ตอนที่ 6 โดนฉุด

1470 Words
เมื่อถึงเวลาตะวันตกดินท้องฟ้ากลายเป็นสีดำเข้ม บนถนนมีแสงไฟมากมายสาดส่องไปทั่วทุกหนแห่ง มาเบลที่กำลังนั่งรอรถเมล์อยู่ข้างทางกลับมีเรื่องให้ทุกข์ใจจนพลาดเที่ยวรถคันล่าสุด ทำให้เธอต้องนั่งรอเที่ยวต่อไปอีกประมาณสิบนาที ครืดดด ครืดดดด~ เสียงสั่นของโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าสะพายผ้าราคาถูกปลุกให้มาเบลได้หลุดออกจากความคิดตัวเอง แล้วมาสนใจที่จะล้วงหาของสิ่งนั้นขึ้นมาดูว่าใครกันที่โทรเข้ามาหาเธอในตอนนี้ “ฮัลโหลหวาน” (ไม่มาทำงานเหรอเบล) เสียงหวานดูแปลกใจมาก เพราะนี่ก็เลยเวลาทำงานมาแล้วเกือบสามสิบนาที แต่ยังไม่ทันเห็นเพื่อนซี้ที่เคยมาก่อนเวลาเข้างานเป็นชั่วโมง (ไม่สบายหรือเปล่า ไหวไหม) มาเบลถอนหายใจมองรถที่วิ่งผ่านไปผ่านมาอย่างเลื่อนลอย “เราว่าเราจะขอเจ๊แคทลา เรารู้สึกไม่สบายนิดหน่อย” สุดท้ายก็ต้องพูดออกไป วันนี้เธอคงมีเรื่องให้เครียดมากเกินกว่าจะทำงานไหว (ไม่ไหวอย่าฝืนเลยเบล เรื่องงานไม่ต้องเป็นห่วงเดี๋ยวเราบอกเจ๊ให้) “ขอบคุณนะหวาน เรารบกวนด้วยนะ” (รบกงรบกวนอะไรกัน เบลป่วยก็ต้องพักผ่อน พักเถอะเบลเรื่องงานไม่ต้องเป็นห่วง) พอหวานวางสายไหม มาเบลก็กลับมาจมอยู่กับความคิดตัวเอง เธอยังคงนั่งคิดอะไรเงียบๆอยู่คนเดียวตรงป้ายรถเมล์ เพราะถึงให้กลับบ้านไปตอนนี้เธอก็ต้องเห็นพ่อกับแม่ทะเลาะกันไม่จบไม่สิ้นอยู่ดี (เสียงแตรรถ) มาเบลสดุ้งเฮือก แสงไฟที่สาดส่องเข้าดวงตาเธอมันแรงมากจนเธอต้องยกมือขึ้นมาปิด และหลังจากรถจอดได้ไม่นาน ชายร่างท้วมที่นั่งอยู่ด้านหลังรถก็ก้าวขาลงมาแล้วเดินมาหาเธอที่นั่งอยู่ “มาเบลใช่ไหม” “ใช่ค่ะ คุณเป็นใครคะ” “ได้เจอกันสักทีนะ เสี่ยอยากเจอเรามานานแล้ว” ชายที่เรียกตัวเองว่าเสี่ยเดินเข้ามาใกล้เธออีกก้าว พร้อมกับกระชากตัวเธอให้เข้าไปกระแทกกับลำตัว มาเบลขัดขืนและร้องตะโกนให้ผู้ชายคนนั้นปล่อย “ปล่อยหนู ปล่อย คุณเป็นใคร มีสิทธิ์อะไรมาทำกับหนูแบบนี้” “อย่าเล่นตัวไปหน่อยเลยน่า สวยๆแบบนี้คงไม่รอดพ้นมือชายมาต่ำกว่าสิบคนแล้วละสิ” “ว่าไงนะ” มาเบลเม้มริมฝีปากแน่น แววตาจ้องไอ้เสี่ยพุงโตนั่นด้วยความกรุ่นโกรธ “เพิ่มเสี่ยไปอีกสักคนเป็นไง ถ้าเธอยอม หนี้ที่พ่อเธอติดไว้เสี่ยจะยกให้หมดเลย” เสี่ยเส้งยักคิ้วพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก มองใบหน้าของหญิงสาวรุ่นลูกด้วยความหิวโหย “เก็บไว้ยกให้เมียเสี่ยเถอะ อย่ามายุ่งกับหนู” มาเบลจัดการใส่เข่าเข้าร่องกลางของเสี่ยเส้งจอมเขมือบจนใบหน้าเขียวปูด คงจะจุกจนพูดไม่ออก เห็นอย่างนั้นมาเบลจึงได้รีบวิ่งหนีเมื่อมือของเสี่ยเส้งหลุดออกจากแขน ขณะที่เธอวิ่งหนีจนขาพันกัน คนของเสี่ยก็วิ่งตามเธอมาติดๆ พวกมันรั้งตัวเธอไว้แล้วลากเธอกลับไปให้กับเสี่ยเส้งที่นอนดิ้นอยู่บนพื้นจากที่โดนเธอใส่เข่าเข้าร่องไปเมื่อครู่ “นังตัวดี คืนนี้มึงไม่รอดจากกูแน่ เอาตัวมันไป” “กรี๊ดดดด ปล่อยนะ!! ช่วยด้วย!” มาเบลกรี๊ดลั่น ทว่าเสียงกรีดร้องของเธอกลับไม่ได้ช่วยอะไรเลย เพราะพวกมันจับเธอยัดเข้าไปในรถ แล้วปิดประตูเสียงดังใส่หน้าเธอดังปัง! มือเล็กทั้งทุบทั้งตะโกนและพยายามเปิดประตูรถออก ทว่าทุกอย่างกลับนิ่งเฉย คนพวกนั้นล็อกเธอเอาไว้ในรถ พลางยืนเฝ้าทุกประตูเพราะกลัวว่าเธอจะหนี “พวกมึงเอาตัวมันไปที่บ้านกู แล้วจับมันขังไว้ที่ห้องใต้บันได“ เสี่ยเส้งสั่งลูกน้อง ก่อนจะเรียกให้ลูกน้องที่ยืนใกล้ๆเข้ามาช่วยพยุงตัวเอง ลูกน้องของเสี่ยต่างพากันรับคำสั่ง และกำลังที่จะก้าวขึ้นรถ แสงไฟของรถที่ขับมาจากทางด้านหลังพร้อมกับความเร็ว ก็เข้ามาตัดหน้ารถที่มาเบลนั่งอยู่ให้ต้องเบรกหัวคว่ำ “ลงมา!” ชายหนุ่มตะโกนเสียงเข้มใส่ด้านข้างของคนขับ พร้อมกับถือปืนชี้หน้ามันเพื่อเป็นการข่มขู่ “กูบอกให้ลง” “ลงแล้วครับ ใจเย็นๆก่อน” คนขับรถเปิดประตูแล้วก้าวขาลงไปพร้อมกับยกมือขึ้นสองข้าง พลางบอกให้อีกคนที่ลงมาด้วยกันทำตาม เมื่อจะหันไปขอความช่วยเหลือเสี่ยผู้เป็นเจ้านายเสี่ยก็หนีเผ่นแลบไปแล้ว “ณบาร์ ไปเอาเบลออกมา” ณบาร์ที่มาพร้อมกับชายหนุ่มร่างใหญ่มาดนายตำรวจยศสูง รีบเดินอ้อมไปช่วยพี่สาวที่นั่งนิ่งตาค้างอยู่ด้านหลังรถทันที “เป็นอะไรไหมเบล พวกมันทำอะไรเบลไหม” “ยังไม่ทันได้ทำ บาร์มาที่นี่ได้ยังไง” “พวกเฮียเส้งมันไปที่บ้าน ขนของในบ้านเราออกไปหมด มันซ้อมพ่อจนน่วมเลยเบล” ณบาร์เล่าด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ มาเบลจึงรีบเข้าสวมกอดปลอบคนเป็นน้องให้ใจเย็นลง “ยังดีที่พวกมันรู้จักกลัว ถ้าเกิดเรื่องแบบนี้อีกโทรหาพี่ได้เลยนะ” ผู้กองหนุ่มเดินเข้ามาหาสองสาวหลังจากเคลียร์เสร็จ คนพวกนั้นดีแต่ข่มขู่ แต่พอตัวเองโดนของจริงเข้าหน่อยก็กลัวกันจนหัวหด โชคดีที่ณบาร์กับเขามาช่วยได้ทัน “ขอบคุณนะคะ” มาเบลเอ่ยขอบคุณเขาเบาๆ เธอไม่กล้ารบกวนเขาหรอก ต่อให้เขาจะแสนดีและอยากดูแลเธอมากแค่ไหนก็ตาม “ขอบคุณอะไรกัน พี่บอกแล้วไงว่าพี่เต็มใจช่วย นี่ครั้งที่สองแล้วนะเบล” ผู้กองหนุ่มพูดแล้วใช้ลิ้นดุนกระพุ้งแก้มมองใบหน้าของคนที่เขามีใจให้อย่างเป็นห่วง เขาเป็นห่วงเธอที่สุด แต่เพราะเราสองคนไม่มีสถานะที่จะสามารถแสดงออกกันได้อย่างชัดเจน “เบลไม่อยากรบกวนพี่ไนท์ค่ะ” “พี่บอกแล้วไงว่าไม่รบกวน” “เบลบาร์อยากกลับบ้าน” ก่อนที่ทั้งสองคนจะได้คุยอะไรกันต่อ ณบาร์ก็สะกิดแขนเธอเพื่อให้พาเธอกลับ เธอไม่อยากอยู่ตรงนี้นานๆ เพราะกลัวว่าไอ้พวกเฮียเส้งมันจะย้อนกลับมาอีก ผู้กองไนท์จึงเป็นฝ่ายอาสาขับรถมาส่ง เขารู้จักและสนิทสนมกับบ้านของมาเบลเป็นอย่างดี เพราะบ้านที่เธอเช่าอยู่เป็นของครอบครัวเขา ส่วนเขาก็เป็นลูกเจ้าของบ้านเช่าที่แอบชอบเธอมานาน ไม่สิ จะบอกว่าแอบชอบมานานก็ไม่ได้ เพราะเราสองคนเคยคบกันในช่วงระยะเวลาหนึ่ง “เบลพี่ขอคุยด้วยหน่อย” มือหนารั้งเรียวแขนเล็กของหญิงสาวเอาไว้ ทำให้มาเบลต้องบอกให้ณบาร์เข้าไปด้านในก่อน ส่วนเธอก็กลับเข้าไปในรถเหมือนเดิมแล้วคุยกับพี่ไนท์ต่อ “พี่ว่าเบลย้ายไปอยู่บ้านหลังใหม่ที่พี่เพิ่งสร้างเสร็จดีไหม ที่นี่มันอันตรายมากนะ” “เบลจะย้ายไปอยู่ที่นั่นได้ยังไงคะ นั่นบ้านพี่ไนท์นะ” “บ้านพี่ก็เหมือนบ้านเบล เบลก็รู้ว่าพี่รู้สึกยังไงกับเบล” “เบลว่าเราอย่าคุยเรื่องนี้กันอีกเลยจะดีกว่านะคะ เบลไม่อยากหาเรื่องใส่ตัว” ถ้าไม่ติดว่าเธอไม่มีปัญหาไปหาเงินมัดจำค่าเช่าบ้านที่ใหม่ เธอคงจะไม่ทนอยู่ที่นี่ให้พี่ไนท์เข้ามาวุ่นวายเธอแบบนี้ต่อหรอก “เบลยังโกรธพี่เรื่องนั้นอยู่เหรอ” “เรื่องไหนเหรอคะ เบลลืมไปหมดแล้วนะ” ไม่อยากจะจำมันเลยต่างหาก “เรื่องนั้นพี่ไม่ได้เป็นคนทำจริงๆนะเบล เรื่องทั้งหมดมันเป็นแผนของแม่พี่คนเดียว” แผนที่อยากจะจับเขาให้ออกห่างจากมาเบล โดยการวางยาให้เขานอนกับผู้หญิงอีกคนแล้วให้เบลเข้ามาเจอ ตั้งแต่วันนั้นเบลก็พยายามออกห่างจากเขามาตลอด “เบลไม่พร้อมที่จะย้ายที่อยู่ตอนนี้ค่ะ รบกวนพี่ไนท์อย่ามายุ่งกับเบลอีกเลยนะคะ เบลไม่อยากโดนไล่ออกจากบ้าน… …สำหรับเรื่องวันนี้ ขอบคุณมากนะคะ” ปัง! มาเบลลงจากรถไปทันที ทิ้งให้ผู้กองหนุ่มมองตามจนเธอหายลับเข้าไปในบ้านแทน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD