ผู้หญิงร้ายกาจ 1/1
“พรุ่งนี้มามี้โทรมาหาพี่คีย์อีกนะ” เด็กชายส่งยิ้มให้คนเป็นแม่ผ่านโทรศัพท์ โชคดีที่เทคโนโลยีมีความทันสมัยแม้จะอยู่ไกลกันเพียงใดก็สามารถติดต่อกันได้
“ครับลูก เดี๋ยวพรุ่งนี้มามี้โทรหา พี่คีย์ไปนอนซะนะ พรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียนไม่ใช่เหรอ?” ไอริณใช้คำนำหน้าชื่อลูกชายว่า “พี่” ตามด้วยชื่อเล่นเสมอเหตุเพราะคนตัวเล็กเห็นเธอเรียกคิรากรเช่นนี้จึงอยากให้เรียกตาม
“ใช่ๆ แต่พี่คีย์ไม่อยากให้มามี้ปิดโทรศัพท์เลยอะขอคุยต่อได้ไหม นะนะ” คนตัวเล็กยกมือขึ้นเท้าคางและส่งสายตาออดอ้อนส่งผ่านไปยังวิดีโอคอล ไอริณหัวเราะพลางส่ายหน้าไปมากับความเจ้าเล่ห์ของลูกชาย
“ไม่ต้องมาลีลาเลยเรา ไปนอนกันป๋าง่วงแล้วถ้าดื้อไม่เชื่อฟัง ป๋าจะไม่ให้คุยกับมามี้อีก” คิรากรเพิ่งอาบน้ำเสร็จมีเพียงผ้าเช็ดตัวพันกายเพียงผืนเดียวเดินเข้ามาบอกลูกชาย แน่นอนว่าไอริณเห็นสภาพไม่เรียบร้อยของเขาถึงกับเบนหน้าหนี แม้จะไม่ใช่ครั้งแรกที่เห็นแต่เธอก็ไม่ชิน
“ไม่เอาอยากคุยกับมามี้ทุกวัน” คนตัวเล็กทำหน้าบึ้งใส่คิรากร
“อยากคุยก็เตรียมนอนได้แล้ววันหลังเดี๋ยวป๋าให้คุยอีก ไปบอกลามามี้ไป” เด็กชายหันหน้ากลับมาหาหน้าจอโทรศัพท์อีกครั้งด้วยใบหน้าเศร้าๆ
“มามี้แล้วเจอกันนะ เดี๋ยวพี่คีย์จะแอบเอาโทรศัพท์ป๋ามาโทรหาอีกบ้ายบายครับ” เด็กชายโบกมือลาผ่านหน้าจอโทรศัพท์ให้คนเป็นแม่ก่อนสองเท้าเล็กจะวิ่งขึ้นเตียงนอนอย่างรวดเร็ว
“ฝันดีนะครับลูก” ไอริณโบกมือกลับ ดวงตาคู่สวยคลอไปด้วยน้ำตาเพราะความคิดถึงคนปลายสาย
คิรากรเดินมาจับโทรศัพท์มือถือเห็นหญิงสาวในหน้าจอกำลังจะวางสายจากการสื่อสารผ่านวิดีโอจึงรีบห้าม
“อย่าเพิ่งวางพี่มีเรื่องจะคุยด้วย” ร่างสูงหยิบโทรศัพท์มาคุยต่อที่ระเบียงคอนโดเพราะเกรงจะเสียงดังจนทำให้ลูกชายตกใจ
“มีอะไรคะ?” คนอยู่อีกซีกโลกส่งสายตาไม่พอใจกลับมา
“ได้ข่าวว่าจะกลับมาเมืองไทยเหรอ จะมาวันไหน?” น้ำเสียงที่ถามเหมือนจะไม่ใส่ใจ ทว่าใจกลับจดจ่อรอฟังคำตอบ
“สนใจด้วยเหรอคะ” เธอย้อนถามจนคนฟังเริ่มหัวเสีย
“ไอซ์พี่ถามดีๆ นะอย่าหาเรื่องกันสิเราจะคุยกันดีๆ บ้างซักครั้งได้ไหม?”
“ทุกอย่างมันเป็นแบบนี้ไม่ใช่เพราะพี่คินหรอกเหรอคะ เพราะพี่ไอซ์ถึงไม่ได้อยู่กับลูก สองปีที่ผ่านมาพี่รู้ไหมว่ามันทรมานแค่ไหนที่ต้องเห็นลูกผ่านหน้าจอโทรศัพท์ คิดถึงอยากกอดแค่ไหนก็ทำไม่ได้”
“ทำไมไม่โทษตัวเองบ้าง มันเป็นเพราะไอซ์ต่างหากที่ทำตัวไม่เหมาะสมขึ้นโรงแรมกับผู้ชายคนอื่นทั้งที่ยังมีทะเบียนสมรสของเราอยู่” คิรากรเริ่มกรุ่นโกรธเมื่อต้องพูดถึงเรื่องราวในอดีตที่เป็นจุดเริ่มต้นของการหย่าร้างของเขาและเธอ
“ไอซ์ไม่ได้ทำ พี่ต่างหากที่ต้องการแค่ลูกเลยจัดฉากทุกอย่างเพื่อให้ไอซ์แพ้คดี ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือพี่และครอบครัวทั้งหมด จำไว้เลยนะว่าถ้าไอซ์มีโอกาส ไอซ์จะเอาคืนทุกคนอย่างสาสมโดยเฉพาะคุณหญิงกะรัตแม่ของพี่”
“อย่าก้าวร้าวแม่พี่นะไอซ์ ท่านไม่เกี่ยว จะทำตัวร้ายกาจให้คนอื่นเขาเกลียดทำไม ฮะ! แค่นี้ทุกอย่างมันยังแย่ไม่พอรึไง?”
“ถ้าการที่ไอซ์พูดตรงๆ และพูดแต่ความความจริงมันดูร้ายแล้วแบบไหนละคะถึงจะดูเป็นคนดี มือถือสากปากถือศีลใส่ความคนอื่นอย่างเลือดเย็นแบบพี่และแม่ของพี่ใช่ไหมคะถึงจะเรียกว่าคนดี”
“ไอซ์!”
“แค่นี้นะคะ แค่ไอซ์ได้ยินเสียงพี่ไอซ์ก็รู้สึกรำคาญจนเกินจะทนแล้ว อ่อ แล้วอะไรที่ไม่เกี่ยวกับลูกก็อย่าถามหรือคุยกับไอซ์อีกนะคะ มันเสียเวลาชีวิต”
“นี่ไอซ์!” นักธุรกิจหนุ่มมองโทรศัพท์ในมือด้วยความโมโหเมื่อคู่สนทนาชิงวางสายเขาไปก่อนทั้งที่ยังพูดคุยกันไม่ทันจบ
“แสบจริงๆ อย่าให้ถึงทีพี่นะ” ร่างแกร่งเดินเข้ามายังห้องนอนของตัวเองด้วยใบหน้าหงุดหงิด
คิรากรวางโทรศัพท์ไว้ที่โต๊ะหัวเตียง มือหนาดึงผ้าห่มผืนใหญ่คลุมทับร่างเล็กของลูกชาย ก่อนที่เขาจะนอนลงข้างๆ เด็กชายอย่างระมัดระวัง
“ป๋าครับ” เด็กชายยกมือขยี้ตาไปมา
“ยังไม่หลับอีกเหรอ คนเก่งของป๋า” คิรากรลูบไปมายังแผ่นหลังเล็กเบาๆ
“พี่คีย์คิดถึงมามี้” เด็กชายซุกหน้าเข้าหาอ้อมกอดของคนเป็นพ่อ
“อีกไม่นานหรอก เดี๋ยวม่ามี้ก็กลับมาแล้วเดี๋ยวพี่คีย์ก็ได้เจอม่ามี้” เขาใช้นิ้วแตะลงบนจมูกโด่งได้รูปของลูก
“ม่ามี้จะกลับมาหาพี่คีย์ใช่ไหมป๋า ม่ามี้ไม่ไปอยู่ที่ไกลๆ แล้วใช่ไหม?” เขามองลึกไปยังแววตาไร้เดียงสา นัยน์ตาเล็กเต็มไปด้วยพลังแห่งความหวัง
“อืม...ถ้าพี่คีย์เป็นเด็กดีไม่ดื้อ ไม่กินขนมหวานป๋าอาจจะให้มามี้มาเจอกับพี่คีย์ แต่ถ้าพี่คีย์ดื้อไม่ยอมเชื่อฟัง ป๋าคงไม่ให้เจอมามี้”
“พี่จะไม่ดื้อจะฟังป๋าพูดทุกอย่างเลย ป๋าต้องพามามี้มาให้ได้นะ” คิรากร อมยิ้มและพยักหน้าตอบรับคำขอของเด็กชายก่อนที่คนตัวเล็กจะค่อยๆ ปิดเปลือกตาเข้าสู่ห้วงนิทราด้วยรอยยิ้ม
เขากอดลูกชายแน่นขึ้นเพื่อถ่ายทอดความอบอุ่นให้คนตัวเล็ก แม้จะรู้ไม่ว่าจะกอดแน่นเพียงใดก็คงไม่มีทางทดแทนไออุ่นทางใจที่ขาดหายไปได้
“ไม่ใช่แค่พี่คีย์หรอกนะที่คิดถึงมามี้ ป๋าก็คิดถึงมามี้ของพี่คีย์เหมือน กัน” คนเป็นพ่อหันไปยิ้มให้กับรูปครอบครัวบนหัวเตียง ในรูปมีเขาอุ้มลูกชายยืนเคียงข้างไอริณเป็นภาพที่ทำให้รู้สึกอบอุ่นหัวใจทุกครั้งที่ได้มอง