เพื่อนกันตลอดไป

1532 Words
- ตกเย็นของวัน - หลังจากเลิกงานปิดร้านเสร็จ 2 สาวก็นั่งพูดคุยกันอยู่ภายในร้านรอเตชินกลับมา “ เบลล์ไปนอนห้องฉันไหม…? ” เพลงขวัญเอ่ยชวนเพื่อน เธอเองก็เหงามากเหมือนกันกับการใช้ชีวิตคนเดียวในเมืองใหญ่ หลังจากที่แม่จากไปพร้อมกับพี่ชายเพลงขวัญก็ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวแต่เพราะความจนมันเลยทำให้เธอแข็งแกร่งขึ้นและใช้ชีวิตเพียงลำพังได้ มีเพียงความเหงาที่เข้ามาเยือนเธอบ้างในบางครั้ง “ ขวัญอยู่คนเดียวจริงๆเหรอ ” มาเบลล์ถามด้วยความอยากรู้ ‘ถ้าเป็นฉันจะอยู่คนเดียวได้อย่างเพลงขวัญไหมน่ะ‘ “ อืม หลายปีแล้วที่ฉันต้องอยู่คนเดียวในห้องแคบๆที่คนรวยเขามองว่าเป็นรูหนู ” มาเบลล์มองเห็นความว่างเปล่าในดวงตาคู่สวยของเธอ เพลงขวัญไม่ได้พูดเพราะน้อยใจในโชคชะตาแต่เธอพูดด้วยอารมณ์ขำขันต่างหาก “ โอกาสหน้านะฉันจะไปนอนด้วยฉันอยากไปนั่งกินส้มตำร้านริมถนน วันไหนเธอพาฉันไปหน่อยสิ ” คำขอของมาเบลล์ทำให้เพลงขวัญต้องมองหน้าเธอในใจเอาแต่สงสัยอะไรๆหลายเรื่องแต่ด้วยความเกรงใจเธอไม่กล้าที่จะเอ่ยถามเพลงขวัญเลยเลือกที่จะเก็บงำความสงสัยเอาไว้คนเดียว “ อ้าว..ยังไม่กลับกันอีกเหรอ ” เตชินเดินเข้ามาในร้านเขาต้องตกใจเมื่อเห็นสองสาวยังนั่งกันอยู่ “ รอคืนกุญแจกับส่งยอดวันนี้ไงค่ะ ” เพลงขวัญส่งกุญแจและเงินที่ขายได้ในวันนี้ให้กับเตชิน “ กุญแจเก็บเอาไว้เองเลยใครก็ได้ส่วนเงินถ้าวันไหนพี่กลับเย็นก็ในไว้ในเก๊ะนั่นแหละไม่ต้องรอ ดีเหมือนกันมีเราสองคนมาช่วยพี่จะได้นอนตื่นสายๆไม่ต้องรีบลงมาเปิดร้านเตรียมของ “ ปกติทุกวันจะเป็นเตชินที่ลงมาเปิดร้านและช่วยเพลงขวัญเตรียมของเขาแทบไปไหนไม่ได้เพราะต้องอยู่ช่วยน้องทำงานในร้าน ก่อนที่เขาจะมองไปยังมาเบลล์เตชินกำเอกสารบางอย่างไว้ในมือ ” งั้น พวกเรากลับนะคะ ” “ สวัสดีค่ะพี่เตชิน ” ทั้งสองไหว้ลาเตชินแล้วควงแขนกันเดินออกจากร้านไป เขาคลี่เอกสารหลายใบในมือดูมันคือประวัติครอบครัวและข่าวการตายของ ดร.พ่อมาเบลล์ทั้งวันที่เขาหายไปเพราะไปหาเพื่อนที่เป็นตำรวจเพื่อหาข้อมูลเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับพนักงานใหม่ในร้าน ในใจก็นึงสงสารมาเบลล์มาก เขาจำเป็นต้องรู้ที่มาที่ไปของพนักงานใหม่ร้านเขาเพราะมาเบลล์เพิ่งจะอายุ 17 ปียังไม่บรรลุนิติภาวะเลยด้วยซ้ำ “ ลูกคุณหนูตกอับไม่ได้มีแค่ในนิยายเหรอวะ ” เตชินเอ่ยพึมพำคนเดียวก่อนจะรีบปิดล็อกประตูขึ้นห้องนอนของตัวเองไป อีกด้าน “ เบลล์จะกลับยังไงเหรอ ” “ เดินไปนะได้ออกกำลังกายด้วย ” ปากบอกเพื่อนไปแบบนั้นแต่ใจจริงๆเธอแค่อยากเดินเพื่อถ่วงเวลาให้นานที่สุดเพราะไม่อยากจะให้ถึงบ้านเร็ว “ งั้น ฉันเดินด้วยบ้านเราอยู่ทางเดียวกัน เออ..ฉันขอเบอร์เธอหน่อยสิเผื่อเหงาจะได้โทรไปคุยเล่น ” เพลงขวัญตั้งท่าจะขอเบอร์เพื่อนทั้งวันแต่ก็ลืมตลอด “ คือ ฉันไม่มีมือถือนะมันเปียกฝนพังฉันยังไม่ได้เอาไปซ่อมเลย ” “ อ้าวเหรอ..เออใช่ งั้นเธอเอาเครื่องของฉันไปในนี้มีเบอร์มีเงิน ” เพลงขวัญส่งมือถือเก่าๆของตัวเองให้กับเพื่อนไป “ ไม่เอา ขวัญเก็บไว้ใช้เถอะเราไม่ได้มีธุระที่ไหนอยู่แล้ว ” มาเบลล์รีบปฏิเสธออกไปทันที “ อย่าคิดมากสิมันไม่ได้มีค่ามีราคาอะไรเลยมือถือเก่าแค่ไว้โทรเข้าโทรออกอีกอย่างที่ห้องฉันมีอีก 2 เครื่องนะของแม่ของพี่ชายฉันนะ เอาไปเถอะนะเบลล์หรือเธอเห็นว่ามันเก่าไม่มีราคาเธอเลยไม่อยากได้ “ เพลงขวัญเอ่ยบอกก่อนที่เธอจะยู่หน้าลงเล็กน้อยในประโยคสุดท้าย ” ไม่ใช่ อย่าเข้าใจผิดสิฉันแค่เกรงใจไม่อยากรบกวน “ ” รบกวนอะไร เราเป็นเพื่อนกันแล้วนะเอาไว้ใช้เวลาฉุกเฉินหรือจำเป็นนี่ๆถ้าเธอจะโทรหาฉันเธอกดเข้าไปที่ชื่อ แม่นะ เบอร์แม่ฉันนะ เวลาฉันโทรมาหาเธอมันก็จะขึ้นว่าแม่ โอเคไหม “ เพลงขวัญกดมือถือเข้าไปในรายชื่อที่บันทึก ” อืม เข้าใจงั้นคืนนี้เราโทรคุยกัน “ ” ได้สิ 3 ทุ่มถึงเที่ยงคืนกับ 9 โมงเช้าถึงเที่ยงวันมันโทรฟรี 555 “ เพลงขวัญเอ่ยบอกและหัวเราะลั่นออกมาเธอรู้หมดเรื่องโปรโมชั่นตามห้าง ร้านสะดวกซื้อ 1 แถม 1 1 แถม 2 เพลงขวัญไม่เคยพลาดเพราะความจนทำให้เธอสรรหาเรื่องพวกนี้เพื่อเซฟเงินในกระเป๋าของเธอนั่นเอง “ ขอบใจมากนะขวัญ ตอนที่ฉันเรียนโรงเรียนเก่าฉันไม่มีเพื่อนอย่างเธอสักคนเลยทุกคนร่ำรวย คบคนรวยด้วยกัน ดูถูกคนจนฉันไม่ชอบสังคมแบบนั้นเลยมันไม่มีความจริงใจให้กัน แตกต่างจากเธอน่ารัก เป็นกันเอง ฉันดีใจที่ได้เจอเธอนะขวัญ “ มาเบลล์หยุดฝีเท้าของตัวเองลงและเอ่ยบอกเพื่อนออกไปมันมาจากหัวใจของเธอเลย ” เราจะเป็นเพื่อนกันตลอดไปนะเบลล์เธอจะมีฉันเสมอ มีอะไรบอกได้อันไหนที่ฉันช่วยได้ฉันพร้อมช่วยเธอทุกอย่าง “ ” อืม ไปเถอะกลับบ้านกัน ” ทั้งสองเดินจูงมือกันเดินกลับบ้านสองสาวประสานเสียงกันร้องเพลิงสนุกสนานไม่นานก็ถึงห้องพักของเพลงขวัญ “ ถึงห้องฉันแล้วเธอขึ้นรถเมล์ไหมฉันยืนรอเป็นเพื่อน ” “ ไม่เป็นไรฉันเดินได้ ออกกำลังกายไปด้วยจะได้แข็งแรงไง ” “ เอางั้นเหรอ ” “ อืม เธอไปเถอะเจอกันพรุ่งนี้นะ ” “ ได้ๆคืนนี้ฉันโทรไปเมาท์นะ ” “ จ้า บ๊ายบาย ” ทั้งสองโบกมือให้กันก่อนจะแยกย้ายกันไป ริมถนนมีคนเดินเยอะแยะไม่น่ากลัวเท่ากับในบ้านของเธอเลย ’ไหนใครบอกว่าบ้านคือที่ๆปลอดภัยที่สุดทำไมฉันไม่รู้สึกแบบนั้นเลยละ’ เธอได้แต่เดินคิดในใจคนเดียวจนมาถึงปากซอยบ้าน มาเบลล์ยืนมองเข้าไปในซอยบ้านหลังสุดท้ายที่เป็นบ้านของเธอแม้จะไม่อยากไปแค่ไหนแต่มีที่อื่นให้เธออยู่เหรอ ก็ไม่มี สองเท้าเล็กๆสาวเท้าเดินไป “ รถไม่มี แสดงว่าไม่มีคนอยู่ ” ในช่วงใกล้ค่ำมีเพียงแสงไฟสลัวๆที่เปิดทิ้งเอาไว้เธอเปิดประตูรั้วเก่าๆเข้าไปด้วยความสบายใจเมื่อไม่เห็นรถตู้ของเธอที่ไอ้คนเลวขับขี่ไปไหนมาไหนจอดอยู่ กรี๊ดดดดด! ทว่าในขณะที่มาเบลล์เปิดประตูบ้านเข้าไปเธอร้องออกมาด้วยความตกใจเมื่อมีแขนแกร่งของใครบางคนสวมกอดเธอจากทางด้านหลัง ” กลับมาจากทำงานแล้วเหรอจ๊ะลูกสาว “ ป้องภพอดีตกำนันที่เพิ่งหลุดจากตำแหน่งเอ่ยพูด กลิ่นเหล้าลอยคละคลุ้งจนมาเบลล์ได้กลิ่น ‘เมาเหรอ’ “ ปล่อยฉันนะ ปล่อย ! ” มาเบลล์ตะโกนเสียงดังพลางออกแรงดีดดิ้นเพื่อให้หลุดออกจากพันธนาการของคนเลวคนนี้ “ ขอพ่อกอดหน่อยไม่ได้เหรอ ” ป้องภพกระชับกอดแน่นขึ้นและเอ่ยข้างๆหูจนมาเบลล์ต้องย่นคอหนีด้วยความรู้สึกรังเกียจและขยะแขยงมากที่สุด “ แกไม่ใช่พ่อฉัน ปล่อยนะ! ปล่อย! ” “ จะไม่ใช่ได้ยังไงละลุงได้กับแม่หนู ก็ต้องเป็นพ่อของหนูสิแต่ถ้าหนูไม่อยากเป็นพ่อลูกงั้นเรามาเป็นอย่างอื่นกันดีไหม “ กรี๊ดดดด!! ” ปล่อย! แม่ แม่ค่ะ แม่ช่วยหนูด้วย “ มาเบลล์เอ่ยเรียกแม่ให้มาช่วยด้วยความหวาดกลัว ” อย่าเรียกให้เหนื่อยเลยแม่หนูไม่อยู่หรอกเขาไปทำงาน “ ป้องภพพยายามซุกไซ้ลำคอของเธอจากทางด้านหลังเด็กสาวในวัย 17 กลัวจนสุดขีด ก่อนที่เธอจะนึกไปถึงคำพูดของพ่อในตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ * เกิดเป็นผู้หญิงห้ามอ่อนแอนะลูกต่อไปเราจะต้องเป็นแม่ของใครสักคนลูกจะต้องเข้มแข็ง อดทน ต่อสู้เพื่อคนที่ลูกรักในวันที่ลูกยังไม่มีใครก็รักตัวเองให้มาก ปกป้องดูแลตัวเองให้ดีอย่าให้ใครมาทำร้ายเราได้ทั้งร่างกายและจิตใจนะลูก * ปัก! โอ้ยย! เมื่อคิดได้ดังนั้นมาเบลล์ถองคนด้านหลังเข้าเต็มแรงจนป้องภพร้องออกมาด้วยความเจ็บศอกเล็กๆแหลมๆทำเขาจุกไปถึงลิ้นปี่ เมื่อเห็นคนเลวเสียหลักมาเบลล์รีบสะบัดตัวออกและวิ่งออกจากบ้านไปด้วยความรวดเร็ว ^^
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD