บทที่ 5
“คุณรุต! คุณรุต”
มือหนึ่งเท้าไปด้านหลังบนโต๊ะกว้าง อีกมือโอบกอดต้นคอแกร่งขณะที่ท่อนขาเรียวยาวทั้งสองเกาะเกี่ยวรอบสะโพกสอบที่กำลังขับเคลื่อนเข้าออกในช่องทางเสน่หา
กึก! กึก!
เสียงกระทบกระแทกและเสียงครูดของโต๊ะทำงานไม่ทำให้จังหวะเคลื่อนไหวลดลง ตรงกันข้าม กลับเร็วขึ้น แรงขึ้น ตามอารมณ์ที่ปะทุสูงในขณะนี้
“อืม” เสียงห้าวคำรามออกมาเบาๆ ขณะขบเม้มทรวงอกเต่งตึง ก่อนผละห่างแล้วเร่งเร้าสะโพกสอบสอดเสียบกายกำยำพุ่งโผนเข้าสู่ความคับแน่น และไม่มีทีท่าว่าจะจบลงเร็วๆ นี้
ณิชาก้าวลงจากบันได หญิงสาวมองหาคนในบ้านแล้วรีบเรียกสาวใช้คนหนึ่งที่กำลังเดินผ่านมา
“เธอๆ”
มาลีก้าวมาหยุดตรงหน้าแขกคนพิเศษของมารุตด้วยอาการนอบน้อม
“คุณรุตอยู่ไหน”
“อยู่ในห้องทำงานค่ะ”
ณิชาเลิกคิ้วสูง
“ยังทำงานอยู่อีกหรือ”
มาลียิ้มให้สาวสวย
“ค่ะ คุณจะให้หนูไปเรียนคุณรุตไหมคะว่าต้องการพบ” เอ่ยถาม สายตาลอบมองอย่างชื่นชม
“ไม่เป็นไรจ้ะ แค่เธอบอกว่าห้องทำงานคุณรุตไปทางไหน ฉันไปเองได้ อยากเซอร์ไพรส์เขาน่ะ”
“เดินตรงไปเลี้ยวซ้าย ห้องแรกค่ะ”
ณิชายิ้มกว้างขึ้น
“ขอบใจจ้ะ” พูดจบก็ก้าวตรงไปยังทางเดินที่มาลีบอก ขณะนั้นหญิงสาวไม่ลืมที่จะกวาดตามองไปรอบๆ อย่างสนใจ ใบหน้าเรียวงามเผยยิ้มพอใจ มารุตไม่ใช่เพียงมีฐานะดีธรรมดา แต่เขาเข้าขั้นมหาเศรษฐีอันดับต้นๆ ของเมืองไทยเลยทีเดียว
ขณะที่ณิชากำลังเดินหาตัวของชายหนุ่มอยู่นั้น ภายในห้องทำงานของมารุตร้อนระอุไปด้วยเพลิงพิศวาส ร่างสูงกำยำเคลื่อนไหวรุนแรง ร่างบอบบางกลมกลึงใช่อ่อนแรงหรือไร้เดียงสา แต่ความสัมพันธ์ลึกซึ้งยาวนานที่ผ่านมาทำให้หล่อนรู้ดีว่าเขาชอบแบบไหน จึงโต้ตอบและเสนอสนองกลับไปอย่างเท่าเทียม
กึก! กึก!
“อ่า!!”
เลี้ยวซ้าย ห้องแรก…
ฝ่าเท้าบอบบางในรองเท้าสลิปเปอร์ชะลอลง ใบหน้าสวยเฉี่ยวแต้มยิ้ม ก้าวไปหยุดที่หน้าห้อง เอื้อมมือแตะลูกบิดค่อยๆ หมุนหวังสร้างความแปลกใจกับคนข้างในแต่ทว่า…
“อือ…”
ครืด…ครืด…กึก! กึก! กึก!
มือเรียวข้างนั้นแตะค้าง ใบหน้าเจือยิ้มค่อยๆ คลายลง คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากันอย่างกังขา ค่อยๆ แนบหน้าไปกับบานประตูด้วยหัวใจที่ระทึกขึ้นทุกทีทุกที ใบหน้าร้อนผ่าว ตัดสินใจผลักประตูเข้าไปในที่สุด
“คุณคือแขกของคุณรุตใช่ไหมคะ”
มือที่กำลังดันประตูเข้าไปในห้องทำงานของมารุต ทำให้ณิชาชะงักงัน หันกลับไปมองเจ้าของเสียงที่เอ่ยถามจากด้านหลัง พลันเลิกคิ้วสูงเมื่อพบกับคนตรงหน้าโดยไม่คาดคิด
“วารุณี…”
วารุณีมีสีหน้าแปลกใจไม่ต่างจากณิชาเลย หญิงสาวนิ่งงันก่อนจะมองผู้มาเยือนในฐานะแขกคนพิเศษของมารุตตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า
“เธอ…”
เมื่อรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ณิชาก็ยิ้มออกมา
“ฉันรู้แล้ว ที่แท้เธอก็คือภรรยาใหม่คุณพ่อของคุณรุตนี่เอง ไม่น่าเชื่อ ว่าเธอจะเลือกคนแก่คราวพ่อ มากกว่าคนหนุ่มที่…”
“ณิชา!” ดวงตาคู่สวยวาววับขึ้น ขณะที่ใบหน้างดงามไม่ด้อยกว่ากันของณิชาเชิดขึ้นน้อยๆ ริมฝีปากพราวยิ้ม จนคนมองที่กำลังสติหลุดต้องนับหนึ่งถึงสิบในใจ “ถึงคุณเมธจะมีอายุ แต่เขากลับดูไม่แก่เลยสักนิด เธอเองก็เคยเจอท่าน น่าจะรู้ว่าฉันพูดไม่เกินจริง ที่สำคัญ คุณเมธเป็นผู้ชายอบอุ่น น่ารัก ใครอยู่ใกล้ก็อดไม่ได้ที่จะรักท่าน”
“เหมือนเธอสินะ วารุณี” ณิชาหัวเราะออกมาเบาๆ ปรายตามองคนที่หน้าตึงกัดฟันกรอดด้วยความรู้สึกขบขัน ก่อนจะนึกขึ้นได้ หันขวับไปมองประตูห้องทำงานของมารุต แล้วหมายดันเข้าไปตามใจคิด ทว่าคนที่อยู่ด้านในกลับเป็นฝ่ายดึงเข้าแล้วก้าวออกมาเสียเอง
“คุณรุต”
สองสาวร้องเรียกเขาออกมาพร้อมกัน ณิชารีบประชิดร่างสูง แล้วกอดแขนของเขาเอาไว้ขณะมองสบตาวารุณีด้วยสายตาเยาะเย้ย
“ณิมาหาคุณค่ะ กำลังจะเข้าไปพอดีแต่บังเอิญเจอคุณวาเสียก่อน ก็เลยทักทายกันนิดหน่อยค่ะ” หญิงสาวยิ้มหวานให้ชายหนุ่ม มารุตหลุบตามองคนที่กอดแขนเขาแวบหนึ่งแล้วเงยหน้าขึ้นสบตากับวารุณีที่มีสีหน้าบูดบึ้ง มองตาเขาอย่างเอาเรื่อง ทว่าชายหนุ่มกลับวางเฉย ไม่แยแสว่าอีกฝ่ายจะพอใจหรือไม่
“ถ้าอย่างนั้นเราออกไปข้างนอกกันเถอะครับ” เขาก้าวนำ ทำให้ณิชาต้องก้าวตามชายหนุ่มไป แต่ไม่วายปรายตามองวารุณีด้วยสายตาพร่างยิ้ม แต่วารุณีรู้ดีว่าเป็นรอยยิ้มเย้ย จึงทำให้เจ็บใจอยู่อย่างนี้ แต่ถึงอย่างนั้นหล่อนก็ไม่ลืมว่าตนเป็นใคร และต่อให้อีกฝ่ายพยายามยัดเยียดตัวเองเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในตระกูลจิรประทีปต์ หล่อนนี่แหละที่จะทำให้อีกฝ่ายไม่มีวันสมหวัง
วารุณีหมุนตัวกลับออกไปจากหน้าห้องทำงานของมารุตไม่นาน ประตูห้องก็เปิดออกอีกครั้งพร้อมร่างบางของโยษิตา ก้มลงสำรวจตัวเองอีกครั้งว่าเรียบร้อยดี ปรับสีหน้าให้เป็นปกติ แล้วก้าวตรงไปที่ห้องครัวเพื่อตรวจความเรียบร้อยของอาหารมื้อค่ำ
ณิชาลอบสังเกตแม่บ้านสาวสวยที่ทำหน้าที่ควบคุมดูแลสาวใช้อีกต่อหนึ่งเงียบๆ ยิ่งเห็นว่าคุณเมธัตให้ความเอ็นดูก็ยิ่งอยากรู้จักมากยิ่งขึ้น จนกระทั่งทุกคนอิ่ม จึงพากันย้ายไปที่ห้องนั่งเล่น โยษิตาตามไปดูแลไม่นานนัก ก่อนปล่อยให้เจ้านายทั้งหลายใช้เวลาช่วงนี้เป็นการส่วนตัว
“คุณโยดูสาว สวย มากกว่าจะเป็นแค่แม่บ้านนะคะคุณลุง” ณิชาเปรยออกมาตรงๆ สายตามีความอยากรู้มากมายจนเมธัตต้องหัวเราะออกมาเบาๆ ขณะที่มารุตนิ่งเงียบตามแบบฉบับของเขา ส่วนวารุณีที่นั่งข้างสามีตวัดสายตามองมารุตแวบหนึ่งอย่างไม่พอใจ
“โยเป็นลูกสาวของอดีตคนสนิทของลุง พอคนสนิทของลุงเสียชีวิตไป ลุงกับแม่ของเจ้ารุตก็เลยรับเลี้ยงโยตั้งแต่นั้นมา อายุอานามอ่อนกว่าหนูไม่กี่ปีหรอก ตอนนี้ก็ยี่สิบหกแล้ว”
“ณิสามสิบเอ็ดค่ะ รุ่นราวคราวเดียวกับคุณวา” มองสบตาวารุณีพลางยิ้มหวาน ทำให้คุณเมธัตมองภรรยายิ้มๆ อีกฝ่ายจึงหันมายิ้มให้สามีอย่างเสียไม่ได้
“แล้วคุณโยเรียนจบอะไรมาคะ” ยังสนใจในตัวแม่บ้านสาวคนสวยของเมธัตไม่คลาย
“จบการโรงแรม” มารุตเป็นคนตอบ ทำให้ณิชาหันมาเลิกคิ้วกับชายหนุ่ม
“อ้อ ก็ตรงสายดีค่ะ จบมาก็มาเป็นแม่บ้านให้กับคุณลุง แบบนี้ก็เหมาะดีแล้วนะคะ”