“อื้ออ อ่อยยย!!!(ปล่อยยย)”
คนตัวเล็กทำได้แค่เถียงอยู่ในลำคอ เธอขัดขืนได้แค่นั้นเพราะเขาที่ไม่เปิดโอกาสให้เธอได้พูดอะไรเลย
เธอกำลังจะบอกว่าเอาน้ำส้มมาเสิร์ฟจากคำสั่งของเจ๊แคทเจ้าของร้าน แต่เมื่อประตูเปิดออกก็ดันตกใจไอ้จ้อนของเขาซะก่อน แถมเขายังฉุดกระชากตัวเธอให้เข้าไปในห้องแล้วระดมจูบเธอจนเธอแทบจะขาดอากาศหายใจ
“เฮือก! ด เดี๋ยว เดี๋ยวก่อน ฉันไม่ใช่ อื้มมม” ไอ้บ้าเอ้ยยย ฟังก่อนได้ไหมเล่า!!! นี่ดูโรคจิตมาจากไหนเนี่ย ไม่รอฟังเธออธิบายเลย
เธอเป็นแค่เด็กเสิร์ฟ ไม่ใช่หญิงสาวขายบริการนะ ฟังหน่อยสิ ฟังก่อน
คนตัวเล็กพยายามบอกให้เขาหยุดด้วยการทุบกำปั้นเข้าที่อกแกร่งเขาย้ำๆ ทว่าวาฟิกซ์กลับไม่ได้สนใจและยังรวบมือเธอขึ้นไปอยู่เหนือหัว จากนั้นก็โน้มใบหน้าลงมากดจูบและดูดริมฝีปากเธอจนเธอเริ่มรู้สึกเหมือนปากบวมเจ่อขึ้นเรื่อยๆ
สิ่งเดียวที่วาฟิกซ์คิดได้ในตอนนี้คือ ทำไมยัยคนนี้มันจูบไม่เป็นเลยวะ ส่วนมากที่เขาเจอจากผู้หญิงที่นี่ ล้วนแล้วแต่เจนจจัดเรื่องอย่างว่ากันทั้งนั้น ซึ่งดูแตกต่างจากผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขาอย่างสิ้นเชิง เธอดูไม่เป็นอะไรเลย ขนาดเขาสอดลิ้นเข้าไปเพื่อนเกี่ยวลิ้นเธอ เธอยังใช้ลิ้นตัวเองดันลิ้นเขาออกมา และยังงับฟันลงมาให้โดนลิ้นเขาอีก
หงุดหงิดชะมัด!
“อะไรของเธอ” ละออกจากปากบางมาสบตาพร้อมกับตวาดลั่น
“น หนู ไม่ใช่”
“ไม่ใช่อะไร” ก็ป้าแคทบอกว่าจะให้เธอมาหาที่ห้องเขานี่หว่า แล้วเธอก็มาแล้วนี่ไง ยังจะไม่ใช่อะไรอีก
“หนูแค่จะเอาน้ำส้มมาเสิร์ฟให้คุณ หนูเป็นแค่เด็กเสิร์ฟค่ะ”
เชี้ยเอ้ย! ผิดตัวเหรอวะ
หมอวาขบกรามกลั้นอารมณ์ ทว่าเมื่อมองไปยังส่วนล่างของตัวเอง พบว่ามันแข็งพอที่จะพร้อมทำเรื่องอะไรแบบนั้นแล้ว เขาคงจะรอให้ผู้หญิงอีกคนมาไม่ไหว เพราะตอนนี้ส่วนล่างของเขามันกำลังแผลงฤทธิ์ หากเขาปล่อยมันไว้แบบนี้คงได้ตายแน่ๆ
“เธอชื่ออะไร”
“มาเบลค่ะ”
วาฟิกซ์ยืนมองหน้าเธอนิ่งหลังจากเธอพูดชื่อของตัวเองออกมา เขากำลังใช้สายตาสำรวจเรือนร่างของเธอให้ครบทุกซอกทุกมุม
จะว่าไปเธอก็ดูหน้าตาน่ารักสวยอยู่เหมือนกัน จะปล่อยไปเฉยๆก็เสียดาย ลองเสี่ยงดูหน่อยเป็นไง
“คุณปล่อยหนูได้ไหมคะ” มาเบลไม่กล้ามองต่ำเลย เพราะตอนนี้เขาเปลือยอยู่ กลัวจะมองลงไปแล้วเจอไอ้นั่นของเขาขึ้นมา เธอจะยิ่งตกใจมากกว่าเดิม
“อยากได้เงินหรือเปล่า”
ดวงตากลมโตเบิกโพรงกว้างหลังจากที่เขาพูดจบ นี่เขาคิดว่าจะเอาเงินมาฟาดเธองั้นเหรอ ดูถูกกันเกินไปไหม
“คุณคิดจะเอาเงินฟาดหนูเหรอ หนูไม่โอเคนะคะ”
“ปกติฉันจ่ายให้คนละห้าหมื่นเป็นค่าตัว แต่ถ้าเธอยอมฉันจะจ่ายให้เธอสองเท่า”
สองเท่า! เท่ากับเธอจะได้เงินแสนงั้นเหรอ
มาเบลทำท่าคิด เพราะเงินนั่นสามารถทำให้เธอหลุดพ้นจากหนี้ก้อนโตที่คนเป็นพ่อสร้างไว้ได้เลย ถึงแม้ว่ามันจะยังใช้ไม่หมดในคราวเดียว แต่ก็สามารถช่วยร่นระยะเวลาในการหาเงินใช้หนี้ก้อนนั้นได้อยู่ดี
ขณะที่คนตัวเล็กกำลังคิดอยู่นั้น วาฟิกซ์พยายามเบียดตัวเองเข้าไปประชิดตัวเธอให้มากขึ้น เขาใช้ลูกชายของเขาบนเบียดไปยังช่วงล่างของเธออย่างช้าๆ จนเมื่อเธอเริ่มรู้สึกตัวเพราะเหมือนว่ามีอะไรแข็งๆมาอยู่ในมือเธอ
“นี่คุณ! อี๋”
มาเบลสะบัดมือหนี พร้อมกับยกขึ้นมาเช็ดที่เสื้อตัวเองอย่างรังเกียจ การแสดงของเธอมันทำให้เขาเลือดขึ้นหน้าอยู่เหมือนกัน
กล้าดียังไงมารังเกียจของดีที่สุดในตัวเขา รู้ไหมว่ามีผู้หญิงอีกตั้งเท่าไหร่ที่อยากจะชิมมัน
“ฉันให้สามเท่าเลย แค่นี้ฉันก็จ่ายให้เธอมากเกินพอแล้วนะ”
“สามเท่าก็เท่ากับ...แสนห้างั้นเหรอ” มาเบลขมวดคิ้วมุ่น คิดถึงเงินแสนห้ากับใบหน้าของเจ้าหนี้ที่ขับมอเตอร์ไซด์มาทวงเงินที่บ้านทุกวัน
เหมือนระเบิดเวลา เขายืนชักรูดของตัวเองรอระหว่างที่เธอกำลังตัดสินใจ
มาเบลเองก็คิดไม่ตก เงินก็อยากได้ แต่การเปลืองตัวแล้วได้เงินมานั่นก็ไม่ต่างอะไรจากหญิงขายตัว ซึ่งเป็นอาชีพที่เธอหนีมันมาตลอด
การทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟของเธอนั้น ชอบมีพวกเสี่ยพุงโตมาขอเลี้ยงดูเธอเป็นประจำ อาจจะเป็นเพราะเธอหน้าตาดี รูปร่างก็ดี เสียอย่างเดียวเตี้ยไปหน่อย แต่ถึงเธอจะอยากได้เงินมากแค่ไหนเธอก็ไม่คิดเอาตัวเข้าแรก
งั้นจะคิดมากทำไมมาเบล เธอเป็นคนปฏิเสธมันมาตลอด เขายื่นมาให้เธอแบบนี้ก็ปฏิเสธเขาไปซะสิ
พอคิดได้และกำลังจะเงยหน้าขึ้นไปตอบเขา ทว่าเธอกลับรู้สึกเหมือนมีของเหลวอะไรบางอย่างพุ่งเข้ามาใส่มือเธอจนเธอต้องก้มดู เมื่อเห็นของที่อยู่ในมือแล้วมองไปยังมือเขาที่มันชักรูดของตัวเองอยู่ ก็ต้องเบิกโพรงกว้างแล้วดีดดิ้นทันที
“กรี๊ดดดดดด//คุณมันโรคจิต”
ปลั่ก!
ปลั่ก!
มาเบลใช้มือทั้งสองข้างทุบคนตรงหน้าอย่างแรง แต่เพราะเขาที่มันตัวใหญ่กว่ามากเขาเลยแทบไม่รู้สึกอะไร แถมยังรวบมือเธอทั้งสองข้างเข้าหากันและรั้งให้ร่างเธอกระเด็นไปกระแทกกับอกแกร่งของเขา จากนั้นเราสองคนก็ยื้อยุดกันอยู่พักใหญ่ และเมื่อเราสองคนเหมือนจะเริ่มยืนกันไม่อยู่ ทั้งเขาและเธอจึงล้มลงไปทับกันอยู่บนเตียง
“อึก”
“หึหึ นมเธอมันกระแทกฉันเมื่อกี้” วาฟิกซ์พูดออกมาหน้าตาเฉย รู้สึกพอใจที่เห็นเธอโวยวายแบบนี้จริงๆ
“ไอ้ทุเรศ ไอ้โรคจิต”
“ฉันเป็นหมอจิต ไม่ใช่โรคจิต” มีใบอนุญาตอยู่นะครับ ดูได้
“ปล่อยฉัน ปล่อย” มาเบลพยายามดิ้นและลุกออกจากตัวเขา ทว่าเขากลับโอบรัดตัวเธอไว้แน่นพลางพลิกกายเธอให้เป็นฝ่ายลงมานอนอยู่บนเตียงและเขาก็ขึ้นมาทาบทับกายเธอแทน
“สองแสน ฉันจ่ายให้เธอสองแสน ยอมนอนกับฉันแล้วเธอจะได้เป็นอิสระ” คนตัวโตโพล่งขึ้นขัดเสียงแหลมๆของเธอ
“ฉันจะมั่นใจได้ยังไง ว่าคุณจะยอมให้เงินฉันจริงๆ” สองแสนมันก็มากอยู่ มากพอที่เธอจะเอาไปตัดต้นตัดดอกได้สบาย
“ถ้าฉันเบี้ยว เธอไปเอาเงินกับป้าแคทได้เลย”
“ป้าแคท?” หมายถึงเจ๊แคทรีน เจ้าของที่นี่งั้นเหรอ
“เจ้าของคลับที่เธอทำงานอยู่นี่ไง ป้าแคทเป็นป้าแท้ๆของฉัน ส่วนฉันเป็นหมอมีชื่อเสียงพอสมควร” คงไม่เอาชื่อเสียงตัวเองมายำเล่นกับเรื่องพวกนี้แน่อน ขืนเบี้ยวมีหวังโดยไอ้พวกหมอเวร!ล้อยันลูกบวชแน่
เพราะชื่อของแคทรีนถูกอ้างขึ้นมา ทำให้มาเบลยอมอ่อนให้แล้วครึ่งหนึ่ง เธอเคารพและนับถือเจ๊แคทมาก เพราะท่านมีบุญคุณกับคนอย่างเธอ
“ขอร้องล่ะเบล ฉันจะไม่ไหวอยู่แล้ว”
“...” เพิ่งรู้ชื่อเธอเมื่อกี้ แต่เขาเรียกเธอเหมือนว่าเราสนิทกันเลยเหรอ
“ก็ได้ค่ะ แต่หนูมีข้อแม้นะคะ” มาเบลเม้มริมฝีปากตัวเองแน่น ไม่ค่อยมั่นใจในสิ่งที่ตัวเองเพิ่งจะตัดสินใจ
“ว่ามา”
“คุณต้องป้องกัน และทำเบาๆ” ไม่อยากเจ็บจนเอาไปฝัน เพราะนี่มันเป็นครั้งแรกของเธอ
“ไม่มีปัญหา” พูดจบก็เอี้ยวตัวไปหยิบถุงคอนดอมที่วางอยู่ตรงหัวเตียงขึ้นมาสวมใส่
เรื่องพวกนี้เขาเตรียมพร้อมไว้อยู่แล้ว เขามันเอาไม่เลือกก็จริง แต่ทุกครั้งเขาป้องกันตลอด ไม่อยากเสี่ยงเป็นโรคและพลาดกับใครทั้งนั้น
“พร้อมนะ”
มาเบลพยักหน้าเบาๆ เบนหน้าหนีไปทางอื่นตอนที่เขากำลังใส่เครื่องป้องกันกับไอ้นั่นของเขา เธอพยายามจะมองแล้วแต่ก็ต้องรีบหลับตาหนี เพราะเธอกลัว ของเขามันน่ากลัวมาก ไม่ไหว ไม่ไหวแน่ๆ ตายแน่ๆยัยเบลเอ๊ยยย!!!
ด่าตัวเองได้ไม่นาน ใบหน้าสวยก็ถูกมือหนารั้งให้มารับจูบอันแสนหวาน คราวนี้เขาทำเธอเบาๆอย่างที่เธอขอ และมันก็ดีมาก มันเป็นจูบที่เธอเพิ่งจะเคยรู้สึกได้ถึงความฟิน ก่อนหน้านี้เคยมีแฟนและจูบกันมาหลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยรู้สึกได้เท่ากับที่เขากำลังมอบจูบนั้นให้เธอตอนนี้
เคลิบเคลิ้มไปกับจูบเขาได้ไม่นาน มาเบลก็รู้สึกได้ถึงความเย็นวาบที่สัมผัสกับเรือนร่าง เพราะตอนนี้เสื้อผ้าของเธอหายไปหมดแล้ว แต่หายไปตอนไหนก็ไม่รู้เหมือนกัน เขาทำมันได้ไวและเบามือมาก มากจนเธอไม่รู้ตัวเลย