ตอนที่

904 Words
ตอนที่5 วินาทีที่ฝ่ามือของฉันสัมผัสกับฝ่ามือของเขา มันเหมือนกับมีกระแสไฟอ่อนๆ วิ่งผ่าน มันคือการยอมรับ คือการตกลงร่วมกันในพันธะที่มองไม่เห็นนี้ เราไม่ได้จับมือกันนาน เบสค่อยๆ ผ่อนปลายนิ้วออก แต่ความอุ่นนั้นยังคงติดอยู่ที่มือของฉัน เราสบตากันอีกครั้ง คราวนี้ไม่มีความลังเล มีเพียงความเข้าใจที่ตรงกัน "เรา... เราต้องกลับไปทำงาน" ฉันเป็นคนพูดทำลายความเงียบนั้นก่อน "ครับ" เบสพยักหน้า "ไปที่โต๊ะผมดีกว่า จอผมใหญ่กว่า น่าจะดูสเปรดชีตง่ายกว่า" มันเป็นเหตุผลที่ฟังดูสมเหตุสมผลทางวิชาชีพอย่างที่สุด แต่ในใจฉันรู้ดีว่ามันคือข้ออ้าง... ข้ออ้างที่เราทั้งคู่ต่างก็ต้องการ เราเดินกลับออกมาจากห้องประชุมเล็กๆ นั้น บรรยากาศในออฟฟิศยังคงเงียบสงัด มีเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศที่ดังหึ่งๆ ฉันเดินตามหลังเขาไปยังโต๊ะทำงานของเขา ฉันไม่ได้กลับไปนั่งที่เก้าอี้ของตัวเอง แต่กลับลากเก้าอี้ทำงานของฉันมานั่งข้างๆ เขา... ใกล้มาก ใกล้จนไหล่ของเราแทบจะเบียดกัน "โอเค... เริ่มจากไฟล์ลูกค้ารายนี้ก่อน" ฉันพยายามดึงสติกลับมาที่งาน เราจ้องมองหน้าจอเดียวกัน ตัวเลขมากมายวิ่งผ่านไป แต่สมาธิของฉันกลับไม่ได้อยู่ที่มันทั้งหมด ฉันรู้สึกถึงลมหายใจของเขาที่อยู่ข้างแก้ม กลิ่นโคโลญจน์สะอาดๆ ของเขาที่ฉันคุ้นเคยดี มันกลายเป็นกลิ่นที่อันตรายขึ้นมาทันที เราทำงานกันไปเงียบๆ แต่ความเงียบนั้นกลับเต็มไปด้วย "เสียง" "คุณมีนา..." เบสพูดขึ้นเบาๆ โดยที่สายตายังจ้องอยู่ที่หน้าจอ "คุณเคยคิดไหมว่า... ถ้าวันนั้นคุณไม่ได้เจอพี่ยุทธ คุณจะเป็นยังไง" คำถามของเขาเหมือนก้อนหินที่โยนลงไปในบ่อน้ำนิ่งในใจฉัน "ฉัน... ไม่เคยคิดเลยค่ะ" ฉันโกหก "ผมคิดนะ" เขาพูดต่อ "ผมคิดว่าถ้าผมไม่ได้เจอพลอย บางทีผมอาจจะกล้า... จีบคุณ" ฉันหยุดชะงัก หันไปมองเสี้ยวหน้าของเขา "เบส..." "ผมแค่พูดในสิ่งที่คิดครับ" เขายิ้มบางๆ "กลับมาทำงานต่อเถอะ ก่อนที่เราจะไม่ได้งาน" เราทำงานกันต่อ แต่กำแพงความเป็น "เพื่อนร่วมงาน" มันได้พังทลายลงไปแล้ว เราเริ่มคุยกันเรื่องส่วนตัวมากขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เราไม่ได้คุยกันเรื่องความรัก... แต่เราคุยกันเรื่อง "ความเหงา" "พี่ยุทธเขาเป็นคนดีค่ะ" ฉันพูดขึ้นมาลอยๆ ขณะที่มือกำลังคีย์ตัวเลข "เขาแค่... ยุ่งมาก" "พลอยก็เป็นคนดี" เบสตอบกลับทันที "เธอก็แค่... มองไม่เห็นผม" เราต่างก็แก้ต่างให้คนรักของตัวเอง ทั้งๆ ที่เรากำลังนั่งอยู่ตรงนี้... ทรยศพวกเขา เวลาล่วงเลยไปจนถึงสามททุ่มครึ่ง ในที่สุด... ไฟล์สุดท้ายก็ถูกส่งออกไป "เสร็จแล้ว!" ฉันเผลออุทานออกมาด้วยความดีใจ "ในที่สุด" เบสบิดขี้เกียจ ร่างกายของเขายืดออกจนสุดแขน เสื้อเชิ้ตที่เขาใส่ตึงเปรี๊ยะจนเห็นกล้ามเนื้อหน้าอกรางๆ ฉันรีบเบือนหน้าหนี "กลับบ้านกันเถอะค่ะ" ฉันรีบลุกขึ้นยืน เก็บกระเป๋าถือ "ครับ" ความอึดอัดกลับเข้ามาจู่โจมอีกครั้ง "งาน" ที่เป็นข้ออ้างของเราได้จบลงแล้ว เราเดินไปที่ลิฟต์ด้วยกันสองคน... ในความเงียบ ลิฟต์ค่อยๆ เคลื่อนตัวลงมาจากชั้นที่ 28 เสียงดนตรีคลอเบาๆ ในลิฟต์กลับดังเสียจนน่ารำคาญ ฉันยืนกอดกระเป๋าถือไว้แน่น จ้องมองตัวเลขดิจิทัลที่ค่อยๆ ลดลง ฉันรู้สึกได้ว่าเบสกำลังมองฉันอยู่ แต่ฉันไม่กล้าหันไปสบตา ติ๊ง ประตูลิฟต์เปิดออกที่ชั้นจอดรถที่เกือบจะว่างเปล่า "เดี๋ยวผมไปส่งที่รถครับ" เขาพูด "ไม่เป็นไรค่ะ ฉันกลับเองได้" ฉันปฏิเสธ แต่เขาก็ยังเดินตามมาอยู่ดี เราเดินผ่านช่องจอดรถที่มืดสลัว เสียงรองเท้าส้นสูงของฉันกระทบกับพื้นคอนกรีตดังก้องไปทั่ว เมื่อถึงรถของฉัน ฉันหยุดแล้วหันไปหาเขา "ขอบคุณนะคะสำหรับวันนี้... ทั้งเรื่องงาน... แล้วก็..." "ผมเต็มใจครับ" เขาตัดบท เรายืนจ้องตากันอยู่ตรงนั้น... ใต้แสงไฟนีออนสีส้มจางๆ ของลานจอดรถ "ขับรถดีๆ นะครับ" เขาพูด "ถึงบ้านแล้ว..." ฉันรอฟังประโยคถัดไปอย่างใจจดใจจ่อ "...พักผ่อนเยอะๆ นะครับ พรุ่งนี้คงมีเรื่องให้ตามแก้อีกเยอะ" เขายิ้มบางๆ แล้วหันหลังเดินกลับไปที่รถของเขา ฉันรู้สึก... โล่งใจ... และผิดหวังในเวลาเดียวกัน ฉันก้าวขึ้นรถ สตาร์ทเครื่องยนต์ และขับออกมาจากลานจอดรถนั้น ฉันไม่ได้หันไปมองรถของเขา แต่ฉันรู้ว่าเขากำลังมองฉันอยู่ คืนนี้... ไม่มีจูบ ไม่มีแม้แต่การจับมือ แต่พันธะของเรามันแน่นหนาขึ้นกว่าเดิม วืดดด... โทรศัพท์ของฉันสั่นขณะที่ติดไฟแดง Bes: "ผมลืมพูดไปประโยคหนึ่ง... ถึงบ้านแล้ว ไลน์บอกผมด้วยนะ"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD