“อูย...”
พรีมรู้สึกตัวตื่นพร้อมสมองที่หนักอึ้งเช่นเดียวกับทรวงอกที่ถูกทับด้วยบางสิ่งบางอย่าง ฝืนปรือตาขึ้นมาจนได้เห็น หน้ากลม ขนสีขาวและส้ม ดวงตาดำและเหลืองจ้องเธอเขม็ง ขนหัวลุกซู่ทันควัน มือสะบัดขึ้นปัดเจ้าก้อนส้มด้วยความตกใจ
กรี๊ด!!!
เสียงร้องลั่นทะลุทะลวงโสตประสาทใครอีกคนทำให้กายหนาทะลึ่งพรวดขึ้นจากโซฟาตัวใหญ่จนเกิดเสียงดังอักจากการตกโซฟา
“โอ๊ย!”
เสียงที่ร้องตามมาส่งผลให้หญิงสาวชะงัก เอามือออกจากการปิดหน้า ทันได้เห็นกายแกร่งที่สวมเสื้อกล้ามและบ็อกเซอร์กระโจนเข้าหาเธออย่างรวดเร็ว คว้าตัวเธอเข้ากอด
“พรีม พรีม เป็นอะไร”
พรีมอ้าปากหวอเงยมองหน้าคมคายหล่อเหลาของคนที่อวดมัดกล้ามแขนแกร่ง ผลักอกกว้างไปเต็มแรงด้วยความตกใจ
“นาย!”
คนไม่ทันตั้งตัวผงะออกห่างเล็กน้อย ตาคมมีแววไม่เข้าใจในตอนแรกก่อนจะคิดได้ว่าอีกฝ่ายคงกลัวตนเองจึงปักหลักยืนระยะห่างพอประมาณพลางยกมือขึ้นเสยผมยุ่งเหยิง ท่าทางนั้นน่ามองมากซะจนแก้มคนมองร้อนผ่าวขึ้นมา
“ทำไมนายอยู่นี่”
“นี่บ้านเรา เธอถามผิดหรือเปล่า”
“บ้านนาย” พรีมกวาดตามองรอบห้องเร็ว ๆ พบว่าไม่ใช่หอพักของตัวเอง “ทำไมฉันมาอยู่บ้านนาย บนเตียงของนาย...” ความคิดบางอย่างวาบเข้ามาในหัว เธอรีบยกชายผ้าห่มออกดู ก่อนถอนหายใจโล่งอกที่ตัวเองยังสวมชุดเดิมเมื่อคืน
ขณะเจ้าของบ้านยกมือสองข้างชูขึ้นข้างศีรษะ
“ไม่ได้ทำอะไรเลย เธอกับเพื่อนเมามาก พวกเราเลยต้องพามาบ้านด้วย เมื่อคืนเธอคงละเมอถึงมาอยู่ห้องเรา เราให้เธอกับเพื่อนนอนอีกห้อง”
“งะ งั้นเหรอ” นึกทบทวนดูก็เห็นจริงตามนั้น ภาพเลือนรางในความทรงจำทำให้พรีมเห็นว่าเมื่อคืนเธอกอดเขาร้องไห้จะเป็นจะตาย ไม่รู้จริงหรือฝัน กระนั้นมันทำให้แก้มที่ร้อนอยู่แล้วร้อนฉ่าเหมือนจะไหม้ได้
“กรี๊ดทำไม” โซ่เอ่ยปากถามถึงสาเหตุที่ทำให้เขาตกโซฟา
“นั่น”
คราวนี้พรีมชี้ไปที่ตู้โชว์ข้างผนัง สิ่งมีชีวิตสีส้มนั่งอยู่ตรงนั้นกำลังมองมาตาแป๋ว มันกระโดดไปตอนเธอปัดมันออกจากอก
“อ้าว ลีโอแกเข้ามาได้ไงวะเนี่ย”
ทันทีที่มองเห็นเจ้าเหมียวสีส้ม โซ่ผละห่างจากเตียงเดินไปอุ้มมันลงจากหลังตู้ สลับกับมองประตูห้องที่ยังปิดอยู่ หรือเมื่อคืนเขาจะลืมปิด หลังกล่อมคนเมาหลับได้แล้ว เขาดันหลับไม่ลงจนต้องลงไปหาดีกรีระงับใจกายเพิ่มเติม
“แมวพี่เราน่ะ มันชอบเดินเพ่นพ่านไปทั่วบ้าน เมื่อคืนเราคงลืมปิดประตู”
โซ่ว่าพลางอุ้มเหมียวตัวอ้วนกลับมาที่เตียง คนบนเตียงกลับถอยกรูด
“อย่าเอามันมาใกล้เรา”
“กลัวแมวเหรอ”
“อื้อ เราไม่ชอบแมว ตอนตื่นเห็นมันนั่งบนอกจ้องเขม็ง เราตกใจเลยร้อง”
“ลีโอมันไม่ดุหรอกไม่ต้องกลัว เธอล้างหน้าล้างตาก่อนละกัน เราจะเอามันลงไปข้างล่าง ผ้าขนหนูอยู่ในตู้ จะหยิบเสื้อกางเกงเราไปใส่ก่อนก็ได้ เผื่ออยากอาบน้ำ”
เห็นท่าทางของหญิงสาว โซ่เลยตัดสินใจอุ้มแมวออกจากห้อง เปิดโอกาสให้เธอได้จัดการธุระส่วนตัวด้วย พรีมคงไม่รู้ตัวว่า สภาพหน้ายุ่งหัวฟูตอนตื่นนอนของเธอน่ามองไม่หยอก
พรีมถอนหายใจอย่างโล่งอก เพราะตอนเด็กเคยโดนแมวจรที่โรงเรียนกัดจึงไม่ชอบแมวมาตั้งแต่ตอนนั้น
หลังตั้งสติได้ หญิงสาวรีบไปล้างหน้าล้างตาแม้ศีรษะจะหนักอึ้งก็ตาม เธออยากเจอเพื่อน ๆ แล้วก็รู้สึกไม่สมควรอย่างยิ่งที่เข้ามาอยู่ในห้องนอนของผู้ชายแบบนี้
พรีมไม่คิดจะอาบน้ำเปลี่ยนชุด แค่ล้างหน้าล้างตาให้ตัวเองสดชื่น แล้วรีบลงมาชั้นล่างและพบว่าเพื่อนรักทั้งสองกำลังนั่งคุยกับฟีมและลม พอเห็นหน้าเธอพากันมองมายิ้ม ๆ
“ไงพรีม หลับสบายไหมครับ” ฟีมเป็นคนทักขึ้นมา
“อืม สบายดี พวกแกล่ะตื่นนานยัง” ท้ายประโยคถามเพื่อนทั้งสอง
“เพิ่งลงมาก่อนหน้าแกนี่เอง เจอโซ่อุ้มเจ้าเหมียวออกมาพอดี” เซียร์เป็นคนตอบ พลางขยับให้เพื่อนนั่งลงข้างกันบนโซฟาตัวยาว
เจ้าของบ้านเดินออกมานั่งด้วย โดยนั่งลงข้างพรีม พลางวางตะกร้าแก้วบนโต๊ะ ก่อนจะหยิบมันออกมารินกาแฟในเหยือกใสแจกจ่ายทุกคน
“แก้แฮงก์”
“หูย...บริการดีนะเนี่ย” หมิงแซว
“ไม่ได้สิหมิง เป็นครั้งแรกเลยนะที่มีสาวมานอนบ้านเรา” โซ่ตอบพลางหัวเราะเบา ๆ ตาคมตกลงจบที่เสี้ยวหน้าของคนนั่งข้างกัน
“เชื่อดีไหมเนี่ย” เซียร์แกล้งเย้าอีกคน “แล้วสาวคนที่ปีนเตียงนายนี่นับด้วยปะ”
“เซียร์อย่าแซว”
“พรีมเป็นคนแรกเลยนะที่ปีนเตียงไอ้โซ่ เรายืนยัน” ฟีมส่งเสริม
คนที่เพิ่งปีนเตียงหนุ่มตวัดมองค้อนแต่ละคน ขยันแซวให้เธอหน้าร้อนไม่พัก
“จริง” เจ้าของเตียงย้ำปิดท้ายสีหน้าเปื้อนยิ้ม “ไม่คิดรับผิดชอบหน่อยเหรอ เธอทำเราเสียความบริสุทธิ์”
“เสียความบริสุทธิ์อะไรเล่า นายเอาเจ้าก้อนส้มนั่นไปไหนแล้ว”
พรีมเขินจัดจากคำพูดกินความนัยเลยเฉไฉเปลี่ยนเรื่อง
เพื่อนพากันหัวเราะ
“เอามันไว้ในห้องพี่เราแล้ว หรือเธออยากเล่นกับมันอีก เดี๋ยวเรา...”
“ไม่ต้อง เราไม่ได้อยากเล่น”
“คนอะไรกลัวแมวกรี๊ดซะลั่น นี่ถ้าห้องไม่เก็บเสียงนะ คงแตกตื่นทั้งบ้าน กรี๊ดซะเราตกโซฟาเลย”
“พรีมมันกลัวแมวมาแต่เด็กละ” เซียร์ลูบผมเพื่อนเบา ๆ ด้วยความเอ็นดูปนขำ นึกภาพตามตอนเพื่อนร้องลั่น
“หรือว่า...เป็นตอนนั้นที่เธอถูกแมวกัดที่โรงเรียนน่ะ”
ชายหนุ่มนึกถึงช่วง ป.4 มีลูกแมวตัวผอมโซหลงเข้ามาในสนามเด็กเล่น พรีมไปจับมันหวังจะเอาไปหาของกินให้แต่กลับถูกมันกัดนิ้วเลือดสาด
“ฮื่อ” เธอฝังใจกับภาพนั้นทำให้ต่อมาเข้าใกล้แมวไม่ได้อีกเลย เจอที่ไหนเธอมักเลี่ยงตลอด
หลังคุยเล่นกันพักหนึ่งสาว ๆ บอกจะกลับไปเอารถที่ผับเดอะซิน โซ่อาสาไปส่ง ก่อนแยกย้ายเขาได้นัดแนะเพื่อนวัยเด็กไว้
“ไว้คุยกันนะพรีม” ยกมือถือชูขึ้นเพื่อบอกให้รู้ว่าคุยยังไง
“โอเค ขอบใจนะโซ่”