เป็นอีกเช้าที่ธามต้องอาศัยเสียงนาฬิกาในการตื่น ผลของไวน์ในงานเลี้ยงเมื่อคืนยังส่งผลต่อร่างกายของเขาในเช้านี้ ธามหันไปมองข้างๆ เหมือนทุกเช้าแม้รู้ว่าจะพบเพียงความว่างเปล่า สุพรรณิการ์เป็นภรรยาที่เข้าตำราตื่นก่อนนอนทีหลังสามีอย่างแท้จริง เขาไม่เคยตื่นเช้าแล้วเจอภรรยาของเขาเลยสักวัน จนบางทีธามก็นึกสงสัยว่าถ้าเขาตื่นมาเจอเธอในตอนเช้าจะเป็นอย่างไร…พอคิดมาถึงตรงนี้ก็ต้องรีบสลัดจินตนาการเหล่านั้นออกจากหัว ลุกจากเตียงแล้วเดินเข้าห้องน้ำ และก็เหมือนทุกครั้งที่ทุกอย่างจะเตรียมพร้อมสำหรับเขา เธอตื่นก่อน อาบน้ำแต่งตัว เตรียมทุกอย่างให้เขาแล้วลงไปทำกับข้าว ซึ่งธามยังนึกสงสัยว่าสุพรรณิการ์ทำทุกอย่างในห้องของเขาโดยที่เขาไม่รู้สึกตัวตื่นได้อย่างไร
พอได้เวลาเธอก็จะกลับขึ้นมาบนห้อง ชวนเขาลงไปทานข้าว รวม
ถึงช่วยดูแลเรื่องเสื้อผ้าการแต่งกายให้เขาเรียบร้อย เขาเองก็เริ่มจะชินกับชีวิตที่มีภรรยาคอยดูแลเรื่องพวกนี้ให้แล้วเหมือนกัน
“วันนี้สระผมเหรอคะ” คนที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามาถามด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
“ครับ ยังมึนๆ ไม่หายเลยสระผมสักหน่อยน่าจะสดชื่นขึ้นบ้าง” เขาตอบ ขณะที่มือก็เช็ดผมเปียกๆ ของตัวเองไป อย่างที่เคยคิดไว้ว่าหลัง
จากมีสุพรรณิการ์เข้ามาในชีวิต เขาก็ต้องพิจารณาเรื่องการสระผมในตอนเช้าใหม่...แต่หากจะว่ากันจริงๆ ไม่ว่าจะตอนเช้าหรือตอนเย็นเธอก็ช่วยเขาเป่าผมจนแห้งเหมือนเดิมนั่นแหละ
“กลางช่วยค่ะ”
ธามนั่งลงบนเตียงอย่างไม่อิดออด ส่งผ้าขนหนูในมือให้เธอ สุพรรณิการ์รับมันมาแล้วเช็ดผมให้เขาแทน เป็นน้ำหนักมือที่ธามรู้สึกคุ้นเคย หลังจากเช็ดผมพอหมาดๆ เธอก็ลุกไปหยิบดรายร์เป่าผม เสียบเข้ากับปลั๊กหัวเตียง
“คุณธามขยับอีกหน่อยนะคะ”
“ครับ” เขาขยับในตำแหน่งที่เธอจะทำได้อย่างถนัด ที่เขาคิดไว้ว่าการสระผมจะทำให้สดชื่นนั้นเป็นเรื่องจริง แต่สิ่งที่ทำให้รู้สึกดีกว่าอย่างเทียบกันไม่ติดก็คือคนที่กำลังเป่าผมให้เขาอยู่ตอนนี้ ทั้งสัมผัสจากมือนุ่มนิ่ม และกลิ่นหอมจางๆ จากตัวเธอที่เขาเริ่มจะจำได้แล้ว…รวมถึงยามที่เธอช่วยผูกเนกไท ติดกระดุมและจัดเสื้อให้เขาในทุกเช้านั่นด้วย
“ไปทำงานไหวไหมคะ” เธอถามยิ้มๆ หลังจากที่ช่วยเขาแต่งตัวเสร็จ ธามไม่ได้ตอบเพราะรู้ว่าเป็นคำถามที่ไม่ต้องการคำตอบ
สุพรรณิการ์เป็นผู้หญิงที่ไม่ถามจุกจิก แต่คล้ายเธอจะรู้ว่าบางวันเขาล้าจากการทำงานสะสมจริงๆ บางวันเธอก็เตรียมบริการนวดสปาไว้รอเขา แต่หลายๆ ครั้งเธอก็อาสานวดให้เองก่อนเข้านอน
ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเธอตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมาดำเนินไปอย่างเรียบง่าย และกลายเป็นความเคยชินอย่างรวดเร็ว แม้ก่อนแต่งงานธามจะมั่นใจว่าสุพรรณิการ์จะเป็นภรรยาที่เหมาะสมกับชีวิตเขา แต่ธามก็ไม่คิดมาก่อนว่าเธอจะปรับตัวเข้ากับเขาได้เร็วขนาดนี้ แทบจะไม่ต้องปรับอะไรเลยด้วยซ้ำ กลายเป็นว่าเธอกับเขาคุ้นเคยกันราวกับว่าเคยใช้ชีวิตร่วมกันมายาวนานกว่านี้
ชีวิตประจำวันดำเนินไปตามปกติด้วยเหตุการณ์คล้ายๆ เดิม เขาจะเจอเธอครั้งสุดท้ายที่โต๊ะอาหารในตอนเช้า หลังจากแยกย้ายกันก็ไม่ได้คุยกันอีกเลยตลอดทั้งวันจนกว่าเขาจะกลับถึงบ้านในตอนเย็น ซึ่งไม่ว่าเขาจะกลับบ้านช้าหรือเร็วสุพรรณิการ์จะรอเขาอยู่ก่อนแล้วเสมอ
ถ้าวันไหนที่เขาต้องกลับบ้านดึกกว่าปกติธามถึงจะโทรบอกเธอ อย่างเช่นวันนี้ที่เขาตั้งใจว่าจะสะสางงานที่ค้างไว้ให้เรียบร้อย เขาจึงบอกให้เธอทานข้าวเย็นก่อนเพราะอาจจะกลับดึกหรืออาจไม่ได้กลับเลย แต่ก็มีเหตุให้เขาต้องเปลี่ยนใจทิ้งงานกลับบ้านเมื่อได้รับสายจากป้าอุ่นว่ามีคนมาทานมื้อเย็นเป็นเพื่อนภรรยาของเขา อิสรีย์ แฟนเก่าของเขาเอง
อิสรีย์ ดาราสาวชื่อดังของเมืองไทยที่แม้ตอนนี้จะไม่ค่อยได้เห็นผลงานของเธอผ่านหน้าจอทีวีเท่าใดนักหากก็ไม่ทำให้ความนิยมของเธอลดน้อยลง เนื่องจากตอนนี้เธอเอาดีด้านการเป็นนางแบบในต่างประเทศ ซึ่งมันกำลังไปได้ดีทีเดียว แต่ข่าวการแต่งงานของอดีตแฟนที่เลิกรากันไปได้ห้าหกปีก็ทำให้เธอต้องรีบเคลียร์งานแล้วบินกลับมา
หญิงสาวนั่งพินิจภรรยาของธาม ผู้หญิงที่ธามยอมสละโสดสายฟ้าแลบทั้งๆ ที่เขาไม่ได้คบใครจริงจังตั้งแต่เลิกรากับเธอ อิสรีย์ยอมรับว่าคนตรงหน้าเป็นผู้หญิงสวยคนหนึ่ง แต่ก็แค่สวยทั่วๆ ไป ผู้หญิงบางคนที่ธามเคยควงสวยกว่านี้ก็มี หรือถ้าให้เทียบกับตัวเธอเอง อิสรีย์ก็ไม่ได้อคติจนเข้าข้างตัวเองว่าเธอดูดีกว่าในหลายส่วน นี่ยังมองไม่เห็นเหตุผลที่ธาม
จะตกลงปลงใจกับใครง่ายๆ แบบนี้เลยจริงๆ เธอยังนึกว่าที่เขาไม่ยอมคบใครจริงจังเพราะยังรอเธออยู่…
เธอกับธามเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก และคบกันตอนเรียนมหาวิทยาลัย ซึ่งหลังจากนั้นไม่นานเธอก็เริ่มทำงานในวงการ เป็นนางเอกที่มีผลงานละครต่อเนื่องและเป็นที่นิยมติดอันดับต้นๆ ของเมืองไทย
ในส่วนของความสัมพันธ์ของเธอกับธามก็ดำเนินมาอย่างราบเรื่อย ธามเป็นผู้ชายที่เพอร์เฟกต์ที่สุดคนหนึ่ง แต่เขาก็ไม่เคยว่อกแว่กตลอดเวลาที่คบกับเธอ แต่ก็อย่างที่บอกนั่นแหละเธอใช้คำว่าราบเรื่อย เขาเป็นคนอย่างไรก็ได้ จริงจังกับเรื่องเรียนและงานมากๆ ธามอาจตามใจเธอทุกอย่างแต่บางครั้งอิสรีย์ก็ต้องการความเอาใจใส่จากเขามากกว่านี้
เธอชอบเขามากๆ อย่างที่บอกว่าธามเป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบ แต่เธอก็คิดว่าตัวเองก็เป็นผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบไม่ต่างกัน ทั้งชาติตระกูลและในฐานะนางเอกเบอร์ต้นๆ ของเมืองไทย
จนวันที่ธามพูดเรื่องแต่งงานกับเธอที่อยู่ในวัยยี่สิบหก มันเป็นจุดที่ทำให้พวกเธอต้องจบความสัมพันธ์แบบคนรัก อิสรีย์ในวันนั้นไม่มีทางที่จะหยุดอนาคตตัวเองด้วยคำว่าครอบครัวและแม่ของลูกตามความต้องการของธามแน่ๆ ในตอนนั้นเองที่เธอรู้สึกว่าธามก็เหมือนจะไม่ได้แคร์เธอเท่า
ที่เธอคาดหวัง เขาพูดเรื่องการแต่งงานเพราะอยากสร้างครอบครัวและอยากมีลูกตามความต้องการของผู้เป็นพ่อ ส่วนเธอเองก็ไม่น่าจะแคร์เขาไปกว่ากันเท่าไหร่เหมือนกัน ในเมื่อความต้องการไม่ตรงกัน เธอก็เลือกที่จะแฟร์ๆ กับเขา
หลังจากเลิกกันเขาและเธอก็ยังติดต่อกันในฐานะเพื่อน เธอเองอยู่ในช่วงที่กำลังสนุกกับงาน และหลังจากนั้นสองปีก็โกอินเตอร์เต็มตัว ส่วนธามก็เหมือนจะจริงจังกับธุรกิจของตัวเองไม่แพ้กัน แล้วเธอก็ยังไม่เห็นว่าเขาจะคบกับใครจริงจังสักคน ไม่มีวี่แววว่าเขาจะแต่งงานกับใคร จนวันที่ได้ยินข่าวการแต่งงานของเขาอิสรีย์ก็รู้สึกเหมือนตัวเองกำลัง
อกหัก คล้ายเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าบางทีเธอก็เคยคิดว่าการที่เขาไม่มีใครทั้งๆ
ที่บอกอยากสร้างครอบครัวเพราะยังรอเธอ…ถ้าอีกสักสองสามปีเธอคงเริ่มอิ่มตัวกับงานในวงการ แต่จู่ๆ ธามก็ประกาศแต่งงานสายฟ้าแลบ ไม่แน่ใจว่าตัวเองเสียใจแค่ไหนแต่ยอมรับว่าเสียศูนย์ไปเหมือนกัน
“เย็นนี้ธามจะไม่มาทานข้าวเย็นกับเราจริงๆ เหรอคะ แย่จัง
ซีอุตส่าห์บินจากอเมริกา นี่อยู่ได้แค่สามวันก็ต้องบินกลับไปทำงานแล้ว”
“เดี๋ยวกลางให้ป้าอุ่นลองโทรหาคุณธามให้นะคะว่าคุณซีมาหา” สุพรรณิการ์เอ่ยกับเธอแล้วหันไปทางป้าอุ่น ป้าอุ่นเลยหลบออกไปคุยโทรศัพท์ ก่อนจะกลับเข้ามาพร้อมคำตอบ
“คุณธามบอกว่าเดี๋ยวจะรีบเข้ามาเลยนะคะ”
คำตอบของป้าอุ่นทำให้อิสรีย์ยิ้มกว้าง และแกล้งยิ้มดีใจเกินจริง
“ธามนี่จริงๆ ยังน่ารักไม่เปลี่ยนเลย” พูดอารมณ์ดีพร้อมกับลอบสังเกตสีหน้าของผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงกันข้าม ซึ่งมีใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มสบายตาอยู่ตลอดเวลา เป็นภาพชินตานับตั้งแต่เธอก้าวเข้ามาในบ้านหลังนี้
“คุณกลางคบกับธามมานานหรือยังคะ ซีไม่เคยได้ข่าวเลยว่าธามมีแฟน” เธออดคิดไม่ได้ว่าบางทีธามอาจถูกคุณพ่อของเขาจับแต่งงานก็ได้ เหมือนละครที่เธอเคยเล่น
“สักพักแล้วค่ะ”
สักพักก็น่าจะไม่นานมาก แบบนี้สิ่งที่เธอสันนิษฐานก็อาจจะเข้าเค้า
“ที่ซีถามไม่ใช่อะไรหรอกนะคะ ซีกับธามเป็นเพื่อนกันมานานเลยแปลกใจหน่อยที่จู่ๆ ธามก็แต่งงานสายฟ้าแลบ” พูดไปก็สังเกตสีหน้าอีกคนไป จนบางครั้งก็เริ่มจะนึกหงุดหงิดกับความเรียบเฉยไม่ทุกข์ร้อนบนใบหน้ายิ้มๆ ของเธอขึ้นมา
“อืม จะว่าเป็นเพื่อนกันมานานก็พูดไม่ถูกนักค่ะ ก่อนหน้านั้นเราเป็นแฟนกัน” พูดมาถึงประโยคนี้ก็คาดหวังว่าจะได้เห็นอารมณ์อื่นบน
สีหน้าของสุพรรณิการ์บ้าง แต่ปรากฏว่าเธอก็ยังดูไม่ทุกข์ร้อนอะไร
“เลิกกันได้ห้าหกปีแล้วละค่ะ ตั้งแต่ที่เราเลิกกันธามก็ยังไม่เคยมีแฟนอีกเลยนะคะ จู่ๆ ก็มาแต่งงานสายฟ้าแลบ นี่เลยเดาว่าเจ้าสาวธาม
ต้องสวยมากแน่ๆ” เธอแกล้งชมสุพรรณิการ์อย่างอารมณ์ดี ทั้งๆ ที่เจตนาจริงๆ ต้องการให้สุพรรณิการ์ไม่สบายใจในความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับ
ธาม แต่หลังเอ่ยประโยคนั้นอิสรีย์ก็ไม่ได้รุกต่อ ชวนอีกคนคุยเรื่องอื่นแทน
“เสียงรถ...ธามน่าจะมาแล้วมั้งคะ” อิสรีย์เอ่ยขึ้น และไม่นานร่างสูงก็เดินเข้ามาจริงๆ หญิงสาวยิ้มกว้างก่อนจะเดินเข้าไปหาเขา ทักทายด้วยการกอดแล้วแนบแก้มกับเขาเร็วๆ อย่างคุ้นเคย มันคงไม่ดูน่าเกลียดจนเกินไปกับคนที่ชินกับวัฒนธรรมตะวันตก…นั่นก็เหตุผลหนึ่ง แต่อีกส่วนหนึ่งก็ตั้งใจทำต่อหน้าภรรยาของเขาเลยละ
“ซีคิดถึงคุณจัง คุณล่ะคิดถึงกันบ้างไหมไม่เจอกันตั้งนาน”