ตอนที่ 2... เซ็นสัญญาหัวใจ

3127 Words
สายของวันนัดคุยกับสถาปนิกเรื่องแบบบ้าน ซึ่งตรงกับวันว่างที่นานๆ จะมีสักทีของลลิสา เธอออกมาจากห้องนอน ก็เห็นว่าศรัญญาผู้เป็นแม่กำลังนั่งดูข่าวในโทรทัศน์อย่างสบายใจ กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ที่ควรจะเตรียมไว้สำหรับเดินทางไปฮ่องกงก็ไม่มีวางไว้ใกล้ๆ ประตู “อ้าว วันนี้ไปฮ่องกงไม่ใช่เหรอแม่” “แม่ไม่ไปแล้ว เปลี่ยนใจ อยากไปดูแบบบ้านด้วย” “โอ้โห หมอที่ฉีดโบทอกซ์ให้วันก่อน เขาฉีดยาลดการเข้าคาสิโนให้แม่ด้วยเหรอ ปกติรั้งยังไงก็จะไปให้ได้” “บ้านหลังนี้จะสร้างให้แม่อยู่ด้วยไม่ใช่เหรอ แม่ก็อยากดูว่ามีตรงไหนไม่ถูกใจอีกหรือเปล่า แก้เป็นสิบรอบแล้ว แม่อยากให้ครั้งนี้เป็นการแก้ครั้งสุดท้าย” “ดีใจจังที่แม่จะไปด้วย งั้นลินไปอาบน้ำดีกว่า เราไปกินข้าวกันก่อน แล้วค่อยไปหาสถาปนิก ยังมีเวลาอีกหลายชั่วโมง” “แล้วนัดสถาปนิกที่ไหน” “ก็ห้างใกล้ๆ นี่แหละแม่ ทำไมเหรอ” “ไม่มีอะไรหรอก ในห้างก็ดี ไม่ร้อน” ศรัญญายิ้มอย่างพอใจเมื่อได้รู้ว่าสถานที่นัดหมายนั้นไม่ต้องเสียเวลาอยู่บนถนนนานเพราะปัญหาการจราจรติดขัด และทันทีที่ลูกสาวกลับเข้าห้องนอนไป เธอก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหาภูมิภัทร “สวัสดีครับ” “สวัสดีจ้ะ นี่ใช่เบอร์ภูมิภัทรหรือเปล่า” “ใช่ครับ ไม่ทราบว่าผมกำลังคุยกับใครครับ” “น้าศรัญญา... แม่ของลลิสา” กาแฟร้อนในแก้วกระฉอกออกมา เนื่องจากมือสั่นด้วยความตกใจ ภูมิภัทรจึงรีบหยิบทิชชูเช็ดมือให้สะอาด “สวัสดีครับคุณน้า มีอะไรให้ผมรับใช้ครับ” เกือบหนึ่งอาทิตย์หลังจากเจอกับศรัญญา เขาไม่ได้รับการติดต่อใดๆ เรื่องสร้างบ้านอีกเลย ส่วนกับลูกสาวของคุณน้านั้นก็ยิ่งแล้วใหญ่ เบอร์โทรศัพท์ของลลิสาที่ขอมาจากเพื่อนของเธอ เขาก็ไม่กล้าส่งข้อความไปทักทายหรือโทร.ไปหา เกรงว่าเธอจะรู้สึกถูกละเมิดความเป็นส่วนตัว เลยพยายามวางแผนที่จะได้เจอลลิสาอีกครั้งและขอเบอร์ติดต่อด้วยตัวเอง “น้าจะโทรศัพท์มาคุยเรื่องสร้างบ้าน บ่ายนี้น้ากับลินจะไปคุยเรื่องแบบบ้านกับสถาปนิก ถ้าทุกอย่างเรียบร้อยดี น้าจะเริ่มหาผู้รับเหมามาดำเนินการ ภูมิภัทรพอจะมีเวลาว่างมาคุยรายละเอียดต่างๆ กับน้าไหม” “ว่างครับ ว่างเสมอ วันไหนบอกมาได้เลยครับ” “ถ้าอย่างนั้นก็เป็นพรุ่งนี้ดีไหม” “ดีครับ ได้เลยครับ คุณน้าสะดวกเวลาไหน โทรศัพท์มาบอกผมได้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงเลยนะครับ” “จ้ะ เดี๋ยวน้าจะบอกอีกทีนะว่าว่างตอนไหน แต่ถ้าแบบบ้านยังต้องแก้ไขอีก น้าจะโทร.ไปยกเลิกนัดนะ” “ครับคุณน้า สวัสดีครับ” เมื่อเสียงสัญญาณโทรศัพท์ถูกตัดไป ศรัญญาก็ยิ้มอย่างสบายใจ คนท่าทางฉลาดอย่างภูมิภัทร คงจะรู้ว่าต้องทำอย่างไรเพื่อให้ได้งานนี้ไปเป็นของตัวเอง อาจจะต้องลดราคาค่าดำเนินงานลงอีกสักนิดหน่อย เพื่อแลกกับการได้ใกล้ชิดลลิสา งานนี้คนที่เห็นจะมีแต่ได้ก็คือเธอนั่นเอง นอกจากจะเปิดโอกาสให้ภูมิภัทร ยังได้บ้านใหม่ที่ดีและมีคุณภาพ หมดกังวลเรื่องผู้รับเหมาทิ้งงาน ส่วนเรื่องความรู้สึกของลลิสา เธอหวังว่าภูมิภัทรจะใช้โอกาสที่ถูกหยิบยื่นให้ ทำให้ลูกสาวแสนใจแข็งของเธอนั้นใจอ่อนลงได้ “แบบบ้านเสร็จสักที แม่ถูกใจจริงๆ ใช่ไหม” ลลิสาปล่อยลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก เมื่อรายละเอียดเรื่องแบบบ้านนั้นเสร็จสิ้นสมบูรณ์ หลังจากต้องปรับแก้มาหลายครั้งและกินเวลานานหลายเดือน “แม่ถูกใจมากเลยลิน ต่อไปเราก็ต้องหาผู้รับเหมามาสร้างบ้านให้เป็นรูปเป็นร่าง บ้านอยู่แค่ในกระดาษแบบนี้ แม่เข้าไปนอนไม่ได้หรอกนะ” “จริงๆ บริษัทที่ลินให้ออกแบบบ้าน เขาก็แนะนำบริษัทรับสร้างบ้านนะแม่ นี่ไง ชื่อบริษัทและเบอร์โทรศัพท์ที่เขาเขียนไว้ให้เรา” “แล้วลินจะเลือกบริษัทไหนล่ะ” “เราก็ลองให้เขาเสนอราคามาก่อนแล้วกัน จากแบบบ้านและวัสดุต่างๆ ที่เราจะใช้ บริษัทไหนให้ราคาถูกที่สุด เราก็เลือกบริษัทนั้น” “แล้วลินจะมีเวลาจัดการเหรอลูก อาทิตย์หน้าก็ต้องไปถ่ายละครที่เมืองนอก ลินไปประเทศอะไรนะ” “ไปสวิสเซอร์แลนด์สองอาทิตย์ค่ะแม่ ระหว่างนี้แม่ดูแลเรื่องหาผู้รับเหมารอลินเลยได้ไหม ลินไม่อยากเสียเวลาไปเปล่าๆ” “จะดีเหรอลูก แม่แก่แล้วนะ เดี๋ยวโดนหลอกเอาง่ายๆ” ศรัญญาพยายามเก็บความดีใจไว้ให้มากที่สุด อะไรมันจะเหมือนที่ใจปรารถนาขนาดนั้น “แม่เอารายละเอียดไปเสนอ แล้วก็รอบริษัทเขาแจ้งราคากลับมา เขาคงไม่กล้าหรอกอะไรแม่หรอก ยิ่งเห็นว่าแม่เป็นผู้ใหญ่ มีวุฒิภาวะ เขาก็ต้องเกรงใจอยู่แล้ว” “แต่ลินเป็นดารานะลูก ลินไปเองยังไงเขาก็ต้องเกรงใจลินมาก กว่าอยู่แล้ว” “ถ้าบริษัทเขาบริการลูกค้าดีจริงๆ จะเป็นใครไปติดต่อ เขาก็ต้องดูแลดีทุกคนนั่นแหละแม่” “เอาแบบนี้จริงๆ ใช่ไหมลูก” “เอาแบบนี้แหละแม่ ลินอยากให้เราได้อยู่บ้านใหม่กันเร็วๆ” “แบบนี้ก็แบบนี้” ศรัญญายิ้มอย่างมีความสุข บริษัทเดียวที่เธอจะขอให้เสนอราคามาคือบริษัทของภูมิภัทรเท่านั้น และที่สุขยิ่งกว่าการจะได้หาผู้ชายที่ดีพร้อมให้ลูก คือการได้เห็นว่าลูกสาวนั้นกตัญญูรู้คุณ “ลินรักแม่นะคะ” “แม่ก็รักลิน ขอให้หนูมีแต่ความเจริญรุ่งเรืองนะลูก” “ขอบคุณค่ะ แต่... แม่ไม่ไปฮ่องกงแล้ว เงินสองแสนห้าก็ไม่ต้องเอาแล้วเนอะ” “โอนมาเลย ถือว่าเป็นค่าดำเนินงานเรื่องหาผู้รับเหมา” “แสนเดียวแล้วกันเนอะ” “แสนห้าแล้วกัน เผื่อทำงานเหนื่อยๆ อยากได้แหวนเพชรเม็ดเล็กๆ สักเม็ด” “ค่ะ” ลลิสาหอมแก้มแม่ ไม่สนใจว่ากำลังนั่งอยู่ในร้านอาหารที่มีคนรู้จักเธอคอยแอบมองเธออยู่บ่อยๆ เพราะเธอชินแล้วล่ะ “สวัสดีครับคุณน้า” บ่ายวันต่อมา หลังจากศรัญญาได้ข้อมูลเรื่องบ้านมาไว้ในมือ เธอก็นัดแนะภูมิภัทรให้มาคุยเรื่องที่เกริ่นเอาไว้ ภูมิภัทรเปิดดูรายละเอียดคร่าวๆ แต่ก็ยังไม่ให้คำตอบใดๆ เพราะขั้นตอนการทำงานนั้นต้องเป็นไปตามแบบแผนของบริษัท “ผมให้คำตอบคุณน้าวันนี้ไม่ได้นะครับ บ้านของคุณน้ากับน้องลิน มีรายละเอียดค่อนข้างเยอะ ผมอยากให้คำตอบที่จะบอกกับคุณน้า เป็นคำตอบที่ผ่านการวิเคราะห์และตรวจสอบมาอย่างดีแล้ว บริษัทเราไม่สามารถให้คำตอบอะไร โดยที่ไม่มีเหตุและผลมายืนยันกับลูกค้าครับ” “ได้จ้ะ น้าไม่รีบ แต่ก็อยากรบกวนให้เสร็จภายในสองอาทิตย์ พอดีลูกสาวน้าจะไปถ่ายละครที่เมืองนอก เลยให้น้าดูแลเรื่องหาผู้รับเหมา ถ้าลูกสาวน้ากลับมา น้ายังไม่มีอะไรคืบหน้า ยัยลินคงไม่ชอบที่เสียเวลาไปเปล่าๆ” “ทันแน่นอนครับคุณน้า ผมขอเวลาไม่เกินสามวัน คุณน้าจะได้ใบเสนอราคาจากบริษัทผมแน่นอนครับ” “ไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้ อ**บริษัทที่น้าคุยไว้ เขาขอเวลาน้าตั้งหนึ่งอาทิตย์” ศรัญญาแกล้งพูดให้ภูมิภัทรรู้ว่าเธอนั้นยังมีตัวเลือกอื่นๆ แม้จะถูกใจ อยากได้มาเป็นลูกเขย แต่มันก็ต้องมีชั้นเชิงกันหน่อย “คุณน้าทำถูกต้องแล้วครับ” “แล้วถ้ามีข้อเสนอที่ดีกว่าบริษัทของภูมิภัทร คงไม่ว่าอะไรใช่ไหม ถ้าน้าจะรับข้อเสนอนั้น” “ยินดีครับคุณน้า คุณน้ามีสิทธิ์เลือกสิ่งดีที่สุดให้กับคุณน้าและน้องลินครับ” “จ้ะ ขอบใจมากนะที่เสียเวลามาหาด้วยตัวเอง จริงๆ ส่งพนักงานมาก็ได้” “ผมเต็มใจครับ อีกสามวันผมจะติดต่อกลับไปเพื่อนัดหมายคุณน้ามาคุยเรื่องรายละเอียดต่างๆ นะครับ” “ได้จ้ะ น้ากลับก่อนนะ” “คุณน้ามายังไงครับ ให้ผมไปส่งได้ไหมครับ” “ไม่เป็นไรๆ ร้านกาแฟนี้อยู่หน้าคอนโดน้าเองนะ เดินไม่กี่สิบเมตรก็ถึงห้องแล้ว ขอบใจมาก” “ครับ เดินดีๆ นะครับ” ภูมิภัทรยกมือไหว้อย่างนอบน้อม มีสัมมาคารวะกับผู้ใหญ่ยังไงก็มีชัยไปกว่าครึ่ง และเขาก็มั่นใจมากว่าบริษัทของเขาจะต้องได้รับงานนี้แน่นอน “แม่! ดึกแล้วทำไมไม่นอน มารับลินทำไม” ลลิสาเพิ่งกลับจากทำงานที่สวิสเซอร์แลนด์ เปิดประตูรถตู้มาเจอแม่นั่งอยู่ก็ตกใจ ตอนนี้เป็นเวลาตีสองแล้ว แม่ควรจะนอนพักผ่อน ส่วนเธอน่ะเหรอ เรื่องนอนดึกหรือนอนไม่เป็นเวลา มันเป็นของคู่กันอยู่แล้ว “นอนไม่หลับน่ะสิ เลยขอติดรถพี่ยุทธมารับลินด้วย” ศรัญญาลูบผมลูกสาวด้วยความคิดถึง ก่อนจะกล่าวถึงยุทธชัย คนขับรถวัยกลางคนที่ทำงานกับลลิสามาหลายปีแล้ว “มีเรื่องเครียดอะไรหรือเปล่าแม่ หรือเงินไม่พอซื้อแหวนเพชร” เธอถามแม่อย่างติดตลก ก่อนจะขึ้นเครื่องบินกลับมาประเทศไทย แม่ส่งรูปแหวนเพชรมาให้ช่วยเลือก แต่เธอก็ยังไม่ได้ให้คำตอบใดๆ ไป “ไม่ใช่เรื่องนั้น ลูกสาวคนสวยให้งบมาเท่าไหร่ แม่ก็ซื้อเท่านั้นแหละ แล้วก็ไม่ใช่เรื่องเครียดด้วย แม่ตื่นเต้น” “ตื่นเต้นเรื่องอะไรแม่” ลลิสาคล้อยตาม แววตาของแม่นั้นเต็มไปด้วยประกายของความสุข “แม่เซ็นสัญญาจ้างผู้รับเหมาแล้วนะ พรุ่งนี้แม่นัดสถาปนิกกับบริษัทผู้รับเหมาไว้แล้ว ลินตื่นเร็วหน่อยนะลูก แม่นัดทีมงานไว้ตอนบ่ายโมง” “แม่เซ็นสัญญาไปแล้วเหรอ!” ดาราเจ้าบทบาทแสดงบทตกใจได้อย่างเป็นธรรมชาติเพราะเธอรู้สึกแบบนั้นจริงๆ ตลอดเวลาที่ไปทำงานต่างประเทศ เธอคุยเรื่องนี้กับแม่ทุกครั้งที่มีเวลาว่าง ครั้งล่าสุดแม่บอกว่าแม่ยังเลือกบริษัทไม่ได้ แต่ทำไมผ่านมาไม่ถึงหนึ่งวัน แม่ได้ข้อสรุปแล้วล่ะ “ใช่ แม่เซ็นแล้ว บริษัทนี้ให้ราคาถูกกว่าบริษัทอื่นตั้งห้าแสนเลยนะลิน” “แล้ววัสดุถูกต้องตามที่เราบอกไว้หรือเปล่า” “ถูกต้องทุกอย่างเลยลูก แม่วานสถาปนิกที่ออกแบบบ้านให้เราช่วยตรวจสอบดูแล้ว” “แม่ได้เอาสัญญามาไหม ลินขอดูหน่อย” ลลิสาอยากแน่ใจว่าแม่ไม่ได้พลาดสิ่งใด เพราะหากจะยกเลิกสัญญา คงจะต้องเสียเงินเพิ่มเป็นแน่ “บริษัทชื่อคุ้นๆ” เธอเงยหน้าจากเอกสารมามองหน้าศรัญญาด้วยความสงสัย มันเหมือนเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน ได้ยินบ่อยๆ แต่นึกไม่ออกว่าได้ยินมาจากที่ใด “ก็บริษัทเขาดังไงลูก เขามีโครงการก่อสร้างใหญ่ๆ หลายที่เลยนะลิน หมู่บ้านจัดสรรก็สร้าง คอนโดก็สร้าง แถมแต่ละที่ก็มีชื่อเสียงทั้งนั้น ข่าวเสียหายไม่มีเลย แม่ลองดูในอินเทอร์เน็ตแล้ว” “บริษัทใหญ่ขนาดนั้น แต่มารับสร้างบ้านให้เราเนี่ยนะ” “บ้านคนอื่นก็สร้าง แม่ไปคุยมาแล้ว” “แม่มั่นใจใช่ไหมว่าแม่เลือกดีแล้ว” “ดีสิ” “โอเคค่ะ ลินมั่นใจว่าแม่เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับบ้านเรา” “แม่เลือกทุกอย่างให้ลูกแบบนั้นมาเสมอจ้ะ” ศรัญญาโล่งอกที่ลูกไม่ซักไซ้อะไรอีก แต่งานนี้เธอนั่งยัน นอนยัน และยืนยันเลยนะ ว่าบริษัทของภูมิภัทรให้ราคาถูกกว่าบริษัทอื่นจริงๆ เธอไม่ได้กุเรื่องมาหลอกลูกสาว แม้ตอนแรกตั้งใจว่าจะทำแบบนั้นก็เถอะ “แล้วพรุ่งนี้ต้องคุยอะไรบ้างแม่” “ก็พาเขาไปดูสถานที่จริง คุยว่าจะให้เข้าไปทำงานวันไหน คุยว่าเขามีแผนการก่อสร้างยังไง ต้องจ่ายเงินแบบไหน จ่ายกี่งวด คุยเรื่องคนงาน คุยหลายเรื่องน่ะลูก แม่เลยนัดสถาปนิกกับผู้รับเหมาให้มาเจอกันที่ร้านอาหารหน้าปากซอยบ้านใหม่เรา แล้วเราค่อยพาเข้าไปที่ที่ดิน ถึงเวลานั้นทั้งคนสร้างและคนออกแบบ จะได้คุยให้เข้าใจตรงกัน” “อ๋อ ส่วนเรื่องตกแต่งภายในก็เอาไว้ก่อนเนอะ คงหลายเดือนกว่าบ้านจะเป็นรูปเป็นร่าง” “หลายเดือนไม่ว่า กลัวจะเป็นปีน่ะสิลิน” “แม่ก็บอกให้เขาทำเร็วๆ สิ บอกเขาว่าแม่กลัวหน้าเหี่ยวก่อนได้อยู่บ้านใหม่” “ไอ้ลูกคนนี้นิ” ศรัญญาตีลูกเบาๆ เธอไม่กล้าทำกล่องดวงใจของตัวเองให้บุบสลาย “ลินง่วง ลินนอนนะแม่” ลลิสากลัวแม่จะตีเธอเข้าจริงๆ เพราะเอาเรื่องผิวหนังกับแรงโน้มถ่วงของโลกมาพูด เธอปรับเบาะเอนลงและหลับตา ตะขิดตะขวงในใจเรื่องผู้รับเหมา แต่ก็ตัดสินใจเชื่อในฝีมือการเลือกของแม่และนอนหลับดีกว่า นักแสดงที่ทำงานหนักอย่างเธอ การได้นอนหลับเพียงสิบนาที ก็ถือว่าช่วยเพิ่มพลังงานได้มากเลยละ “สวัสดีครับคุณน้า” ภูมิภัทรยกมือไหว้ศรัญญา แต่สายตานั้นละจากลลิสาไม่ได้ ก่อนหน้านี้ความสวยของเธอทำให้เขาหลงใหลเพียงใด วันนี้ก็ยังคงทำให้เขารู้สึกเช่นเดิม “สวัสดีครับน้องลิน” ศรัญญาเห็นสายตาของภูมิภัทรที่มองลูกสาวก็ปลื้มปริ่มอยู่ในใจ แต่คงต้องขอขัดจังหวะสักหน่อย เพราะตอนนี้ลูกสาวกำลังจะแยกเขี้ยวอาละวาดเข้าให้แล้ว “สวัสดีจ้ะ มานานหรือยังภูมิ น้าว่าน้ามาเร็วแล้วนะ” “เพิ่งมาถึงประมาณสิบนาทีครับ ผมมาก่อนเวลาเร็วไปหน่อย ไม่ใช่ความผิดของคุณน้ากับน้องลินครับ” ภูมิภัทรก้มมองนาฬิกาข้อมือราคาแพง ก่อนจะผายมือเชิญให้ศรัญญาและลลิสานั่งรอสมาชิกอีกคนคือสถาปนิก ส่วนทีมงานฝ่ายก่อสร้างนั้น เดินทางไปรออยู่ใกล้ๆ สถานที่ทำงานแล้ว “ลิน...” ผู้เป็นแม่เห็นลูกสาวหน้าบึ้งตึง จึงเรียกด้วยเสียงที่ทำให้เธอต้องยกมือไหว้ภูมิภัทร “สวัสดีค่ะ” ลลิสาฝืนยิ้ม ไม่เป็นแผนการของแม่ ก็เป็นแผนการของภูมิภัทร หรือไม่ทั้งสองก็ร่วมมือกันจนทำให้เธอต้องสร้างบ้านกับบริษัทของเขา “ทานเครื่องดื่มอะไรดีครับ เดี๋ยวพี่ไปสั่งให้ คุณน้าอยากดื่มอะไรครับ” “น้าขอชาร้อนจ้ะ” “น้องลินล่ะครับ” ลลิสาอยากปฏิเสธ แต่สายตาของแม่ที่มองมาก็ทำให้เธอต้องตอบออกไป “ชาเขียวเย็นค่ะ” “เขาทำให้เราประหยัดเงินไปตั้งหลายแสน คุยกับเขาดีๆ สักชั่วโมงไม่ได้หรือไงลิน” “คุยได้สิคะคุณแม่ มีอะไรที่ลินขัดใจแม่ได้บ้างล่ะ” ลูกสาวสุดดื้อยิ้มกว้างจนปากจะฉีกไปถึงใบหู แม่จะได้พอใจและเลิกดุเธอสักที เงินครึ่งล้าน เธอไปออกอีเวนต์สักสองงานก็หาเงินได้แล้ว แต่เมื่อคิดถึงราคาบ้านทั้งหมดที่ต้องจ่าย ประหยัดไปห้าแสนยังไงก็มีแต่คุ้มกับคุ้ม และที่เธอต้องยอมตามใจแม่ก็เพราะว่าหากเจอผู้รับเหมาไม่ดี มันคงวุ่นวายมาก อย่างน้อยก็มั่นใจได้ว่ายังไงบ้านก็สร้างเสร็จแน่นอน “สวัสดีค่ะ ปรางไม่ได้มาสายใช่ไหมคะ” สถาปนิกสาวมากฝีมือ ซึ่งทำหน้าที่ออกแบบบ้านให้ลลิสาและศรัญญา เดินทางมาถึงสถานที่นัดหมายก็ก้มมองนาฬิกาที่ข้อมือ เธอตั้งใจจะมาก่อนเวลาสักสิบนาที แต่ก็ยังช้ากว่านายจ้างที่มาเร็วกว่าเธอ และผู้ชายแต่งตัวด้วยเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวกับกางเกงสแล็กสีดำแบบคนทำงานทั่วไป แต่ต่างตรงที่เขาน่าจะมีเงินในบัญชีหลักล้าน และคงเป็นคนที่จะเข้ามาดูแลงานก่อสร้างให้กับบ้านหลังงามของนางเอกชื่อดัง ตามที่คุณแม่ศรัญญาได้แจ้งไว้ก่อนหน้า “สวัสดีค่ะคุณปราง คุณปรางไม่ได้มาสายค่ะ พวกเรามาเร็วเกินไปค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ” ลลิสาลุกขึ้นต้อนรับปรางสิตา เพื่อนร่วมงานที่แสนดี ไม่ว่าจะขอให้แก้แบบแปลนบ้านกี่ครั้ง ปรางสิตาก็แก้ไขให้อย่างเต็มใจ บริการเกินราคาค่าจ้างไปพอสมควร “ค่ะ แต่ยังไงก็ขอโทษจริงๆ นะคะที่ให้รอ” “ไม่เป็นไรค่ะคุณปราง ไม่ต้องคิดมากนะคะ นี่คุณภูมิภัทรค่ะ เป็นเจ้าของบริษัทรับเหมาก่อสร้างที่แม่ติดต่อให้มาสร้างบ้านที่คุณปรางออกแบบให้ลิน” เมื่อถึงเวลาเป็นการเป็นงาน ลลิสาก็ทำทุกอย่างอย่างมืออาชีพ “สวัสดีครับ ผมภูมิภัทร ยินดีที่ได้ร่วมงานครับ” “สวัสดีค่ะ ปรางสิตาค่ะ ยินดีที่ได้ร่วมงานเช่นกันค่ะ” ปรางสิตาส่งยิ้มให้เพื่อนร่วมงานคนใหม่อย่างเป็นมิตร “หนูปรางจะสั่งน้ำอะไรก่อนไหมลูก” ศรัญญาถามปรางสิตาอย่างห่วงใย เธอเอ็นดูเหมือนลูกหลาน เพราะถูกชะตากับปรางสิตาตั้งแต่แรกเห็น “ไม่ค่ะคุณน้า ขอบคุณนะคะ” “ถ้าอย่างนั้นเราไปที่ที่ดินกันเลยกว่า เดี๋ยวฝนตกซะก่อน” “ไปรถผมดีไหมครับ” “รถภูมิจะนั่งพอเหรอลูก” คำว่าลูกที่ออกจากปากของผู้เป็นแม่ ทำเอาลลิสาตกใจ แต่ก็ยังเก็บอาการไว้ได้อยู่ นี่แม่ไปสนิทสนมกับเขา ถึงขั้นเรียกกันแบบนี้แล้วเหรอ “พอครับ ผมเอารถคันใหญ่มา นั่งได้หลายคน พอเสร็จงานแล้ว ผมจะก็มาส่งทุกคนที่นี่” “ปกติพี่ภูมิขับแต่รถซูเปอร์คาร์ไม่ใช่เหรอคะ” ลลิสาถามด้วยความแปลกใจ “แล้วเราจะไปยุ่งอะไรกับรถพี่เขาล่ะลิน ไปรถพี่เขานี่แหละ ประหยัดน้ำมัน รถจะได้ไม่ต้องติดแล้วติดอีกด้วย” ศรัญญาตำหนิลูกที่ถามอะไรไม่เข้าเรื่อง แต่ก็แอบดีใจที่ลูกสาวพูดคุยกับภูมิภัทร ด้วยท่าทางที่เป็นกันเองมากขึ้น “เชิญครับทุกคน” ภูมิภัทรพยายามกลั้นขำ ตลกปนเอ็นดูที่ลลิสาถูกแม่ดุจนหน้าจ๋อย นี่แหละนะที่เขาว่า จะอายุเยอะแค่ไหน หากทำอะไรไม่ถูกใจแม่ก็ต้องโดนบ่นเหมือนยังเป็นเด็กอยู่เสมอ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD