ชอบแกล้งน้อง

1632 Words
บุญรักษาเป็นเพียงเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ และโดยพื้นฐานไม่ได้มีนิสัยมุทะลุ ค่อนข้างจะเรียบร้อยและออกไปทางอ้อนแอ้น แต่ปริญก็เป็นเด็กผู้ชายที่ชอบเล่นโลดโผน และหากเขาอยากเล่นอะไรแล้วเอ่ยปาก เด็กหญิงก็ต้องจำใจเล่นด้วย บ่ายแก่ๆ ของช่วงปิดเทอมที่แม่เขาไปทำงาน ทางสะดวกให้เด็กชายปริญจะเล่นอะไรกับเธอก็ได้ หลังจากเล่นเกมจนเบื่อก็ออกเดินตามหา ซึ่งบุญรักษาก็มักจะปูเสื่อเล่นขายของ เล่นตุ๊กตาใต้ร่มไม้ไปตามประสา “คุกกี้ยี่สิบบาทค่ะ ให้แบงก์ร้อย ทอน อืม ทอนแปดสิบ” เด็กชายปริญกอดอกมองคนที่พูดคนเดียวอย่างเบื่อๆ แต่พอเห็นเด็กหญิงทอนเงินได้ถูกต้องก็แอบแปลกใจ บุญรักษายังไม่ทันเข้าเรียนอนุบาลด้วยซ้ำ ไม่ได้เข้าเรียนศูนย์เด็กเหมือนเด็กวัยเดียวกันด้วยเพราะยายอุ่นไม่อยากให้หลานห่างจากอก ก็อาศัยเรียนกับเขาเวลาทำการบ้านนั่นแหละ และเด็กหญิงก็หัวดีจนบางทีก็นึกหมั่นไส้ “เธอเล่นอะไรน่ะบุญษา พูดอยู่คนเดียว เหมือนคนบ้า” อยากชวนเขาเล่นด้วย แต่พูดดีๆ ไม่ค่อยจะเป็นนักหรอก “เลิกเล่นเลย ไปเล่นกับฉันมีอะไรสนุกๆ กว่า” เด็กหญิงเหลือบตามองเขา ถอนหายใจเหมือนปลงๆ แต่ก็มีแววผิดหวังชัดเจน มองตุ๊กตากับชุดของเล่นตาละห้อย ปริญก็เพิ่งสังเกตว่ามันเป็นชุดใหม่ ที่แม่เขาเพิ่งซื้อให้ เด็กชายนั่งลงตรงหน้าเธอ “เธอเล่นต่ออีกสิบนาทีพอนะ” ทำหน้ายุ่งๆ เหมือนไม่พอใจเข้าไว้ หากมันก็ทำให้เด็กหญิงดีใจที่รู้สึกว่าปริญใจดีกับเธอ มองเขาอย่างกล้าๆ กลัวๆ ก่อนจะยื่นตุ๊กตาหมีตัวเล็กอีกตัวให้เขา “อะไร” เขาทำหน้างงและพูดเสียงแข็ง “เอ่อ คุณโปรดซื้อขนมร้านบุญษาไหมคะ” เอ่ยออกไปแล้วหลบตาเมื่อเห็นเขาทำหน้ายักษ์ใส่ และปริญก็พูดเสียงดังจนเด็กหญิงสะดุ้ง “นี่เธอกล้าชวนฉันเล่นอะไรปัญญาอ่อนแบบนี้เหรอบุญษา” ดุไปแล้วเห็นอีกฝ่ายหงอย นั่งนิ่งแล้วก็กล้าๆ กลัวๆ จะเล่นอะไรต่อก็สงสาร “เออ ลองดูก็ได้ว่าที่สอนบวกเลขไปวันนั้นเธอรู้เรื่องแค่ไหน” เขาหยิบแบงก์ร้อยของเล่นมาถือไว้สองสามใบ แล้วก็ชี้ไปขนมที่อยู่ในร้านของเล่นของเธอ “โดนัทชิ้นละกี่บาทนะ” “ยี่สิบบาทค่ะ” เจ้าตัวตอบด้วยแววตาเป็นประกายเหมือนดีใจที่เขายอมเล่นด้วย เกิดความรู้สึกปริ่มๆ ในอกของเด็กชายปริญ แต่ก็ยังแกล้งทำฟอร์ม “ฉันเอาหกชิ้น นี่เงิน” เขาแกล้งให้แบงก์ร้อยเธอหนึ่งใบ เด็กหญิงรับมาทำหน้านึก เหมือนกำลังบวกเลขในใจ แล้วก็มองหน้าเขาด้วยความสงสัย “หกชิ้น คุณโปรดให้เงินไม่พอ” เขาแอบยิ้มที่บุญรักษาคำนวณถูก แต่ก็แกล้งหาเรื่องเธอ “มันต้องจ่ายเท่าไหร่ล่ะ” “ร้อย กับอีกยี่สิบค่ะ” “ก็แถมๆ ให้อันหนึ่งไม่ได้เหรอไง” ทำตัวเป็นอันธพาล เด็กหญิงมุ่ยหน้าแต่ก็ยิ้มให้เขา แค่เขาเล่นด้วยก็ดีใจแล้ว เธอยังไม่ได้รู้สึกถึงการถูกเอาเปรียบนักหรอก แค่เล่นสนุกๆ ปริญเองก็เริ่มสนุกกับการตั้งคำถามให้เธอตอบ ชื่นชมในใจลึกๆ ที่บุญรักษาตอบได้ดีมาก แบบนี้เธอควรเข้าโรงเรียนแล้ว มองๆ ดูก็ดูโตขึ้น ตอนนี้อีกฝ่ายน่าจะสี่หรือห้าขวบเขาก็ไม่แน่ใจ ตัวเขาเรียนอนุบาลสองตั้งแต่สี่ขวบ เขาเล่นกับเธอเพลินจนลืมเวลาเหมือนกัน เด็กหญิงเป็นฝ่ายที่นึกขึ้นได้ก่อน “คุณโปรดคะ สิบนาทีหรือยัง” “เอ่อ ยัง นี่เธอดูนาฬิกา” ยื่นนาฬิกาบนข้อมือให้อีกฝ่ายดู เห็นเต็มตาว่าเลยสิบนาทีไปแล้วแต่ก็ต้องโกหก ไม่อยากยอมรับว่าตัวเองสนุกกับการเล่นตุ๊กตาขายของกับอีกฝ่ายน่ะ เด็กหญิงขมวดคิ้ว เธอยังไม่เข้าใจเรื่องเวลา ทางนี้ก็ได้โอกาสสอน “เนี่ยนาฬิกามีสองเข็ม เข็มสั้นคือชั่วโมง เข็มยาวคือนาที ตอนนี้บ่ายสี่โมงสามสิบห้านาที” เขาอธิบายตามความเข้าใจของตัวเอง แต่อีกฝ่ายก็ยังดูงงๆ อยู่ “ถ้าเข็มยาวเดินครบรอบก็ครบชั่วโมง หนึ่งชั่วโมงมีหกสิบนาที เนี่ย ตอนนั้นเข็มยาวอยู่ตรงนี้ มันเลื่อนมาตรงนี้ก็แค่หกนาที เข้าใจไหม” “เอ่อ บุญษายังไม่รู้” เด็กชายทำสีหน้าเหมือนหงุดหงิด แต่ก็ไม่ได้จะต่อว่าอะไรเธออีก “เออๆ เดี๋ยวเธอเรียนปอหนึ่งก็ได้เรียน” “บุญษาอยากไปโรงเรียน” เด็กสาวก้มหน้าทำหน้ามุ่ย เธอเองก็เริ่มมีความคิดที่อยากจะไปโรงเรียนแล้วเหมือนกัน ซึ่งปริญก็เห็นด้วย เปิดเทอมหน้าเขาจะให้แม่พาบุญรักษาไปเรียนด้วย “ถ้าคุณโปรดทำการบ้านนาฬิกาสอนบุญษาด้วยได้ไหม” เด็กหญิงมองเขาด้วยดวงตาเป็นประกายแบบที่ปริญก็ปฏิเสธไม่ลง แม่เขาก็ชอบให้บุญรักษาไปดูเขาทำการบ้าน ให้เขาสอนเลขสอนเธอท่องตัวอักษร หรือจำคำง่ายๆ ก็เป็นกิจกรรมหนึ่งที่เขาเองก็ชอบเล่นกับเธอ “อืม แต่ตอนนี้เธอเก็บไอ้ของเล่นปัญญาอ่อนนี่ของเธอก่อน แล้วไปกับฉัน” ก็ยังปากร้ายไม่เปลี่ยน เหมือนลืมไปว่าตัวเองก็นั่งเล่นกับเธอได้ตั้งนาน เด็กหญิงรีบเก็บของเล่น ไม่ได้เสียใจกับคำร้ายๆ ของเขามากนัก ส่วนหนึ่งก็ชินแล้ว ส่วนหนึ่งก็เพราะวันนี้เขาใจดีกับเธอ ปริญพาอีกฝ่ายไปที่ต้นชมพู่แก้วที่มีอยู่ในบ้านเพียงต้นเดียว ปลูกมาหลายปีจนลำต้นสูงใหญ่ให้ร่มเงา แม้เจ้านายจะไม่ได้นิยมรับประทานผลมันเหมือนชมพู่ชนิดอื่นที่ปลูกแต่คนงานในบ้านก็ชอบกิน รวมถึงเด็กชายปริญที่ชอบปีนขึ้นไปเก็บ “คุณโปรดจะปีนเก็บชมพู่เหรอคะ” “อืม เธอก็ปีนด้วย” เขารู้สึกว่าเธอสูงขึ้นเล็กน้อย คงปีนได้แล้วละ แต่เด็กหญิงที่ไม่ได้ชอบปีนป่ายหรือเล่นอะไรโลดโผนก็ตาโตขึ้น มองความสูงของมันอย่างหวาดหวั่น “เนี่ย เหยียบตรงนี้ขึ้นง่ายๆ เดี๋ยวทำให้ดู” มันมีจุดที่เขาสามารถเหยียบขึ้นได้ง่ายดาย แต่มันไม่มีทางง่ายสำหรับเด็กหญิงที่ตัวเล็กกว่าเขา และไม่ถนัดการปีนต้นไม้ “มา ขี่คอฉันขึ้นก็ได้” เห็นเจ้าตัวจดๆ จ้องๆ และดูท่าจะขึ้นไม่ได้ จึงกระโดดลงมาแล้วเสนอให้อีกฝ่ายขี่คอ ทั้งยังนั่งยองๆ รอให้เธอขึ้นหลัง บุญรักษาเลยต้องขึ้นขี่คอเขา แล้วเหยียบไหล่เขาขึ้นไปนั่งบนกิ่งที่ต่ำที่สุดได้ เด็กชายแม้จะแอบคาดโทษในใจที่อีกฝ่ายเหยียบไหล่เขาจนรู้สึกเจ็บๆ แต่เห็นเธอขึ้นไปนั่งคาบกิ่งชมพู่เกาะต้นมันไว้แน่นก็พอใจ รีบตามขึ้นไป นั่งบนกิ่งที่สูงกว่าอีกหนึ่งขั้น “ตรงเธอนั่งไม่มีชมพู่ให้เก็บขึ้นมาเก็บสิ” แต่คราวนี้อีกฝ่ายส่ายหน้าพรืด นั่งกอดต้นชมพู่ไว้แน่น เด็กชายปริญส่ายหน้าไม่เซ้าซี้เธอต่อ ตัวเองขึ้นไปเก็บชมพู่มาสองพวง ก่อนจะลงมานั่งที่กิ่งที่สูงกว่าเธอหนึ่งกิ่ง แบ่งชมพู่ให้เธอหนึ่งลูก “นั่งกินบนต้นอร่อยนะ” เด็กหญิงรับชมพู่จากเขาด้วยมือข้างหนึ่ง แล้วก็กัดชมพู่สีแดงสดลูกนั้น เห็นเขายิ้มกว้างเหมือนพอใจก็รู้สึกว่าชมพู่ลูกนี้จะอร่อยจริงๆ “เอาอีกไหม” แบ่งให้ทีละลูกเพราะเห็นว่าบุญรักษาไม่น่าจะถนัด และจากที่ตั้งใจจะนั่งเล่นรับลมเย็นๆ นานๆ ก็เปลี่ยนใจ พอกินชมพู่สองพวงนั้นหมดเขาก็รีบลงมาก่อน แล้วให้เธอขี่คอลงเหมือนเดิม แต่ตอนลงไม่สำเร็จเหมือนตอนขึ้น เพราะความที่ไม่ถนัดและยังตัวเล็กอยู่มากทำให้บุญรักษาพลาดและหล่นกระแทกพื้น แม้ไม่สูงมากแต่ก็ทำให้เจ็บตัวได้ ทั้งยังตกใจอีก เด็กชายเองก็ตกใจไม่แพ้กัน เขารีบไปดึงเธอให้ลุกขึ้น “โอ๊ย” เด็กหญิงร้องเสียงหลงเมื่อถูกดึงแขนข้างที่ใช้ค้ำตอนหล่นลงมาอย่างแรงไม่ทันตั้งตัว เบะปากจะร้องและก็ฮึบไว้ น้ำตาคลอหน่วย ปริญก็ลนลานทำตัวไม่ถูก “เธอเจ็บมากไหม” เด็กหญิงส่ายหน้า แน่นอนเขารู้ว่าเธอโกหก แต่ตอนนี้ปริญไม่แน่ใจเลยว่าเธอโกหกแค่ไหน เขาจับแขนเธอขึ้นมาดู เบากว่าครั้งแรก เห็นรอยถลอกเล็กๆ ก็คิดว่าอาจจะไม่เป็นอะไรมาก “แล้วข้างนั้นเจ็บไหม” เธอส่ายหน้าอีกครั้ง เด็กชายก็คิดว่าข้างนั้นไม่น่าจะเป็นอะไร จึงจูงมือข้างนั้นเข้าไปในบ้าน ไปที่ห้องครัว เปิดก๊อกน้ำให้เธอล้างแขนเอาดินออก ตัวเองก็หายาหม่องมาทาให้ ซึ่งก็ทำได้ดีที่สุดแค่นี้ตามประสาเด็ก “ฉันโดนแม่ดุอีกแน่ๆ” “บุญษาไม่บอกใคร” แน่นอน เด็กชายรู้ บุญรักษาไม่บอกใครอยู่แล้วเวลาถูกเขาแกล้งและพลาดทำให้เจ็บตัว ถ้าแม่เขาไม่รู้เองน่ะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD