อากาศในศาลาวัดเงียบจนได้ยินเสียงลมหายใจของทุกคน
หลวงพ่อวางตุ๊กตาไม้เก่า ๆ ลงกลางเสื่อ พร้อมเทียนเล่มเล็กสองเล่ม
น้ำกับแพรวนั่งอยู่ข้าง ๆ
ใจเต้นแรงจนแทบหลุด
แม้ไม่อยากให้ทับทิมเจ็บ…
แต่ก็รู้ดีว่าเมื่อคืนเธอเกือบถูกดึงออกจากโลกนี้จริง ๆ
หลวงพ่อเริ่มสวดเบา ๆ
เสียงสวดช้า…นิ่ง…แต่แรงจนขนลุก
ทันทีที่บทสวดเริ่มได้ไม่ถึงสองบรรทัด
ลมในศาลาก็พัดขึ้นแบบไม่มีเหตุผล
เทียนสั่นไหว
ผ้าขาวบนโต๊ะปลิว
เงาบางอย่างเคลื่อนไหวตามเสาไม้
น้ำตัวเกร็ง
เพราะรู้ว่า—ทับทิม “มาแล้ว”
⸻
🌘 1. แรงต่อต้านแรก: ความโกรธของคำสาป
เสียงผู้หญิงแผ่ว ๆ ลอยมาตามลม
“หยุด…
หยุดเดี๋ยวนี้…”
แพรวสะดุ้งสุดตัว
มือจับแขนน้ำแน่น
“น้ำ…เธอมาแล้วจริง ๆ…”
หลวงพ่อยังสวดต่อ ไม่หยุด
แต่สีหน้ายิ่งเคร่งมากกว่าเดิม
จู่ ๆ เทียนทั้งสองเล่มก็ดับพร้อมกัน
ทั้งที่ลมพัดมาจากคนละทิศ
เสียงหนึ่งดังขึ้นด้านหลังทุกคน
ใกล้มาก
ชัดมาก
เจ็บปวดมาก
“น้ำ…
ทำไมเจ้าต้องทำแบบนี้กับข้า…”
น้ำหันไปทันที
ทับทิมยืนอยู่หลังเสาของศาลา
ร่างสลัว ๆ แต่เห็นชัดพอให้รู้ว่าเธอกำลังร้องไห้หนักมาก
ผมยาวปลิวทั้งที่ไม่มีลม
ชุดแดงเหมือนถูกย้อมด้วยเลือดใหม่ ๆ
และดวงตา…แดงจนแทบไม่มองเห็นตาดำ
⸻
🌗 2. การปรากฏตัวเต็มตัว: ทับทิมเดินเข้ามา
เธอก้าวออกจากเงาช้า ๆ
แต่แรงเหมือนถูกคำสาปผลักออกมา
หลวงพ่อหยุดสวดทันที
ไม่ใช่เพราะกลัว
แต่เพราะแรงของทับทิม “มากจนบทสวดต่อไม่ได้”
หลวงพ่อพูดช้า ๆ
“โยมทับทิม…
พอก่อนเถิดลูก
อย่าทำร้ายตัวเองอีกเลย”
ทับทิมหัวเราะเบา ๆ
เสียงสั่นเหมือนจะขาดใจ
“ท่านไม่เข้าใจหรอก…
เพราะท่านไม่เคยรักใครจนยอมตายแทนเขา”
เธอหันมามองน้ำ
ดวงตาเต็มไปด้วยความคิดถึงและความเจ็บทับซ้อนหลายชาติ
“น้ำ…
เจ้าไม่อยากให้ข้าไปใช่หรือไม่…?”
น้ำกลืนน้ำลาย
พูดไม่ออก
เพราะทั้งสงสาร
ทั้งกลัว
ทั้งรักแรงแปลก ๆ ที่เริ่มผุดขึ้นในใจ
แพรวดึงแขนน้ำแน่น
“อย่าตอบนะน้ำ อย่าพูดอะไรตอนนี้!”
⸻
🌑 3. คำสาปเริ่มบีบให้ทับทิมรุนแรงขึ้น
ทับทิมเดินมาใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ
เสียงเท้าของเธอไม่มี
แต่เงาของเธอกลับยาวออกไปทั่วพื้นเหมือนหมึกดำ
“น้ำ…
ข้าตามเจ้ามาหลายชาติ
ข้ารอเจ้านานเกินไปแล้ว
ข้าจะไม่ยอมให้ใครพรากเจ้าไปจากข้าอีก…”
คำว่า พราก
ทำให้เสียงลมในศาลาแหลมขึ้นทันที
เหมือนเสียงร้องไห้นับสิบ
หลวงพ่อเริ่มสวดอีกครั้ง
เสียงหนักกว่าเดิม
บังคับวิญญาณให้ถอย
ทับทิมกรีดร้องทันที
เสียงนั้นดังจนกระจกศาลาแตกเป็นรอยร้าว
“พอ!
อย่าสวดใส่ข้า!
อย่าบังคับให้ข้าไปจากน้ำ!”
ร่างของทับทิมสั่น
เหมือนกำลังต่อสู้ทั้งกับบทสวด…
และกับคำสาปของตัวเอง
⸻
🌙 4. น้ำร้องไห้—และทำให้ทับทิมหยุด
น้ำเห็นทับทิมเจ็บปวดจนตัวสั่น
เห็นรอยแผลตามชุดแดง
เห็นน้ำตาที่ไม่มีวันแห้ง
เธอทนไม่ไหว
น้ำพูดทั้งน้ำตา
“ทับทิม…พอเถอะ”
ทันทีที่ได้ยินเสียงน้ำ
ร่างทับทิมหยุดสั่น
เหมือนโดนสตั๊นด้วยคำเดียว
เธอคิดว่าน้ำเกลียดเธอ
เกลียดที่เธอทำร้าย
เกลียดที่เธอตามตลอดชาติ
แต่ตอนนี้น้ำกำลัง…ร้องไห้เพราะเธอ
ทับทิมยิ้มทั้งน้ำตา
เหมือนหัวใจของเธอกลับมาเต้นอีกครั้ง
เธอพูดเสียงเบามาก
แต่ดังชัดเหมือนกระซิบในหัวใจของทุกคน
“น้ำ…
ข้าไม่ต้องการไปไหนเลย
ข้าต้องการอยู่กับเจ้าเท่านั้น…”
และนั่นคือวินาทีที่คำสาปเริ่มทำงาน “แรงที่สุด”
⸻
🌩️ 5. คำสาปตอบสนอง—และเหตุการณ์เริ่มควบคุมไม่ได้
เทียนทุกเล่มในศาลา “ติดไฟขึ้นเอง”
ลมหมุนรอบทับทิม
พื้นเสื่อสั่นเหมือนแผ่นดินไหว
พระเริ่มสวดเร็วขึ้นกว่าเดิม
แพรวร้องออกมาเสียงสั่น
“หลวงพ่อ! ช่วยน้ำที!!”
ควันดำเริ่มพุ่งขึ้นจากเงาของทับทิม
เหมือนร่างเธอจะกลายเป็นบางอย่างที่อันตรายกว่าเดิม
ทับทิมตะโกนทั้งน้ำตา
เสียงแตกจนเหมือนตะโกนสองชั้น
“อย่าแยกข้าออกจากน้ำ!!!
อย่า!!!”
หลวงพ่อสวดต่อ
สะบัดลูกประคำแรง
พลังวิญญาณกับพลังสวดชนกันกลางศาลา
ทำให้แสงไฟระเบิดเป็นประกายวาบทั่วผนัง
และฉากนี้จบลงตรงที่—
ร่างของทับทิมพุ่งเข้าหาน้ำ
เหมือนจะกอด…
หรือดึง…
ไม่มีใครรู้
ก่อนที่ทุกอย่างจะมืดลงในเสี้ยววินาที