ตอนที่4:ประกาศกร้าว

3035 Words
๔ สองสามวันมานี้แม่ทูลหัวได้เอ่ยปากขอร้องให้ช่อเอื้องจัดเตรียมการแสดงร่ายรำ สำหรับพิธีเปิดงานคล้องมาลัยเลือกคู่ของเหล่าคชสารสิบตระกูล พิธีนี้จัดเป็นพิธีคู่บ้านคู่เมืองที่อยู่ร่วมกับวิถีชีวิตและความเชื่อของเหล่าคชสารและเหล่าไอยรามาอย่างช้านาน คชสารน้อยใหญ่จึงให้ความสำคัญและตั้งตารอพิธีคล้องมาลัยเลือกคู่ที่วนเวียนมาบรรจบในแต่ละปี ภาระหน้าที่สำคัญจึงตกมาอยู่ที่ช่อเอื้องอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จากที่กวดขันเหล่านางรำเข้มงวดอยู่แล้วจึงจำเป็นที่จะต้องขยันฝึกซ้อมหนักมากยิ่งขึ้น ตั้งแต่เช้าจรดเย็นหากไม่มีธุระสำคัญผู้ใดก็ห้ามรบกวน อาภรณ์พริ้วไหวสีขาวนวลเช่นงาช้างประดับประดาด้วยอัญมณีสีอ่อน ผ่านการตัดเย็บอย่างประนีตโดยช่อเอื้อง นอกจากจะเป็นนางรำและช่วยฝึกสอน นางยังตัดเย็บอาภรณ์ที่ใช้ไว้สำหรับพิธีที่จะถึงในอีกไม่ช้าด้วยตนเอง ทางด้านคชสารใหญ่อย่างท่านคชคณที่ตกปากรับคำว่าจะไม่มายุ่มย่ามให้นางขุ่นเคืองใจอีกก็ทำตามนั้น ในทุก ๆ ที่นางจะต้องไปเป็นเพื่อนสนทนาแม่ทูลหัวมักจะมีเขาปรากฎแวะเวียนมาชั่วครั้งชั่วคราว ทว่าเขาไม่ได้เอื้อนเอ่ยหรือทักทายกระไรต่อนาง ทำตัวเฉกเช่นคนแปลกหน้าที่คุ้นเคยกันดี แน่นอนว่าตัวนางก็อยากให้เป็นแบบนี้เช่นกัน “ไม่แน่พิธีคล้องมาลัยอาจจะมีชายหนุ่มจากตระกูลไหนสักตระกูลมาคล้องมาลัยเจ้าก็เป็นได้ช่อเอื้องลูกสาวแม่” นางไอยรากมลาเอ่ย คชคณบุตรชายของนางก็อายุอานามพ้นช่วงวัยเจริญพันธุ์มาหลายปีแล้ว ไม่เห็นเขาจะใส่ใจคล้องมาลัยนางใดให้ผู้เป็นแม่ชื่นใจเสียที พิธีคล้องมาลัยนั้นให้สิทธิ์คชสารหนุ่มที่อายุโตเต็มวัยได้เลือกนางไอยราที่ตนหมายปอง “เมื่อจบพิธีข้าคงจะรีบกลับเรือนให้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้เจ้าค่ะแม่ทูลหัว พึ่งจะได้อยู่ด้วยกันไม่นานก็จะรีบผลักไสข้าให้ผู้อื่นแล้วหรือเจ้าคะ ช่างน่าน้อยใจนักนะเจ้าคะ” ช่อเอื้องผู้นั่งข้างกายแม่ทูลหัวเอ่ยอย่างติดตลก แสร้งตีหน้าสลดเบื้องหน้าแม่ทูลหัว “ที่นี่มันเงียบเหงาเกินไปแล้วน่ะสิ แม่อยากได้ยินเสียงหัวเราะของเด็ก ๆ บ้าง คงจะครึกครื้นน่าดู” “แล้วเหตุใดแม่ทูลหัวไม่ลองมีเด็กน้อยอีกสักคนเป็นของตนเองเล่า...” “ข้าอายุปูนนี้แล้วช่อเอื้อง ครั้นจะให้วิ่งตามเด็กก็กระไรอยู่ คงได้แต่ฝากความหวังไว้ที่เจ้าและคชคณแล้วล่ะ ผู้ใดจะมีหลานให้แม่ได้เชยชมก่อนกัน” นางไอยรากมลาแววตาเปล่งประกายอย่างมีความหวัง แม้นรูปร่างหน้าตาของนางจะยังคงสวยสง่าดังเดิม ทว่านี้ก็เป็นเพียงร่างทิพย์ที่ไม่มีวันโรยรา ด้วยอิทธิฤทธิ์ของพระสวามีที่บันดลให้นางแต่ผู้ใดจะล่วงรู้อายุอานามของนางอาจจะเทียบเท่าบรรพบุรุษหลายชั่วอายุคนของมนุษย์ก็เป็นได้ “ข้าคงต้องยอมให้ท่านคชคณนำไปก่อนเจ้าค่ะ ข้าขออยู่กับแม่ทูลหัวไปตลอดไม่ได้หรือเจ้าคะ...” ช่อเอื้องเสียงอ่อนลง นางมองใบหน้าของหญิงสาววัยกลางคนท่าทางใจดีราวกับต้องการออดอ้อน “เจ้าเด็กคนนี้...แปลกประหลาดดีหนา นางไอยรามากมายต่างต้องการตบแต่งออกเรือนไปใช้ชีวิตของตน เจ้ากลับอยากอยู่ผูกติดกับยายเฒ่าอย่างข้า” แม่ทูลหัวเอื้อนเอ่ย มองบุตรสาวบุญธรรมของนางที่ไม่ว่าจะกระทำสิ่งใดก็ล้วนถูกอกถูกใจนางเสียหมด “หูลูกร้อนวูบวาบเอ่ยถึงลูกกันอยู่หรือขอรับ” สุรเสียงเข้มเอ่ย คชสารใหญ่สวมเพียงกางเกงสะดอสีดำเดินมาทักทายมารดา สายตาเหลือบมองช่อเอื้องที่พยักหน้าทักทายเขาเล็กน้อย ห้าวันเต็มที่เขาหมางเมินนาง ปฏิกิริยาตอบกลับของนางที่มีต่อเขายิ่งทำให้เขากระวนกระวายใจ นางทำเหมือนไม่เคยมีกระไรเกิดขึ้น นางทำได้อย่างไร ในขณะที่ตัวเขากลับนอนจมรำพึงรำพันถึงนางอยู่ทุกคืนวัน “อ้าว...มาพอดีเลย แม่คุยกับน้องเรื่องพิธีคล้องมาลัยที่ใกล้มาถึง ว่าแต่ปีนี้ก็ยังไม่พึงใจนางใดเลยหรือ นางพิณพิมาไอยราจากตระกูลฉัททันต์เล่า นางรอเจ้าคล้องมาลัยมาหลายปีแล้วหนา หลายปีมานี้นางก็แวะเวียนมาเยี่ยมเยียนแม่อยู่หลายหน จะรอให้นางเป็นสาวแก่จึงจะตบแต่งหรือ” ‘พิณพิมา’ เป็นนางไอยราจากตระกูลฉัททันต์ ผิวกายเผือกผ่องมากบารมี อิทธิฤทธิ์ วิชาอาคมก็หาได้ด้อยไปกว่าท่านคชคณ อีกทั้งยังขึ้นชื่อลือชาเรื่องความงามในหมู่นางไอยราทั้งหมด นางเคยเห็นสองคนนี้เทียวไปมาหาสู่กันอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็ไม่รู้ด้วยเหตุอันใดตอนนี้จึงมีเพียงนางที่แวะเวียนมา ผู้เป็นแม่ก็ไม่เห็นว่าจะมีนางไอยราตนใดเหมาะสมเป็นชายาได้เทียมเท่านางอีกแล้ว “ลูกบอกท่านแม่ไปหลายหนแล้วนะขอรับ ว่าเรื่องระหว่างลูกและนางไม่มีทางเป็นไปได้ ลูกไม่อยากลงรายละเอียดลึกมากไปกว่านี้ ให้นางได้พบคนที่เหมาะสมกว่าลูกเถิดขอรับ อันที่จริงลูกก็มีนางที่พึงใจอยู่นะขอรับ” ความสัมพันธ์วาบหวามของเขาและนางไอยราเผือกเป็นอันสิ้นสุดลงเมื่อสิบปีก่อน เหตุเพราะนางมีอารมณ์หึงหวงขั้นรุนแรง ตามรังควาญเขาจนไม่เป็นอันทำงานการทำงาน เขายอมอดทนอดกลั้นเพราะเห็นว่านางคือคนรัก แต่นางกลับใช้นิสัยเอาแต่ใจตนอาละวาดจนเขาเสียหน้าต่อธารกำนัลอยู่หลายหน เมื่อความอดทนสิ้นสุดลงเขาจึงประกาศกร้าวต่อหน้านางว่าจะไม่มีวันหวนกลับไปหานางอีก ภายหลังด้วยความรู้สึกผิด นางพิณพิมาจึงคอยแวะเวียนมาเยี่ยมเยียนมารดาเขา ด้วยหวังว่าเขาอาจจะยอมใจอ่อนในสักวัน แต่คนอย่างเขาไม่เอาก็คือไม่เอา หากได้นางเป็นชายา เรือนคงร้อนดั่งไฟ หาได้มีวันสงบสุขไม่ “นางจากตระกูลใด” แม่ทูลหัวเอ่ยถามน้ำเสียงตื่นเต้นระคนยินดียิ่ง “แน่นอนว่าท่านแม่ย่อมต้องพึงใจนาง แต่ติดที่นางไม่พึงใจข้า...” คชคณเหลือบมองช่อเอื้อง ท่าทางหมางเมินที่เขาปั้นแต่งหลายวันมานี้พังทลายกลายเป็นธารน้ำแข็ง เพียงเพราะประโยควาจาที่ว่าอาจจะมีชายใดมาคล้องมาลัยนางในพิธีคล้องมาลัยที่ใกล้มาถึง แววตาหยอกเย้าแหย่หญิงสาวที่นั่งทำไม่รู้ไม่ชี้ “มีนางผู้นั้นด้วยหรือผู้ที่ไม่พึงใจลูกน่ะ แปลกประหลาดพอ ๆ กับช่อเอื้องที่ไม่อยากตบแต่งออกเรือนเลยหนา เอ้ะ...เจ้าอย่าบอกนะว่านางผู้นั้นคือ ชะ...ช่อเอื้องน่ะ” ผู้เป็นแม่ลตะขิตตะขวงอยู่ภายในใจ ก่อนจะฉุกคิดอะไรได้บางอย่างทำเอานางไอยรากมลาถึงกับมือไม้สั่น “คงมิใช่ดอกเจ้าค่ะแม่ทูลหัว” ช่อเอื้องวางฝ่ามือนุ่มบนท่อนแขนสีเข้มของแม่ทูลหัวแผ่วเบา ข่มความขุ่นเคืองภายในใจที่เขาสร้างเรื่องให้นางอีกแล้ว “ผู้ใดว่าไม่ใช่เล่าขอรับ ช่อเอื้องโดยแท้ นางหักหาญน้ำใจลูกนัก ไม่ยอมให้ลูกรับผิดชอบ ไม่แน่ว่าตอนนี้หลานที่ท่านแม่อยากได้อาจจะอยู่ในครรภ์นางแล้วก็เป็นได้” คชสารใหญ่แสร้งตีหน้าเศร้าสลด ขอความเห็นใจจากมารดา ในเมื่อนางหมางเมินอยากหลีกหนีเขาถึงเพียงนี้ เขาไม่อยากจะอดทนอีกต่อไป ก็ประกาศกร้าวให้ทุกคนรู้แจ้งไปเลยว่าเขาพึงใจนางเพียงใด และเขาก็อยากเป็นผู้ครอบครองนางเพียงผู้เดียว ไม่ยอมให้ชายใดมาทับรอยเขาโดยเด็ดขาด “คะ...คชคณ จะ...เจ้าล่วงเกินน้องหรือ” แม่ทูลหัวยกมือทาบอก อาการวิงเวียนศรีษระลมแทบจับปรากฎขึ้นทันควัน ดวงใจของนางเต้นอึกทึกครึกโครมจนแทบจะกระเด็นออกมา “ก็เกือบครึ่งค่อนวันขอรับท่านแม่อยากทราบสถานที่หรือไม่ขอรับ” คชสารใหญ่ตอบหน้าตาย เขามองหญิงสาวที่ใจปรารถนา นางมีสีหน้ากระอักกระอ่วน หน้านิ่วคิ้วขมวดคงอยากจะระดมหมัดประเคนใส่เขาไม่น้อย “เจ้าลูกบ้า! เจ้าลูกหน้าไม่อาย! ช่อเอื้องมีศักดิ์เป็นน้องสาวบุญธรรมเจ้า ไยเจ้ากระทำหยาบคายต่อนางเช่นนี้ ช่อเอื้องทำไมเจ้าไม่รีบบอกแม่ แม่จะได้เอาเลือดชั่ว ๆ ของเจ้าคชคณออกให้เร็วกว่านี้ เอาไม้มาวันนี้ข้าจะเอาเลือดชั่วในตัวเจ้าออกมาให้หมด!” นางไอยรากมลาสั่งนางกำนัลคนสนิทให้รีบนำไม้มา ตอนนี้นางทั้งโกรธและเคืองใจเป็นหนักหนา ด้วยช่อเอื้องแม้จะเป็นดวงจิตดอกเอื้องไอยเรศมาจุติ แต่ก็เป็นดอกเอื้องไอยเรศที่นางดูแลมาเกือบขวบปี นางทั้งรักและเอ็นดูราวกับลูกสาวในครรภ์ แต่เจ้าลูกชายตัวดีดันมาจับนางทำเมียเสียได้! ผิดแผนนี่มันผิดแผนของนางไปหมด “ข้าอยากได้นางเป็นเมียหาใช่น้องสาวนี่ขอรับท่านแม่ อีกอย่างสถานะของนางในตอนนี้ก็ไม่สามารถแปรเปลี่ยนเป็นน้องสาวของข้าได้อีก” “คชคณ!” “ขอรับท่านแม่...” คชสารใหญ่ดูจะมีความสุขภิรมย์ยินดีเสียเหลือเกิน ที่ผู้เป็นแม่ล่วงรู้ว่าบุตรสาวบุญธรรมของนางได้ตกเป็นของเขาแล้ว นี่แหละหนาช่อเอื้อง...ยิ่งหลีกยิ่งหนียิ่งได้เจอ “แม่ทูลหัวระงับโทสะลงก่อนเถิด รอใจเย็นกว่านี้ค่อยคุยก็ยังไม่สาย พี่ทิพย์พาแม่ทูลหัวไปนอนพักผ่อนสงบจิตสงบใจก่อนเถิด” ช่อเอื้องสั่งนางกำนัล นางกำนัลคนสนิทรีบเข้ามาประคองร่างนางไอยรากมลาตามคำสั่ง ช่อเอื้องส่งแม่ทูลหัวจนสุดสายตาก่อนจะหันขวับมองตาค้อนต้นเหตุที่ทำหน้าไม่รู้ร้อน “ท่านสัญญากับข้าแล้วไม่ใช่หรือ เหตุใดจึงเป็นคนกลับกลอกไม่รักษาสัจจะเช่นนี้ท่านคชคณ” ช่อเอื้องกล่าวเสียงแข็ง ในขณะที่เจ้าของร่างใหญ่ผิวสีเข้มเดินก้าวมาประชิดตัวนาง ลมหายใจร้อนผ่าวรินรดพวงแก้มแดงระเรื่อ “ข้าก็ไม่มายุ่งวุ่นวายให้เจ้าเคืองใจตั้งห้าวันแล้วหนายังไม่พอใจเจ้าอีกหรือช่อเอื้อง” มือสากลูบไล้แก้มอิ่มนุ่มเบามือ สายตาเจ้าเล่ห์มองนางเสมือนอยากจะเขมือบนางทั้งตัว ไม่เคยมีผู้ใดทำให้เขาคลั่งแทบบ้าได้เก่งเท่านาง “แต่ที่เราคุยกันไว้ไม่ใช่ห้าวันนะท่านคชคณ ท่านเลอะเลือนหรือแกล้งบ้า” ช่อเอื้องเบนหน้าหนีสัมผัสร้อนของเขา ดวงตากลมโตจ้องเขาเขม็ง ริมฝีปากกระจับขบเม้มเป็นเส้นตรง ยามนางโกรธาก็น่ารักดีเหมือนกัน “ข้าคิดถึงเจ้าช่อเอื้อง” “!!?!!” ฝ่ามือหยาบสีเข้มประคองดวงหน้างามสะคราญไว้แน่น ก่อนริมฝีปากร้อนระอุจะกดทาบแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ คชสารใหญ่บดขยี้นางหนักหน่วงและรุนแรง ทดแทนความรู้สึกห่างหายห้าวันเต็มที่เขาจำต้องอดกลั้น วงแขนแกร่งล็อคร่างอรชรไม่ให้ดิ้นหนี แม้นางจะพยายามเบนหน้าหนีและผลักอกแกร่งสุดแรงให้ออกห่าง แต่มีหรือคชสารใหญ่อย่างเขาจะยอม “อ๋อย!” ลิ้นร้อนกระหวัดแทรกซ้อนเข้าสู่ภายในไล่ต้อนลิ้นเล็กที่คิดหลบหนี คชสารใหญ่มอบจุมพิตถวิลหาให้แก่นางอย่างเร่าร้อนและซาบซ่าน เขาเก็บเกี่ยวความหอมนุ่มรสหวานจนภายในโพลงปากนางเหือดแห้ง เขาบดขยี้นางอยู่นานจนริมฝีปากกระจับเริ่มบวมเจ๋อ เรียวแขนทั้งสองข้างถูกรวบเหนือศรีษระไม่ให้นางระดมทุบตีเขาได้อีก “คชคณ!” เสียงตะคอกของมารดาตะโกนสุดเสียง เมื่อเดินกลับมาเห็นบุตรชายกำลังรังแกช่อเอื้อง โดยอาศัยพละกำลังที่มากกว่ากักขังนางไว้ในอ้อมแขน สาวงามที่กำลังดิ้นพล่านหาทางหลีกหนี ทำไมนางจะมองไม่ออกว่าบุตรชายของนางคิดอยากครอบครองช่อเอื้องปานใด แต่ดูทีท่าของช่อเอื้องที่ปฏิเสธหนักแน่น นางเองก็ลำบากใจ คชคณยอมผละออกจากริมฝีปากที่เริ่มบวมเจ๋ออ้อยอิ่ง ทว่าเขากลับกดทาบซ้ำลงไปอีกครั้งแผ่วเบา เคล้าคลึงนุ่มนวลเยี่ยงบุรุษลุ่มหลงมัวเมาในนางอันเป็นที่รัก ขบเม้มริมฝีปากล่างของนางอย่างหวงแหน แม้จะมีมารดายืนมองอยู่ก็ตาม “คชคณหยุด!” “ท่านแม่...” คชสารใหญ่ถอนหายใจพรืดใหญ่ ยอมผละออกจากร่างหอมหวนของช่อเอื้อง ปล่อยให้ผู้เป็นแม่ดึงนางไปหลบอยู่ทางด้านหลัง นางไอยรากมลาประคองดวงหน้างามของช่อเอื้องขึ้นมาจึงเห็นริมฝีปากบวมเจ๋อแดงแจ๋ ผลพวงจากรสสัมผัสคนึงหาของเจ้าลูกชายตัวดี ช่อเอื้องหลุบดวงหน้าลงต่ำด้วยกระอากอายไม่อยากให้แม่ทูลหัวเห็น “ข้าไปไม่ทันไรเจ้าก็รังแกน้องอีกแล้วหรือ!” “ข้าคิดถึงนางท่านแม่” “ประเจิดประเจ้อ! เล่ามา...เล่ามาให้หมดอย่าคิดปกปิดข้าแม้แต่เรื่องเดียว หากเจ้าอยากรับผิดชอบนางจากใจจริง” ดวงตาเฉี่ยวฉายแววดุดันอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ประโยคหลังทำให้คชสารใหญ่รู้สึกใจฟูขึ้นมาไม่น้อย แม่ทูลหัวผู้ทรงอำนาจบารมีอดีตเคยปกครองดูแลเหล่าคชสารสิบตระกูล พบเจอคชสารดุดัน ก้าวร้าว มาก็ไม่น้อย พิพากษาตัดสินผู้กระทำความผิดมาก็มาก แต่ไม่มีครั้งใดเลยที่นางจะหนักใจเท่าครั้งนี้ อีกคนก็อยากได้เขาจนตัวสั่น ทว่าอีกนางก็ไม่ได้มีใจรักพิศวาสในตัวเขา หลังสอบเค้นความจริงจนกระจ่างจึงทำให้รู้ว่าบุตรชายตัวดีวางแผนล่อลวงช่อเอื้องจนทำให้นางติดกับดักหลุมพราง ยอมแลกเปลี่ยนข้อเสนอที่ทางเจ้าคชคณยื่นให้ “ช่อเอื้องเอ๋ย...เจ้าเสียรู้อีกทั้งยังเสียตัวให้คชคณเสียแล้ว จะทำกระไรไยไม่ปรึกษาแม่ก่อน เจ้าคชคณเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวเพียงใดเจ้าอาจไม่รู้ แต่แม่รู้ดีกว่าใคร” แม่ทูลหัวลอบถอนหายใจหนัก คิดไม่ตกจะแก้สถานการณ์เช่นนี้อย่างไรดี “ข้าผิดไปแล้วแม่ทูลหัวที่ไม่ไตร่ตรองให้ดีเสียก่อน ข้าวู่วามตอบตกลงเพียงเพราะคิดว่าเขาจะรักษาสัจจะ” ช่อเอื้องเอ่ยคำขอโทษจากใจจริง “เช่นนั้นข้ากับนางก็ตบแต่งออกเรือนกันได้แล้วสิขอรับ” คชสารใหญ่พูดย่ามใจ ใบหน้าเข้ม คิ้วหนาโก่ง ยิ้มหน้าระรื่นทำเอาผู้เป็นแม่นึกหมั่นไส้เสียไม่ได้ “หมั้นกันไว้ก่อนศึกษาดูใจกันก่อน ข้าไม่อยากฝืนใจช่อเอื้องแม้นเจ้าจักเป็นบุตรชายของข้าก็ตามแต่ ข้าจักหาฤกษ์หมั้นให้หลังพิธีคล้องมาลัย” “ไม่นานไปหรือขอรับท่านแม่...” คชคณออกอาการร้อนเนื้อร้อนใจ “เก็บอาการอยากได้น้องจนตัวสั่นเอาไว้หน่อยเถิด แต่งน่ะมันได้แต่งแน่แท้แต่ให้เวลาน้องมันหน่อย พึ่งจุติไม่ถึงสองอาทิตย์เจ้าก็จะลากนางไปเป็นเมีย ไม่คิดว่าผู้หญิงเค้าจะตกอกตกใจบ้างหรือ...” แม่ทูลหัวบิดเนื้อแขนของบุตรชายเต็มแรง “เจ้าตกใจหรือไม่ช่อเอื้อง” ชายหนุ่มถามช่อเอื้อง “......” นางไม่ตอบ ได้แต่เบนหน้าหนี “ดูเอาเถิดแค่พูดคุยนางยังไม่อยากจะปริปากคุยกับเจ้า” แม่ทูลหัวลอบยิ้ม พึ่งเคยเห็นอาการหน้าเจื่อนของคชคณเป็นครั้งแรกก็วันนี้ เจ้าลูกชายที่คอยวิ่งหนีนางไอยรามากหน้าหลายตา วันนี้กลับเป็นฝ่ายวิ่งตามช่อเอื้องเสียเอง ดูท่าจะเจอของจริงเข้าแล้วกระมัง จึงคลานเข่ามาขอความช่วยเหลือแกมบังคับจากมารดา “นับจากวันนี้ก็เป็นหน้าที่ของเจ้าว่าจะพิชิตมัดใจนางได้หรือไม่ แต่อย่าทำกระไรรุนแรงกับน้องอีกเข้าใจมั้ยคชคณ” ผู้เป็นแม่กำชับอีกครั้ง “ขอรับ...” “ข้าจะกลับไปพักผ่อน พวกเจ้าสองคนพูดคุยกันตามอัธยาศัยเถิด” ผู้ที่อาบน้ำร้อนมาก่อนหรือจะไม่รู้ว่าต้องให้เวลาพวกเขาทั้งสองได้พูดคุยปรับความเข้าใจกันเสียหน่อย ด้วยนิสัยของคชคณคงจะเอาชนะใจช่อเอื้องได้ไม่ยาก แววตาเอาจริงเอาจังของบุตรชายคงคิดจะปักหลักกับช่อเอื้องโดยแท้ หาใช่หมาหยอกไก่ดังเช่นทุกครั้ง เมื่อผู้ใหญ่เปิดโอกาสให้เพียงนี้แล้วมีหรือเขาจะยอมปล่อยให้หลุดลอยไป คชสารใหญ่ปราดเข้ามาประคองกอดหญิงสาวแน่นจากทางด้านหลัง พร่ำพรรณนากล่าวขอโทษและขออภัยนางจากใจจริง นางทำให้เขารู้จักคำว่ารักแรกพบเป็นอย่างไร เขาปรารถนาจะให้สายตาของนางมีเพียงเขาผู้เดียว ริมฝีปากขานนามเขาผู้เดียว ทุกลมหายใจเข้าออกของนางมีแต่เขาผู้นี้ผู้เดียว “ข้ารักเจ้าจากใจจริงช่อเอื้อง ข้าสาบานว่าจะไม่คิดมีเล็กมีน้อยให้เจ้าปวดใจ ขอเพียงแค่เจ้ายอมเปิดใจรับรักข้าบ้าง ข้าขอแค่นี้จักได้หรือไม่” คชสารหนุ่มเอ่ยน้ำเสียงทุ้มนุ่ม “วาจาของท่านยังศักดิ์สิทธิ์อยู่หรือ...” “ข้าผิดสัจจะต่อเจ้าเพียงหนเดียวและมันจักเป็นเพียงหนเดียวที่ข้าปฏิบัติต่อเจ้าช่อเอื้อง เพื่อให้ได้เจ้ามาครอบครองข้ายอมทำผิด” “ตัวข้าเป็นเพียงสิ่งของในสายตาท่านหรือ...”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD