขายขนมจีบบ่อยขนาดนี้ยังไม่ยอมใจอ่อนเลย
ใจยังแข็งขนาดนี้ อยากรู้จริงๆ เลยว่าตรงนั้นจะแข็งขนาดไหน
แต่กว่าจะเจอคนตรงสเป็คมันยากลำบากมากแค่ไหน
ในเมื่อเจอแล้ว ชอบแล้วก็จะไม่มีวันปล่อยเขาไปเด็ดขาด!
วอร์กลับไปก้มหน้าก้มตาเช็ดรถคู่ใจของเขาเหมือนเดิม ทำเป็นเหมือนไม่สนใจกัน แต่ในระหว่างที่ก้มลงไปเช็ดตรงส่วนล้อ สายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นความขาวเนียนจากเรียวขาสวยสะท้อนตาผ่านแม็กของล้อ
นับวันกระโปรงยิ่งสั้นขึ้นเรื่อยๆ ‘ดุ’ เมื่อไหร่นั่นแหละถึงยอมเพลาๆ ลง แต่เดี๋ยวอยากเอาแต่ใจตัวเองขึ้นมาเมื่อไหร่ก็กลับมาใส่สั้นอีก
ไม่เคยระวังตัวเอง ไม่รู้จะต้องให้เขาระวังให้ตลอดเลยหรือไง
“ไม่มีกระโปรงที่มันใส่แล้วยาวกว่านี้แล้วเหรอ?” สุดท้ายเขาก็ทนดูต่อไปไม่ไหว ถึงพยายามจะไม่มอง ทว่าผิวขาวๆ ของเธอมันเตะตาจนพาให้เขา ‘อึดอัด’ จากที่เช็ดรถอยู่มันก็รู้สึก อยากจะเช็ดอย่างอื่นขึ้นมา
“ทำไม? ฉันก็ใส่แบบนี้ปกตินะ”
“นี่มันสนามแข่งรถ”
“ไม่ใช่วัดนิ”
“...” วอร์ถอนหายใจแรงอย่างเอือมๆ ก่อนจะกลับมาตั้งสมาธิเช็ดรถของตัวเองเหมือนเดิม เพราะเหลือแค่เพียงล้อหน้าอีกล้อก็เสร็จแล้ว แต่ก็ไม่วายมีคนเข้ามาก่อกวนด้วยการเดินมาเท้าศอกกับเบาะรถแล้วโน้มหน้าชะโงกมาหาเขา จนภูเขาใหญ่โตสองลูกแทบจะล้นออกมาจากชุด
โอเค วันนี้กูไม่ได้เช็ดหรอกรถน่ะ!
“เบื่อเช็ดรถยัง”
“ทำไม?” ร่างสูงเงยหน้าถามด้วยวรหน้าเอือมๆ แต่ก็ไม่ได้นึกรำคาญหรืออะไรจริงจัง เพราะเขากับเธอก็รู้จักกันมานานแล้ว และเขาก็โดนเธอ ‘รุก’ ใส่แบบนี้บ่อยจนชิน
“ถ้านายเบื่อเช็ดรถ นายเปลี่ยนมาเช็ดฉันได้นะ”
“...”
นัยน์ตาเรียบนิ่งมองใบหน้าแสนยั่วยวนที่ค่อยๆ ขยับเข้ามาหาเขาเรื่อยๆ อย่างต้องการจะยั่วกันให้ได้โดยไม่คิดจะขยับใบหน้าหนีไปไหน ในเมื่อเธออยากให้ใบหน้าของเราใกล้กัน งั้นเขาก็จะไม่ขยับหนี อยากรู้เหมือนกันว่าผู้หญิงที่ทำตัวกร้านโลกแต่จริงๆ ไร้เดียงสาเสียยิ่งกว่าอะไรจะใจถึงแค่ไหน
เขารู้ว่าเซียร่าเป็นผู้หญิงที่กล้าได้กล้าเสีย แต่ในเรื่องที่ควรเป็นของผู้ชายเธอทำเก่งได้ไม่นาน และเก่งไม่ได้เท่าเขาหรอก
“วอร์ นายไม่หลบเหรอ”
เห็นไหม แค่นี้ก็เสียงสั่นแล้ว
“อยากรู้ว่าจะทำอะไร”
“ฉันอยากจูบนาย”
“เธอไม่กล้าหรอก ถ้าฉันไม่เริ่ม”
“...”
วอร์จ้องมองแพขนตางอนงามที่รายล้อมดวงตากลมโตดื้อรั้นของคนตรงหน้าที่ขึ้นชื่อว่า ‘เพื่อน’ อย่างสำรวจ ดูจากการแต่งหน้าแต่งตัวแล้วคงไม่ต่ำกว่า 6 โมงเช้า แล้วคุณหนูอย่างเซียร่ามีหรือจะตื่นเช้าขนาดนั้น วันหยุดไม่มีเรียนแบบนี้ไม่เคยต่ำกว่า 10 โมง แต่ที่ตั้งใจตื่นมาบรรเลงขนแปรงแบบนี้คงไม่พ้นมาหาเขา
“วอร์...”
ใบหน้าเรียวเล็กยังคงขยับเข้าไปใกล้เรื่อยๆ จนตอนนี้ปลายจมูกเชิดรั้นของเธอกับเขาเกือบจะแตะกันอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ทำใจดวงน้อยเต้นรัวเหมือนถูกกลองตีในอกและเสียงสั่นเครือแบบนี้กลับไม่ใช่ความใกล้ชิดของเราสองคน แต่กลับเป็นมุมปากหยักที่ยกยิ้มขึ้นน้อยๆ บนใบหน้าหล่อเหลานั้นต่างหาก ทว่าพอหลุบตาจะมองอีกทีให้เต็มตา รอยยิ้มใจละลายนั้นก็เลือนหายไปแล้ว
“กูว่ากูทิ้งมันไว้แถวนี้นะ”
พรึ่บ!
“โอ๊ยย!!”
“...”
เซียร่าผงะถอยหลังด้วยความตกใจเมื่อกำลังเคลิบเคลิ้มกับการได้มองผู้ชายที่ตัวเองชอบแบบใกล้ชิด แต่อยู่ดีๆ ผ้าเช็ดรถก็ลอยมาแปะหน้าเธอเต็มๆ ก่อนที่เสียงร้องลั่นนั้นจะทำให้ทุกคนหันไปมองด้วยความตกใจ ไม่เว้นแม้แต่เจ้าของผ้าอย่างวอร์
เขาไม่ได้ตั้งใจนะ แต่ตกใจที่จู่ๆ ลุกซ์ก็เดินเข้ามาต่างหาก
“อ่าวยัยนกเค้าแมว เอาผ้าเช็ดเท้าไปดมทำไม”
“วอร์!!”
“ขอโทษ” วอร์รีบหยัดตัวลุกขึ้นแล้วเดินไปหยิบผ้าเช็ดรถที่ตกไปอยู่ตรงเท้าเล็กขึ้นมาแล้วโยนทิ้งไปทันที ก่อนจะลากสายตาสำรวจใบหน้าสวยที่ตอนนี้เลอะนิดหน่อย แต่ก็ยังสวยเหมือนเดิม
“มึงแกล้งยัยคุณหนูอีกแล้วเหรอ”
“แล้วใครให้มึงเข้ามา”
“ทำไมกูถึงเข้าไม่ได้ มึงสองคนทำไรกันอยู่?”
“...” ลุกซ์หรี่ตามองทั้งคู่อย่างจับผิด คู่นี้น่าจับตามองตั้งแต่ปีแรก แต่ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมความสัมพันธ์ถึงไม่พัฒนาเสียที ย่ำอยู่กับว่าเพื่อนมาเกือบสี่ปีแล้ว
แต่ใช่ว่าเป็นเพื่อนแล้วไม่มีอะไรแซ่บๆ ให้เห็น ดั่งประโยคที่ว่า น้ำหยดลงหินทุกวัน หินบอกรำคาญอะ
“โจ่งแจ้งเลยนะเพื่อนนน”
“มึงเจอยัง ของที่มึงหา”
“ไม่ต้องรีบไล่หรอก รู้ว่าอยากอยู่ด้วยกัน”
วอร์ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ รำคาญฉิบหาย
แซวกันอยู่นั่น อยากให้ได้กันจนใจจะขาดเลยมั้ง
“เดี๋ยวเอาทิชชู่เปียกเช็ดให้”
“เหมือนมันจะเลอะตรงนมฉันด้วยนะ”
“เช็ดเอง”
“ชิ!!”
“ฉันบอกแล้ว”
“บอกอะไร?” วอร์ลากสายตาเรียบนิ่งไร้อารมณ์ถามลุกซ์พร้อมกับเลิกคิ้วมองใบหน้ากวนตีนด้วยความสงสัย ไม่รู้ว่าสองคนนี้ไปคุยไปบอกอะไรกันมาอีก แล้วทำไมเขาถึงไม่รู้ว่าทั้งสองคนไปคุยอะไรกันตอนไหน
“บอกว่ามึงไม่ชอบผู้หญิง”
“เฮ้อ” ได้ยินแบบนั้นเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาขาวผ่องเหมือนเต้าหู้ก็ถอนหายใจออกมาอย่างปลงตก แต่ก็ไม่ได้แก้ตัวอะไรเพราะเขาชอบผู้หญิง ไม่ได้ชอบผู้ชายเหมือนที่พวกมันใส่ร้าย ถึงแม้ในอนาคตจะไม่รู้ว่าเขาจะเปลี่ยนไปชอบผู้ชายหรือไม่ แต่ตอนนี้เขาชอบผู้หญิง
“ฉันยังสวยอยู่ไหม”
“ต้องตอบที่เธอล็อคไว้ไหม?”
“วอร์อะ!” คนตัวเล็กชักสีหน้าใส่อย่างงอนๆ มือไม้ปัดเศษผม เศษผ้าที่ติดอยู่บนใบหน้า โชคดีที่ว่าผ้าที่ลอยเข้าหน้าเธอเป็นผ้าแห้ง และเป็นผ้าที่วอร์เอามาเช็ดให้มันเงาอีกที แต่ถึงจะเลอะหรือเปื้อนก็ยังไม่กลับตอนนี้หรอก
“เมื่อกี้นายกลัวฉันจูบเหรอ?”
“...” วอร์เหลือบมองเข้าไปด้านในพิท และเมื่อเห็นว่าลุกซ์ออกไปแล้วจึงลากสายตาเรียบนิ่งกลับมามองใบหน้าสวยแสนดื้อตรงหน้าอีกครั้ง
“ฉันเห็นภาพหลอนซ้อนเข้ามาต่างหาก”
“แรงไปแล้ว!” เธอไม่ใช่ผีนะ! ต่อให้เป็นผีสวยขนาดนี้ก็คงไม่มีใครกล้าวิ่งหนีหรอก นอกจากนายนี่คนเดียว!
“เป็นผู้หญิงจะมายุ่งอะไรที่สนามแข่งนักหนา” วอร์อดที่จะเอาเรื่องนี้มาบ่นไม่ได้ ถึงรู้ว่าสนามนี้เป็นของพ่อเธอ แต่แทนที่พ่อจะมาบ่อย กลับเป็นลูกสาวที่มาแทบทุกวัน มาทุกครั้งที่ว่าง ไม่ซิ ต้องบอกว่ามาทุกครั้งที่เขาอยู่ที่นี่มากกว่า
“ก็ไม่ได้อยากมา และวันนี้ฉันไม่ได้ตั้งใจมาหานายด้วย พ่อส่งฉันให้มาดูความเรียบร้อย พ่ออยากรู้ว่าวันๆ พวกนายทำอะไรกันบ้าง ตั้งใจซ้อมแค่ไหน เดี๋ยวฉันก็ต้องกลับไปหาพ่อแล้ว”
“...”
“ฉันพูดจริงๆ นะ”
“ก็ไม่ได้ว่าอะไร”
ไม่ได้ว่าอะไรแต่เหมือนสีหน้าจะออกนะคะว่าไม่ค่อยอยากให้เธอกลับเท่าไหร่ ไม่รู้เลยว่าระหว่างหน้าตากับเสียงของเขาตอนนี้อะไรเรียบนิ่งมากกว่ากัน
ใบหน้าสวยใสไร้รูขุมขนฉีกยิ้มจนแก้มแตก เธอดูออกว่าวอร์อารมณ์เปลี่ยนไป ไม่ได้หลงตัวเองหรอกนะ แต่เธอเฝ้าศึกษาพฤติกรรมของผู้ชายที่เธอชอบมาหลายปี ผู้ชายตรงหน้าเธอเขาไม่ค่อยแสดงอารมณ์ในเชิงหงุดหงิดให้เห็นเท่าไหร่ หากเขาไม่ชอบหรือไม่พอใจ ใบหน้าที่ว่าหล่อกินเรียบ หรือหล่อเรียบนิ่งอยู่แล้วจะนิ่งยิ่งกว่าเดิมเสียอีก
เซียร่าเดินเอามือไพ่หลังพลางค่อยๆ ก้าวเข้ามาหาเขาช้าๆ ก่อนจะแทรกกายเข้าไปอยู่ระหว่างรถกับตัวเขา ทั้งยังช้อนดวงตามีเสน่ห์ขึ้นมองชายหนุ่มอย่างต้องการจะยั่วกัน
นัยน์ตาคมกริบมองร่างบอบบางแต่สมส่วนตรงหน้านิ่งๆ หากแต่ภายในร่างกายเขามันไม่นิ่งอย่างที่คนภายนอกเห็นเลย โดยเฉพาะก้อนเนื้อที่อกข้างซ้าย จังหวะการเต้นของหัวใจก็เริ่มเกเรกับเจ้าของขึ้นมาสะอย่างนั้น
“หรือนายอยากให้ฉันอยู่ต่อ”
“ไม่ได้พูด”
“ปากนายไม่ได้พูด แล้วหัวใจนายล่ะ”
“อย่ามาอ่อย 58 แทงจุกนะ”
เขาสาดประโยคที่คิดว่าจะไม่มีวันพูดออกไปอย่างเด็ดขาด เพราะมันอาจทำให้ความสัมพันธ์ที่สั่นคลอนอยู่แล้วอันตรายเข้าไปอีก แต่เพราะเธอขยันยั่วกันเหลือเกิน หากไม่เตือนอย่างจริงจัง คนที่จะประสาทกินตายคงเป็นเขา
แต่เธอเป็นพวกใครแรงมาชอบแรงกลับสะด้วยซิ...
“ไม่รู้เหรอว่าอยากจุกมาตั้งนานแล้ว”
“...”