บทที่ 2 วัดป่ากับสาววาย 4

1814 Words
"เป้ เป้" เสียงสดใสของคนหน้ากลม เรียกพร้อมเขย่าตัวเพื่อนคู่กายที่อยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน "เป้...... พี่พรายมา" คนร่างเล็กผมสั้นที่เคยสั่นกลัวถึงกับโผล่หัวออกจากผ้าห่มแล้วมองไปทางประตูด้านหน้า "มา? มาได้ไง คนไหน" "ร่างบางหน้าหวานไง" ส้มแผ่นพูดอย่างแผ่วเบาด้วยกลัวว่าเสียงจะถึงคู่กรณีที่พึ่งทะเลาะกันมารวมทั้งผีร้ายที่หมายปองเธอด้วย "หูยยยยย" "ส่วนคนข้างหลังที่นั่งคุกเข่าข้างนึงนั่น ผัวเขา" "หูยยยยยยยยยย" ปูเป้ครางฮือตาเป็นประกายพร้อมกับยกมือขึ้นอังทั้งสองแก้มเหมือนคนเขิลอาย "หล่อล่ำกับหล่อบางเลยผัวเมียคู่นี้" "ใช่มะ กูบอกแล้ว" ตอนนี้ดูเหมือนว่าผีร้ายและอาถรรพ์รอบกายจะกลายเป็นเรื่องเล็กไปทันทีความสนใจของทั้งคู่ไปอยู่ที่คู่จิ้นที่อยู่ตรงหน้าแทน ส่วนอีกด้านหลังจากที่คู่หูคู่จิ้นของส้มแผ่นใช้ความพยายามอยู่หลายรอบในที่สุดกายละเอียดของพวกเขาก็มาอยู่ถูกที่ซะที ในครั้งแรกเขาไปโผล่ที่วัดข้างเคียงเนื่องจากจำชื่อวัดผิดและครั้งถัดมาก็ไปโผล่ที่ห้องน้ำหญิงที่อยู่ถัดออกไปเนื่องจากส้มแผ่นตัวดีทิ้งสร้อยคอที่พรายให้ไว้ในนั้น แต่โชคดีหน่อยที่จังหวะโผล่มาพวกเขาทั้งสองได้ยินเสียงกรี๊ดของพวกที่อยู่ในศาลานี้จึงทำให้จับทิศถูกในครั้งที่สาม และทำให้ทั้งสองโผล่มายืนอยู่หน้าประตูพร้อมกับใช้ตรีนถีบผีร้ายผมยาวปรกหน้ากระเด็นออกไปได้ทันก่อนที่มันจะเข้ามา ตอนนี้มันเริ่มก้าวเท้าเดินไปทางซ้ายทีขวาทีเหมือนจะลังเลว่าจะไปยังทิศทางใด "พรายรีบเหอะ ธูปจะหมดดอกแล้ว" "เออ" คนร่างสูงหลับตาพร้อมกับยกสองมือขึ้นมาพนมโดยไม่สนต่อสายตาที่มองมาจากรอบห้องว่าเขาทั้งคู่โผล่มาได้ไง แต่ถ้าใครมีสติแล้วเพ่งมองให้ชัดๆก็จะพบว่า ร่างกายของพวกเขามันจางจนสามารถมองทะลุผ่านไปได้เพียงแต่ต้องสังเกตุให้ดีๆ พะ กะ สะ จะ กะ สะ จะ พะ สะ จะ พะ กะ จะ พะ กะ สะ อะ จะ ฉะ พะ พะ ยะ มอ ระ นัง พระ เว ชายร่างสูงที่อยู่ในเสื้อยืดสีดำที่มีข้อความเสื้อตัวนี้สีชมพู กางสองเท้าที่เปล่าเปลือยแยกออกจากกันแล้วจิกนิ้วลงกับพื้นไม้กระดาน ก่อนที่จะใช้มือขวามาลูบที่สันฝ่ามือข้างซ้ายพร้อมหลับตารวบรวมสมาธิ นิ่งเงียบไปครู่ จากนั้นก็ลืมตาขึ้นมาด้วยอาการผิดหวังหันมาบอกกับคนหน้าเหลี่ยมหุ่นล่ำที่คุกเข่าข้างหนึ่งอยู่ด้านหลัง "ข้างซ้ายปลุกไม่ขึ้นวะเหมือนของเสื่อม" "มึงมันสำส่อน" เสียงผู้หญิงออกดุดังกังวาลก้องในโสตประสาทของทั้งคู่อย่างทันควัน 'แม่หยา' "งั้นลองอีกข้างเร็วพราย ฤกษ์ดีใกล้หมดแล้ว" จอหม่องรีบเตือนเมื่อเห็นท่าว่าจะคว้าน้ำเหลวเสียแล้วจากนั้นก็ก้มหน้าลงขมวดคิ้วดูกระดานชะนวน พรายหน้าหวานเปลี่ยนเป็นใช้มือซ้ายมาลูบสันฝ่ามือข้างขวาพร้อมกับหลับตารวบรวมสมาธิไปด้วย สายลมวูบหนึ่งพัดจากซ้ายมาขวาจนทุกคนที่อยู่ในห้องสัมผัสได้ถึงความเย็นอย่างเฉียบพลันและที่มันประหลาดกว่าคือตอนนี้หน้าต่างทุกบานปิดสนิท รอยยิ้มหวานๆของหนุ่มร่างบางปรากฎบนในหน้านั้น เขาพยักหน้าให้คู่หูสุดล่ำ ฝ่ามือข้างขวาของเขาตอนนี้มันต่างจากข้างซ้ายอย่างสิ้นเชิงมันร้อนผ่าวราวถูกเผาด้วยกองไฟ จอหม่องหน้าคมขีดเขียนบางอย่างลงบนกระดานชะนวนแต่เหมือนจะยังไม่ได้ฤกษ์ที่ดีพอ เขาเอามือล้วงกระเป๋าหยิบลูกเต๋าออกมาทอยลงพื้นท่ามกลางสายตาของทั้งห้องที่มองมาอย่างสงสัย และในขณะที่ทั้งคู่กำลังตระเตรียมการ แกรกกกกกก ครืดดดดดดดดดดดดดด แกรกกกกกก เสียงลากเท้าหนักๆจากด้านนอกเริ่มดังอีกครั้งมันเดินจากด้านหน้ามุ่งไประเบียงฝั่งขวาซึ่งเป็นด้านที่ส้มแผ่นอยู่เหมือนมันจะมีความเอ็นดูนางเป็นพิเศษ แต่เสียงทั้งหมดทั้งมวลก็ถูกกลบลงด้วยเสียงลูกเต๋าของจอหม่องที่สะท้านลงพื้นอย่างกังวาลมันกังวาลจนกลบทุกสรรพสิ่ง แต่ก็เป็นแค่เพียงชั่วเวลาสั้นๆเท่านั้น "ตีสองสิบเจ็ดนาที เสี่ยงทายลูกเต๋าสามลูก หก หก ห้า เท่ากับ สิบเจ็ด ตำราว่า ฤกษ์ดาวเพลิง โบราณเรียก ฤกษ์ตื่นแห่งเทวา เป็นห้วงเวลาศักดิ์สิทธิ์ผู้ใดได้ฤกษ์นี้มาครอบครอง ขอเพียงตั้งจิตให้มั่น ฟ้าเบื้องบนจักเปิดทางให้สำเร็จ ตอนนี้แหละพรายฤกษ์ดีกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว ดูมือกูให้ดีทีเดียวให้จบไม่มีเวลาแล้ว" "เออสักทีเถอะ จะให้ล้างป่าช้ายังได้มือกูนี่ร้อนจนจะไหม้แล้ว" เสียงพรายหน้าหวานตอบมาอย่างเร่งรีบเพราะตอนนี้เขารู้สึกร้อนที่ฝ่ามือเต็มที ร่างสูงหันมองตามทิศทางของเสียง แกรกกกก ครืดดดดด ที่ดังอยู่ด้านนอก ตอนนี้มันอ้อมไปทางขวาใกล้ส้มแผ่นเข้าไปทุกที ซึ่งสาวหน้ากลมกับเพื่อนหน้าเรียวของเธอกำลังมองมาที่เขาเช่นกันแต่มันเป็นการมองแบบ...แบบที่เขารู้ว่าสองคนนั้นกำลังจิ้นวายสมองไหลอยู่แน่นอน "ส้ม" "หือ" "มึงดูพี่จอหม่องดิ เขาจับเอวพี่ร่างบางด้วย" "สกินชิพน่ะ สองคนนี้นะเวลาไปไหนตัวนี้พันกันตลอด" "หูยยยยยยยย" "เวลาอยู่ในร้านนะอย่างนัวร์เลยเป้" "หูยยยยยยยยยยยย" จากนั้นทั้งคู่ก็ดีดดิ้นตีขากับพื้นใช้มือบิดผ้าห่มที่เคยคลุมกายพันเป็นเกลียวด้วยอาการเขินอาย "มันน่าปล่อยให้ผีหักคอจริงๆ" พรายหน้าหวานบ่นพึมพำกับตัวเอง เสียงหมาหอนและสายลมที่เงียบหายไปสักพักตอนนี้มันถูกเรียกกลับมาอีกครั้ง ในความรู้สึกพ่อหมอพรายเหมือนกับว่าหมาทั้งอำเภอมันมารวมตัวกันอยู่รอบเรือน พอตัวหนึ่งหอนตัวที่เหลือก็หอนตามอย่างโหยหวนและพร้อมเพียง จากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงปึ้งปั้งของลมที่กรรโชกอย่างรุนแรง ดูเหมือนว่าไอ้ผีร้ายมันก็เตรียมการที่จะเผชิญกับเขาอยู่เหมือนกัน "เอายังวะไอ้หม่อง" เขาพูดพร้อมกับจับจ้องและง้างหมัดขวาเตรียมที่จะก้าวเท้าไปยังผนังฝั่งขวาที่ส้มแผ่นนั่งอยู่ "ไม่ใช่ทางนั้น!! หน้าห้องมันอยู่หน้าห้อง" จอหม่องรีบตะโกนบอกเมื่อเห็นคู่หูร่างบางกำลังจะไปผิดทิศ "แต่เสียงลากเท้ามันอยู่ทางนี้" พรายหน้าหวานมีสีหน้าฉงนถึงแม้เขาจะมั่นใจว่ามันอยู่ด้านขวา แต่ว่าการตรวจฤกษ์ดูยามจับทิศของจอหม่องก็ไม่เคยผลาดเช่นกัน "เชื่อกูมันลวงมึง ประตูหน้าห้องหวดเลย" หนุ่มล่ำตะโกนแข่งกับเสียงหมาและเสียงลมที่โหมกระหน่ำจนเรือนไม้ทั้งหลังโยกคลอนราวกับว่ามันกำลังจะพังทะลายลงมา พรายหน้าหวานง้างหมัดซ้ายทุบเข้าประตูหน้าห้องเต็มแรงจนมีเสียงดัง ปั้ง !! เสียงหมาที่เคยหอนก็ยังคงหอนอยู่ เสียงลมที่เคยโหมกระหน่ำก็ยิ่งโหมกระหน่ำ อาคมที่ฝ่ามือเขาไม่ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด "ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ มาเสียไกลแต่ได้เท่านี้ รึ ?" เสียงแตกซ่านแหบต่ำของชายชราดังมาจากหน้าประตูพร้อมกับเสียงหัวเราะอันเย้ยหยันที่ลอยมาตามลม พรายหน้าหวานยิ้มมุมปากพลางนึกในใจ 'จอหม่องนี่ทำนายแม่นจริง' จากนั้นเขาก็ง้างมือขวาจนสุดแรงมือขวาที่ถูกปลุกของจนร้อนผ่าวราวไฟลุกแล้วชกตรงไปยังที่มาของเสียงหัวเราะอันเย้ยหยัน เปรี้ยงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง มันเป็นเสียงที่ดังสะเทือนเลือนลั่นราวกับฟ้าผ่าฟาดมันดังจนกลบทุกสรรพสิ่ง ทั้งเสียงหมาหอน เสียงพายุ รวมทั้งเสียงหัวเราะอันดูแคลนด้วย จากนั้นก็ปรากฏเสียงกรีดร้องที่โหยหวนของหญิงสาวนางหนึ่งขึ้นมาแทน ฮือๆ ฮือๆ พรึ่บ ไฟทุกดวงดับสนิทลงและท่ามกลางความมืดมิดพรายร่างสูงง้างหมัดข้างเดิมเตรียมที่จะชกลงบานประตูอีกรอบ ฮือๆ ฮือๆ อย่าทำเรา เราเจ็บแล้ว แต่กลับปรากฏเสียงหวานร้าวลึกของสตรีนางหนึ่งดังขึ้นแทนเสียงแตกซ่านอันต่ำช้าของชายชราที่หน้าหมั่นไส้ ฮืออออ ฮือ ๆ เมตาเราด้วย...... เราไม่เคยฆ่าใคร เมตรเราด้วย เราโดนบังคับมา หมอผีชราบังคับเรามา เมตตาเราสักครั้ง ฮือๆ ข้ายอมท่านทุกอย่าง พ่อหมอรูปงาม พรายหน้าหวานหาสนใจไม่เขาง้างแขนเตรียมที่จะสาดอาคมเข้าใส่อีกครั้ง "เดี๋ยว !!" แต่เป็นจอหม่องที่รีบร้องห้ามพร้อมทอยลูกเต๋าอีกรอบ "สอง หก สี่ เท่ากับ สิบสอง เลขคู่ประตูฟ้า ดวงเกื้อกูล เอากลับไปรับใช้แม่หยา" พรึ่บ !!!! จากนั้นไฟในห้องทุกดวงก็ติดขึ้นมาอีกรอบพร้อมกับการอันตธารหายไปของเคะร่างบางกับเมะสุดล่ำของส้มแผ่นและปูเป้ ทั้งคู่หายไปเหมือนตอนที่มาคือไร้ร่องลอย เสียงหมาหอน เสียงลมกรรโชก เสียงลากเท้าขูดเล็บหรือแม้แต่เสียงพูดที่แตกซ่าน "ข้าขอหนึ่งคน" ทั้งหมดนั้นก็หายไปด้วย ทุกอย่างกลับคืนสู่สภาวะปกติ เสียงนกกลางคืนเสียงแมลงและเสียงลมอ่อนๆกลับมาตามธรรมชาติของมันอีกครั้ง บรรยากาศอันเลวร้ายหายไปจนหมดสิ้นราวกับว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น . . ติ้ง......... เสียงเตือนข้อความโทรศัพท์ของส้มแผ่นดังขึ้นมันเป็นข้อความจากพรายที่ท้องได้ของเธอ ตัวเล็กจำสามข้อนี้ไว้ให้ดี หนึ่ง ไม่ว่าพรุ่งนี้ใครจะให้อะไรห้ามรับเด็ดขาด ต่อให้เป็นพระ คนแก่ เด็ก หรือไม่ว่าจากใครก็ห้ามรับเด็ดขาด แล้วรีบกลับให้เร็วที่สุดและเตือนเพื่อนด้วย สอง จนกว่าจะถึงกรุงเทพห้ามอาบน้ำแปรงฟันและกินอะไรเด็ดขาด สาม เอากระดาษกาวปิดปากตัวเองไว้จนกว่าจะถึงบ้าน ทำให้ครบแล้วจะปลอดภัย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD