หย่าแล้วยังไง

2118 Words
วันที่หนึ่ง วันที่สอง วันที่สามที่เธอเฝ้าบอกให้ตัวเองตัดใจ เลิกร้องไห้ แต่ยิ่งบังคับมันก็ยิ่งร้อง มองตัวเองในกระจกกับสภาพตาปูดตาบวมแทบดูไม่ได้ เจ็บใจตัวเองนักที่เสียใจกับคนใจร้ายอย่างเขาได้ขนาดนี้ มันควรจะดีใจกับอิสรภาพที่ตัวเองได้รับอย่างนั้นหรือเปล่า ปริญก็ไม่ได้ให้เธอเดินออกมาแต่ตัว เงิน คอนโด รถยนต์ ที่เธอควรจะตีปีกโบยบิน แต่นี่มาร้องไห้เป็นเผาเต่าสามวันสามคืนไม่ยอมหยุด บุญรักษาเอามือปาดน้ำตา บังคับให้มันหยุดไหลได้ชั่วขณะหนึ่งที่พยายามฮึบไว้ และขณะที่กำลังฝืนใจว่าควรร้องหรือไม่ร้องดีเสียงออดก็ดังขึ้นดึงความรู้สึกนึกคิดให้หลุดออกจากความหมองเศร้าได้ชั่วขณะหนึ่ง คิ้วขมวดมุ่นอย่างนึกสงสัย รีบลงจากเตียงไปยังประตู มองผ่านกล้องแล้วเห็นร่างสูงของอดีตสามีก็ตกใจคิดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะ จนเขากดออดซ้ำร่างกายก็เหมือนเผลอไผลเปิดประตูให้อัตโนมัติ ปริญเหมือนนิ่งงันไปชั่วขณะหนึ่งตอนที่เธอเปิดประตูออกมา บุญรักษาถึงเพิ่งนึกได้ว่าสภาพตัวเองย่ำแย่แค่ไหน น่าอายจริงๆ หากปริญจะรู้ว่าเธอร้องไห้ตาปูดตาบวมเพราะเขาน่ะ “นี่ร้องไห้เหรอ” ตอนที่ถามประโยคนั้นเขาหายจากความสงสัย มีความไม่แยแส ดูแคลนแบบที่คุ้นเคย “ค่ะ บุญษาดูซีรีส์ นอนดูทั้งวันทั้งคืน” “ฉันไม่ได้อยากรู้ว่าเธอทำอะไรถึงร้องไห้” ยักไหล่เหมือนไม่แคร์ แต่รอยยิ้มมุมปากก่อนที่เขาจะเดินผ่านตัวเธอไปทำให้บุญรักษารู้สึกว่าเหมือนเขาเย้ยกัน...ว่าที่เธอร้องไห้ไม่ใช่เพราะซีรีส์อย่างที่เธอกล่าวอ้างหรอก บุญรักษาเอามือเช็ดน้ำตาที่แก้ม ถึงไม่ได้ช่วยอะไรมากแต่ก็คิดว่าดีกว่าไม่ทำอะไร พอเริ่มได้สติก็มีความงุนงงที่เห็นปริญในตอนนี้ ยิ่งเขาถอดสูทตัวนอกวางบนเก้าอี้อย่างสบายใจยิ่งแปลกใจ หันหน้ากลับมาหาแล้วเอ่ยคำสั่งที่ยิ่งทำให้สับสนกันไปใหญ่ “ฉันจะอาบน้ำ ช่วยถอดเสื้อให้หน่อยสิ” อาบน้ำ...ถอดเสื้อ นี่ปริญเล่นอะไรกับเธอกัน “ทำไมทำหน้าตกใจแบบนั้นล่ะ บุญษา หย่ากันแค่สามวันจำหน้าผัวตัวเองไม่ได้หรือไง” เธอยิ่งมีอาการตกใจและงุนงงเข้าไปอีก จนอีกฝ่ายชักสีหน้ารำคาญใส่ “เร็ว ฉันจะอยากอาบน้ำเต็มทนแล้ว ทั้งร้อนทั้งเหนียวตัว ทำงานทั้งวัน นี่จะยืนเป็นใบ้อยู่นานไหม” “คุณโปรด...จะอาบน้ำที่นี่เหรอคะ” พอถูกเขาหาว่าเป็นใบ้ก็เพิ่งจะตามหาเสียงตัวเองเจอ แต่ก็เอ่ยได้แค่คำถามอะไรโง่ๆ แบบนั้น แต่ดีที่ปริญแค่พยักหน้า ไม่ได้ด่าว่าเธอที่ถามอะไรซ้ำซากน่ะ “อืม จะให้ไปอาบที่ไหนล่ะ เธอเองก็ไปอาบน้ำให้ฉันด้วย” “บุญษา...บุญษาจะไปอาบน้ำให้คุณโปรดได้ยังไง” เพิ่งจะมีปากมีเสียงกับเขาบ้าง “ทำไมจะไม่ได้ เมื่อก่อนก็ทำทุกวัน ไม่ได้ทำแค่สามสี่วันลืมแล้วเหรอว่าต้องทำยังไง...คืนนี้ฉันไม่ต้องทบทวนเธอยาวเหรอ” แววตาเขาเป็นประกาย เย้าหยอกแบบที่ทำให้แก้มร้อนวูบวาบ เพราะรู้ความนัยว่าเขาไม่ได้แค่จะทบทวนเรื่องอาบน้ำ แต่หมายถึง...บ้าจริง จะไปทำแบบนั้นได้ยังไงกันเล่า “แต่ว่าเราหย่ากันแล้ว” “แล้ว? เมื่อก่อนก่อนแต่งงานก็เคยทำไม่ใช่เหรอ ทำมานานกว่าตอนแต่งงานอีก จะมาอ้างหย่าแล้วไม่อยากทำได้เหรอ” เขาพูดได้หน้าตาเฉย ราวกับว่ามันเป็นสิ่งที่ถูกต้องเหมาะสมแล้วอย่างนั้น บุญรักษายิ่งไม่เข้าใจ ตอนที่หย่ากัน ปริญไม่ได้มีข้อตกลงอะไรแบบนี้เลยนี่นา มันตัดรอนและไร้เยื่อใยสิ้นดี “แต่บุญษา” ในหัวมีคำถกเถียงหากก็ด้วยอาการงุนงนสับสนมากกว่าจะเป็นความรู้สึกคัดค้านจริงจัง จนเขามองกดดันก็ยิ่งคิดไม่ตก “ถ้าฉันถอดเสื้อเสร็จก่อนเธอจะไม่ได้แค่อาบน้ำให้ฉันเฉยๆ แล้วนะบุญษา” พอถูกขู่ก็ก้าวเข้าไปหาเขาหนึ่งก้าวอย่างเผลอตัว มีความรู้สึกขัดขืนในอกหากมันก็ไร้น้ำหนัก เธอควรจะกล้าปฏิเสธเขา บอกไปเลยว่าไม่ต้องมายุ่งหรือเกี่ยวข้องกันอีก แต่สุดท้ายมือก็ยื่นไปปลดกระดุมเสื้อให้เขา “ก็แค่เนี้ย ยืนบื้ออยู่ได้ตั้งนาน หยิบผ้าเช็ดตัวให้ทีสิ” เธอเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวของตัวเองที่ยังไม่ใช้ให้เขา ค่อนขอดในใจกับวาจาเราะรายที่คุ้นหู แต่เธอเองกลับไม่กล้าที่จะเด็ดขาดกับหัวใจตัวเอง “เธอไม่ถอดเสื้อผ้าล่ะ” “บุญษาอาบน้ำแล้วค่ะ” “เธออาบน้ำให้ฉันมันก็ต้องเปียกเหมือนเดิมหรือเปล่า” เขาหาเหตุผลเพื่อให้เธอต้องตามใจก็เท่านั้นเอง บุญรักษารู้ดี อย่างไรก็ไม่เคยเถียงชนะเขาเสียที เธอเลยไปหยิบผ้าเช็ดตัว หันหลังให้เขา ถอดเสื้อผ้าแล้วนุ่งผ้าเช็ดตัวให้เรียบร้อย หันกลับมาอีกฝ่ายก็เอาผ้าเช็ดตัวที่ผืนเล็กกว่าที่เขาใช้ปกติพันเอวเรียบร้อยแล้วเหมือนกัน ถือโฟมล้างหน้ากับแปรงสีฟัน...นี่เขาเตรียมพร้อมขนาดนี้ ทั้งคู่เข้าไปในห้องน้ำพร้อมกัน ปริญล้างหน้าแปรงฟันก่อน ส่วนเธอก็ไปเตรียมน้ำในอ่างรอเขา เพราะเจ้าตัวบอกว่าจะลงอ่าง พอทำธุระของตัวเองเสร็จปริญก็ลงไปแช่น้ำในอ่าง บุญรักษานั่งขอบอ่าง ใช้ฟองน้ำถูตัวให้เขา ก่อนจะนวดต้นคอกับไหล่ให้อย่างที่เคยทำ “คุณโปรดล้างตัวเลยไหมคะ” รอให้เขานอนแช่น้ำสักครู่ก็เอ่ยถาม อีกฝ่ายลืมตาขึ้นมามอง เห็นว่าเขาดูลังเลก่อนจะไหวไหล่ “เธอออกไปก่อนก็ได้” บุญรักษาถึงกับลอบผ่อนลมหายใจโล่งอกที่เขาไม่แกล้งให้เธอต้องลงไปแช่น้ำด้วยกัน...หรือทำอะไรไปมากกว่านี้ พออีกฝ่ายเปิดทางก็รีบออกจากห้องน้ำ ใส่เสื้อผ้าใหม่ ปริญตามเธอออกมาไม่นานหลังจากนั้น “มีเสื้อผ้าตัวไหนของเธอพอให้ฉันใส่ได้ไหมบุญษา ฉันยังไม่ได้เอาเสื้อผ้ามา” “เอ่อ เดี๋ยวบุญษาลองหาให้ค่ะ” “อืม หาได้ไม่ได้ก็ช่างเถอะ ไม่ใส่อะไรนอนก็ไม่เกี่ยง” บุญรักษายิ่งต้องตั้งใจหาเสื้อผ้าให้เขาใส่ให้ได้ แม้ว่าปกติเขาจะไม่ใส่เสื้อผ้านอนกับเธออยู่บ่อยๆ ... คุ้นเคยกันมาหลายปี แต่ให้เขาใส่น่าจะดีที่สุด “เอ่อ เสื้อค่ะ คุณโปรดเอาผ้าเช็ดตัวผืนใหม่ไหมคะ” เสื้อพอจะหาให้ได้ เพราะเธอเองก็มีเสื้อยืดตัวใหญ่อยู่บ้าง แต่กางเกงไม่มีแน่ๆ “อืม” เขาก็ไม่ได้จะกวนอะไรเธอต่อ ดูแล้วปริญน่าจะเหนื่อยล้าพอสมควร ซึ่งก็คงเป็นแบบนั้นเพราะเป็นวันสุดท้ายของสัปดาห์ในการทำงาน ทั้งยังเพิ่งรับตำแหน่งใหม่หลังจากผู้เป็นแม่เสียชีวิตเมื่อสองเดือนก่อน...เห็นแล้วก็อดเป็นห่วงไม่ได้ “ทำไมเธอใส่ชุดนอนแบบนี้ล่ะ จำไม่ได้เหรอว่าฉันชอบให้ใส่แบบไหน แต่ช่างเถอะ ไปนอนได้แล้วฉันง่วง” เขาบ่นๆ นิดหน่อย บ่นอะไรเธอได้ก็บ่นหมดนั่นแหละ ตอนนี้บุญรักษาใส่ชุดนอนเสื้อกางเกงผ้านุ่มแบบแขนสั้น ซึ่งมันต่างชุดนอนที่เขาชอบให้เธอใส่ทุกคืน ปริญขึ้นไปนอนบนเตียงก่อนเธอ ทำตัวเหมือนเป็นเจ้าของห้องเสียอย่างนั้น บุญรักษาแอบถอนหายใจหนักๆ หนึ่งทีตอนเดินไปปิดไฟห้อง เหลือเพียงไฟหัวเตียงที่ยังให้แสงรางๆ แล้วเดินไปนอนข้างๆ เขา เว้นระยะห่างไว้พอสมควร ก่อนที่อีกฝ่ายจะสะบัดผ้าห่มมาคลุมให้ ขยับเข้ามาใกล้เธออีกนิด พาดแขนกอดเอวไว้เพียงหลวมๆ เกิดความเงียบขึ้นชั่วขณะหนึ่ง บุญรักษาเองไม่กล้าพูดคุยอะไรกับเขาอยู่แล้ว ไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัว หากไม่หายใจได้ก็คงทำแล้ว เดาไม่ถูกว่าปริญจะนอนเลยหรือจะทำอะไรกับเธอก่อนนอน แต่รู้สึกว่าเขาไม่ได้ดูอยากก่อกวนอะไรเธอ ดูเหนื่อย ดูง่วงนอน แต่ไม่ยอมนอน เหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ แล้วก็พลิกตัวนอนตะแคงค้ำศีรษะมองเธอ “พรุ่งนี้อยากกินแกงจืด ทำให้กินหน่อยสิ” “เอ่อ ตอนเช้าเหรอคะ ยังไม่มีอะไรในตู้เย็น” เขาดูเหมือนผิดหวังและสงสัย “ปกติมันมันน่าจะพอมีวัตถุดิบไม่ใช่เหรอ ใส่หมู ใส่ผัก” คำถามด้วยความสงสัยของเขาทำให้เธอรู้สึกหน่วงๆ ในใจลึกๆ มันเป็นเมนูง่ายๆ ที่เขาชอบกิน...แอบคิดเข้าข้างตัวเองว่าเหมือนเขารู้ว่าเธอไม่ค่อยถนัดในการทำอาหารเสียเท่าไร ทำได้เมนูพื้นๆ ที่ทำง่ายๆ แต่ก็รสชาติพอใช้ได้ ซึ่งปริญก็เป็นคนกินไม่ยาก ในตอนเช้าก่อนไปทำงานหรือสายๆ ในวันหยุด เธอก็ทำอาหารสักอย่างสองอย่าง เวลาเขาบอกอยากกินอะไรก็มักจะทำให้ได้ เพราะใช้วัตถุดิบพื้นๆ ที่ควรมีในตู้เย็นอยู่แล้ว “เอ่อ บุญษายังไม่ได้ซื้ออาหารเข้าตู้เย็น” “หืม แล้วปกติตอนเช้ากินอะไร” “ก็ไม่กิน...หรือกินพวกนมอะไรในตู้เย็น แล้วออกไปกินตอนเที่ยงทีเดียว” ความจริงคือตรอมใจจนไม่เป็นอันกินไม่เป็นอันนอนก็น่าจะถูก “ตอนเย็นก็ออกไปกินข้างนอกเหรอ” “ก็...กินนมกินโยเกิร์ตเหมือนตอนเช้าแหละค่ะ” ตอบเสียงแผ่วแล้วหลบตาเขาวูบหนึ่ง เมื่อปริญมองเธออย่างพินิจ เขาจะรู้หรือเปล่าว่าเธอเสียใจจากการเลิกรากับเขาจนกินอะไรไม่ลง “อืม งั้นพรุ่งนี้ก็ไปซื้อมาไว้ ฉันหยุดเดี๋ยวพาไป ไม่ไหว” วลีสุดท้ายนั้นสายตาเขาเป็นประกายหยอกล้อพร้อมๆ มือที่ลูบเอวเธอเล่น “ปกติเวลาฉันบีบก็กลัวจะหักอยู่แล้ว นี่กำมือเดียวยังจะรอบเลย” บุญรักษาอดมองค้อนไม่ได้ก่อนจะรีบหลบสายตากลัวเขาจะดุว่าบังอาจต่อว่าเจ้าตัวในใจ แต่เหมือนเห็นรอยยิ้มมุมปากทางหางตาแบบคนอารมณ์ดี...ที่ได้หยอกล้อเธอ “ที่ไม่กินข้าวนี่เพราะมัวแต่นอนดูซีรีส์หรือเปล่า” ปริญทำให้เธอเงยหน้ามองเขาด้วยหัวใจที่แทบจะละลายตรงนั้น เมื่อนิ้วเรียวไล้แก้มอ่อนโยน น้ำเสียง สายตาที่ปกติมีแต่ความก่อกวน ขี้แกล้งและทำให้เจ็บใจ ตอนนี้กลับให้ความรู้สึกปลอบประโลม “ตาเธอช้ำหมดแล้ว ควรพักดูซีรีส์สักพัก” นิ้วเขาเกลี่ยเหมือนเช็ดน้ำตาให้ ดวงตาคู่คมนิ่งลึกตอนสบกัน เป็นการสื่อสารระหว่างกันที่ทำให้เธอหลับตาลงตอนที่เขาโน้มใบหน้าลงมา จูบซับแก้มใกล้ดวงตา จูบเปลือกตา เหมือนกำลังปลอบให้เธอหยุดร้องไห้...และเขารู้ว่าที่ใจเธอเสียไม่ใช่เพราะซีรีส์หรอก เขาจูบทั่วใบหน้าอย่างอ่อนโยน หัวใจเธอก็อ่อนยวบจนเขาจูบที่ปาก อ่อนหวานลึกล้ำที่ย้ำชัดว่าเธอคิดถึงเขามากเหลือเกิน ยาวนานจนเธอหลงลืมเวลาไปชั่วขณะ ก่อนที่เขาจะถอนจูบ ดึงเธอเข้ามากอดแล้วจูบหน้าผากหนักๆ หนึ่งที หัวใจเธอเต้นแรงและเหมือนได้ยินเสียงหัวใจเขา เธอกำลังสับสน ไม่รู้ว่าปริญต้องการอะไรกันแน่ หากก็ทำได้แค่เงียบ ก็ตัวเองไม่กล้าทักท้วงอะไรเขาเองจะมาถามอะไรตอนนี้...แต่เธอรู้ว่าปริญจะบอกเธอในที่สุดว่าเขาต้องการอะไร หากคงไม่ใช่ตอนนี้ ไม่กี่นาทีอีกฝ่ายก็นอนกอดเธอหลับไป เธอเองก็กล้าที่จะขยับตัวเข้าไปในอ้อมกอด...ผู้ชายที่เพิ่งทำร้ายหัวใจให้แตกร้าว แต่ก็เป็นอ้อมกอดเดียวที่เธอมี อบอุ่นเสมอมาเหมือนกัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD