17 ผืนนภากระจัดกระจายสว่างไสวระยิบระยับทั่วผืนฟ้าด้วยแสงรำไรอับริบหรี่ของหมู่ดวงดาราพร่างพราย คอยส่องแสงนำทางกลุ่มคนหนึ่งไม่ต่างจากเข็มทิศในอากาศ เสียงล้อลากเกวียนเทียมไต่ขึ้นริมเขามาถึงปลายทางค่อนข้างดึกดื่นค่ำมืด เสียงผ่อนลมหายใจยาวพรืดบ่งบอกถึงความโล่งอกดังยาว ผืนดินนั่งตัวเกร็งแข็งทื่ิอมาตลอดทาง แผ่นหลังเปียกชุ่มหยาดเหงื่อจนชื้นแฉะเป็นวงกว้าง สายตาระแวดระวังผันเปลี่ยนเป็นสายตากะล่อนตามเดิม พวกเขามักจะหลีกเลี่ยงการเดินทางในยามค่ำคืนเนื่องจากภูคลาดหาใช่ภูเขาลำเนาไพรดาษดื่น จิตวิญญาณธรรมชาติในภูคลาดยอมรับพวกเขาเป็นคนในแล้วก็จริงแต่ไม่มีสิ่งใดรับประกันได้ว่าพวกเขาจะอยู่รอดปลอดภัยในยามค่ำคืน “โชคดีไม่เจออะไรผิดปกติ” ผืนดินพูด สีหน้าเหยเก “ไม่เจอก็ดีแล้วมึงจะพูดทำไม” เหนือมานขมวดคิ้วเอ็ดสหาย กลัวว่ามันจะปากพล่อยจนชักนำพาเรื่องเดือดร้อนมาสู่ตัว “หมายถึงเจออะไรหรอ” พลับพลึงเอ่ยถามเสียง

