ตอนที่ 2 เหตุผลที่เลือก

2103 Words
มุกตาพา หยุดยืนที่หน้าห้องพักของคุณอำนาจ และหูก็เงี่ยฟังเสียงที่ดังออกมาข้างนอก “มนตรี ฉันรู้ตัวดี ว่าคราวนี้ฉัน คงจะอยู่ได้ไม่นานแล้วละ” “นายจะพูดบ้าแบบนี้ได้ไง อำนาจ นายจะต้องดีขึ้น หมอต้องช่วยนายได้อยู่แล้ว” “นายไม่ต้องปลอบใจฉันหรอกนะ แต่ฉันก็อยากทำความตั้งใจของฉันให้สำเร็จอีกเรื่อง “ “ฉันรู้ แต่ฉันก็ไม่สามารถจะบังคับจิตใจของยัยมุกได้หรอกนะอำนาจ “ “ฉันรู้ว่ามันเรื่องยากที่ทำใจรับได้ แต่ว่า ฉันไม่อยากให้คนพวกนั้นเอาสมบัติที่ฉันสร้างมากับมือ ไปเป็นของพวกเขามนตรี นายก็เห็นว่าเป็นยังไง” “ฉันรู้ว่าพวกนั้นหวังอะไรจากนาย แต่นายคิดไหมว่า ถ้าเกิดว่านายแต่งงานกับยัยมุก พวกนั้นจะมองยัยมุกยังไง” “ฉันคิดว่า นายจัดการได้ มนตรี และยัยมุกเองก็คงจัดการได้เช่นกัน สมบัติของฉันทั้งหมด ธุระกิจที่ฉันสร้างมา ฉันยินดีที่จะมอบมันให้คนที่ฉันรักและไว้ใจ นั้นก็คือนายมนตรี ชีวิตนี้ฉันถือว่า นายกับหนูมุกคือครอบครัวของฉันเท่านั้น และฉันรู้ว่านายสามารถจะดูแลธุรกิจของฉันให้งอกงามได้ต่อไป ฉันหวังเพียงเท่านั้น” “ฉันรู้ แต่เรื่องนี้ก็ขึ้นอยู่กับยัยมุก อยู่ดี” “ฉันรู้ แต่ฉันก็หวังว่าหนูมุกจะเข้าใจในสิ่งที่ฉันขอมนตรี นี่ความปรารถนาครั้งสุดท้ายของฉัน และหลังจากนั้นฉันคงจะตายตาหลับแล้วละ” คุณอำนาจเอ่ยเสียงเบา ก่อนจะหอบหายใจอีกครั้ง ด้วยความเหนื่อยล้า “นายอย่าเพิ่งพูดอะไรเลย อำนาจ นายยังไม่เป็นอะไรไปง่าย ๆ หรอกนะ นายรักษาตัวให้ดีก็พอ “ คุณมนตรีได้แต่เอ่ยให้กำลังใจเพื่อนรักเพียงคนเดียวของท่าน มุกตาพาที่ยืนฟังอยู่ข้างนอก ได้แต่รู้สึกเศร้า และเธอรับรู้ถึงความห่วงและกังวลของคุณอำนาจดี และเธอก็เห็นแล้วว่าคนพวกนั้นคิดยังไงกับท่าน ก๊อก ก๊อก ก๊อก มือเล็กเคาะประตู ก่อนจะเปิดเข้าไปด้านในพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า “อ้าว มุก มาแล้วเหรอทำไมเร็วจังล่ะลูก แล้วไหนผลไม้ละ “ “พอมุกเปลี่ยนใจมาหาคุณอาก่อนดีกว่านะค่ะ” “มุก มาแล้วเหรอ “คุณอำนาจเอ่ยถามเสียงเบา “สวัสดีค่ะคุณอา เป็นอย่างไรบ้างคะคุณอา “ “คราวนี้หนักหน่อยนะ “ “อือ เดี๋ยวก็กลับบ้านได้ หมอสมัยนี้เก่งจะตายไป นายไม่ต้องคิดมาก “ “นั่นสิค่ะคุณอา หมอสมัยนี้ เก่ง ๆ ทั้งนั้นค่ะ เดี๋ยวคุณอาก็กลับบ้านได้ค่ะ” “หืม แต่ไม่รู้จะกลับสภาพไหนสินะ” “คุณอาอย่าพูดแบบนั้นสิคะ ถ้าคุณอาไม่รักษาตัวให้แข็งแรง แล้วจะเป็นเจ้าบ่าวได้ยังไงกันละคะ คุณอา “ คำพูดของมุกตาพาทำให้ผู้สูงวัยทั้งสองคน หันมามองที่เธอพร้อม ๆ กัน “มุกว่าอะไรนะ อาได้ยินไม่ชัด” “คุณอาต้องรักษาตัวให้แข็งแรง นะคะ เมื่อคุณอาออกจากโรงพยาบาลแล้ว มุกจะแต่งงานกับคุณอาค่ะ” มุกตาพาบอกชัดเจนอีกครั้ง ทำให้ดวงตาที่อิดโรยของคุณอำนาจรื้นไปด้วยน้ำตา และรอยยิ้มบางบนใบหน้า “พ่อขอบใจที่มุกตัดสินใจแบบนี้ลูก ทำให้ความปรารถนาของคุณอาเป็นจริง นะลูก” “ค่ะพ่อ ก็คุณอาคือครอบครัวของเรานี่คะ มุกก็ต้องปกป้องครอบครัวเราให้ดีที่สุดค่ะ” หลังจากกลับจากโรงพยาบาลมุกตาพา พยายามติดต่อกับขุนพลเพื่อจะบอกเรื่องนี้กับเขา แต่ว่า ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะ เธอติดต่อเขาไม่ได้ไม่ว่าจะสอบถามไปทางเพื่อนของเขาก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาหายไปไหน “คุณหายไปไหนนะขุน”มุกตาพาได้แต่บ่นพึมพำเมื่อเธอพยายามที่ติดต่อขุนพล แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้เลย “มุก พรุ่งนี้คุณอาอำนาจจะออกจากโรงพยาบาลแล้วนะลุก เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปรับคุณอาด้วยกัน และคุยเรื่องงานแต่งงานเลย “คุณมนตรีเอ่ยบอกลูกสาว หลังจากกลับจากโรงพยาบาล “ค่ะคุณพ่อ “ “แล้วนั่น โทรหาใครลูกท่าทางเคร่งเครียดเชียว” “อ้อเปล่าค่ะคุณพ่อ ไม่มีอะไรค่ะ” “อือ ไปอาบน้ำก่อนนะลูก เดี๋ยวทานข้าวด้วยกันนะ” “ค่ะคุณพ่อ” หลังคุยกับผู้เป็นพ่อเสร็จแล้ว มุกตาพาก็พยายามที่จะติดต่อกับขุนพล เพื่อจะบอกเรื่องแต่งงานให้เขารู้ และเธอคิดว่าคงจะทำร้ายจิตใจของเขามาก แต่ว่าถ้าเธอพูดเหตุผลกับเขา เขาก็น่าจะเข้าใจได้ ถึงความจำเป็นในครั้งนี้ของเธอ แต่ว่าที่สำคัญตอนนี้คือเธอติดต่อขุนพลไม่ได้เลยนั่นเอง “ขุน คุณหายไปไหน “มุกตาพาได้แต่บ่นพึมพำ และกดโทรศัพท์หาชายหนุ่ม แต่ก็ไม่ติด และนั่นคือเหตุการณ์การครั้งสุดท้ายที่เธอพยายามติดต่อเขา เพราะหลังจากนั้น เธอก็เข้าพิธีแต่งงานกับ คุณอำนาจ เพื่อนของพ่อเธอนั่นเอง เธอและคุณอำนาจแต่งงานกันได้ แค่ปีเดียว คุณอำนาจ ก็จากโลกนี้ไปอย่างสงบด้วยโรคร้าย และเขาได้จัดการยกสมบัติทั้งหมดให้กับ มุกตาพา ตามที่ตั้งใจไว้ แต่ว่ามันก็ได้สร้างความไม่พอใจให้กับญาติของท่าน โดยเฉพาะนายทะนงที่ไม่พอใจหาว่าเธอมาหลอกฮุบสมบัติของคุณอำนาจ แต่ว่าเธอก็ไม่ได้สนใจ หรือให้ความสำคัญกับคนเหล่านั้น เธอเข้ามาบริหารกิจการทุกอย่างของคุณอำนาจได้เป็นอย่างดี ในฐานะประธานใหญ่และเจ้าของ และไม่มีใครที่จะตำหนิเธอได้ด้วยความสามารถของเธอ เป็นที่ประจักษ์ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา ไร่ ขุนเขา บ้านไม้สัก 2 ชั้นตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางธรรมชาติสวยงาม ชั้นสองมีระเบียงยื่นออกมาด้านนอก มีโต๊ะตัวเล็ก ๆ ตั้งอยู่ พร้อมเก้าอี้ ไว้สำหรับนั่งรับลม และจิบกาแฟยามเช้า หรือว่านั่งทำงาน มีกระถางต้นไม่ตั้งเรียงราย กำลังออกดอก สวยงาม ภายในห้องขนาดใหญ่ ร่างหนาที่นั่งอยู่โซฟาหรูในมือถือแก้วบรั่นดี หมุ่นวน เหมือนกำลังอยู่ในภวังค์ความคิด ใช่แล้ว และเขาก็คือขุนพล นั่นเอง และไร่ขุนเขาก็มีเขาเป็นเจ้าของ รวมถึง ปางไม้หลายแห่งในเชียงราย ด้วย เมื่อเรียนจบเขาก็มารับช่วงต่อกิจการของครอบครัว แทนผู้เป็นพ่อ ที่เสียไป เมื่อ 2 ปีที่แล้ว และตอนนี้เขาก็อยู่กับแม่เลี้ยงแขไข เพียงสองคน เขาทำงานหนักมากใน 2 ปีที่ผ่านมา เขาต้องเรียนรู้งานทุกอย่างเพื่อจะเป็นเสาหลักให้กับ ครอบครัวและคนงานทุกคน จนตอนนี้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางและมั่นคง ทำให้ไร่ขุนเขากลับมา มีชื่อเสียง สามารถส่งผลผลิตในไร่ออกสู่ต่างประเทศได้เป็นกอบเป็นกำ รวมถึงปางไม้ด้วย เรียกได้ว่า เป็นผู้ทรงอิทธิพลในเชียงรายในตอนนี้ หลังจากกลับมาจากทำงานเหนื่อย ๆ ขุนพลมักจะมานั่งดื่มบรั่นดี ก่อนนอน และนึกถึงเรื่องราวของเขาครั้งนั้นที่ทำให้ชีวิตของต้องเสียสูญและมีบาดแผลอยู่ในใจจนถึงทุกวันนี้ที่เขาไม่อาจจะลืมได้ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม 8 ปีที่แล้ว เปลือกตาที่ปิดสนิทค่อย ๆ กระพริบ และลืมตาโต ดวงตาคมกริบ มองไปรอบ ๆ ด้วยความสงสัยว่าที่นี่คือที่ไหน “รู้สึกตัวแล้วเหรอคะ” เสียงหวานเอ่ยทักทำให้ดวงตาคมกริบปรายตากลับมามองและก็เห็นหญิงสาวหน้าตาซีดเซียวที่นั่งอยู่ข้าง ๆ และก็มองมาที่เขาพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า “คุณคือ .....” ขุนพลเอ่ยถามและพยายาจะลุกแต่ก็ต้องรู้สึกปวดหัวมาก ๆ “อย่าเพิ่งลุกค่ะ คุณเพิ่งฟื้น เดี๋ยวฉันเรียกพยาบาลก่อนค่ะ รอสักครู่ค่ะ “ เด็กสาวเอ่ยบอกและรีบเดินออกไปข้างนอกสักครู่ก็กลับเข้ามาพร้อมกับคุณหมอและพยาบาล “ยังดีนะครับที่สมองไม่ได้รับการกระทบกระเทือนอะไร นอนพักต่ออีกสัก 3 วันก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้วครับ” คุณหมอเอ่ยบอกหลังจากตรวจร่างกายให้กับชายหนุ่มเสร็จแล้ว “ขอบคุณค่ะคุณหมอ “ หลังจากหมอและพยาบาลเดินออกไปแล้ว ขุนพลก็หันมามองใบหน้าซีดเซียวด้วยสายตาเป็นคำถาม “คุณจำไม่ได้หรือว่า ฉันเป็นคนที่คุณช่วยจากพวกอันธพาลพวกนั้นอย่างไรละคะ” ขุนพลนึกถึงเหตุการณ์ตอนนั้น เขาและเพื่อน มากินเลี้ยงหลังจากเรียนจบที่ร้านอาหารกึ่งผับ และหลังจากงานเลี้ยงเลิกเขาก็แยกย้ายกับเพื่อนเพื่อกลับบ้าน แต่ขณะที่เขาออกมาข้างนอก ก็เห็นกลุ่มชายฉกรรจ์ 3-4 คนกำลังฉุดกระชากลากถู ผู้หญิงคนหนึ่งตอนแรกเขาก็ไม่คิดจะเข้าไปยุ่ง เพราะกลัวว่าจะเป็นเรื่องของผัวเมีย แต่เมื่อเขามองอยู่สักพัก ลักษณะท่าทาง มันไม่ใช่เรื่องผัวเมียแน่นอน เขาจึงเข้าไปถาม ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ว่าชายฉกรรจ์กลุ่มนั้นไม่ตอบอะไร แต่กลับหันมาทำร้ายเขาแทน กลายเป็นว่าเขาโดนรุม และหนึ่งใน 4 คนก็ใช้ของแข็งตีที่หัวเขาอย่างแรงจนเขาหมดสติไป และเขาก็จำได้แค่นั้น จนกระทั่งเขามารู้สึกตัวที่นี่เวลานี้ “เธอพาฉันมาโรงพยาบาลอย่างนั้นเหรอฉันจำได้ว่าฉันถูกตีที่หัวหลังจากนั้นก็จำอะไรไม่ได้แล้ว” “ค่ะฉันพาคุณมาโรงพยาบาลเองค่ะ เพราะหลังจากคุณสลบไป ตำรวจก็มาพอดีค่ะ “ “เธอชื่ออะไร” “ฉันชื่อ ภาวินี เรียก นี เฉย ๆ ก็ได้ค่ะ” “ฉันชื่อขุนพล เรียกว่าขุนเฉย ๆ ก็ได้ แล้วนี่ฉันสลบไปกี่วัน“ “เอ่อ 2 วัน ค่ะ แต่ว่าคุณก็รู้สึกตัวบ้างแล้วก็หลับต่อ รวม ๆ แล้วคุณนอนที่โรงพยาบาลนี่เกือบอาทิตย์แล้วค่ะ“ “อะไรนะ เกือบอาทิตย์อย่างนั้นเหรอ เธอเฝ้าฉันอยู่ที่นี่ตลอดอย่างนั้นเหรอ “ “ค่ะ เพราะฉันไม่รู้จะติดต่อญาติของคุณได้ยังไงค่ะ “ “โทรศัพท์ฉันอยู่ไหนเหรอ “ “อ้อ ฉันเก็บไว้ให้คุณ นี่ค่ะ แต่ว่าแบตหมดนะคะ” “ฉันรบกวนให้เธอไปขอยืมที่ชาร์ทแบ็ต จากพยาบาลได้ไหม” “ค่ะ รอสักครู่นะคะ “ภาวินีบอกและเดินออกไปด้านนอกและกลับเข้ามาพร้อมกับสายชาร์ตแบ็ตโทรศัพท์ ขุนพล รีบเปิดโทรศัพท์ เมื่อเสียบสายชาร์ตแบ็ตได้สักครู่ เพราะตอนนี้เขาร้อนใจอยากจะโทรหามุกตาพาคนรัก เพราะเขากลัวว่าเธอจะเป็นห่วงเพราะเขาไม่ได้ติดต่อไปเกือบอาทิตย์ ป่านนี้เธอคงจะร้อนใจแย่แล้ว “30 สายไม่ได้รับ จากมุก” ขุนพลเอ่ยพึมพำเมื่อเห็นหน้าจอ สายเรียกเข้า และชื่อที่โชว์ก็คือมุกตาพา และเทพฤทธิ์ เพื่อนรักของเขานั่นเองเขาเปิดเข้าเมนูไลน์ ที่มีข้อความเข้า เกือบ 10 ข้อความ และก็เป็นของมุกตาพา เขาเปิดอ่านข้อความ ภาวินีเอง ก็เดินออกมานั่งอยู่ตรงเก้าอี้ที่อยู่ตรงระเบียงห้องเพื่อที่จะไม่รบกวนเขา “ขุน คุณอยู่ไหน มุกมีเรื่องสำคัญจะบอกคุณ “ “ขุนตอบมุกหน่อย” “ขุนทำไมมุกติดต่อคุณไม่ได้” “ขุน มุกมีเรื่องสำคัญจะบอกคุณนะ “ “คุณหายไปไหนนะขุน” “ขุนมุกขอโทษ “ “หวังว่าคุณจะไม่โกรธมุก” “มุกขอโทษที่ไม่ได้บอกคุณด้วยตัวเองมุกพยายามติดต่อคุณ” “วันนี้ วันสุดท้ายที่มุกจะส่งข้อความหาคุณแล้วนะคะขุน” “มุกขอให้คุณ ลืมมุกซะ และเริ่มต้นกับคนที่ดีกว่ามุกเถอะนะคะมุกรักคุณนะคะขุนลาก่อน” ขุนพลกวาดสายตาอ่านข้อความไลน์ที่มุกตาพาส่งให้เขาในช่วงหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา เขาอ่านแต่ละประโยคด้วยความงงและสงสัย ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมเธอถึงส่งข้อความแปลก ๆ มาให้เขาแบบนี้ ไหนจะข้อความสุดท้ายที่เธอส่งให้เขา เป็นการบอกลาแบบนั้นด้วย มันหมายความว่ายังไงกันแน่
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD