“ได้กินอะไรรึยัง”
เป็นเฟมที่ถามขึ้นมาหลังจากที่เราขึ้นรถกันมาได้สักพัก
“ยังเลย”
“เดี๋ยวพาไปกินอะไรอร่อย ๆ วันนี้กูเลี้ยงเองสั่งได้เต็มที่”
ไม่นานเราก็มาถึงร้านหมูกระทะ & อาหารทะเลซีฟู้ดบุฟเฟต์ 299
“เลี้ยงบุฟเฟต์? เหอะ ๆ ป๋ามากค่ะ” ฉันหัวเราะแห้ง ๆ ในลำคอ
“ร้านนี้อร่อย เดี๋ยวมึงก็ให้กูพามากินอีกคอยดู”
เฟมจับมือฉันเดินเข้าร้านทันที ฉันเดินตามเข้าไปอย่างว่าง่าย แล้วตรงไปตักกุ้งมาอันดับแรก หมูสามชั้นเป็นอันดับสอง แล้วมานั่งย่างทิ้งไว้ก่อนจะไปตักของว่างมากินรอหมูกับกุ้งสุก
“ตักมาเยอะขนาดนี้มึงจะกินหมดไหมก่อน”
หึ...ยังไม่รู้จักคุณโซสินะ
“กลัวได้จ่ายค่าปรับรึไง” ฉันพูดพลางคีบกุ้งที่สุกแล้วใส่จานตัวเองแล้วหยิบขึ้นมาแกะ แต่ลืมว่ายังร้อนอยู่เลยสะดุ้งปล่อยกุ้งลงจานทันที
“ค่าปรับไม่กลัว กลัวมึงกินเยอะจนร้านเขาเจ๊ง”
เขาพูดพลางหยิบกุ้งที่ฉันปล่อยลงจานเมื่อกี้ไปแกะเปลือกแล้ววางไว้ให้เหมือนเดิม ก่อนอีกหลายตัวจะตามลงจานฉันมา ฉันได้แต่มองเฟมที่นั่งแกะอยู่อย่างนั้นโดยที่ตัวเองยังไม่กินสักคำ
“พอแล้ว แกะทิ้งไว้ก็เย็นหมด ไม่อร่อยกันพอดี” เฟมกระตุกยิ้มมุมปากก่อนจะเอาทิชชูมาเช็ดมือแล้วจัดการยัดอาหารเข้าปากตัวเอง ตลอดการกินเฟมคีบนู่นนี่ รวมทั้งแกะกุ้งให้ฉันอยู่ตลอดทำให้จานฉันไม่ว่างเลย แทบไม่ต้องคีบอะไรจากเตา มีหน้าที่คีบอาหารจากจานตัวเองเข้าปากอย่างเดียว
ขณะเดียวกันฉันก็นั่งก้มหน้าก้มตากินพร้อมกับรู้สึกหน้าร้อนผ่าวกับการกระทำของเขา สักพักฝนก็ตกลงมา...อากาศเป็นใจให้ฉันนั่งกินได้นาน ๆ ซะจริง
เวลาล่วงเลยเป็นเวลาเกือบเที่ยงคืนฝนก็ยังไม่หยุดตก แต่ตอนนี้ร้านจะปิดแล้วทำให้เราต้องรีบวิ่งกลับขึ้นรถแล้วตรงดิ่งกลับบ้านทันที
แต่ฝนตกหนักมากทำให้เฟมมองไม่เห็นทาง เราเลยตัดสินใจนอนโรงแรมแถวนั้นแล้วค่อยกลับกันพรุ่งนี้เช้า
เราแยกย้ายกันเข้าห้องแต่ละคน เนื่องจากที่โรงแรมจะมีผ้าขนหนูให้อยู่แล้ว ฉันจึงหยิบผ้าขนหนูไปอาบน้ำใส่ชุดนักศึกษาเหมือนเดิมแล้วเตรียมนอน กะว่าจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นแต่โทรศัพท์ก็แบตหมดไปซะแล้ว
ฉันไม่มีอะไรทำจึงเดินไปนั่งเก้าอี้ริมหน้าต่างมองสายฝนที่โหมกระหน่ำอยู่ภายนอก พลันคิดถึงเรื่องวันนี้ทั้งวันที่มีแต่เรื่องอะไรไม่รู้เข้ามาผสมปนเปกันไปหมด แทบจะปรับอารมณ์ไม่ถูกกันเลยทีเดียว
“เห้อ~” ฉันกลับมานอนพลิกตัวไปมาไม่ยอมหลับสักที ก่อนจะมีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
ก๊อก ๆ
ฉันลุกขึ้นไปเปิดประตูก่อนจะพบว่าเป็นเฟมที่เดินเข้ามาพร้อมขวดเบียร์สองขวดและห่อขนมอีกจำนวนหนึ่ง ฉันขมวดคิ้วเพื่อถามว่าในมือคืออะไร
“นอนไม่หลับ จะชวนกินเบียร์”
เฟมพูดขึ้นเพื่อตอบคำถามที่ฉันแสดงออกไปทางสีหน้าเมื่อครู่
“เมื่อกี้โทรมาแล้วแต่มึงปิดเครื่อง”
“แบตหมดน่ะ แล้วเค้าก็กินเบียร์ไม่เป็นหรอก เอากลับไปกินห้องตัวเองเถอะ” ฉันพูดพลางเดินกลับขึ้นเตียงพร้อมดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปง ก่อนผ้าห่มจะถูกดึงออกโดยฝีมือเขา
“กินเบียร์คนเดียวจะไปสนุกได้ไง ลองชิมดูก่อนเผื่อชอบ ไม่งั้นก็มานั่งกินขนมเป็นเพื่อนกูก็ได้”
ไม่พูดเปล่าเฟมดึงแขนฉันขึ้นจากเตียงแล้วลากมานั่งที่เก้าอี้ริมหน้าต่างด้วยกัน ก่อนจะรินเบียร์ใส่แก้วแล้วยื่นมาให้
“ลองดูก่อนเถอะ”
ฉันรับแก้วมาจิบแล้วก็ได้แต่ทำหน้าแหยะ ๆ ก่อนจะยกแก้วอีกรอบ มันก็กินได้เพลิน ๆ อยู่หรอก
เรานั่งกินกันไปเงียบ ๆ หยิบขนมขึ้นมากินบ้าง จนเบียร์ขวดแรกหมดไป ขวดที่สองก็ใกล้หมด
“เมื่อคืนที่พี่เมสันนอนค้าง...ทำอะไรกันเหรอ”
“ยุ่ง” ฉันยกแก้วขึ้นดื่มพลางมองออกไปนอกหน้าต่าง
“ตอบกูด้วยครับ”
เฟมทำสีหน้าไม่พอใจใส่ฉัน
“ทำอะไรแล้วจะทำไม นี่เค้าต้องบอกเรื่องในบ้านเค้าด้วยเหรอ” ฉันพูดแล้วหยิบขนมขึ้นมาเคี้ยวตุ้ย ๆ ในปาก ก่อนเฟมจะเดินมากระชากเสื้อนักศึกษาฉันออกทำให้กระดุมเสื้อทุกเม็ดกระเด็นออกไปคนละทิศทาง ทำให้ฉันเบิกตา
กว้างด้วยความตกใจ
“เฟม!”
“ก็มึงไม่ตอบงั้นกูจะดูเอง”
เขาพูดพลางจับฉันยืนขึ้นถอดเสื้อผ้าจนฉันเปลือยเปล่าไปทั้งร่างอย่างรวดเร็ว หยิบชุดชั้นในทั้งสองชิ้นของฉันโยนออกไปทางหน้าต่าง เหลือไว้ก็แค่เสื้อนักศึกษาที่ไม่มีกระดุมซักเม็ดกับกระโปรงนักศึกษาทรงพลีทสั้นเหนือเขาขึ้นมานิดหน่อยเพียงเท่านั้น ฉันได้แต่มองตามชุดชั้นในที่ร่วงลงไปจากชั้นที่เราอยู่ เดี๋ยวสิแล้วฉันจะใส่อะไรกลับล่ะ
“พี่มันทำรอยเพิ่มเหรอวะ”
ฉันยืนเอาแขนกอดตัวเองไว้ไม่ให้โป๊ไปกว่านี้ ส่วนสายตาเฟมก็มองตามรอยที่มันเพิ่มขึ้นจากรอยที่เขาเคยทำเอาไว้ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองฉันนิ่ง ๆ
ฉันหลบสายตานั้น หยิบกระโปรงและเสื้อขึ้นมาหวังจะสวมมันให้ร่างอันเปลือยเปล่าของตัวเองแล้วเดินขึ้นเตียงไปห่มผ้าหันหลังให้คนที่ยังยืนอยู่ตรงนั้น วันนี้เขาทำเกินไปแล้ว...
“กลับไปได้แล้ว เค้าเริ่มง่วงแล้ว” ฉันพูดพลางหลับตาลง ก่อนจะรู้สึกได้ถึงความยวบของเตียง
“แล้วตรงนั้นล่ะ มึงมีอะไรกับพี่มันหรือยัง”
เฟมถามฉันพร้อมกับจับฉันนอนหงายแล้วคร่อมฉันไว้
“ไม่มีอะไรกันทั้งนั้นแหละ ไปได้แล้ว ชิ้ว...”
“งั้นกูขอเช็กหน่อย เพื่อความสบายใจ”
พูดจบก็ออกแรงดึงผ้าห่มออก ฉันก็ยื้อยุดฉุดกระชากผ้าห่มกับเขา แต่เพราะแรงฉันมีน้อยเกินไปทำให้เขาดึงออกสำเร็จ พร้อมถกกระโปรงฉันขึ้นมาไว้ตรงเอวใช้นิ้วขยี้ติ่งเสียวของฉัน
“อื้อ...” เขาก้มลงมาประกบปากฉัน มือข้างหนึ่งยังทำหน้าที่อยู่ข้างล่าง ส่วนอีกข้างก็เขี่ยยอดหน้าอกฉันอยู่ ก่อนจะผละปากออกแล้วไซ้ไปตามซอกคอลงมาถึงยอดอกทั้งเลียและดูดทำให้ฉันต้องแอ่นอกให้เขาด้วยความเสียวที่โดนปรนเปรอทั้งข้างบนและข้างล่าง
==Part Fem==
ตอนนี้น้องชายผมโตขึ้นพร้อมเช็กของแล้วว่าที่เธอบอกไม่ได้มีอะไรกันนั้นจะจริงหรือเปล่า อย่างพี่เมสันเนี่ยนะ จะอดใจไม่เอายัยนี่ไหวเหรอ ขนาดผมยังอดแทบไม่ไหว
ผมเลียร่างกายเธอจากหน้าอกลงมาผ่านหน้าท้อง และลงไปตรงส่วนนั้น ก่อนจะแหย่ลิ้นเข้าไปในร่องของเธอ
“อื้อ...เฟม~”
เธอผงกหัวขึ้นมามองผมด้วยตาปรือ ๆ ปากเธอกัดริมฝีปากล่างของตัวเอง
อ่า...เวลาปกติก็น่ารักอยู่แล้ว พอมาอยู่บนเตียงทำให้เธอเซ็กซี่สุด ๆ
เธอใช้มือกำผมของผมไว้แน่น แล้วยกสะโพกขึ้นอย่างเชื้อเชิญน้องชายของผม ผมแหย่ลิ้นเข้าออกร่องเธออย่างช้า ๆ แล้วเปลี่ยนเป็นเร็วขึ้น
“อ๊ะ...”
ผมผละมือออกจากร่างกายเธอมาถอดกางเกงของตัวเอง ลิ้นก็ยังทำหน้าที่ของมัน แล้วใช้มือชักแก่นกายตัวเองช้า ๆ เธอกดหน้าผมเข้าหาร่องเธอแรงขึ้นทำผมแทบหายใจไม่ออก
“อะ...เฟม...เค้าเสียว...อ๊า...”
ร่องรักเธอตอดลิ้นผมเร็วขึ้น ผมจึงเอาลิ้นออกมาจากร่องแล้วดูดเม็ดของเธอแทน แล้วเอานิ้วค่อย ๆ แหย่เข้าร่องรักแล้วชักเข้าออกช้า ๆ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเร็วขึ้น
“เฟม...อ๊ะ ๆๆ ....อ๊าส์~”
เธอยกสะโพกเกร็งกระตุกปล่อยน้ำรักออกมาชโลมนิ้วผมพร้อมกับได้ยินเสียงเธอหอบหายใจ
ร่องเธอบีบรัดนิ้วผมแน่น ผมแช่นิ้วค้างไว้แล้วขยับมาประกบจูบเธอ ลิ้นเราตวัดเลียกันไปมาอยู่สักพักผมก็ดึงนิ้วออก
“ต่อไปจะเช็กของแล้วนะ” ผมพูดพร้อมกับดันปลายแก่นกายเข้าร่องของเธออย่างช้า ๆ
อ่า...เข้ายากชิบ ผมพยายามดันเข้าไปช้า ๆ แต่เธอก็ร้องออกมา
“อ๊ะ...เฟม...เจ็บ...พอแล้ว”
“อ่า...อย่าเกร็ง...ซี้ด...กูเอาเข้าไม่ได้เนี่ย” ผมก้มลงไปมองส่วนนั้นพร้อมกัดฟันดันเข้าอีกรอบ
“อ๊า...เฟม...เค้ายังไม่พร้อม”
เธอมองหน้าผมพร้อมน้ำตาคลอเบ้า
“หึ! แค่เช็กเฉย ๆ ไม่ได้จะเอา” ผมถอนแก่นกายออกแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป ก้มมองน้องชายตัวเองที่ตอนนี้มีคราบน้ำแดง ๆ ประปรายเพียงนิดเดียว ถ้าเสียบสุดโคนคงจะได้เห็นคราบน้ำสีแดงนี้เยอะกว่านี้แน่ ๆ ในเมื่อน้องชายผมแข็งตัวขนาดนี้แล้วก็ต้องใช้มือช่วยล่ะนะ ไม่งั้นคงไม่ได้นอน