แก้วกัญญาค่อยๆ เยี่ยมหน้าเข้าไปในห้องนอนอันกว้างขวางของเขา สิ่งแรกที่พบก็คือเตียงนอนขนาดคิงไซซ์ตั้งตระหง่านอยู่กลางห้อง ด้านข้างมีตู้เสื้อผ้าชนิดฝังอยู่กับผนังห้อง บนฝาผนังมีภาพถ่ายหรืองานเขียนไม่กี่ชิ้นแขวนไว้
ณัฐภาคย์เดินออกมาจากห้องเล็กๆ ด้านข้างพร้อมกับโทรศัพท์เครื่องใหม่ที่ดูว่าราคาคงจะไม่น้อยหน้าเครื่องก่อนพร้อมกับกรอกเสียงลงไปอีกสองสามคำก่อนจะกดวาง ส่วนตัวชายหนุ่มเองบัดนี้สูทตัวหรูหายไปแล้วเหลือแค่เชิ้ตสีฟ้าจางที่เจ้าของปลดกระดุมมาเสียสี่ห้าลูกจนเห็นเส้นขนรำไรบนอกกว้าง
“โน่นห้องน้ำ” เขาบุ้ยปากบอก “จัดการผสมน้ำให้ที เสร็จแล้วเรียกด้วยนะ”
ว่าแล้วชายหนุ่มก็กระโดดลงบนเตียงนอนแผ่หลาหลับตาลงทันทีราวกับอ่อนล้ามาแสนนาน ปล่อยให้แก้วกัญญามองตาโตกับการทำตัวตามสบายเหมือนไม่มีหล่อนอยู่ตรงนั้น
หญิงสาวหลบสายตาจากแผ่นอกกว้างอย่างเอียงอาย
ให้ตายเหอะ ก็ตั้งแต่เกิดมาเป็นตัวเป็นตนอายุก็ปาเข้าไปจะยี่สิบห้าอยู่แล้ว ยังไม่เคยเข้ามาอยู่ในห้องผู้ชายแปลกหน้าแบบสองต่อสอง ซ้ำยังนอนให้ท่าซะด้วย...
หญิงสาวยืนหันซ้ายแลขวาก่อนจะปลดกระเป๋าถือลงวางบนโต๊ะใกล้ๆ แล้วสาวเท้าเข้าห้องชายหนุ่มอย่างเงียบเชียบ
แก้วกัญญาหันมามองหนุ่มหล่อที่หลับตาพริ้มอีกครั้งอย่างอดไม่ได้ เขาช่างเป็นผู้ชายที่เซ็กซี่แม้จะทำตัวตามสบาย คิดแล้วแก้มก็ร้อนผ่าวก่อนจะเดินเลยไปยังห้องน้ำที่เขาบอก หญิงสาวมาหยุดยืนภายในห้องน้ำกว้างขวางเกือบเท่ากับห้องนอนเก่าของตนอย่างปลงๆ
นี่แหละหนาชีวิต! คนที่รวยก็รวยจนล้น คนที่จนก็จนแทบไม่มีอะไรกิน ช่างต่างกันราวฟ้ากับดินจริงๆ
แก้วกัญญาเงยหน้าขึ้นมองฝักบัวสีเงินวาวอันใหญ่ดูหรูหรากับอ่างอาบน้ำสีขาวนวลใบโตบอกราคา ก่อนจะหันไปมองกระจกบานสูงที่ติดกับผนังห้องพลางขมวดคิ้วนิ่วคิดอยู่ครู่ แล้วต้องผสมอย่างไรเขาจึงจะพอใจ หญิงสาวส่ายหน้าก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดน้ำ
แต่แล้วสิ่งไม่น่าจะเกิดก็เกิดขึ้น เมื่อขณะที่หล่อนหยิบขวดสบู่เหลวมาเทลงอ่างแล้วตีฟองอยู่นั้น ขณะเอื้อมมือเก็บขวดสบู่เหลว ความลื่นทำให้มืออีกข้างที่เท้ากับขอบอ่างไถลพรวดลงไปในอ่างทันที ตั้งแต่หัวจนถึงบั้นเอวของหญิงสาวมีอันต้องเปียกปอนโดยมิได้ตั้งใจสักนิด
“ว้าย!!! โธ่ เปียกหมดทำไงล่ะเนี่ย” แก้วกัญญาดึงตัวเองขึ้นมาจากอ่างน้ำ เนื้อตัวเต็มไปด้วยฟองสบู่ รีบลุกไปยังอ่างล้างหน้า แต่ราวกับเคราะห์ซ้ำกรรมซัด หญิงสาวลื่นล้มก้นจ้ำเบ้าก่อนจะถึงอ่างล้างหน้าอีกจนได้
“โอ๊ย!!!”
ณัฐภาคย์ที่เผลอหลับไปเพราะความอ่อนเพลียถึงกับลืมตาโพลงพร้อมกับเด้งตัวลุกขึ้นนั่งทันทีที่ได้ แล้วรีบเดินไปยังห้องน้ำซึ่งเป็นที่มาของต้นเสียง
ประตูห้องน้ำถูกเปิดผลัวะ ณัฐภาคย์ชะงักเท้าอยู่แค่หน้าประตูเมื่อพบว่าบนพื้นห้องน้ำอันชื้นแฉะคือร่างของหญิงสาวตัวเล็กที่มีสภาพไม่ต่างอะไรกับลูกหมาตกน้ำสักนิด และเต็มไปด้วยฟองสบู่ฟูฟ่อง
บ่าไหล่กว้างสั่นสะท้าน ชายหนุ่มกลั้นหัวเราะจนปวดแก้ม ทั้งที่ก่อนหน้านี้เต็มไปด้วยความหงุดหงิดเมื่อได้ยินเสียงดังโครมครามรบกวนเวลานอนอันมีค่ายิ่งของเขา แต่เมื่อมาพบสภาพน่าเวทนาของหล่อนก็อดที่จะขบขันเสียไม่ได้
“เธอ...” เสียงเขายังสั่นเพราะความขบขัน “ลงไปทำบ้าอะไรบนพื้น แล้วฉันให้เธอผสมน้ำให้ฉันอาบ ไม่ได้ให้ลงไปอาบซะเอง”
น้ำเสียงของชายหนุ่มยังเต็มไปด้วยความขบขัน
โมโหก็โมโห ขำก็ขำ ผู้หญิงบ้าอะไรวะ มีเรื่องให้ตื่นเต้นได้ตลอดเลยจริงๆ สิพับผ่า!
ขณะที่ณัฐภาคย์ทำเสียงขลุกขลักในลำคอ แก้วกัญญาก็ค่อยๆ พยุงตัวลุกขึ้นอย่างยากลำบาก ก่อนจะมองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างโกรธเคืองเป็นครั้งแรก คนบ้า! ไม่ช่วยแล้วยังมายืนหัวเราะอีก หญิงสาวยกมือขึ้นบิดน้ำออกจากชายเสื้อ บนศีรษะยังมีฟองสบู่ค้างอยู่ แขนข้างที่ลื่นในตอนแรกมีรอยแดงช้ำออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน
ชายหนุ่มหยุดหัวเราะพลางขมวดคิ้วมุ่นเมื่ออีกฝ่ายมีอาการไม่ดีนัก
“เป็นอะไรมากหรือเปล่า” เขาซอกแซกสายตามองหาร่องรอยบาดเจ็บของหญิงสาว
“เอ่อ... ไม่ค่ะ ลูกแก้วแค่ลื่น” แก้วกัญญาพูดแค่นั้นก็ยกแขนข้างที่เจ็บขึ้นมาดู แวบหนึ่งก็เงยหน้าขึ้นมองเขาก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเป็นการเป็นงาน
“คุณณัฐภาคย์รออีกห้านาทีนะคะ เดี๋ยวลูกแก้วจะเปลี่ยนน้ำให้ใหม่” พูดจบก็หันหลังให้ชายหนุ่ม ก้มหน้าก้มตาถ่ายน้ำออกจากอ่าง ขณะเดียวกันริมฝีปากบางที่ขบแน่นก็ต้องครางออกมาเพราะความเจ็บแปลบที่เกิดขึ้นบริเวณต้นขาและสะโพก ทำเอาคนที่ยืนมองอย่างไม่ไว้ใจต้องรีบเข้าไปรั้งต้นแขนเล็กของหล่อนเอาไว้แล้วสำรวจหาบาดแผล
“ไหนดูสิ เธอนี่มันซุ่มซ่ามจริงเชียว หักหรือเปล่าเนี่ย”
ณัฐภาคย์ขยับท่อนแขนกลมกลึงยกขึ้นยกลง พลิกซ้ายพลิกขวา เพื่อตรวจสอบอาการบาดเจ็บ ทว่าอาการที่แสดงออกถึงความเป็นห่วงโดยไม่รู้ตัวของเขา สร้างความหวั่นไหวใจให้กับคนตัวเล็กตรงหน้ายิ่งนัก
แก้วกัญญายืนนิ่งมองเขาอย่างลืมตัว เผลอเปิดเผยความรู้สึกลึกซึ้งให้ชายหนุ่มได้รับรู้ยามที่เขามองลงมา ณัฐภาคย์เห็นแววตาเปิดเผยของหญิงสาวแล้วใจกระตุกทั้งที่ไม่เคยเป็นแบบนี้กับใครมาก่อน ดังนั้นมือที่จับแขนหล่อนไว้อย่างแผ่วเบาจึงรีบปล่อย แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
“เดี๋ยวเธอจัดการผสมน้ำให้เรียบร้อย แล้วเปลี่ยนชุดที่เปียกออกก็แล้วกัน” เขาสั่งพลางลดสายตาลงมองร่างบางที่ยืนเปียกโชกและสั่นน้อยๆ เพราะความหนาว ก่อนจะหมุนตัวออกจากห้องน้ำ แต่ยังไม่ทันไปไหน แก้วกัญญาก็เรียกเขาไว้เสียก่อน
“เอ่อ... เดี๋ยวค่ะ”
ณัฐภาคย์หันกลับไปมองคนเรียกพลางเลิกคิ้วเป็นคำถาม
“ลูกแก้วไม่มีชุดมาเปลี่ยนหรอกค่ะ แต่เดี๋ยวพอผสมน้ำให้คุณเสร็จแล้ว ลูกแก้วค่อยไปยืนตากลมที่หน้าระเบียงห้องเอาก็ได้ ลมแรงๆ แบบนี้ไม่นานคงแห้ง”
คำตอบของหญิงสาวทำเอาณัฐภาคย์แทบไม่เชื่อหู
ปากสั่นขนาดนี้จะออกไปยืนตากลม เดี๋ยวก็ได้ปอดบวมตายกันพอดี คิดได้ไง!?
“เธอจะบ้าหรือไง เดี๋ยวก็ได้ปอดบวมตายกันพอดี เธอเอาเสื้อฉันไปใส่ก่อน ฉันให้ยืม” เขาบอกแล้วเดินออกไปโดยไม่หันมามองอีก
แก้วกัญญายื่นหน้าออกไปมองหาชาย ครู่หนึ่งเขาก็เดินกลับมาพร้อมกับเสื้อคลุมในมือแล้วส่งให้หล่อน
“เอาไปเปลี่ยนซะ เสร็จแล้วก็ออกมาฉันจะได้อาบมั่ง”
แก้วกัญญารับเสื้อคลุมมาถือไว้ด้วยมือสั่นเทา พลางขอบคุณเขาเบาๆ แล้วหมุนตัวเข้าห้องน้ำ หญิงสาวยกเสื้อคลุมแบบผู้ชายขึ้นแนบอกด้วยความรู้สึกบอกไม่ถูก ก่อนจะแขวนไว้กับตะขอด้านข้างพร้อมกับปลดเสื้อผ้าออกทีละชิ้น เสร็จแล้วจึงหันไปเจอกับเงาในกระจกบานสูง จึงยิ้มให้ตนเองพลางคิด
จะว่าไปแล้วทรวดทรงองค์เอวเรานี่ก็ไม่แพ้ใครเลยนะเนี่ย สัดส่วนก็มาตรฐานสาวไทย 32-24-36
หญิงสาวรำพึงรำพันในใจพร้อมกับยกพวงผมขึ้นแนบบนกระหม่อมแล้วหมุนตัวหน้ากระจก
ไฝฝ้าหรือก็ไม่มี ใช้ได้ๆ
ขณะที่กำลังยลโฉมตัวเองอยู่นั้น ประตูก็ถูกเคาะขึ้นดังติดกันถี่ๆ
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
“เสร็จหรือยัง ฉันแค่ให้เธอเปลี่ยนเสื้อ ไม่ใช่ให้ไปนอนในห้องน้ำ!”
เสียงโวยวายจากภายนอกทำให้แก้วกัญญาหันไปมองอย่างตกใจ ก่อนจะเปิดฝักบัวอันโตปล่อยให้น้ำราดตัวล้างสบู่อย่างรวดเร็ว แล้วรีบคว้าเอาเสื้อคลุมมาถือไว้ แต่แล้วก็หน้าแดงเรื่อขณะสวมใส่
ตายแล้วทำไมถึงได้รู้สึกว่ากำลังถูกเขากอดเลยนะ