มาเบลล์ใช้เวลาพอสมควรในการเดินกว่าจะมาถึงร้านกาแฟ เจ้าของร้านนัดเธอสัมภาษณ์งานเวลา 10 โมงเธอมองดูนาฬิกาที่ข้อมือนี่ก็ยังเหลือเวลาอีกเยอะ ก่อนจะเปิดประตูเข้าไปในร้านที่ค่อนข้างกะทัดรัดเพราะพื้นที่เช่าแถวหน้าโรงเรียนราคาค่อนข้างสูง
“ อ้าว..มาแล้วเหรอ ” พนักงานประจำเอ่ยถามขึ้นเธอจำได้ว่ามาเบลล์มาสมัครงานเอาไว้เมื่อหลายวันก่อน
“ สวัสดีค่ะ “ มาเบลล์ยกมือขึ้นไหว้อีกคนอย่างมีมารยาท
” ไม่ต้องไหว้หรอกเธออายุเท่าไหร่เหรอแล้วชื่ออะไร ฉันชื่อเพลงขวัญนะเรียกขวัญเฉยๆก็ได้ฉันอายุ 17 ปี “ ขวัญเอ่ยถามคนตรงหน้าออกไปโดยปกติเธอไม่ค่อยชอบพูดคุยกับใครเพราะกลัวจะไม่มีใครคุยด้วยเนื่องจากฐานะของเธอจะใช้คำว่าไม่ดีคงไม่ได้ คงต้องใช้คำว่าจนน่าจะเหมาะสมที่สุด แต่กับคนตรงหน้าเธอรู้สึกถูกชะตามากจนอยากรู้จัก
” จริงเหรอ อายุเท่าเราเลย เราชื่อมาเบลล์ ขวัญเรียกเบลล์เฉยๆก็ได้ดีใจจังที่เราอายุเท่ากัน 555” มาเบลล์วิ่งเข้าไปเกาะขอบเคาว์เตอร์และเอ่ยขึ้นด้วยความดีใจเมื่อเจอเพื่อนใหม่ที่รุ่นราวคราวเดียวกันมันเหมือนว่าคุยกันง่าย เข้าใจกันง่ายและเป็นกันเองมากกว่าคนที่อายุห่างกัน
“ ดีใจซะ “ ขวัญเอ่ยยิ้มๆขึ้นเมื่อเห็นอาการดีอกดีใจของมาเบลล์
” ทำไมรีบมาละคุณเตชินนัดเธอ 10 โมงไม่ใช่เหรอ”
“ อืม เราตื่นเต้นกลัวมาสายอีกอย่างบ้านเราอยู่ไม่ไกลนะเดินไปอีก 2 ซอยก็ถึงแล้ว ” ปากบอกไม่ไกลแต่เดินเข้าจริงก็เหนื่อยใช่เล่นแห๊ะ
“ โห! 2 ซอยพูดมาได้ว่าไม่ไกล ” ขวัญทำหน้าตกใจไม่ไกลตรงไหนกัน 2 ซอยเดินเกือบสองกิโลละมั่งนั่น
“ แต่เธอไม่ต้องตื่นเต้นหรอกคุณเตชินใจดีเขารับเธอทำงานอยู่แล้ว ไม่รับเขาคงไม่นัดเธอมาสัมภาษณ์งานวันนี้หรอก “
” เหรอ ถ้าเขารับฉันจริงๆของดีนะสิ “ แม้จะดีใจกับสิ่งที่ได้ยินแต่ก็อดหวั่นกลัวไม่ได้หากไม่ได้งานเธอคงอดตายแถมยังต้องอยู่บ้านอย่างหวาดระแวงอีกด้วย ใบหน้าสวยสลดลงจนขวัญที่กำลังมองอยู่อดที่จะนึกเอ็นดูไม่ได้ ขวัญมองมาเบลล์อย่างพิจารณาถึงเธอจะจนหาเช้ากินค่ำไม่เคยใช้ของแพงๆกับเขาแต่เธอก็มองออกว่าทั้งชุด กระเป๋าที่มาเบลล์ถืออยู่เป็นของแพงขึ้นห้างเรียวคิ้วสวยขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย ’สนิทกว่านี้ค่อยถามเอาก็แล้วกัน‘
ไม่นานเตชินเจ้าของร้านกาแฟเด็กหนุ่มในวัย 23 ปีที่มีฐานะทางครอบครัวดีติดอันดับของประเทศแต่เพราะไม่อยากสานต่อธุรกิจของครอบครัว เขาเลือกเรียนโภชนาการทางด้านอาหารและผันตัวมาลงทุนเปิดร้านกาแฟด้วยเงินเก็บของตัวเองโดยไม่พึงพาทางบ้านหวังว่าในอนาคตจะขยับขยายให้ใหญ่โตขึ้นได้ด้วยสมองและสองมือของตัวเอง
” นั่นไงคุณเตชินลงมาแล้ว “ ขวัญชี้ไปยังเจ้าของร้านที่เดินลงมาจากชั้นบนที่เป็นห้องนอนของเขา มาเบลล์เคยเจอกับเขามาแล้วในวันที่มาสมัครงานแต่วันนั้นเตชินมีธุระต้องรีบกลับบ้านเขาเลยไม่ทันได้คุยรายละเอียดอะไรกับเธอ
“ น้องคือคนที่พี่นัดสัมภาษณ์งานใช่ไหมครับ ” เตชินเอ่ยถามอย่างใจดี
“ ใช่ค่ะ สวัสดีค่ะ ” มาเบลล์ไม่ลืมที่จะยกมือไหว้คนตรงหน้าอย่างมีมารยาท ด้านเตชินเอาแต่มองมาเบลล์เขารู้สึกแปลกตามากวันนั้นที่เธอมาสมัครงานดูสวยและมีน้ำมีนวลมากกว่านี้วันนี้เธอดูซูบผอมลงและโทรมมากแต่ที่เขาแปลกใจไปกว่านั้นคือเธอสะพายกระเป๋าราคาหลักแสนบาทกับชุดแบรนด์ดังที่สวมใส่ทำไมถึงเลือกที่จะมาสมัครงานร้านกาแฟเล็กๆของเขา
“ ครับ งั้นเชิญทางนี้เลยพี่ถามไม่เยอะสบายใจได้ ” เมื่อเห็นถึงความวิตกกังวลบนใบหน้าของเธอจึงเอ่ยบอกเพื่อให้เธอได้สบายใจและไม่รู้สึกอึดอัดมากนัก มาเบลล์หันไปพยักหน้าให้ขวัญแล้วเดินไปนั่งตรงข้ามกับเตชินที่โต๊ะบริการในร้าน มือเรียวสองข้างกำเข้าหากันแน่นด้วยความตื่นเต้นจนเหงื่อออกเปียกชุ่มอยู่ในฝ่ามือ
‘ใครจะไม่ตื่นเต้นละนี่มันสัมภาษณ์งานครั้งแรกของฉันเลยนะ ฉันมาด้วยความหวังหากไม่ได้งานนี้คงเครียดนอนไม่หลับอีกหลายคืนเลยละ’
” พี่ชื่อเตชิน เรียกเตเฉยๆก็ได้ครับทำไมน้องถึงมาสมัครงานที่นี่ละ “ เขาไม่อ้อมค้อมให้มันมากความเอ่ยถามคนตรงหน้าขึ้นทันที
” คือเบลล์เพิ่งย้ายมาอยู่แถวนี้ค่ะ ย้ายโรงเรียนมาเรียน กศน วันจันทร์ถึงศุกร์ว่างเลยอยากหางานทำเก็บเงินไว้ไปเรียนต่อมหาลัยค่ะ “ มาเบลล์เอ่ยบอกที่เธอมาหางานทำไม่ใช่เพราะจะช่วยแม่แต่เธออยากที่จะเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยต่างหากดังนั้นการทำงานเก็บเงินคงเป็นสิ่งเดียวที่เธอจะต้องทำระหว่างนี้
” อ๋อ น้องพักอยู่กับใครเหรอ “
” กับแม่ค่ะแล้วก็….เออ..ฟะ แฟนใหม่ของแม่ค่ะ“ เธอกระอักกระอ่วนมันกระดากปากมากเหลือเกินที่จะต้องพูดคำนี้ออกมา น้ำเสียงที่เคยสดใสแผ่วเบาลงทันที จนเตชินรับรู้ได้ถึงความไม่สบายใจของพนักงานใหม่
” ครับ พร้อมเริ่มงานวันไหน “
” คุณเตชินรับหนูเข้าทำงานเหรอ “ ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างขึ้นและเอ่ยถามด้วยความตื่นเต้น ดีใจเธออยากจะกระโดดแล้วกรี๊ดให้ดังๆ
” เรียกพี่ก็ได้อย่าเป็นทางการขนาดนั้นเลย สรุปพร้อมเริ่มงานวันไหน “ เตชินได้แต่อมยิ้มให้กับสีหน้าที่ดูจะตื่นเต้นราวกับได้ทองของเธอ
” วะ วันนี้เลยค่ะ วันนี้ “ เมื่อได้งานเธอก็พร้อมที่จะทำงานทันทีแม้จะยังทำอะไรไม่เป็นก็ตาม
เตชินไม่ติดว่าเธอจะทำอะไรเป็นหรือไม่เป็นเพราะทุกอย่างมันเรียนรู้ ฝึกฝนกันได้
” 555 ได้ครับ นั่นขวัญนะให้เป็นมือชงไปก่อนส่วนเบลล์เดี๋ยวพี่จะสอนให้ ระหว่างนี้ก็ช่วยหยิบจับ รับออเดอร์ทำงานที่พอจะทำได้ไปก่อน “ ขวัญพนักงานคนแรกของร้านที่เขาสอนมาเองจนตอนนี้ชงกาแฟรสชาติดีจนมีลูกค้าประจำมากมาย
” ค่ะ ขอบคุณพี่เตชินมากๆนะคะที่รับหนูเข้าทำงานแต่หนูมีระ…“
” วันที่มีเรียนก็ไปเรียนได้เลยบอกขวัญเอาไว้ เรียนเสร็จค่อยกลับมาทำงาน “ เตชินรู้ดีว่าเรียน กศน ใช้เวลาในการเรียนไม่นานอยู่แล้วจึงเอ่ยบอก
“ ค่ะ ขอบคุณนะคะงั้นหนูขอไปทำงานเลยนะคะ ” ด้วยความดีใจเด็กสาวไม่รอที่จะพูดคุยต่อจนเตชินอดที่จะส่ายหัวออกมาเบาๆไม่ได้ ร่างบางวิ่งปรี่เข้าไปหาขวัญหลังเคาว์เตอร์ ทั้งสองสนิทสนมกันได้อย่างรวดเร็วเพราะต่างคนก็ต่างถูกชะตากัน
จนช่วงบ่ายแก่ๆของวันรถหรูขับมาจอดยังหน้าร้านกาแฟก่อนที่คนนั่งข้างคนขับจะเดินลงจากรถเข้ามาในร้านกาแฟเพื่อที่จะมาซื้อกาแฟให้เจ้านาย
“ ร้านใหม่คุณฟ้าครามจะแดกได้ไหมวะ ” มือขวาที่ติดตามเจ้านายไปทุกที่เอ่ยพึมพำก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบๆร้านกาแฟเล็กๆ
“ สวัสดีค่ะ รับอะไรดีคะ ” มาเบลล์เช็ดมือที่เปียกหลังจากล้างแก้วเสร็จเอ่ยถามลูกค้าอย่างมีมารยาท
“ เอสเพรสโซ่ มัคคิอาโตแก้วนึงครับ “
“ ขวัญขอเบลล์ลองทำเองได้ไหม ” มาเบลล์เอ่ยกระซิบกระซาบกับเพลิงขวัญ เพื่อนทำหน้าลังเลว่าให้มาเบลล์ชงเองดีไหมก่อนจะมองไปยังลูกค้าหน้าใหม่ที่นั่งเขี่ยมือถือรออยู่ที่โต๊ะก่อนที่เธอจะตัดสินใจพยักหน้าให้มาเบลล์ ‘ลูกค้าใหม่คงไม่เป็นไรหรอกมั่งกินไม่ได้ก็แค่ไม่กลับมาอีก‘ เพลิงขวัญได้แต่คิดในใจคนเดียว
เด็กสาวสละตำแหน่งผู้ช่วยทิ้งรับบทบาริสต้าเดินเข้าไปชงกาแฟ เธอรู้จักการใช้เครื่องต่างๆในร้านเพราะเพลงขวัญสอนเธอทุกอย่าง รู้ว่าเมนูนี้ชงยังไงเพราะคอยแอบมองเวลาที่เพลงขวัญชงให้ลูกค้า มันง่ายแสนง่ายกับแต่ละเมนูไม่นานกาแฟที่มีฟองนมหน้าตาน่าทานก็พร้อมเสริฟ์
“ เอสเพรสโซ่มัคคิอาโต้เย็นได้แล้วค่ะ “ มาเบลล์เรียกให้ลูกค้าทราบ ชายร่างสูงลุกเดินตรงมายังเคาว์เตอร์
” 130 บาทค่ะรับขนมเพิ่มด้วยไหมคะ “ งานขายที่เธอทำได้ดีนั่นคือการขายขนมทุกแก้วที่เข้ามาจะต้องมีขนมติดมือออกไปทุกคนด้วยความพยายามของเธอ
” วันนี้มีเค้กธัญพืชอบใหม่ดีต่อสุขภาพ อร่อยมากค่ะสนใจไปทานคู่กับกาแฟไหมคะ “
” ครับๆชิ้นนึงก็ได้ครับ “
’บอกแล้วว่าฉันเกิดมาเพื่อค้าขายแววแม่ค้ามาแต่ไกล‘ เธอนึกชื่นชมตัวเองอยู่ในใจก่อนที่จะเดินไปเปิดตู้หยิบขนมใส่ถุงกระดาษมา 1 ชิ้น
“ ทั้งหมด 180 บาทค่ะ ” เมื่อชำระค่าสินค้าเสร็จลูกค้าก็รีบสาวเท้าเดินออกจากร้านไปทันที เพราะใกล้ถึงเวลาที่เจ้านายจะได้เข้าไปมอบทุนการศึกษาในโรงเรียนรัฐบาลที่ตรงกันข้ามกับร้านกาแฟแห่งนี้
” กาแฟครับคุณฟ้าคราม “ เจษฎ์ส่งแก้วกาแฟพร้อมกับขนมให้เจ้านาย ฟ้าครามที่เมื่อคืนไปดื่มกับเพื่อนๆมากลับดึกๆดื่นๆเช้านี้ผู้เป็นพ่อเดินไปปลุกถึงเตียงให้มาทำงานแทนแม้จะง่วงมากแต่เพราะเขาคือลูกชายคนเดียวของบ้านจำต้องช่วยเหลืองานทุกอย่างตามที่พ่อสั่งและวันนี้ก็เช่นกัน
“ ใช้เวลานานไหมกว่าจะเสร็จ ” ฟ้าครามเอ่ยถามคนสนิท
“ ในใบงานที่แจ้งมาน่าจะ 3 ชั่วโมงเสร็จครับ ”
“ อืม .. ไปเถอะ ” เขาเอ่ยสั่งและยกกาแฟขึ้นมาดูดหวังว่ากาแฟแก้วนี้จะปลุกให้เข้าตื่นขึ้นได้แต่เปล่าเลย
แค่ก! แค่ก! แค่ก!
แต่แค่เพียงอึกเดียวฟ้าครามก็ไอจนหน้าดำหน้าแดงเขาเอาแก้วกาแฟใส่ไว้ในช่องด้านหน้าก่อนจะมองมันอย่างพะอืดพะอม
“ ไม่อร่อยเหรอครับ ” เจษฎ์เอ่ยถามเมื่อเห็นเจ้านายเก็บแก้วกาแฟ
“ หวานมากไอ้สัส! คิดว่ารถน้ำตาลคว่ำใส่ ” มันหวานจนเขาแสบคอไปหมด หวานจนเลี่ยนไปต่อไม่ได้ กาแฟก็ไม่ถูกใจ ง่วงก็ง่วง งานก็สำคัญมันดูยุ่งเหยิงวุ่นวายดีซะจริง
^^