๑๐ ความเปลี่ยนแปลง2

1146 Words
“ถ้าหากหญ้าต้องการไปจากที่นี่ล่ะคะ” คำตอบของกอหญ้าไม่ได้เหนือความคาดหมายของเขาเลยสักนิด เพราะรู้มาเสมอว่าเด็กสาวคนนี้ไม่เคยคิดอยากจะเหยียบย่างเข้ามาในอาณาเขตของเขา ความผิดพลาดคืนนั้นทำให้สาวน้อยที่เคยสดใสต้องจมจ่อมอยู่ในห้วงทุกข์มาเนิ่นนาน คงทั้งรังเกียจและขยะแขยงเขาจนไม่อาจจะเปรียบกับอะไรได้ แต่กลับต้องมาทนอยู่ดูแลคนที่เกลียด จิตใจของหล่อนจะเป็นเช่นไร จะรู้สึกแย่สักแค่ไหน เขาไม่ต้องการให้หญิงสาวสะสมความเกลียดชังที่มีต่อเขาและครอบครัวมากไปกว่านี้ จึงตัดสินใจเด็ดขาดในวินาทีนั้น “ได้สิ เธออยากไปทำงานที่ไหน ฉันพอมีคนรู้จักอยู่บ้าง จะส่งเธอกับแม่ใหญ่ไปที่นั่น” คำตอบของเขาทำให้หญิงสาวนิ่งอึ้ง รู้สึกกระบอกตาร้อนผ่าวจนต้องรีบกะพริบตาเร็วๆ ไม่เข้าใจความรู้สึกของตนเองนักหรอก เพราะมันผสมปนเปกันไปหมด ระหว่างดีใจกับปวดใจ... “ขอบคุณนะคะ แต่หญ้าสัญญากับคุณท่านเอาไว้แล้ว” คำตอบของหญิงสาวทำให้ภพธรนิ่วหน้าและเหลียวไปทางคนพูด “สัญญาอะไร” หญิงสาวผ่อนลมหายใจแผ่วยาว ก่อนจะขยับตัวดันรถเข็นพาชายหนุ่มก้าวออกไปข้างหน้าอีกครั้ง “สัญญาว่าจะอยู่ดูแลจนกว่าคุณหนึ่งจะดีขึ้นค่ะ” คำตอบของหญิงสาวไม่ได้ทำให้เขาดีใจขึ้นเลยสักนิด แต่กลับหมองหม่นดิ่งวูบลงยิ่งกว่าเดิม หล่อนไม่ได้เต็มใจอยู่ แต่ต้องอยู่เพราะคำสัญญาที่ให้ไว้กับมารดาของเขา ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาไม่ต้องการเลยสักนิด แม้เขาจะต้องการให้หล่อนอยู่ที่นี่กับเขาอย่างสุดหัวใจก็ตามที ชายหนุ่มนิ่งเงียบไปนาน นานจนหญิงสาวคิดว่าเขาคงเลิกถาม แต่แล้วจู่ๆ เขาก็เอ่ยออกมาอีก “ถ้าสัญญามันทำให้เธอต้องฝืนใจ และไม่มีความสุขที่จะอยู่ที่นี่ ก็ไม่จำเป็นต้องสนใจหรือยึดมั่นอะไรอีก” หญิงสาวดันรถเข็นของชายหนุ่มมาหยุดลงตรงริมลำธาร ครั้งหนึ่งหล่อนเคยคิดจะผลักเขาให้หล่นลงไปในนั้น มันเป็นความคิดเพียงชั่ววูบที่เกิดขึ้น แต่เมื่อมองใบหน้าคมคายของคนที่เคยมีน้ำใจงดงามกับหล่อนและแม่ใหญ่ ความคิดชั่วแล่นก็ถูกปัดทิ้ง “แต่หญ้าเป็นคนรักษาสัญญา” หญิงสาวตอบออกมาหลังจากนิ่งเงียบไปอึดใจ ฉันก็เหมือนกัน... เขาบอกกับตัวเองในใจ คิดถึงสัญญาที่เคยให้ไว้กับหล่อนว่าเขาจะรอ จนกระทั่งทุกอย่างไม่มีอะไรเหมือนเดิมอีกต่อไป เขาไม่ใช่คนที่จะดูแลหรือรับผิดชอบหล่อนได้อีก แม้คำมั่นนั้นยังคงอยู่ในใจของเขาเสมอ แต่มันคงไม่คู่ควรกับหล่อนอีกต่อไป กอหญ้าควรมีชีวิตที่ดีกว่าจะมาจมปลักอยู่กับคนพิการเช่นเขา “เธอทำตามที่สัญญาเอาไว้แล้วกอหญ้า ถึงเวลาที่ฉันต้องตอบแทนเธอบ้าง” เขาหันหน้าไปยังคนที่ยืนอยู่ข้างหลังนิดหนึ่ง “หลังจากนี้ ก็ใช้ชีวิตในแบบที่เธอต้องการนะหญ้า ฉันอยากให้เธอมีความสุข อยากเห็นรอยยิ้มที่ออกมาจากใจจริงๆ ของเธออีกสักครั้ง แต่น่าเสียดาย ฉันไม่มีโอกาสนั้นแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังอยากให้เธอยิ้มได้อีกหน ถ้าการไปจากที่นี่คือหนทางเดียวที่จะทำให้ชีวิตของเธอและแม่ใหญ่มีความสุข ฉันจะจัดการทุกอย่างให้เธอเอง ส่วนตัวฉันเธอไม่ต้องกังวลอะไรทั้งนั้น” ช่วงเวลานั้นเจ้าของร่างเพรียวบางยืนนิ่ง ไม่มีคำตอบโต้ใดหลุดออกมาจากเรียวปากคู่งาม มีเพียงอาการร้อนผ่าวที่กระบอกตา ความรู้สึกอึดอัดและหนักอึ้งทั้งที่ควรจะปลอดโปร่งโล่งสบายแต่กลับไม่ใช่เลย “หญ้า” กอหญ้าก้มลงมองเขาอีกครั้ง “บางทีฉันก็คิดนะ ว่าฉันกำลังชดใช้สิ่งที่เคยทำเอาไว้กับเธอ แล้วถ้าเป็นอย่างที่ฉันคิด ฉันก็เต็มใจชดใช้ทั้งหมด สำหรับเธอ ฉันมั่นใจว่าจะต้องได้พบเจอคนที่ดีกว่าฉันอย่างแน่นอน” สิ้นเสียงของภพธรน้ำตาก็ไหลออกมาจากกระบอกตาของกอหญ้า หญิงสาวยกมือขึ้นเช็ดมันออกจากแก้มอย่างรวดเร็วด้วยความตกใจ ทุกคำพูดของเขาทำไมถึงสร้างความเจ็บปวดให้หล่อนได้ถึงเพียงนี้ ทำไมหล่อนถึงต้องสงสารเห็นใจเขาด้วย ทำไมไม่ยินดีกับสิ่งที่เขาหยิบยื่นให้ อิสระ...คือสิ่งที่หล่อนโหยหาไม่ใช่หรือ ตอนนี้มีโอกาสแล้ว ทำไมถึงยังลังเล... ตั้งแต่ดูแลภพธร หญิงสาวมีช่วงเวลาได้อยู่ตามลำพังน้อยมาก เพราะการเป็นพยาบาลส่วนตัวนั้นหมายถึงจะต้องอยู่กับเขาเกือบตลอดเวลาเลยทีเดียว คืนนี้ก็เช่นกัน หญิงสาวกำลังนั่งมองคนที่เพิ่งจะหลับไปพร้อมกับคำพูดมากมายของเขาในช่วงเย็นที่ผ่านมา หากเป็นเมื่อก่อน หล่อนคงยินดีที่จะไปอย่างไม่รั้งรอ ทว่าเวลานี้ทุกอย่างคล้ายจะเปลี่ยนไป ไม่เพียงแค่ร่างกายของเขา แต่หัวใจของหล่อนก็เช่นเดียวกัน มันไม่แข็งกร้าวเหมือนก่อน ไม่ได้เด็ดเดี่ยวอย่างที่ตั้งใจเอาไว้ เขาทำสะพานให้ แต่หล่อนกลับยืนลังเลอยู่ที่หัวสะพาน “คุณหนึ่ง...” หญิงสาวพูดชื่อของเขาออกมาเบาๆ ยามหลับภพธรดูเหมือนชายหนุ่มธรรมดา เขาไม่มีทางที่จะลุกขึ้นมาทำร้ายหล่อนหรือว่าใครคนไหน หญิงสาวหลุบตามองมือใหญ่ที่วางบนอกของเขา มือคู่นี้ช่วยเหลือคนเอาไว้มากมาย แต่ก็เป็นมือคู่เดียวกับที่ทำลายหล่อน ความคิดมากมายอุบัติขึ้นในหัว เป็นความสับสนยุ่งเหยิง ความรู้สึกอยากหนีไปให้ไกลบังเกิดขึ้นพร้อมกับความรู้สึกอยากอยู่ดูแลเขาต่อเรื่อยๆ เป็นความคิดที่ไม่ควรเกิดขึ้นเลยสักนิด หญิงสาวขยับผ้าห่มให้คนที่นอนหลับ ดูแลแม้ในยามที่เขาดิ่งสู่ห้วงนิทรา ก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ข้างเตียง เพื่อตรงไปยังเตียงเล็กที่ตั้งชิดมุมห้อง กลายเป็นที่พำนักของหล่อนนับแต่เข้ามาดูแลเขาเลยก็ว่าได้ ร่างเล็กล้มตัวลงนอนแล้วแต่ไม่วายปรายตามองไปยังเตียงคนป่วยอีกครั้ง จากนั้นไม่นานก็เข้าสู่การหลับใหลเพราะความอ่อนเพลีย เมื่อทุกอย่างเงียบเสียงลง ดวงตาคมกริบของคนป่วยเปิดขึ้นพลางมองผ่านความมืดสลัวไปยังเตียงเล็กที่ริมห้อง...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD