“พรหมลิขิตชัดๆ” น้ำหวานพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าเพื่อนตัวเองยังคงหยุดตัวแข็งทื่ออยู่ที่ด้านนอกรถ
“ดูสิยัยเกรซจะทำยังไง ชีต้าห์กำลังสงสัยจะด้วยสิ” ทอยก็เช่นเดียวกัน ที่พวกเขายังคงมองไปยังเหตุการณ์ด้านนอก พวกเขาเห็นชีต้าห์มองมาทางเกรซ
“ยืนเด่นขนาดนั้น แถมยูนิฟอร์มก็โรงเรียนเดียวกัน ไม่สงสัยคงจะแปลก” น้ำหวานเธอยังคงจับพ่วงมาลัยแน่น ยังคงลุ้นเหตุการณ์ด้านหน้า น้ำหวานเป็นคนรักเพื่อน พอรู้ว่าเพื่อนชอบชีต้าห์ก็อยากจะให้เพื่อนรักตัวเองสมหวัง
“ตายห่าแล้ว...ชีต้าห์เดินมาแล้ว” ทอยพูดเมื่อเห็นว่าชีต้าห์กำลังเดินตรงมาทางเกรซ
ฉันจะทำยังไงดี พอมาคิดอีกที ถ้าเราเดินหนีเขาต้องรู้แน่ๆ ว่าฉันตามเขามา ทำไมรู้สึกเสียวสันหลังขนาดนี้กัน เหมือนมีบางสิ่งบางอย่างกำลังเดินทางมาหา หรือบางทีฉันอาจจะคิดไปเองก็ได้
ชีต้าห์กำลังเดินมาหาเกรซใกล้ๆ เขากำลังสงสัยว่าใช่เพื่อนห้องเดียวกับเขาหรือเปล่า เพราะชุดยูนิฟอรืมโรงเรียนเดียวกัน บางทีอาจจะเป็นเพื่อนห้องเดียวกับเขาก็ได้
“เห็นไหมคุณ แค่วันแรกผู้หญิงก็ตามเลย” ต้นพูดด้วยใบหน้าเคร่งเครียด เมื่อเห้นว่าลูกกำลังเดินเข้าไปหาผู้หญิงที่ยืนหันหลังอยู่ตรงนั้น
“ก็ดีสิค่ะ มิ้นจะได้อุ้มหลานไวๆ” มิ้นตอบกลับสามีตัวเองด้วยใบหน้ายิ้ม แต่ต้นกับทำใบหน้าห่อเหี่ยวทันที
“ไม่ได้ อายุแค่สิบแปดจะเริ่มล่าเหยื่อไม่ได้” ต้นพูดน้ำเสียงเข็ม และเขาก็ยังยืนดูลูกเขาอยู่แบบนั้น
“คุณก็ล่าเหยื่อตอนอายุ 18 เหมือนกันนั้นแหละ กว่าจะมาเจอมิ้นเนี่ย อายุก็ 26 แล้วนะคะ ตอนนั้นล่าไปเท่าไรละ เคยนับบ้างไหม ไม่งั้นประวัติคุณไม่ดังขนาดนี่หรอก” เธอยังคงพูดแซวสามีตัวเอง ยิ่งต้นได้ยินแบบนั้น เขาก็ยิ่งรู้สึกไม่ดี เขาแค่ไม่อยากให้ลูกต้องเหมือนตัวเองก็เท่านั้น
“ขนาดจะปิดลูกตัวเอง ยังปิดไม่อยู่เลย” ในระหว่างที่ชีต้าห์กำลังจะเดินถึงตัวของเด็กผู้หญิงคนนั้น เธอกัดฟันตัวเอง ยิ่งมิ้นภรรยาของเขาพูดขู่ขนาดนั้น เขายิ่งไม่ไว้ใจลูกชายตัวเอง
“ไอ้เสือ!!” เขาเรียกลูกตัวเองเสียงดังลั่น จนชีต้าห์จะต้องหันกลับไป ต้นกับมิ้นจะเรียกลูกตัวเองว่าเสือ เพราะความหมายของชื่อเลนลูกนั้นละ
“ครับพ่อ” เขาขานรับพ่อตัวเองทันที
“กลับบ้าน แม่ยืนเมื่อยหมดละ” เขาพูดเสียงเข้ม มิ้นพอได้ยินว่าต้นพูดแบบนั้น เธอก็อดที่จะขำไม่ได้
“หวงลูกไม่เข้าเรื่อง” เธอพูดใส่ต้น ก่อนที่ตัวเองจะเดินขึ้นรถไป ชีต้าห์เลยวิ่งตามาขึ้นรถ
เขาเดินมาหาฉันอย่างนั้นหรอ...ทำไมรู้สึกว่าตัวเองหายใจไม่ทั่งท้องแบบนี่ละ ฉันเป็นอะไรไป ฉันรู้สึกร่างกายปั่นป่วนไปหมด ร่างกายไม่มีแรงแม้แต่จะขยับเขยืนร่างกายตัวเองได้ ฉันคงยืนอึ้งอยู่ตรงนั้น ทำไมใจถึงเต้นแรงขนาดนี้กัน จนทอยจะต้องมาลากฉันไปขึ้นรถของน้ำหวานเหมือนเก่า น้ำหวานเพื่อนฉันยังคงไม่ละความพยายามที่จะตามรถของชีต้าห์ไป แต่ฉันกลับไม่มีเรียวแรงจะห้ามเพื่อนตัวเองแล้ว เหมือนขีต้าห์มาตัดขั้วหัวใจฉันออกไปเลย