ตอนที่ 3 เดทแรก I

2030 Words
น้องแพรหลับตาลงอย่างรวดเร็วด้วยอาการตกใจจน เธอรับรู้ถึงความอบอุ่นที่ริมฝีปากเมื่อเอส่งลิ้นเลียริมฝีปากอิ่มอย่างนุ่มนวล เธอส่งเสียงในลำคอประท้วงเล็กน้อยแต่ไม่ทำให้ชายหนุ่มปล่อยริมฝีปากเธอให้เป็นอิสระ เอใช้ความชำนาญในเกมส่งลิ้นร้อนๆ เข้าไปในโพรงปากของน้องแพรได้สำเร็จ เอหยอกล้อกับลิ้นโพรงปากอิ่มอย่างผู้ชำนาญ ทำให้น้องแพรตอบสนองกลับอย่างไม่ประสา แต่สร้างความวาบหวามให้ชายหนุ่มได้ไม่น้อย ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ แต่เอยอมปล่อยน้องแพรเพราะเสียงเตือนของลิฟต์บ่งบอกว่าถึงชั้นที่ทั้งคู่ต้องการแล้ว “ติ๊งงง” ชายหนุ่มยอมปล่อยน้องแพรด้วยความเสียดาย แล้วจ้องมองเธอริมฝีปากที่เจ่อบวมเพราะฝีมือของเขาด้วยความภาคภูมิใจ น้องแพรทำท่ายกมือขึ้นเพื่อจะเช็ดริมฝีปาก ทำให้เอรีบคว้ามือของน้องแพรด้วยความรวดเร็ว น้องแพรมองหน้าเขาด้วยแววตาขุ่นเคืองสุดขีด “ถ้าน้องแพรเช็ด พี่จะจูบน้องแพรอีกครั้ง แล้วจะจูบตรงนี้ ตรงหน้าคนเป็นร้อยนี่แหละ” ทำให้เธอเพิ่งรู้สึกตัวว่ามาถึงชั้นที่เป็นห้องทำงานของเขา ด้านหน้าลิฟต์มีทั้งบอดี้การ์ดของเขา เลขา และหัวหน้างานต่างๆ ที่รอคิวที่เข้าพบเขาเพื่อจะปรึกษาเรื่องงาน รวมๆแล้วเกือบ 20 คน เพราะคำขู่ของเขาน้องแพรจึงต้องเชื่อฟังเขาเพราะเธอไม่อยากอายต่อหน้าคนเยอะแยะขนาดนี้ เอยื่นมือมากุมมือนิ่มแล้วดึงเบาๆ เพื่อให้เธอก้าวเดินตาม น้องแพรรีบก้มหน้างุดแอบอยู่ด้านหลังของเพราะไม่อยากให้ใครเห็นหน้าเธอในตอนนี้ เหตุการณ์เมื่อครู่ยังทำให้เลือดมาสูบฉีดที่หน้าจนเธอรู้สึกว่าหน้าเธอร้อนเหลือเกิน แต่หารู้ไม่ว่าการกระทำของเธอมันช่างน่ารักใครเหลือเกิน จนเออยากจะจับเธอมาจูบใหม่อีกครั้ง พอน้องแพรก้าวเท้าเข้าห้องทำงาน ปลอดสายตาของผู้คนแล้วเธอรีบสะบัดมือออกแล้วทุบรัวๆ ไปมาที่แขนเขาอย่างสุดแรงที่ตัวเองมี “นี่แน่ะ ๆ ๆ ไอ้คนบ้า มาทำแบบนี้กับแพรได้ยัง หึ้ยยย” เธอทุบเขาเพื่อระบายความโมโหที่มี ทำให้เอใช้มือข้างเดียวรวบมือแขนทั้งสองข้างของน้องแพรอย่างง่ายดาย ส่วนมืออีกข้างใช้จับคางน้องแพรเพื่อให้เธอมามองหน้าเขา “พี่เจ็บนะครับ” แขนที่โดนเธอทุบอย่างแรงมีความรู้สึกว่าเจ็บและชาขึ้นมา น้องแพรได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกผิดขึ้นมานิดหน่อยจึงนิ่งไป เธอได้แต่กัดปากตัวเองด้วยความขัดใจ เอจ้องมองปฏิกิริยานั้นด้วยความเอ็นดู ทำให้เขาอดใจไม่ไหวที่จะยื่นปากของเขาไปประกบกับปากน้องแพรเบาๆ “จุ๊บ” “พี่เอ” เธอทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ร้องเรียกชื่อของเขาดังๆ ชายหนุ่มเห็นเธอโกรดจัด จึงดึงมือเธอมานั่งบนโซฟาแล้วฉุดมือเธอมานั่งบนตักเขา แล้วกอดเธอไว้หลวมๆ ส่วนใบหน้าแกร่งของเขาก็ยื่นไปเกยที่ไหล่ของเธอ สำหรับเขาการกอดเธอไว้ในอ้อมแขนแบบนี้มันทำให้เขาผ่อนคลายและสบายใจอย่างประหลาด ส่วนน้องแพรก็ได้แต่นั่งนิ่งพร้อมกับกัดปากตัวเองไว้ด้วยความโมโห “พี่ขอโทษนะครับ แต่มันอดใจไม่ไหวจริงๆ” เขากระซิบบอกเธอด้วยเสียงแผ่วเบา แต่สำหรับเธอมันชัดเจนทุกคำพูด พูดไปเขาก็จับตัวเธอโยกไปมาเบาๆ เหมือนเธอเป็รเด็กน้อยมันทำให้เธอหายโกรธเขาได้อย่างง่ายดาย ง่ายดายจนเธอรู้สึกขัดใจตัวเองอย่างมาก เธอมีความย้อนแย้งในตัวเองมากมายจนได้แต่ถอนหายใจออกมา “เฮ้อ ไปกินข้าวกันเถอะค่ะงั้น พี่เอจะได้ทำงาน” เธอเหลือบไปเห็นชุดอาหารเช้าที่ถูกตระเตรียมเป็นอย่างดีจำนวนสองชุด เอเลยตัดใจปล่อยน้องแพรออกจากอ้อมกอด ก่อนที่เขาจะปล่อยเขาไม่ลืมที่จะกอดน้องแพรแน่นๆ หนึ่งทีก่อนที่จะปล่อยให้เป็นอิสระ เพราะเขาไม่รู้ว่าเมื่อไหร่สาวเจ้าจะยอมให้เขากอดแบบนี้อีก การกระทำของเอทำให้ภายในใจน้องแพรอุ่นวาบไปทั้งอก เอดันตัวน้องแพรขึ้นแล้วลุกขึ้นยืนตาม เขาจูงมือน้องแพรมาที่โต๊ะอาหารแล้วยิ้มหล่อกระชากใจทำให้ใจเธอเต้นตุ่มๆต่อมๆไปหนึ่งที หลังจากทั้งคู่ทานอาหารเช้ากันแบบเงียบๆ ไปสักพักเสียงของน้องแพรจึงทำลายความเงียบขึ้น “พี่เอทำงานแล้วจะให้แพรทำอะไรคะ” “น้องแพรก็นั่งเป็นกำลังใจให้พี่ไงครับ” เขาตอบทันควันแบบที่ไม่ต้องคิด คำตอบของเขาทำให้น้องแพรมองบนไปหนึ่งที เอเห็นอาการของน้องแพรแล้วทำให้อดยิ้มน้อยๆ ไม่ได้ หลังจากทั้งสองคนทานอาหารเสร็จฟรานซิสก็เข้ามาเก็บจานแล้วเดินหายออกไป ส่วนเอก็ขอตัวไปนั่งเคลียงานแต่ดูเหมือนจะทำไม่ได้ดั่งใจสักเท่าไหร่เพราะเค้าชอบเผลอแอบมองเธอบ่อยเกินไป ระหว่างที่ชายหนุ่มทำงานเธอก็เปิดวีดีโอน้องหมาน้องแมวดูไปเรื่อย ๆ ดูไปก็อมยิ้มไปจนทำให้เขาแอบยิ้มเบาๆ ตามไปด้วย ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่แต่แบตโทรศัพท์เธอใกล้หมด “พี่เอคะ แพรยืมที่ชาร์จแบตหน่อยสิคะ แบตแพรจะหมดแล้วอะค่ะ เมื่อเช้าแพรลืมหยิบของตัวเองมาด้วย” เธอพูดไปก็ทำหน้าเซ็งๆ เอได้ฟังก็ส่งยิ้มแบบที่ทำให้เธอใจกระตุกแล้วลุกขึ้นจากโต๊ะทำงานเอาสายชาร์จมายื่นให้น้องแพรที่นั่งอยู่ที่โซฟา น้องแพรดึงมือเอให้นั่งลง เลยทำให้เค้านั่งลงแล้วมองหน้าเธอพร้อมยกคิ้วขึ้นเล็กน้อยเป็นเชิงสงสัย “ขอดูแขนที่แพร...เอ่อ...ทุบพี่เอเมื่อเช้าหน่อยค่ะ” น้องแพรพูดอย่างตะกุกตะกักเพราะยังรู้สึกผิดที่ทำให้เขาต้องเจ็บ “ถ้าน้องแพรรู้สึกผิดและอยากดูว่าทำให้พี่เจ็บแค่ไหน น้องแพรต้องถอดเสื้อพี่ดูเองนะครับ” น้องแพรได้ยินแบบนั้นก็หน้าแดงทันที วันนี้ชายหนุ่มใส่เสื้อเชิ๊ตแขนยาวสีขาวกับกางเกงสเลคสีดำ มันทำให้เขาหล่อกระชากใจ ดูน่าค้นหามากแต่เมื่อเช้าเธอไม่ทันได้พินิจพิจารณาความหล่อลากไส้ของชายหนุ่มสักเท่าไหร่เพราะเธอมัวแต่โกรธ ตอนเธอนั่งรอเขาทำงานทำให้เธอได้มีโอกาสและเวลาเพื่อพิจารณาเขาอย่างถี่ถ้วน เอเป็นคนที่หล่อมากผิวเกลี้ยงเกลา จมูกโด่งได้รูปรับกับริมฝีปากหยักได้เป็นอย่างดี เขามีดวงตาคมที่ถ้ามองใคร หรือใครๆ ได้เห็นแล้วต้องละลาย ยอมสยบแทบเท้าเขาแน่นอน เธอได้แต่คิดว่าคนร่ำรวยด้วยรูปและทรัพย์แบบเขาคิดจะทำอะไรกับเธอกันแน่ “แต่พี่ว่าน้องแพรไม่กล้าหรอก จริงมั้ย” เอรู้ดีว่าถ้าเขาท้าเธอแบบนี้เธอจะต้องรั้นเพื่อเอาชนะเขาแน่นอน “กล้าสิคะ ทำไมจะไม่กล้า” นั่นไงเธอตกหลุมพรางของเขาแล้ว เอได้แต่ลิงโลดในใจที่แกล้งเธอได้สำเร็จ น้องแพรยื่นมือสั่นเทาเล็กน้อยเริ่มปลดกระดุมเม็ดแรกที่อยู่ตรงอกแกร่งของเขา เมื่อกระดุมเม็ดแรกหลุดจากรังกระดุมก็เผยให้เห็นอกแกร่งผิวขาวเนียน เธอไล่สายตามองหน้าของชายหนุ่มมายังลำคอแกร่งไล่ลงมาถึงหน้าอกที่มีขนบางๆ มันยิ่งเพิ่มความเซ็กซี่ให้เขายิ่งนัก ที่อกของชายหนุ่มมีเม็ดลูกเกดเล็กๆ สีชมพูประดับอยู่ น้องแพรยิ่งมองยิ่งทำให้เธอรู้สึกว่าการกลืนน้ำลายมันช่างยากเย็นยิ่งนัก แต่ด้วยกลัวว่าชายหนุ่มจะสบประมาทเธออ**บวกกับอยากรู้ว่าที่เธอได้ทำร้ายเขาตอนเช้าจะทำให้เขาเจ็บหรือเปล่า เธอรู้สึกว่ากว่าจะถึงกระดุมเม็ดสุดท้ายมันช่างยากเย็นและยาวนานยิ่งนัก และตอนนี้เธอได้ทำสำเร็จแล้วเผยให้เห็นหน้าท้องขาวเนียนและมีซิกส์แพ็คเป็นลอนท้องอย่างสวยงาม เธอมองหน้าชายหนุ่มเป็นเชิงว่าเธอปลดกระดุมเสร็จแล้วให้ช่วยถอดเสื้อเธอจะได้ดูว่าแขนของเขาเป็นรอยรึเปล่า แต่เอได้แต่ทำหน้าเฉยเมยไม่รู้ไม่ชี้พร้อมยักคิ้วหลิ่วตาให้เธอ น้องแพรได้แต่ถอนหายใจเบาๆ ด้วยความอ่อนใจ เธอจึงเอื้อมมือไปจับสาบเสื้อทั้งสองข้างแล้วโน้มตัวไปเพื่อถอดเสื้อ ชายหนุ่มก็ขยับตัวเป็นการช่วยเหลือเธอเป็นอย่างดี ทำให้เอได้กลิ่นตัวหอมอ่อนๆ ของน้องแพร ใจจริงตอนนี้เธออยากให้สาวน้อยตรงหน้าถอดอย่างอื่นให้มากกว่าถอดเสื้อแล้ว เพราะแค่ได้ใกล้ชิด ได้กลิ่นหอมจากตัวเธอเขาก็อึดอัดแทบจะระเบิดแล้ว ทันทีที่เสื้อพ้นตัวน้องแพรก็ร้องขึ้นมาเสียงดัง “พี่เอเจ็บมากมั้ยคะ แพรขอโทษแพรไม่คิดว่ามันจะแดงขนาดนี้” น้องแพรร้องเสียงหลงอย่างรู้สึกผิด พร้อมกันนั้นก็เอาลูบไปมาที่แขนของชายหนุ่มที่เป็นรอยจ้ำแดงจากการกระทำของเธอเมื่อเช้า เขาไม่ยอมตอบอะไรเพราะการกระทำอันแสนนุ่มนวลของเธอมันทำให้เขาหมดความอดทนแล้ว เอกดตัวน้องแพรนอนราบลงไปบนโซฟาแล้วทาบทับตัวเองลงไปแล้วประกบปากน้องแพรทันที น้องแพรได้แต่เบิกตากว้างด้วยความตกใจ เขาบดปากของเขาใส่ปากน่ารักจิ้มลิ้มอย่างเอาแต่ใจ สลับกับการหยอกล้อขบปากบนและล่างของเธอสลับกัน น้องแพรได้แต่เม้มปากแน่น เอถึงยอมปล่อยปากสวยให้เป็นอิสระเพราะกลัวว่าเธอจะขาดอากาศหายใจ “เปิดปากหน่อยสิครับ เดี๋ยวก็ขาดอากาศหายใจตายหรอก” เขาพูดด้วยเสียงอันแหบพร่า แต่สำหรับเธอเวลานี้ทำไมมันยิ่งกระตุ้นอาการบางอย่างของเธอที่เธอไม่เคยประสบมาก่อน เธอรู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งตัวโดยเฉพาะที่ท้องน้อย เธอเพิ่งเข้าใจอาการของคำว่ารู้สึกวาบหวามเหมือนมีผีเสื้อเป็นร้อย ๆ ตัวบินอยู่ในท้องน้อยก็วันนี้แหละ หลังจากชายหนุ่มพูดจบเธอก็เผยอปากออกจากกันน้อยๆ เหมือนโดนมนต์สะกด เอได้เห็นอาการของน้องแพรก็ยิ้มให้อย่างนิ่มนวลแล้วทาบปากแกร่งของเขาปดขยี้ปากหวานของน้องแพรอีกครั้งแต่ครั้งนี้มันช่างอ่อนหวานและเรียกร้อง เอส่งลิ้นร้อนๆ ของตัวเองเข้าไปเกี่ยวกระหวัดอย่างหยอกล้อกับลิ้นเล็กๆ ของน้องแพร ทำให้สาวน้อยผู้ด้อยประสบการณ์เคลิบเคลิ้มได้อย่างง่ายดาย มือน้อยๆ ของเธอได้แต่ปืนป่ายไปตามลำตัวของเอที่เปลือยเปล่าจากการกระทำของเธอเอง เอส่งเสียงครางในลำคออย่างพออกพอใจในการตอบสนองอย่างไร้เดียงสาของเธอ เอผละจากริมฝีปากน้องแพรอย่างจำใจ แต่เขาพรมจูบไปทั่วใบหน้าและลำคอของเธออย่างอ่อนโยน “อื้อ... พะ พอแล้วค่ะ ไปทำงานให้เสร็จได้แล้วค่ะ” น้องแพรไม่รู้จะหาข้ออ้างอะไรให้ชายหนุ่มหยุดการกระทำอันแสนวาบหวามนี้ และมันมีผลต่อหัวใจดวงน้อยๆ ของเธอ น้องแพรใช้กำลังที่ยังเหลืออยู่ทั้งหมดพยายามผลักชายหนุ่มให้ลุกออกไปจากตัวเธอ เอได้แต่ยิ้มกว้างให้สาวน้อยที่เพิ่งจะอ่อนระทวยในอ้อมอกของเขา พร้อมกับสะบัดหัวนิดหน่อยเพื่อกลืนความอึดอัดคับแคบที่เขากำลังเผชิญอยู่
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD