“ไม่!!!…ฮือออ”
ลูกศรร้องไห้สะอื้นออกมาเมื่อตฤณกระโดดขึ้นมาคร่อมร่างของเธอเอาไว้
“อย่ามาร้อง เธอเองไม่ใช่หรือไงที่ต้องการให้ฉันออกจากพี่สะใภ้เธอ ถ้าอยากให้ฉันออกมา เธอก็ต้องเอาตัวเธอมาแลก หึ ก็คุ้มอยู่นะ เธอได้ฉันได้” ตฤณใช้มือทั้งสองข้างกดเข้าที่แขนของลูกศรเอาไว้ที่เตียง เขามองเธอพลางแสยะยิ้มออกมาเมื่อทุกอย่างกำลังเป็นไปได้อย่างที่ใจต้องการ
“อย่าทำแบบนี้กับหนู หนูรังเกียจ” คนตัวเล็กจ้องหน้าพร้อมกับพูดออกมาด้วยน้ำตาแห่งความรังเกียจ จากที่ไม่ชอบหน้ากลับกลายเป็นว่าตอนนี้เธอรู้สึกขยะแขยงเขาเต็มที
“รังเกียจมากก็อย่ามายุ่งกับฉันอีกลูกศร เธอมันก็แค่เด็กน่ารำคาญคนหนึ่ง…แต่จะว่าไปเธอก็ซ่อนรูปไม่เบานะ” จากความโกรธของเขาก็กลับกลายเป็นความสนุกเช่นกัน จากตอนแรกที่แค่อยากแกล้งให้เธอกลัว แต่เธอดันใช้คำพูดไม่เข้าหูเขาจนนึกหงุดหงิด
“ทุเรศ!”
“หึ…ฉันทำให้เธอสนุกได้นะแค่คืนเดียว ฉันถนัด” หมอตฤณโน้มใบหน้าลงไปหาคนที่อยู่ใต้ร่าง ทว่าลูกศรกลับหันหน้าหนีจนตฤณแค่นหัวเราะออกมาให้กับความกลัวจนตัวสั่นของเธอเบาๆ
“อย่าซ่าให้มากคืนนี้ฉันแค่เตือน แต่ถ้าเธอยังไม่เลิกวุ่นวายกับฉัน มันไม่จบแค่นี้แน่”
พูดจบตฤณก็ลุกออกจากตัวเธอพลางหันหลังเดินออกจากห้องไป ลูกศรที่มองตามหลังเมื่อเห็นว่าประตูปิดลงแน่แล้วน้ำตาที่มันค้างอยู่ก็ไหลออกมาเหมือนกับเขื่อนแตก เธอรู้สึกกลัวมากแต่เพียงแค่ไม่กล้าแสดงความกลัวออกมาให้คนอย่างตฤณได้เห็น
บาร์แห่งหนึ่งในขอนแก่น
ร่างหนาของตฤณกำลังยกเหล้าในแก้วเหลี่ยมขึ้นมากระดกใส่ปากด้วยอารมณ์ที่ยังไม่คงที่ เพราะเมื่อกี้เขาเกือบจะมีอะไรกับผู้หญิงที่ใกล้ชิดสนิทกับผู้หญิงที่ตัวเองรักเสียแล้ว หากเขาไม่ควบคุมอารมณ์ตัวเองเอาไว้ บอกเลยว่าไม่มีทางที่ลูกศรจะหลุดออกจากมือเขาไปได้ง่ายๆ
“อุ้ย! ตฤณใช่ไหม เราแอปเปิ้ลไงที่นั่งอยู่ข้างหน้าตฤณตอน ม.6 อ่ะ” ตฤณเงยหน้ามองผู้หญิงที่ใส่เดรสรัดรูปตัวสั้นเสมอหู พลางใช้ความคิดถึงสิ่งที่ได้ยินจากผู้หญิงคนนี้เมื่อกี้
“อ๋อ อือ” เขาทำเหมือนจำได้ แต่ความจริงแล้วตฤณไม่ค่อยได้สนใจใครสักเท่าไหร่ เรียกได้ว่าโลกส่วนตัวสูงเลยทีเดียวสมัยเด็กๆ
“กลับมาขอนแก่นตั้งแต่เมื่อไหร่ เราได้ยินว่าตฤณไปอยู่กรุงเทพฯตั้งนานแล้ว” แอปเปิ้ลถือวิสาสะนั่งข้างๆชายหนุ่มโดยที่ไม่ต้องรอให้เขาเชื้อเชิญ
“มาเมื่อเช้า แม่ตามให้มางานของสมาคมอะไรก็ไม่รู้ น่าเบื่อฉิบ”
“ตฤณเบื่อเหรอ พอดีเลยเปิ้ลก็เบื่อๆ วันนี้ชวนเพื่อนออกมาเที่ยวไม่ยอมมากันเลยสักคน เปิ้ลขอนั่งกับตฤณด้วยได้ไหม” หญิงสาวพูดพลางกับส่งข้อความไปหาเพื่อนที่กำลังรอเธออยู่อีกด้านว่าวันนี้เธอคงไม่ได้ไปนั่งด้วยแล้ว
ตฤณเพียงแค่พยักหน้าเชิงปัดรำคาญเท่านั้น เขาไม่ได้ห้ามถ้าเธอจะนั่งกินด้วย เพราะเขาเองก็คงจะไม่ได้สนใจอะไรเธอมากมายอยู่แล้ว หากแต่ว่าหญิงสาวกลับไม่ได้คิดแค่อยากนั่งเป็นเพื่อนชายหนุ่มเท่านั้น เธออยากจะรวบรัดเขาในคืนนี้ต่างหาก
“แล้ว..ตฤณจะกลับวันไหนเหรอ”
“พรุ่งนี้เช้า” พอได้ยินว่าผู้ชายที่จ้องจะคาบจะกลับไปกรุงเทพพรุ่งนี้แล้ว ทำให้หญิงสาวกระวนกระวายต้องรีบคว้าให้ตฤณไปตามน้ำของเธอให้เร็วที่สุด
“ว้า กลับเร็วจังเราว่าจะอยู่กับตฤณนานๆสักหน่อย พอดีเรามีหนังผีในเน็ตฟลิกซ์เรื่องหนึ่งไม่กล้าดูน่ะ เลยอยากจะหาคนไปดูเป็นเพื่อน” แอปเปิ้ลส่งสายตายั่วยวนพร้อมกับรอยยิ้มที่มุมปากไปให้กับตฤณ ส่วนตฤณที่แหงนหน้ามองเพดานอยู่ก็ก้มหน้ากลับมามองผู้หญิงตรงหน้าด้วยความเข้าใจทันที
“หึ งั้นก็ไป”
“รู้แล้วค่า หนูก็กำลังจะนอนแล้วค่ะไม่นอนดึกเพราะมัวแต่ดูซีรีส์อยู่แน่นอน” ลูกศรที่พอจะปรับอารมณ์ได้แล้วหลังจากที่หมอหนุ่มออกจากห้องของเธอไป จนเมื่อเธอจัดการตัวเองและกำลังจะเข้านอนแล้ว แต่สายจากคุณแม่ของเธอก็ดันดังขึ้นมาเสียก่อน
“คุณแม่ก็ดุเฮียบ้างสิคะ ป๊านะยิ่งช่วยไม่ได้เลยไม่เคยดุเฮียเลยสักนิด ทีศรนะดุเอาดุเอา” ลูกศรพูดเชิงงอนๆใส่ผู้เป็นมารดา ตั้งแต่เกิดมาน้อยมากที่เธอจะเห็นคนเป็นพ่อดุด่าพี่ชายของตัวเอง แต่กับเธออาจจะเพราะความเป็นห่วงมากหน่อยเลยคอยบ่นเธอตลอดเวลา
ปัง! ตู้ม! ปัง!
ลูกศรได้ยินเหมือนมีใครกำลังทุบอะไรอยู่บนหัวเตียง หญิงสาวละโทรศัพท์ออกห่างจากหูพลางเงี้ยหูฟังให้ชัดๆจนดวงตากลมโตต้องเปิดอ้ากว้างเมื่อได้ยิน
“อ๊า อื้ออ อ๊ะ ตฤณ อ๊ะ…งพลั่บๆๆๆๆๆ”
ลูกศรรีบถอยกรูดออกมาด้วยความตกใจ แต่ลืมไปว่าผู้เป็นมารดายังคงอยู่ในสาย
“คุณแม่ศรวางสายก่อนนะคะ”
“อี๋ ทุเรศที่สุด แล้วอีกำแพงบ้านี่ไม่เก็บเสียงเลยหรือยังไงโรงแรมก็หรูแต่คุณภาพแย่ที่สุด” ลูกศรแสดงสีหน้าแบบรังเกียจเสียงที่ได้ยินสุดๆ เธอรู้และเข้าใจดีว่ามันคือเสียงอะไร เพราะเธอเองก็ไม่ได้อ่อนต่อโลกขนาดที่จะไม่รู้เลยว่าเวลาคนมีอะไรกันจะทำเสียงประมาณไหน เพียงแต่เธอยังไม่เคยมอบความบริสุทธิ์ให้ใครเท่านั้น และคิดว่าคงจะไม่อยากให้ใครด้วย นึกถึงตอนที่เกือบจะเสียท่าให้กับหมอตฤณยังขนลุกไม่หาย
“ร้องดังๆ ดังกว่านี้”
“อ๊ะ อื้อออ ตฤณเปิ้ลร้องจนสุดเสียงแล้วนะ อื้อออ”
“มีหน้าที่แค่ร้องก็ร้องไป ร้องให้เสียงทะลุกำแพงฉันจะทำให้เธอร้องออกมาจนเก็บเสียงไม่อยู่เอง…อ่าส์”
ตฤณที่พาเพื่อนเก่ากลับมาที่โรงแรมโดยที่ไม่เคยคิดอยากพาใครเข้ามาในที่ส่วนตัว แต่ในหัวเขากลับคิดอยากแกล้งเด็กคนหนึ่งที่อยู่ห้องติดกับเขาพอดี เขาจึงมาแสดงฉากรักอยู่ตรงกำแพงที่ติดกับหัวเตียงของหญิงสาวอีกห้องหนึ่ง ความเป็นเจ้าของโรงแรมและรู้ทุกโครงสร้างของโรงแรมมันก็เป็นผลดีแบบนี้นี่เอง
“อื้อออ ตฤณเบาหน่อยเปิ้ลเจ็บไปหมดแล้ว”
“อ่าส์ ซี้ดดดด เสียวฉิบหาย ร้องเดี๋ยวนี้!” ตฤณยังคงแสดงฉากรักอย่างหฤโหดใส่เพื่อนเก่าอย่างเอาเป็นเอาตาย จนเมื่อทุกอย่างสงบลงหญิงสาวที่เป็นเพื่อนเก่าถึงกับทรุดลงไปนอนกองอยู่ที่พื้นทันที
“เสร็จแล้วก็ออกไปจากห้อง รีบด้วยนะฉันง่วง” พูดจบคนที่พึ่งเสร็จสมอารมณ์หมายก็เดินเข้าห้องน้ำไปโดยทิ้งผู้หญิงที่พึ่งร่วมรักกันเมื่อกี้อย่างไม่ใยดี หึ พวกผู้หญิงที่ยอมเอาตัวเข้าถวายเขาแบบนี้เขาเจอมาเยอะ เสร็จอย่างที่ต้องการเขาก็แค่ปล่อยให้เธอกลับไป ถ้าเป็นคนอื่นเขาก็อาจจะมีให้เขียนเลขบัญชีทิ้งเอาไว้ให้แล้วเขาจะตามโอนทีหลัง แต่กับแอปเปิ้ลด้วยที่เป็นเพื่อนเก่าและเจ้าตัวเป็นคนเสนอมาเอง เขาเลยไม่คิดจะจ่ายให้เธอแม้แต่นิดเดียว
แอปเปิ้ลเดินออกมาจากห้องของตฤณด้วยท่าทางที่กุมหน้าท้องตัวเองตลอดทาง เธอเดินไปได้ทีละก้าวช้าๆเพราะรู้สึกจุกและเจ็บบริเวณส่วนกลางที่โดนตฤณกระแทกเข้าใส่แบบไม่ยั้งเมื่อกี้ กว่าเธอจะเดินเข้ามาในลิฟต์ได้ก็เอาเรื่องอยู่เหมือนกัน
เช้าวันต่อมา
ลูกศรเก็บของเรียบร้อยละ เตรียมพร้อมจะออกจากห้องเพื่อลงไปที่รถที่ผู้จัดการของเธอจอดรอยู่ข้างล่างแล้ว แต่จังหวะที่เปิดประตูออกไปดันเปิดออกมาพร้อมกับคนข้างห้องที่ไม่ได้นัดหมาย ทั้งสองจ้องกันอย่างไม่มีใครพูดอะไรออกมา จนเป็นตฤณเองที่เลือกเดินไปที่ลิฟต์ก่อนอย่างไม่นึกสนใจอีกคน
ลูกศรเดินตามเขามาหยุดรอที่หน้าลิฟต์ และยืนข้างๆเขานิ่งพลางมองเลขชั้นที่กำลังเลื่อนขึ้นมาอย่างช้าๆ
ติ๊งง!!
เมื่อประตูเปิดออกหญิงสาวรีบแทรกตัวเข้าไปในลิฟต์ด้วยความเร็ว แต่กับเป็นจังหวะที่ตฤณเองก็เดินจะเข้าไปในตัวลิฟต์เช่นกัน ทำให้ร่างทั้งสองชนกัน แต่มีแค่หญิงสาวเท่านั้นที่กระเด็นไปจนเธอล้มลง
“ซุ่มซ่าม!” ตฤณหันมามองด้วยหางตาพร้อมกับเสียงพูดที่นิ่งขรึม ทำเอาหญิงสาวกัดริมฝีปากแน่นด้วยความโกรธ แต่แล้วก็รีบลุกขึ้นพร้อมกับพาตัวเองเดินตามเขาไปให้ทันก่อนประตูลิฟต์ปิด
“หัดเป็นคนมีมารยาทหน่อยก็ดีนะคะ เสียงดังรบกวนคนอื่นเวลานอน” ลูกศรพูดใส่คนด้านหลังโดยไม่ได้หันกลับไปมอง แต่ทำเอาคนข้างหลังอบยิ้มอย่างสะใจ เมื่อแผนแกล้งเธอเมื่อคืนมันได้ผล
“โทษทีพอดีฉันมันซาดิสม์ไปหน่อย แต่ก็ดีแล้วเธอจะได้ทำใจไว้หน่อย” หมอตฤณเดินมากระซิบเข้าที่ข้างหูของลูกศร จนเธอถอยตัวหลบเพราะขนลุก
“ทำไมต้องทำใจคะ หนูไม่ได้ต้องมีธุระอะไรแบบนั้นกับคุณสักหน่อย”
“ก็เผื่อไว้ เมื่อคืนฉันแค่สงสารเด็กที่มันไรเดียงสาอย่างเธอ ฉันเลยทำไม่ลง”
“หึ ก็ยังดีนะคะที่มีความเป็นคนอยู่บ้าง”
“โอ้ยยย!!”
ตฤณรั้งร่างบางให้ยืนชิดกับผนังลิฟต์ พร้อมกับโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้หญิงสาวจนรับรู้ถึงลมหายใจ ลูกศรที่ไม่ทันได้ตั้งตัวจึงได้แต่ยืนนิ่งไม่กล้าขยับเพราะกลัวว่าปากจะไปโดนปากของอีกคนเข้า