เหมือนแพรไม่อาจล่วงรู้ว่าคำว่าไม่ไหวของเจตน์หมายถึงอะไร รู้สึกว่างโหวงขึ้นมาฉับพลันเมื่อเขาปล่อยมือจากเธอ ดวงตาคู่สวยที่ปรือฉ่ำมองตามการเคลื่อนไหวของเขาอย่างเผลอไผล เจตน์หยิบบางอย่างติดมือมาและนั่งลงบนเตียงอีกครั้ง
เจตน์จำเป็นต้องบอกตัวเองให้รออีกสักหน่อย เขาบีบเจลหล่อลื่นกับมือและใช้มันปาดไล้บนตัวเธอ เหมือนแพรสะดุ้งกับความรู้สึกเย็นเฉียบ ก่อนที่มันจะร้อนวูบ ยิ่งมือหนาสัมผัสสอดลึกเข้ามาอีกก็เหลือแค่ความร้อนที่ลามเลียจุดอ่อนไหวและแผ่ซ่านไปรอบๆ รู้สึกยุบยิบไปตามร่างกาย เป็นความรู้สึกที่มึนเบลอ จนตอนนิ้วแกร่งสะกิดยอดอก เหมือนแพรถึงได้รู้ทันความจุกเสียวรุนแรงฉับพลันนี้
เธอเม้มปากอย่างอดกลั้นความรู้สึกที่ไม่เข้าใจ มือขยุ้มผ้าปูที่นอนแน่นขึ้น กดร่างตัวเองกับเตียงก่อนจะแอ่นหน้าอกไขว่หาสัมผัสจากเขา...ซ่านเสียวจากปลายยอดลามเลียไปทั้งตัว และกระตุกที่จุดอ่อนไหวที่นิ้วแกร่งขยับเข้าออกอย่างลึกล้ำ เจตน์ยิ้มอย่างพึงพอใจตอนที่อีกฝ่ายส่ายสะโพกตามติดสัมผัสของเขา พอมองสบตาก็เห็นดวงตาปรือปรอยมองอย่างเว้าวอน
“มองฉัน” เขาสั่งให้เธอมอง สบดวงตาคมกล้า คล้ายมีอำนาจบางอย่างดึงดูดให้เธอมองตามสายตาคู่นี้ไม่ว่าเขาจะเลื่อนมองไปตรงไหน อารมณ์ล่องลอยของเธอถูกดึงกลับมาเมื่อเห็นมือแกร่งกอบกุมตัวตนที่แข็งขึงจดจ่อกับเธอ เหมือนแพรเม้มปาก หัวใจเต้นระรัวตอนที่สัมผัสถึงความแข็งกร้าวนั้น ยังไม่ทันได้คิดอะไรความวาบหวามที่เจตน์เพียรเล้าโลมก็ถูกแทนที่ด้วยความเจ็บแปลบเมื่อเขารุกล้ำเข้ามา
“อ๊ะ” เธอเผลอร้องออกมากับความเจ็บฉับพลันไม่ตั้งตัว ก่อนจะเม้มปากแน่น สะกดกลั้นความเจ็บนั้น แต่มันก็ยากเมื่อรู้สึกราวกับถูกกรีดแยก เจตน์มองใบหน้าเหยเกของอีกคนและพยายามสูดลมหายใจลึก ใช้มือทั้งสองข้างดันต้นขาอวบอัดไว้ ค่อยๆ ขยับสอดประสาน เขามองจุดที่เชื่อมต่อกันด้วยความรู้สึกขัดแย้งรุนแรง อยากค่อยๆ ทำไม่ให้เธอต้องเจ็บตัวพอๆ กับอยากแทรกลึกจมดิ่งให้สุดทาง
“ออย” เสียงของเขาพร่าต่ำตอนที่เอ่ยเรียกเธอ เหมือนแพรพยายามจดจ้องเขาอย่างต้องการที่ยึดเหนี่ยว
“ทนหน่อย ทนอีกนิด” เขาเองก็ต้องทนไม่ต่างกัน เจตน์ต้องใช้ความพยายามทั้งหมดที่จะหักห้ามไม่ให้โจนจ้วงเข้าหา ใช้จินตนาการที่พอนึกออกเล้าโลมร่างบอบบางที่เกร็งรับสัมผัสเขา มือข้างหนึ่งยังดันขาเธอให้เปิดรับ อีกข้างค่อยๆ นวดคลึงจากสะโพกขึ้นมา ลากไล้ผ่านสีข้าง ที่พอได้สัมผัสก็กลับรู้สึกหลงใหลในความเรียบลื่นนุ่มมือนี้
มือหนาเคลื่อนเข้ากอบกุมทรวงอกอิ่มที่ล่อตาล่อใจเขาเหลือเกิน มันนุ่มหยุ่นให้ความรู้สึกดีอย่างที่คิด เจตน์เคล้นคลึงสลับกับบีบปลายยอดสีสดที่ชูชันท้าสายตา เขาทำทุกอย่างให้สอดคล้องสัมพันธ์กัน เบื้องล่างรับรู้ว่าเธอยอมรับเขามากขึ้น แต่ก็ต้องยอมรับว่ามันยากสำหรับเด็กน้อยของเขา
เหมือนแพรที่มองเขาไม่ยอมหลบคล้ายยึดเป็นที่พึ่งในยามที่ค่อนข้างลำบากนี้ทั้งๆ ที่เขาเป็นคนทำให้เธอเจ็บทำให้เจตน์เกิดใจอ่อนยวบได้เหมือนกัน สุดท้ายเขาก็โน้มตัวลงไปแนบชิด จูบเบาๆ คลอเคลียแก้มเนียน
“เด็กดี” เอ่ยชิดปลายคางเสียงพร่าสั่น สุ้มเสียงที่ทำให้เหมือนแพรรู้สึกละลายไปกับเขา
“รับฉันหน่อยได้ไหม” เจตน์ไม่คิดเลยว่าต้องทำคล้ายๆ กับขอร้องคนใต้ร่าง แต่ตอนนี้เขาจะไม่ไหวอยู่แล้ว ทรมานไปด้วยความต้องการที่ปวดร้าว
“กอดฉันไว้” เขาบอกให้เธอกอดเหมือนแพรก็ยกแขนทั้งสองข้างเกาะแผ่นหลังเขาอย่างว่าง่าย ขณะที่เจ้าเขาเลื้อยตัวลงต่ำ จูบซับผิวเนื้อต้นคอ และต่ำจนถึงเนินอก ดูดดึง ขบเม้มก่อนจะดูดกลืนเต้าอวบอิ่มไว้ในโพรงปาก
เหมือนแพรรู้สึกหัวหมุน มือเลื่อนขึ้นมาถึงไหล่ที่อัดแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อ คล้ายกดเขาลงให้แนบชิด แอ่นอกเข้าปากเขาอย่างไม่รู้ตัว มันซ่านเสียวแต่ก็ต้องการมากขึ้นอีก ขณะที่ความเจ็บจากการเสียดสีเบื้องล่างคล้ายถูกหลอมละลายด้วยความซาบซ่าน แทบจะหลงลืมความเจ็บเหลือเพียงปวดร้าวที่ต้องการสนิทแนบชิดลึกซึ้ง
เจตน์ยิ้มกับอกอวบๆ ที่เขาฟอนเฟ้นอย่างหลงใหลทั้งสองข้างอย่างไม่รู้จักเบื่อหน่ายเมื่อรับรู้ถึงการเรียกร้องจากคนใต้ร่าง จุดที่เชื่อมประสานฉ่ำลื่นและเริ่มคุ้นเคยกัน แต่ในขณะเดียวกันก็บีบรัดจนเขาต้องกัดฟันข่มความปรารถนาที่อัดแน่นในนี้
ไม่ไหวหรอก...เสียงในหัวบอกแบบนั้น เจตน์เงยหน้าจากทรวงอก มองสบตาคนใต้ร่างด้วยสายตาที่แทบจะมอดไหม้อีกคนได้ เขายันตัวเองออก ดันต้นขาทั้งสองข้างให้ตั้งชัน เดินหน้าขยับขับเคลื่อนความต้องการที่เร่าร้อนนี้อย่างไม่คิดว่าจะอดทนต่ออะไรได้อีก
“อ๊ะ” น้ำเสียงที่เปล่งออกมานั้นสะดุดหู ในดวงตาที่เต็มไปด้วยปรารถนานั้นยังมีแววกังวลตอนมองเธอ
“เจ็บ?” เขาถาม หากก็ยังเคลื่อนไหวไม่ผ่อนปรน มองดวงหน้าที่เริ่มแดงซ่านด้วยสิ่งที่เขากำลังทำกับเธอ สายตาคู่นั้นดูเว้าวอน หากเจตน์ก็ไม่มั่นใจว่ามันคือการขอให้เขาหยุดหรือไม่ ยิ่งเธอไม่ตอบ เอาแต่กัดริมฝีปากอวบอิ่มจนห่อช้ำ ประกอบกับความอ่อนนุ่มที่กำลังโอบรับเขาอย่างสนิทสนมก็ยิ่งทำให้เจตน์เข้าข้างตัวเอง...หลอกล่อเด็กสำเร็จแล้ว
มือทั้งสองข้างที่กดเอวเธอแน่นตอนไหนไม่รู้ตัวเลื่อนมาประคองแก้มเธอแผ่วเบา ก่อนจะไล้นิ้วบนริมฝีปากสีแดงฉ่ำ ไม่อยากให้เธอเม้มให้ต้องช้ำไปกว่านี้...ยิ่งช้ำก็ยิ่งแดง ใจหนึ่งก็น่าสงสาร หากก็น่าลิ้มลอง...ไม่เคยรู้สึกอยากจูบปากใครแบบนี้มาก่อน
“อือ” เสียงครางกระเส่าปนลมหายใจที่หอบสะท้านดังขึ้นแผ่วๆ ก่อนที่เจ้าตัวจะกลั้นมันไว้ เจตน์ไม่รู้ว่าเหมือนแพรชอบร้องหรือเปล่า...
“เธอร้องได้นะออย”
เหมือนแพรไม่ได้เข้าใจว่าเขาให้เธอร้องอะไร ไม่ได้เจ็บจนอยากจะร้องไห้อีกแล้ว แม้จะยังรู้สึกเจ็บในบางครั้งแต่ก็เทียบไม่ได้เลยกับความซ่านเสียวในจุดลึกลับที่เขากระแทกกระทั้นหนักหน่วง ทั้งตัวเธออึดอัดไปด้วยความต้องการบางอย่างที่ไม่เคยเข้าใจ มันวาบไหว ซาบซ่านและทรมาน
“ถ้ารู้สึกก็ร้องออกมา” ไม่ได้ชอบฟังเสียงผู้หญิงร้องเวลาร่วมรักกันนัก บางครั้งก็รู้ทันว่ามันคือการเสแสร้ง ไม่ชอบการพูดคุยเจรจา แต่กับเธอเขาพูดไปหลายคำทีเดียว
“เรียกฉันก็ได้ออย”
“คุณเจตน์ อา” ชื่อที่ถูกเรียกแผ่วหวานเร้าอารมณ์ในความรู้สึก เสียงครางกระเส่าในตอนท้ายถูกกลบด้วยลมหายใจที่หอบแรง เล็ดลอดออกมาเป็นระยะ ในขณะที่ร่างเธอบิดเร่าตอบรับเขาในทุกจังหวะ อารมณ์ปรารถนาปรากฏบนใบหน้าและดวงตาที่สบมาอย่างเว้าวอน...เจตน์ได้ข้อสรุปว่าเด็กของเขาคงไม่ชอบร้อง แต่เสียงเธอเป็นสิ่งที่เขาปรารถนา
“คุณเจตน์” พอให้เรียกก็เรียกใหญ่เลย เจตน์คิดในใจ สายตาถูกดึงดูดด้วยริมฝีปากที่เผยอกว้าง บีบเม้ม และส่งเสียงแห่งอารมณ์ดำลึกออกมาอย่างเผลอไผล ก่อนจะก้มลงไปลิ้มชิมอย่างลืมตัว
“อืม” เพียงแค่แตะเบาๆ เจตน์ก็ครางลึก สิ่งที่ขยับเสียดแทงในตัวเธอมีปฏิกิริยารับในทันทีที่ปลายลิ้นเขาแตะลิ้นเล็กๆ มันเสียดเสียวจนเขาต้องกดเอวเธอไว้ด้วยมือข้างหนึ่งและขยับรัว พร้อมจูบที่พอได้จูบก็ไม่อาจห่างจากลิ้นเล็กๆ นี้ได้เลย ลิ้นหนาเกี่ยวต้อน ดูดดึง และแนบจูบแนบชิดดูดดื่มสลับกับเกี่ยวพันกันอยู่ซ้ำๆ มือที่ขยำผ้าปูที่นอนมาตลอดกล้ายกโอบกอดร่างกายกำยำเมื่อความรู้สึกทุกอย่างทะลักล้นจนไม่อาจรู้ทันร่างกายตัวเอง
“อื้อ” คนที่ไม่ชอบร้องร้องอู้อี้กับปากเขา เจตน์ยอมปล่อยให้เธอร้องดังๆ สักหนึ่งทีแล้วก็จูบซับเสียงหวีดยาวเมื่อความต้องการที่อัดแน่นมายาวนานได้รับการปลอดปล่อย สอดคล้องกับความอ่อนนุ่มที่บีบรัดตัวตนของเขาให้เสียวสะท้านจนเจตน์ครางลึกในลำคอ...เขายอมผ่อนปรนให้เธอครู่หนึ่ง ก่อนจะค้ำแขนทั้งสองข้างกับเตียงและเคลื่อนไหวถี่รัว เต็มกำลังที่คิดว่าตัวเองเคยมี
เหมือนแพรที่เพิ่งแตะปลายรุ้งยังไม่ทันจะรู้ความรู้สึกตัวเองถูกสะกดด้วยใบหน้าที่อยู่ห่างกันแค่คืบ ดวงตาดำลึกที่เต็มไปด้วยความต้องการ ใบหน้าเครียดเกร็ง และเสียงครางที่เซ็กซี่ในความรู้สึก
“อืม” บดกรามและส่งเสียงห้าวลึกราวกับเจ็บปวดจนเธอต้องลูบไล้โอบกอดเขาอย่างเผลอตัว ไม่อาจละสายตาจากเขาได้เลย และที่เพิ่งรู้สึกได้ปลดปล่อยไปก็เหมือนถูกกระตุ้นอีกครั้งอย่างง่ายดาย
“ออย แม่ง” เสียงสบถหยาบคายที่ปนมากับเสียงครางที่ฟังไม่ได้ศัพท์ เร้าอารมณ์ในความรู้สึก
“อื้อ คุณเจตน์” อารมณ์เธอตามติดเขาไปอีกครั้งอย่างง่ายดาย และล่องลอยไปพร้อมๆ กับกายแกร่งที่สั่นสะท้านอยู่เหนือตัวเธออย่างยินยอม ความอุ่นวาบคล้ายมวลของเหลวที่พุ่งทะลักเข้ามาทำรู้สึกเสียววาบที่ท้องน้อย ร่างกายเธอบีบรับเขาจนเจตน์ครางลึกอย่างปวดร้าว ปลดปล่อยให้เธอแบบไม่เหลืออะไรให้ตัวเองจริงๆ
ร่างหนาทิ้งตัวทาบทับอย่างหมดแรง เจตน์ยิ้มและส่ายหน้าให้ตัวเอง ก่อนจะยกศีรษะมองคนใต้ร่าง...เอาเรื่อง
รอยยิ้มพึงพอใจของเขาทำให้เหมือนแพรร้อนหน้าวูบวาบจนต้องหลบ เจตน์ฟัดแก้มอิ่มแรงๆ หนึ่งทีคล้ายต้องการให้รางวัล ก่อนจะพลิกตัวลงข้างๆ แต่ก็ไม่วายดึงเธอเข้ามากอด ลืมไปเลยว่าไม่ชอบความรู้สึกแนบชิดระหว่างร่วมรัก ยิ่งโดยเฉพาะตอนหลังที่ร่างกายเต็มไปด้วยเหงื่อแบบนี้
ร่างกายยังโอบกอดแนบชิดกันอีกครู่ใหญ่ๆ หลังจากที่บทเรียนพิศวาสผ่านพ้น เจตน์ยิ้มจางๆ ออกมาเมื่อรู้สึกว่าตัวเองจะทำอะไรที่เคยไม่ชอบหลายๆ อย่างกับเธอเหลือเกิน จนถึงตอนที่นอนเบียดร่างที่เหนียวเหงื่อของกันและกันไว้ไม่ยอมปล่อยแบบนี้ หากสุดท้ายก็ต้องตัดใจขืนตัวออก อีกฝ่ายยังก้มหน้างุด แต่พอรู้สึกว่าเขามองอยู่จึงเงยหน้าขึ้นมอง สะดุดลมหายใจกับดวงตาที่เป็นประกายระยิบระยับที่จ้องอยู่
“อาบน้ำก่อนไหม” ประโยคแรกที่เขาเอ่ยถามก็ทำให้ยิ่งมึนงงไปอีก ใบหน้าซื่อๆ ของคนที่ขมวดคิ้วมุ่นทำให้เกิดความเอ็นดูขึ้นมาอีกแล้ว
“ป้าบัวคงไม่ได้บอกถึงขั้นว่าหลังมีเซ็กส์เราควรอาบน้ำ หรืออย่างน้อยก็ทำความสะอาดเนื้อตัวที่มันเหนียวเหงื่อ...ตอนนี้เหนียวตัวอยู่ใช่ไหม” เจตน์รู้สึกว่าตัวเองเพลิดเพลินกับการได้แกล้งเด็ก...ก็เด็กจริงๆ รู้สึกว่ามีอะไรที่ต้องบอกต้องสอนอีกเยอะ จริงจังบ้าง เล่นบ้าง แต่ก็ไม่รู้สึกรำคาญเลย
“เอ่อ ค่ะ...” เธอแทบจะกลั้นหายใจตอนที่มือเขาลูบขึ้นมาที่ต้นขา สายตาที่เหมือนหยอกเย้าอยู่หน่อยๆ ทำให้หน้าร้อนวูบ และที่เขาถามว่าเหนียวตัว ก็เริ่มรู้สึกแล้วว่าเขาอาจไม่ได้หมายถึงเหงื่อ...ตรงนั้นเหนียวกว่าเหงื่อและร้อนด้วย
“อืม อาบพร้อมฉันก็ได้” สุดท้ายเจตน์ก็ตัดสินใจอุ้มเด็กน้อยของเขาเข้าไปอาบน้ำด้วยกันจริงๆ เจตน์จริงจังเรื่องการอาบน้ำก่อนและหลังมีเซ็กส์เสมอ เขาเป็นคนที่ค่อนข้างหวงตัว รักความสะอาด...และความเป็นส่วนตัว
แต่พอออกจากห้องน้ำเขากับเธอก็นอนกันคนละฝั่งของเตียงนอน อย่างที่เขาไม่เคยทำกับผู้หญิงคนอื่น เจตน์อาจไม่ใจร้ายถึงขั้นให้พวกเธอกลับกลางดึกยกเว้นเจ้าตัวจะต้องการ ไม่ใจร้ายถึงขั้นให้ผู้หญิงออกไปนอนห้องอื่น เป็นเขาที่ย้ายตัวเองไปนอนห้องอื่นเอง
แต่กับเหมือนแพรเขากลับนอนร่วมเตียงกับเธอ แม้จะทำอะไรหลายๆ อย่างแปลกๆ ไปบ้างตอนที่มีเซ็กส์กันแต่ก็พออนุโลมคิดไปได้ว่ามันก็เป็นแค่อารมณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนั้น เหมือนแพรเป็นเด็กสาวที่เขาพึงพอใจในตัวมานาน ก็คงจะไม่แปลกอะไรที่จะแตกต่าง...อืม ส่วนที่เขาให้เธอนอนด้วยกันในตอนนี้จะคิดว่าเพราะเธอเป็นเด็กในบ้านอยู่แล้ว...จะเป็นเหตุผลที่ฟังขึ้นบ้างหรือเปล่า
เจตน์ถอนหายใจยาว ไม่อยากคิดอะไรให้วุ่นวายนัก หันมามองคนข้างๆ ก็เห็นว่าอีกฝ่ายหลับไปแล้วอย่างที่คิด แม้จะนอนตัวแข็งทื่อมากว่าชั่วโมงก็ตามแต่สุดท้ายก็หลับเพราะความง่วงและอ่อนเพลีย เหลือแต่เขานี่แหละที่หลับช้ากว่าเธออีก