บทที่ 1 ความบังเอิญ
มหาวิทยาลัยแอล
.
.
แต่ไหนมาชีวิตฉันไม่เคยง่ายทั้งเรื่องครอบครัวที่แม่เสียตั้งแต่เด็กโตมาสักหน่อยพ่อก็ไปมีครอบครัวใหม่และย้ายไปอยู่ญี่ปุ่นแนะนำตัวกันฉันมีชื่อว่า มิกิ เรียนปี 1 วิศวกรรมโยธาเพราะหัวสมองดีและอยากจบมามีเงินเดือนสูงๆ ฉันเลยเลือกลงเรียนคณะและสาขาที่ค่อนข้างโหดหิน
แต่ถ้าถามว่าทำไมไม่ลงเรียนแพทย์ละก็เพราะแพทย์ต้องจบ 6 ปีไงฉันไม่ได้มีเวลาขนาดนั้นหรอกอย่างที่บอกชีวิตฉันมันต้องดิ้นรนถึงพ่อจะไปลงหลักปักฐานที่ญี่ปุ่นนานๆ ทีจะกลับมาเยี่ยมฉันก็ไม่ได้อยากรบกวนท่านมากเพราะท่านก็มีครอบครัวใหม่แล้วไม่รู้บ้านนู่นเขาจะโอเครึเปล่าที่พ่อมีฉันเป็นภาระอีกคน
“มิกิทางนี้ย่ะ”
“โอ้ย หอบเชียวฉันบอกแล้วให้นั่งวินมา”
“ก็มันเปลืองเงินนิ่”
แองจี้เพื่อนชายใจหญิงของฉันยื่นขวดน้ำมาให้ก่อนฉันจะยกขึ้นดื่มเพราะเหนื่อยจากการเดินมาจริงๆ หอฉันเป็นหอในที่เด็กปีหนึ่งอยู่กันแต่กว่าจะมาถึงคณะก็ไกลอยู่นะช่วงนี้ฉันพึ่งจ่ายค่าเทอมไปยังไม่มีรายรับเข้ามาเลยต้องอดออมให้ได้มากที่สุด
เงินทุกบาททุกสตางค์ที่ฉันเอามาจ่ายค่าเทอมเป็นเงินที่ฉันทำช่องยูทูปน่ะก็มีcoverเพลงลงช่องมียอดผู้ติดตามและโฆษณาเข้ามาบ้างเลยพอได้ใช้จ่าย
แต่ใครจะคิดว่ามหาลัยแอลนอกจากค่าเทอมจะแพงแล้วค่าจิปาถะต่างๆ ก็แพงด้วยฉันอยากจะเขกหัวตัวเองชะมัดที่เลือกเรียนมหาลัยไฮโซขนาดนี้
“โอ้ยแล้วมันคุ้มกับสุขภาพไหมย่ะ!”
“คุณแม่อย่าโกรธ ใจร่มๆ เดี๋ยวไม่สวย”
“ฉันสวยทุกวันย่ะ”
แองจี้เป็นเพื่อนสาขาเดียวกับฉันเรารู้จักกันตั้งแต่วันแรกที่มาเรียนเลยนอกจากแองจี้แล้วก็ยังมีครีมและอะตอมด้วยอย่างน้อยฉันก็โชคดีเพราะเพื่อนน่ารักกับฉันมากๆ
“แล้วนี่อะไรใต้ตาคล้ำยังกับหมีแพนด้า”
“เมื่อคืนไลฟ์สดยันตีสองอ่ะ”
“เอ้าแล้วรูมเมทแกไม่ว่าหรอ”
“เหมยไม่อยู่น่าจะนอนกับแฟน”
“รูมเมทแกก็เปลี่ยนผู้ชายบ่อยเหมือนกันเนอะ”
“เอ่อ ไม่รู้สิ”
“แต่ถ้าแฟนรูมเมทแกไม่ยุ่งกับแกก็ดี แต่ถ้ามีอะไรรีบมาบอกพวกฉันเลยนะย่ะ”
“ได้ จะรีบมาฟ้องเลย”
เหมยเป็นรูมเมทเธอเรียนคณะพยาบาลเหมยเป็นอีกคนที่เรียนเก่งและเที่ยวเก่งมากด้วยข้อดีของการอยู่กับเหมยคือหนึ่งเหมยไม่ค่อยอยู่ห้องฉันก็จะมีเวลาไลฟ์สดขายของในแอพติ๊กต๊อกที่กำลังมาแรงในตอนนี้ส่วนข้อเสียเหมยเปลี่ยนแฟนบ่อยและชอบเอาแฟนมาที่ห้องโดยที่ไม่บอกฉันมาแค่ชั่วคราวก็พอเข้าใจได้แต่ถึงขั้นเอาแฟนมานอนด้วยมันก็ไม่ได้ป่ะพวกยัยแองจี้เลยไม่โอเคกับเหมย
“มากันเร็วจัง”ครีมกับอะตอมกำลังเดินมาที่โต๊ะ
“ยัยมิกิพึ่งมาก่อนแค่แป๊บเดียวเอง”
“อ้าวเด็กเรียนของเราก็สายเหมือนกันนี่หว่า”
“วิ่งมาอ่ะ”
“ขึ้นเรียนกันใกล้ได้เวลาแล้ว”
อะตอมเอ่ยเตือนพวกเราที่เตรียมจะเม้าท์มอยกันต่อช่วงนี้พึ่งผ่านการสอบกลางภาคไปถึงบางวิชาจะเป็นพื้นฐานของมอปลายแต่ฉันก็ต้องตั้งใจเพราะไม่อยากพลาด
และผลที่ได้ก็คุ้มค่ามากฉันได้คะแนนสูงทุกวิชาเลยปลื้มใจสุดที่ตัวเองทำได้และเพื่อนทำได้เพราะในกลุ่มฉันกับอะตอมจะช่วยติวให้แองจี้กับครีมอยู่ตลอด
“เลิกเรียนไปไหนกันไหม”
“ฉันๆ มีไปช่วยงานอาจารย์น่ะ”
“มิกิเธอต้องหาเวลาพักบ้างนะทำงานเยอะเกิน”
“ขอบใจมากนะอะตอม ยังไงจะพยายามหาเวลาพัก”
พวกเราแยกย้ายกันโดยที่ทั้งสามจะไปหาอะไรกินที่ห้างต่อส่วนฉันก็แยกตัวมาที่ช็อปโยธาที่มหาลัยฉันจะมีรับสมัครนักศึกษาช่วยงานรายได้ไม่ได้มากอะไรเรามาช่วยช่วงว่างได้ตามรายชั่วโมงฉันเลยลงสมัครอีกอย่างนะเวลาเราเรียนปีสูงขึ้นไปจะได้ง่ายเพราะเรารู้แล้วว่าอาจารย์เขาจะสอนอะไร
ฉันมาถึงช็อปก็เข้ามาเตรียมอุปกรณ์ในห้องแล็บหรือห้องปฏิบัติการวันนี้เหมือนจะเป็นวิชาของพี่ปีสี่ด้วยฉันเตรียมของเสร็จก็ออกมาเข้าห้องน้ำ
ตึก ตึก ๆ
ปึกๆๆๆ
เสียงอะไรอ่า
ร่างบางขนลุกซู่เมื่อได้ยินเสียงดังกระทบกันของอะไรสักอย่างกับผนังห้องน้ำเธอรวบรวมความกล้าก่อนจะเอาหูแนบกับผนังห้องน้ำ
“อ๊ะๆ อ๊าา อุ๊ป”
“ซี๊ดดด เบาๆ สิอยากให้คนแห่มาดูหนังสดรึไงวะ”
“อ๊า ขะขอโทษค่ะ”
พั่บ พั่บ พั่บ
ฟึบ!
แก้มเนียนที่กำลังแนบหูฟังเสียงอยู่รีบเด้งตัวออกมาทันทีหน้าเห่อร้อนขึ้นเมื่อรู้ว่าเสียงเมื่อกี้มันคือเสียงอะไรถึงจะไม่เคยมีแฟนมาก่อนก็พอจะรู้ดีว่าสองคนในห้องน้ำข้างๆ ทำอะไรกันอยู่
ทุเรศที่สุด
ฉันรอจนกระทั่งเสียงเงียบไปไม่กล้าเดินออกจากห้องน้ำกลัวเจอสองคนในห้องข้างๆ ไม่รู้จะทำหน้ายังไงสักพักได้ยินเสียงเปิดประตูและเสียงเดินออกไปฉันทำใจก่อนจะลุกขึ้น
แปะ แปะ
อยู่ดีๆ ห้องน้ำด้านข้างก็มีเสียงขยับครั้งก่อนจะมีมือหนาสอดมาใต้ผนังที่กั้นห้องน้ำเหมือนควานหาอะไรสักอย่างฉันมองหาตามพื้นก่อนจะเจอสร้อยข้อมือสีเงินสลักคำว่า sosee ชื่อหรอ?
ฟึบ
ฉันลืมตัวเตะสร้อยข้อมือกลับไปให้อีกฝ่ายที่ห้องข้างกันก่อนจะยกมือปิดปาดแน่นเมื่อคิดได้ว่าเขาพึ่งทำอะไรมาและมันต้องเป็นความลับการที่ฉันเตะของกลับไปให้เขามันเป็นการเผยตัวเองให้เขารับรู้
ปึก!
คิดได้ดังนั้นฉันจึงรีบเปิดประตูและวิ่งออกไปจากห้องน้ำให้เร็วที่สุดก่อนที่อีกฝ่ายจะรู้ตัว
ฉันวิ่งแบบไม่คิดชีวิตออกมาจากตรงนั้นก่อนจะมาหลบมุมยืนหอบหายใจหนัก เฮ้อ เหนื่อยมากหวังว่าเขาจะไม่รู้ตัวตนของฉันนะ
.
.
อีกด้านที่หน้าห้องน้ำร่างสูงโปร่งสายตาเย็นชาหยุดยืนมองหญิงสาวที่วิ่งหนีออกไปอย่างไม่คิดชีวิต
โง่รึเปล่า
หน้าห้องน้ำมีกล้องวงจรปิดถ้าเขาอยากรู้ว่าเป็นใครก็แค่สร้างสถานการณ์ขอดูกล้องก็แค่นั้น
สงสัยได้ยินทุกอย่างในห้องน้ำหมดเลยสินะ
.
.
“หน้าตาอิ่มเอิบเชียวนะมึง”
ไม่ต้องหันไปมองเขาก็รู้ว่าเสียงใครมีคนเดียวแหละ ไอ้เพทาย เพื่อนในกลุ่มเดียวกันพวกเราเรียนคณะวิศวกรรมแต่มีอีกสองคนเรียนต่างสาขาส่วนเขาและเพื่อนอีกสี่คนเลือกเรียนโยธา
“มึงไม่มีก็หุบปาก”
“กูกินเป็นที่ ไม่เหมือนมึงไอ้โซ่ ที่ช็อปก็ไม่เว้น”
ทำเป็นปากดีนะไอ้สัสแล้วที่มันไปกินสาวคณะอักษรไม่เห็นมีใครสอดปากว่ามันกินไม่เป็นที่เลยเลวจริงๆ
“คุยไรกันวะ”
“แซวพี่มึงอะ มันเอาเด็กปี2ไปกินในห้องน้ำ”คนมาใหม่คือไอ้ต้าร์มันกับผมเป็นลูกพี่ลูกน้องและอยู่บ้านเดียวกันเพทายมันชอบเรียกพวกเราว่าสองพี่น้อง
“เอาวะ มึงไม่กลัวใครมาเห็นไง?”
“ทำไมต้องกลัว”
ผมตอบก่อนจะนึกถึงไปถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่หน้าห้องน้ำผู้หญิงตัวเล็กในชุดนักศึกษาถูกระเบียบดูก็รู้ว่าปี 1 เพราะถ้าเป็นปีสูงมาเรียนที่ช็อปเขาจะใส่เสื้อช็อปกันส่วนปี 1 ที่มาอยู่นี่คงเป็นนักศึกษาช่วยงานสินะ
กับแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ จะกลัวทำไม!
.