ตอนที่ 2
ลูกและภรรยา
“ปะป๊าห้ามไปไหน...นอนกับม่ามี๊ที่ห้องนี้แหละ!”
ถ้อยคำของ ผิงผิง ลูกสาววัยสามขวบกว่านั้น ทำให้ทั้งคู่หันไปมองยังต้นเสียงแทบจะพร้อมกัน ร่างเล็กในชุดนอนลายการ์ตูนยืนกอดตุ๊กตาหมีและจ้องมองมาทั้งคู่อยู่ก่อนแล้ว ท่าทีของ จักรวาล จึงโอนอ่อนลงเล็กน้อย แม้ว่าตลอดระยะเวลากว่าสามปีที่ผ่านมาเขาจะแยกห้องนอนกับภรรยามาตลอด แต่อย่างไรเขาก็ใส่ใจความรู้สึกของลูกสาวคนเดียวอย่างที่สุด
“พอดีวันนี้ป๊ามีงานที่ต้องคุยกับอากงครับ คงจะนอนค้างกับม่ามี๊ไม่ได้ แล้วทำไมผิงผิงถึงยังไม่นอนละลูก?”
จักรวาล บอกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเพื่อจะได้หลบเลี่ยงไปนอนค้างที่บ้านใหญ่เหมือนเช่นทุกครั้ง ทว่าเด็กหญิงกลับเดินมาใกล้และจ้องเขาด้วยแววตาขึงขัง
“พรุ่งนี้ค่อยคุยค่ะอากงหลับไปแล้ว ป๊าไปก็ไม่ได้คุยอยู่ดี”
ผิงผิง เดินมาใกล้แล้วจับมือผู้เป็นพ่อให้เดินมานั่งบนเตียงนอนใหญ่กลางห้องข้างๆกับ ปาริชาติ ผู้เป็นแม่ “ป๊าควรจะต้องนอนห้องเดียวกับม๊า ไม่ควรจะแยกห้องนอนกันนะคะ ยิ่งสถานการณ์ของโชติพิทักษ์พืชผลในตอนนี้ไม่ค่อยดี ป๊ากับม๊าควรจะต้องรักกันให้มากๆ”
หัวคิ้วของจักรวาลกระตุกไหว ด้วยไม่อยากเชื่อว่านี่คือถ้อยคำจากเด็กสามขวบ เขาจึงเงยหน้าขึ้นสบตากับภรรยาเหมือนจะตั้งคำถาม
ทว่าอีกฝ่ายกลับมองเขาด้วยแววตาเรียบเฉย
“ผิงผิงไปฟังอะไรมาจากใครเหรอลูก?”
แม้ตอนนี้จะมีข่าวว่าธุรกิจของโรงงานโชติพิทักษ์อยู่ในภาวะขาลงจนคนทั่วไปพูดถึงกันซึงแซ่ในด้านลบ และอาจจะมีแม่บ้านหรือเด็กรับใช้พูดกันสนุกปากแล้วทำให้ลูกสาวเขาได้ยินจนจดจำ แต่เขาก็ยังฉงนกับถ้อยคำ
และท่าทางของเด็กหญิงวัยสามขวบยิ่งนัก
“ผิงผิงรู้ค่ะ”
เด็กหญิงไม่ตอบ ทว่าเดินไปเปิดประตูเสื้อผ้าหยิบผ้าขนหนูและชุดนอนของชายหนุ่มออกมา “และถ้าหากป๊าไม่อยากจะให้ทุกอย่างเลวร้ายไปกว่านี้ ควรจะต้องนอนค้างกับม่ามี้ทุกคืน อย่างน้อยคู่ค้าและคนอื่นๆจะได้มั่นใจว่าโชติพิทักษ์ยังแข็งแกร่ง อย่าให้ใครมาประเมินครอบครัวของเราต่ำเกินไป”
“หือ?”
คิ้วของชายหนุ่มเลิกสูงขึ้นยิ่งกว่าเดิม
นี่คือคำพูดของเด็กสามขวบแน่เหรอ?
เขาคงทำงานหนักจนเบลอแล้วฝันไป หรือว่าตอนนี้ ปาริชาติ ภรรยาแค่ในนามของเขาร่ายเวทย์มนต์อะไร ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าทุกอย่างเปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศในห้องนอนที่ดูผ่อนคลายเต็มไปด้วยกลิ่นมินต์อ่อนๆ ทั้งสีหน้าแววตาของภรรยาที่ดูเย้ายวนมีชีวิตชีวา
และที่สำคัญคือ ผิงผิง ลูกสาวสามขวบของเขา
จากเด็กที่ไม่ค่อยพูด ทำไมวันนี้กลายเป็นเด็กที่พูดประโยคยาวๆได้ไม่ต่างจากผู้ใหญ่
ทว่าไม่ทันจะถามอะไรต่อ ลูกสาวเขาก็เอ่ยขึ้น
“ปะป๊าไปอาบน้ำก่อนเถอะค่ะ ม่ามี้ถอดเสื้อให้ป๊าซิคะดึกมากแล้ว ป๊าจะได้พักผ่อน เพราะพรุ่งนี้ต้องเข้าไปดูข้าวเปลือกล็อตใหม่ที่โกดังแต่เช้า”
“ผิงผิง ลูกรู้ได้ยังไง?”
ไม่ใช่ละ
นี่ไม่ใช่ลูกสาวสามขวบคนเดิมของเขาแน่นอน
หรือถ้าใช่ก็ต้องมีอะไรผิดพลาดสักอย่าง
“ผิงผิงรู้ค่ะและพรุ่งนี้หนูกับม่ามี๊จะไปดูโกดังกับปะป๊าด้วย”
“วะ ว่าไงนะ?”
ตั้งแต่แต่งงานมา ปาริชาติและลูกสาวไม่เคยย่างกรายไปยังโกดังเก็บพืชผลของโชติพิทักษ์เลยสักครั้ง และเขาเองก็ไม่อยากให้ทั้งคู่ไปวุ่นวายมาก เพราะแม้จะเป็นธุรกิจกงสีแต่เขาและน้องชายอีกสองคนคือ จักรพงษ์ และจักรกริช ก็บริหารจัดการอยู่ ส่วนใหญ่แล้วสะใภ้จะไม่ค่อยมีบทบาทในการบริหารงานของตระกูลมากนัก
ปาริชาติ เป็นสะใภ้คนโตแต่จักรพงษ์น้องชายคนรองก็แต่งงานมีภรรยาคือ พิศมัย ส่วนจักรกริชน้องชายคนเล็กนั้นเพิ่งเรียนจบมา แต่อีกไม่นานก็คงต้องแต่งงานตามคนที่บิดาและมารดาเขาได้วางตัวได้
สะใภ้ทุกคนแทบจะไม่มีบทบาททางธุรกิจใดๆ
“อากงบอกให้ผิงผิงกับปิ่นไปด้วยค่ะ”
ปาริชาติ เอ่ยบอกสามีขณะย่อกายลงต่ำ แล้วเอื้อมมือแตะต้นแขนเขา ก่อนจะก้มลงกระซิบข้างหูชายหนุ่มเบาๆที่ได้ยินเพียงแค่สองคน “เฮียไปอาบน้ำเถอะจะได้พักผ่อนดึกแล้ว ไม่ต้องกังวลปิ่นจะนอนโซฟาเอง”
ตั้งแต่คลอดลูกสาวเธอและสามีแทบจะไม่ได้แตะต้องสัมผัสร่างกายกันอีกเลย บางสถานการณ์ที่จักรวาลจำเป็นต้องกลับมานอนบ้าน ปาริชาติก็นอนโซฟาที่ปรับเป็นเตียงนอนเล็กๆ และวันนี้หากจำเป็นต้องสร้างภาพต่อหน้าลูกสาว
เขาและเธอก็จำเป็นต้องทำเช่นนั้นเหมือนที่เคยทำ
“เธอเสี้ยมอะไรลูก ทำไมผิงผิงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้”
แค่ระยะเวลาไม่ถึงเดือนที่เขาไม่ได้เจอหน้าลูกสาว ไม่อยากจะเชื่อว่าเด็กหญิงวัยสามขวบกว่าจะเปลี่ยนไปได้ทั้งสีหน้าและกิริยาขนาดนี้
“ปิ่นดูแลและสั่งสอนในสิ่งที่ดีๆให้ลูกตลอด และพร่ำบอกให้เขามองภาพลักษณ์ของเฮียเป็นฮีโร่และที่หนึ่งในใจเขาเสมอ”
น้ำเสียงภรรยายังคงราบเรียบ ขณะเอื้อมมือปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของเขาออกทีละเม็ด ปลายนิ้วนุ่มที่ปัดป่ายโดนผิวช่วงอกกว้างทำให้หัวคิ้วของชายหนุ่มกระตุกย่นขึ้น
“ฉันไม่อยากจะไว้ใจเธอ ครอบครัวเธอมันเล่ห์เหลี่ยมเยอะ”
“ก็ยังน้อยกว่าครอบครัวของเฮียนะคะ”
ภรรยาคนสวยแค่นเสียงเล็กน้อย
“ปิ่น!”
“ม่ามี้ก็ควรต้องอาบน้ำด้วยเหมือนกันเพราะเพิ่งกลับจากงานเลี้ยง ผิงผิงว่าเข้าไปอาบพร้อมกันเลยดีกว่า!ดึกมากแล้ว”
เด็กหญิงสาวเท้าเข้ามาประชิดทั้งสอง ก่อนจะดึงมือพ่อและแม่เข้าไปในห้องน้ำ
ปาริชาติ ตระหนกเล็กน้อยเมื่อเห็นท่าทีของลูกสาว
“ผิงผิงลูก!”
ไม่ ไม่ ไม่
ต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ ๆกับลูกสาวของเธอ
ทั้งคู่ได้แต่ตระหนกกับสิ่งที่เกิดขึ้น โดยไม่รู้ตัวว่าได้เข้ามายืนอยู่ในห้องน้ำด้วยกันเรียบร้อยแล้ว
ผ้าขนหนูถูกลูกสาวโยนเข้ามาไว้ด้านใน
“อาบน้ำได้แล้วค่ะ”
แกร๊ก!!!
ก่อนที่ประตูห้องน้ำจะถูกปิดลงและล็อคจากด้านนอก
*************