อารัมภบท

2112 Words
อารัมภบท ยี่สิบปีก่อน... ณ ขุนเขาเวียงละกอนะ เสียงกู่ก้องของฝีเท้าอาชาเลือดร้อนหลายสิบคู่ย่ำลงพสุธาเร่งความเร็วประชิดสิ่งมีชีวิตครอบครัวแม่ลูกอ่อน จนฝุ่นควันสีแดงขมุกขมัวบดบังทัศนียภาพอันเขียวขจีของพงไพร เสียงฝีเท้าสัตว์สี่ขาห้อตะบึงจนผืนพสุธาชุ่มน้ำปรากฎร่องรอยกวดไล่เต็มเชิงพะเนินขุนเขาเวียงละกอน รอยยิ้มเหี้ยมเกรียมเลือดเย็นผุดพรายบนใบหน้าคมสัน นัยน์ตาสีดำเป็นประกายไร้ร่องรอยของความเห็นใจขณะอีกฟากด้านหน้าหัวหน้าครอบครัวกลับปกป้องเสือโคร่งลายพาดกลอนสองแม่ลูกอ่อนอย่างไม่คิดชีวิตสุดกำลัง เหลียวมองมนุษย์เพศผู้รูปร่างกำยำแลองอาจนั่งควบอาชาไล่กวดเจ้าป่ากันอย่างฮึกเหิม พลางส่งเสียงหัวเราะเยาะเหยียดหยันยามเห็นสภาพเจ้าป่าผู้ดุร้ายวิ่งหนีตายอลม่าน พ่อไพร เจ้าป่าลายพาดกลอนตัวสุดท้ายในพงไพรเขตเวียงละกอนคาบลูกน้อยไว้ในปากเป็นมั่นเป็นเหมาะ เร่งหลบหลีก อ้ายคำปู้ หัวหน้าจอมโจรที่ราบสูงอันมีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องค้าหนังสัตว์ โดยเฉพาะอวัยวะและชิ้นส่วนของเสือโคร่งที่สร้างเม็ดเงินให้แก่ชุมโจรหมานคำของเขามหาศาล หากเขาตนเดียวยังพอจะหลบหลีกอ้ายโจรอำมหิตเลือดเย็นผู้นี้ไปได้อย่างง่ายดาย ทว่าแม่ศรีคู่บุญของตนพึ่งคลอดเสือน้อยเพศผู้และเมียอย่างละหนึ่งซึ่งเป็นโซ่ทองคล้องใจได้ไม่นาน อาการอ่อนล้าอ่อนแรงโลดแล่นทั่วร่าง กระนั้นนางก็ยังคงฝืนกลั้นใจคาบลูกน้อยหลบหนีจากมือสังหาร อ้ายคำปู้เริ่มตระเวนล่าสัตว์โดยเน้นเฉพาะเจาะจงไปที่เสือโคร่งซึ่งเป็นสัตว์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงในสมัยนั้น ชิ้นส่วนอวัยวะของพวกมันมีราคาแพงหูฉี่อีกทั้งยังมีพ่อค้าคนกลางต้องการเป็นจำนวนมากเรียกได้ว่าเป็นการค้าที่ทำให้ชุมโจรหมานคำลืมตาอ้าปากได้ ภูเขาอันอุดมสมบูรณ์แห่งนี้เป็นสถานที่อยู่อาศัยของสัตว์สี่ขาได้สมญานามว่า เจ้าป่าแห่งพงไพร พงไพรอันร่มรื่นเขียวขจีล้วนแล้วแต่ถูกอ้ายคำปู้นำพรรคพวกบุกป่าฝ่าดงเข่นฆ่าสัตว์ป่า จนหยาดเลือดสิ่งมีชีวิตผู้บริสุทธิ์อาบนองขุนเขาเวียงละกอน เสียงโหยหวนและหยาดน้ำตาแห่งความสูญเสียแลพลัดพรากดังสะท้านสะเทือนถึงผู้ปกครองพงไพรที่แท้จริง พญาขาล “มึงจะไปไหนไอ้ไพร อีศรี!” เสียงเหี้ยมเกรียมของอ้ายคำปู้ตะโกนไล่หลังพญาเสือโคร่งพร้อมครอบครัว ฝ่าเท้าแกร่งกระแทกส้นเท้าเข้ากับลำตัวแกนกลางของอาชาสั่งให้มันเร่งความเร็วลง ไม่หนำใจจึงฟาดแส้กระทบสะโพกครั่นคร้ามของอาชาจนมันร้องเสียงหลง ท่อนแขนกำยำรั้งคันธนูใส่ลูกดอกอาบยาพิษเล็งไปทางคู่บุญของเสือไพรที่มีอาการเหนื่อยอ่อนจนฝีเท้าผ่อนกำลังลงอย่างเห็นได้ชัด ฟิ้ว! ฟิ้ว! ตุ้บ! ลูกดอกธนูอาบยาพิษเฉียดเสือโคร่งตัวเมียแบบฉิวเฉียด สายตาดุดันสีอำพันของเสือไพรเล็งเห็นคู่บุญหอบเหนื่อยวิ่งรั้งท้ายจึงตัดสินใจชะลอความเร็วใช้ร่างมหึมาบดบังคู่บุญของตน ความกรุ่นโกรธ คับแค้น อัดแน่นสุมอยู่ใจกลางอกสัตว์เดรัจฉานเยี่ยงเขา เขาหาได้กลัวความตายไม่ แต่เขากลัวว่าลูกน้อยทั้งสองจะตกอยู่ในอันตรายหากเขาสิ้นใจไปแล้ว ชุมโจรหมานคำไม่ฆ่าเสือน้อยแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกมันจะปล่อยเสือน้อยกลับสู่ป่าอย่างรอดปลอดภัย พยัคฆ์ร้ายผู้ปกครองพงไพรในเขตเวียงละกอนแบ่งพื้นที่อยู่อาศัยและการออกล่าชัดเจนทำให้ตลอดระยะเวลาหลายชั่วอายุคนไร้ซึ่งปัญหาทะเลาะเบาะแว้งเยี่ยงเขตปกครองพงไพรอื่น แน่นอนว่าพยัคฆ์ร้ายเขตอื่นล้วนถูกกำราบเสียสิ้นร่างไร้ลมหายใจร่างแล้วร่างเล่าถูกนำไปแลกเปลี่ยนเป็นเงินตราหล่อเลี้ยงผู้คนใจบาป จวบจนกระทั่งในพงไพรแห่งนี้หลงเหลือครอบครัวเขาเป็นครอบครัวสุดท้ายที่ยังมีลมหายใจ ก่อนจะตกเป็นเป้าหมายของพวกชุมโจรหมานคำ ในขณะที่เสือไพรฉุกคิดนั้นลูกดอกธนูก็เล็งเป้ามาหาเค้าไม่ขาดสายราวกับห่าฝนที่โปรยปรายมาจากผืนนภา เสือไพรผู้เคยเป็นผู้ล่ามาโดยตลอดเพลานี้กลับเพลี่ยงพล้ำรับบทเป็นเหยื่อถูกล่าเสียเอง ทำให้เขารับรู้ถึงความรู้สึกเหยื่อเหล่านั้น ความตื่นกลัว ตื่นตระหนก หวาดหวั่นและสิ้นหวัง ทว่าเขาก็ล่าเพื่อความอยู่รอดและปากท้องของครอบครัวหาใช่ล่าเพื่อความโลภเยี่ยงอ้ายคำปู้ผู้นี้ “......” แม่ศรี คู่บุญเหลียวหลังกลับมาส่งสายตาบอกว่านางวิ่งต่อไม่ไหวแล้ว ให้พ่อไพรพาลูกน้อยไร้เดียงสาทั้งสองหลบหนีจากภยันอันตรายมุ่งหน้าสู่ขุนเขาไกลโพ้น ระยะทางที่พวกเขาวิ่งหนีมามันไกลจนแทบจะเรียกว่าอ้อมเขาสามลูกก็ว่าได้ “......” พ่อไพรส่ายศรีษระเล็กน้อยบอกเป็นนัยว่าหากต้องตายก็ตายพร้อมกันให้หมดในวันนี้แต่จะไม่มีการทิ้งใครไว้ด้านหลังแน่นอน เขาชะลอฝีเท้าหันไปประจันหน้ากับกองโจรสิบกว่าคนท่าทีองอาจและกล้าหาญของเขาไร้เทียมทาน แม้จะมีอาการเหนื่อยหอบอยู่บ้าง เขาวางเสือโคร่งเพศเมียอายุสองสัปดาห์ลงกับพื้น ฝ่าเท้าคู่หน้าดันร่างเล็กตาใสแป๋วไร้เดียงสาขนปุกปุยให้หลบอยู่ทางด้านหลัง ริมฝีปากหนาสั่นระริกขู่แยกคมเขี้ยวแหลมคม หมายจะขย้ำชายวัยกลางคนตรงหน้าให้จมกองเลือด แม่ศรีไพรยืนเป็นกำลังสำคัญให้คู่บุญของตนไร้ความขลาดกลัวในแววตาดุดัน เสียงขู่คำรามดังกู่ก้องทั่วพงไพรหมายจนสัตว์น้อยใหญ่แตกฮือ หากต้องตายในวันนี้ก็จะขอสู้เพื่อปกป้องลูกน้อยในอุทรสุดความสามารถ จะได้รู้สึกผิดน้อยลงยามพบหน้ากันอีกคราในปรโลกหลังความตาย “กรรร รรร” อ้ายคำปู้ยกท่อนแขนแกร่งกำยำคร้ามแดดส่งสัญญาณลดระดับความเร็วพรรคพวกชุมโจรหมานคำปิดวงล้อมครอบครัวเจ้าป่าขนาบซ้ายขวาหน้าหลัง ไม่ให้ทางหนีที่ไล่ให้พวกเขาเลยสักนิด ดวงตาสีอำพันเปล่งประกายทอแสงอาฆาตมาดร้ายวาบหนึ่งเผยให้เห็นว่าเสือไพรเตรียมพร้อมจะขย้ำพวกเขาเพียงใด ร่างมหึมาสั่นเทิ้มด้วยความโกรธเกรี้ยวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน “กูไม่มีเวลามาเล่นวิ่งไล่จับพวกมึงแล้ว หากมึงยอมไปกับกูแต่โดยดี กูจักทำให้มึงจากไปแบบเจ็บปวดน้อยที่สุด แลหากมึงยังดื้อรั้นคงไม่แคล้วต้องเจ็บตัวหน่อยหนาพ่อไพร แม่ศรี” อ้ายคำปู้ประนีประนอม หากเสือโคร่งสองผัวเมียลงมือจริง ๆ ละก็คงไม่แคล้วต้องเสียหนังเสือแผ่นสมบูรณ์ไปแน่เพราะลูกดอกธนูจะทำลายราคาหนังเสือจนย่อยยับ “โฮกก กกก...” เสือไพรกระโจนตะครุบเหยื่อบนอาชาทางด้านซ้าย จนหนึ่งในสิบหงายหลังร่วงหล่นจากอาชาพันธุ์ดี คมเขี้ยวแหลมคมฝังขย้ำบนลำคอหนา ตัดขาดบริเวณเส้นเลือดใหญ่อย่างแม่นยำจนหยาดเลือดสาดกระเซ็นอาบใบหน้ามหึมาลายพาดกลอน โดยไม่ทันให้มันส่งเสียงปริร้องให้รำคาญใจ เสือไพรลงมือฉับไวเด็ดขาดในแววตาไร้ความลังเลกลิ่นอายกระหายสังหารคลุ้งกระจายกลิ่นคาวหยาดโลหิตของคนบาปทำให้ความตื่นตระหนกสงบลง คนดวงกุดไม่มีเวลาแม้กระทั่งร่ำลาครอบครัวครั้งสุดท้ายก็เหมือนที่สัตว์เดรัจฉานเยี่ยงพวกเขาไม่มีกระทั่งทางหนีที่ไล่ทางที่สองให้เลือกเดิน ร่างไร้ลมหายใจนอนจมกองเลือดท่ามกลางสายตาตกตะลึงของพี่น้องชุมโจรหมานคำ “อ้ายคำปัน!” หัวหน้าชุมโจรแผดเสียงเรียกพี่ชายคนโตของตนอย่างตื่นตระหนก เสือไพรจู่โจมโดยไม่ทันให้พวกเขาระมัดระวังตั้งตัว ร่างมหึมาเงยหน้าขึ้นมาจากร่างไร้วิญญาณพลางกระตุกยิ้มมุมปากอย่างสะใจ เป็นอย่างไรเล่า...มึงรู้สึกรู้สารสชาติแห่งการสูญเสียบ้างแล้วหรือยัง! “เสือไพร...” หัวหน้าชุมโจรกัดฟันกรอด “ฆ่ามัน! ไม่ต้องสนหนังเสือจะสวยหรือไม่สวย ฆ่ามันให้ได้กูจะเอาเลือดมันมาล้างอายอ้ายกู” สุรเสียงเข้มกุมอำนาจออกคำสั่งเด็ดขาด แววตาวาวโรจน์มองกลับมาที่เสือโคร่งตัวผู้แลเลื่อนสายตามองเสือโคร่งตัวเมีย ที่ใช้ร่างของตนเป็นที่พักพิงให้ลูกน้อยทั้งสอง “มึงฆ่าอ้ายกู ได้งั้นแลกกันกูก็จะทำให้มึงรู้สึกเจ็บปวดจนอยากจะแล่เนื้อเฉือนหนังกูเหมือนกันส่วนลูกมึงกูจะเอาไปขายให้พวกเ**กต้มสมุนไพรแดกห่า” น้ำเสียงเย้ยหยันของอ้ายคำปู้ดังขึ้น ประโยคนั้นทำให้เสือโคร่งตัวเมียถึงกับน้ำตาตกใน เหตุใดหนอชะตาชีวิตของพวกตนจึงได้อาภัพแลอดสูถึงเพียงนี้ ความเดือดดาลในกายเสือโคร่งลายพาดกลอนตัวผู้ไม่ได้ลดน้อยถอยลงเลย เขาใช้ความว่องไวกระโจนหลบหลีกลูกดอกธนู แรงมหึมาตะปบร่างของกองโจรกำยำ กรงเล็บแหลมคม แข็งแกร่งดุจเหล็กกล้าเฉือดเฉือนผิวเนื้อกายหยาบของชายวัยกลางคนลึกจนเห็นชั้นกระดูกจนเหวอะหวะ หยาดโลหิตไหลเป็นทางยาว เจ้าป่าสกัดพาหนะของกองโจรโดยการจู่โจมเหล่าอาชาให้แตกฮือวิ่งหนีไปคนละทิศละทาง เสียงหวีดร้องของอาชาตื่นตระหนกดีดยกขาคู่หน้าหลบหลีกจากแรงปะทะระหว่างสัตว์ป่าและผู้เป็นนายบนหลัง ก่อนที่มันจะสะบัดผู้เป็นนายทิ้งแล้ววิ่งหนีเตลิดเข้าป่าลึก ในช่วงจังหวะที่เสือขนาดมหึมากำลังย่างก้าวเข้าไปหาผู้โชคร้ายที่รอคอยความตายตัวสั่นเทิ้มนั้น “!!?!!” “โฮกกกกกก” เสียงคำรามร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดของแม่ศรี ฉุดรั้งให้เจ้าป่าอย่างพ่อไพรหยุดชะงักทุกการกระทำ เหลียวหลังกลับไปมองจึงเห็นร่างคู่บุญของตนถูกแทงด้วยมีดเล่มยาวกลางทรวงอกลงอักขระอาคมใต้ลำคอขาดใจตายในคราเดียวโดยฝีมือหัวหน้าชุมโจร ลูกเสือตัวน้อยสองตัวดิ้นขลุกขลักอยู่ในวงแขนอ้ายคำปู้ที่กำลังส่งยิ้มเย็นยะเยือกมองเจ้าป่าผู้กล้าหาญ ฝ่าเท้าแกร่งเตะร่างไร้ลมหายใจของเสือลายพาดกลอนตัวเมียให้ออกห่าง ราวกับต้องการหยามเกียรติเจ้าป่าถึงที่สุด ใบหน้ามหึมาของพ่อไพรกระตุกแผ่จิตสังหารเป็นวงกว้าง ดวงตาสีอำพันสั่นไหวมองร่างไร้วิญญาณของคู่บุญด้วยดวงใจร้าวราน ภาพความทรงจำอันแสนงดงามในอดีตพาดผ่านจนน้ำตาร่วงเผาะหลายหยด ความกล้าหาญชาญชัยมลายสิ้นหลงเหลือเพียงเสียงเพรียกแห่งความสิ้นหวัง เขาหมดสิ้นกำลังใจ กระนั้นเสือลายพาดกลอนยังคงแยกคมเขี้ยวขู่คำรามอย่างดุดัน “กรรร รรร” “เป็นแค่สัตว์เดรัจฉานจะสู้มันสมองของมนุษย์ได้อย่างไร เสียเวลา...” อ้ายคำปู้เอ่ย ขณะพยักหน้าลูกน้องซึ่งอยู่ทางด้านหลังง้างคันธนูยิงลูกดอกทะลุศรีษระมหึมาลายพรางในคราเดียว ฉึก! “!!?!!” ดวงตาสีอำพันเบิกกว้าง สายตายังคงจับจ้องไปที่ลูกเสือตัวน้อยสองตนไม่อาจคลายกังวล ร่างมหึมาลายพาดกลอนค่อย ๆ ล้มลงกับพื้น ลมหายใจรวยรินค่อย ๆ พรากเอาชีวิตเจ้าป่าตัวสุดท้ายแห่งเวียงละกอน หยาดโลหิตสีเข้มส่งกลิ่นคาวคละคลุ้งทั่วอาณาบริเวณพงไพร บ่งบอกว่าสถานที่แห่งนี้เคยผ่านเหตุการณ์สะเทือนขวัญมาไม่นาน ซากร่างไร้ลมหายใจของเสือโคร่งตัวผู้และตัวเมียถูกแบกหามใส่ถุงปุ๋ยสีชากลับชุมโจรหมานคำ อีกทั้งการล่าในครานี้ยังได้ลูกเสืออายุไม่กี่สัปดาห์กลับมาด้วย พร้อมศพของอ้ายคำปัน พี่ชายคนโตของอ้ายคำปู้ แม้ว่าการออกล่าในครั้งนี้จะเกิดความสูญเสียในครอบครัวครั้งยิ่งใหญ่ ทว่ากลับแลกมาด้วยความมั่งคั่งและร่ำรวยในถิ่นที่ราบสูง ไม่นานนักร่างมหึมาลายพาดกลอนลวดลายพิเศษปกคลุมด้วยห้วงอารมณ์แห่งโทสะก็ปรากฎตัวขึ้น นัยเนตรสีชาดแดงก่ำราวกับสีเม็ดทับทิมมองเศษซากความสูญเสียด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ลมหายใจอุ่นร้อนผ่อนปรนลดความตึงเครียดของร่างกาย เสียงเพรียกแห่งความสิ้นหวังนำพาเจ้าแห่งพงไพรมาที่นี่ด้วยตนเอง ทว่าเขามาช้าเกินไป... “กรอดดด!” “ทุกความสูญเสียของสรรพสัตว์ ข้าจักให้พวกเอ็งจ่ายตอบแทนด้วยชีวิต!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD